Bloggang.com : good thinking : การทำกายภาพเพื่อรักษาอาการปวดหลัง

การทำกายภาพเพื่อรักษาอาการปวดหลัง

สืบเนื่องจาก คุณย่า เพื่อนบล้อคที่กรุณามาให้กำลังใจ ถามว่า การทำกายภาพนั้น ทำอย่างไร

การทำกายภาพมีสองส่วน คือ การมีคนอื่นคือนักกายภาพ หรือ มีเครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยด้วย นี่เป็นส่วนหนึ่ง
อีกส่วนหนึ่งคือ การทำท่าบริหารในส่วนที่เป็นปัญหาด้วยตัวเอง

พูดถึงส่วนแรกก่อน สำหรับเรา เมื่อ 5 ปีก่อน เราปวดขาเนื่องจาก หลังแข็ง จนไม่สามารถขยับได้เลย ไม่ว่าจะก้มจะเงย แล้วอาการก็ลามลงไปที่ขา

การรักษาตอนนั้น ก็ต้องไปทำกายภาพที่คณะกายภาพมหิดล นักกายภาพก็จะเอาผ้าร้อนวางให้เรานอนทับเพื่อคลายกล้ามเนื้อและเส้นต่างๆ ประมาณ 15 นาที จากนั้น ก็จะดึงขา ดัดขา ให้เราพลิกตัวนอนคว่ำแล้วเขาก็กดนวดหลังเบาๆ ให้มันค่อยๆ นิ่ม

ส่วนท่าบริหารที่เราต้องทำเองเมื่ออยู่ที่บ้าน เราได้เขียนไว้ในบล้อคนึงแล้ว ลองหาดูนะคะ

ส่วนอาการปวดหลังตอนนี้ เป็นคนละสาเหตุกับคราวก่อน เพราะคราวนี้กระดูกมันเอียงไปกดให้หมอนรองกระดูกมันปลิ้นออกไป แล้วไปทับเส้นประสาทอีกทีนึง จึงทำให้ปวดขาตามแนวเส้นประสาท นอกนั้นยังทำให้มีอาการชาๆ หนาๆ ตรงหลังเท้า และเมื่อหมอทดสอบให้เราตั้งฝ่าเท้า แล้วเกร็งไว้ เขาก็ดันนิ้วโป้งเราไปข้างหลัง แล้วให้เราเกร็งสู้ ปรากฏว่า ไม่สามารถจะสู้ได้ เรียกว่า ไม่มีเรง

เมื่อสาเหตุต่างกัน การรักษาก็ต่างกันไปด้วย คราวนี้ การทำกายภาพต้องใช้เครื่องมือช่วย คือ เครื่องดึงหลัง หรือเรียกว่า การทำแทรกชั่น
วิธีการคือ เขาจะเอาผ้ารัดบริเวณเดว แล้วมีสายดึงไปติดกับเครื่องดึง
เขาก็จะตั้งเครื่องตามน้ำหนักตัวเรา อันนี้เราก็ไม่รู้แล้วล่ะเพราะเป็นเรื่องของเขา

จากนั้นก็นอนไปเฉยๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง สำหรับบางคนทำแล้ว อาจมีผลข้างเคียงบ้างคือ เวียนหัว คลื่นไส้ แต่เราโชคดีไม่เป็น แต่เป็นอย่างอื่นคือ เมื่อดึงเสร็จ เวลาลุกขึ้นยืน ตอนแรกจะลงหน้ำหนักที่ขาที่ปวดไม่ได้เลย เพราะมันจะเสียวมาก ต้องนั่งรถเข็นทันที
หลังจากนั้น ก็จะปวดตามเส้นไปอีกพักใหญ่ เพราะเส้นมันถูกยืดใหม่ ก็ต้องอดทนไปจนกว่ามันจะหาย

การไปดึงหลังยืดเส้นนี้ ก็ทำอาทิตย์ละสองวัน ทำถี่กว่านั้น เส้นอาจฉีกได้ จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับเรานั้น ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่คือ หมอเขาบอกว่า ถ้ามันกดเส้นต่ำกว่านี้อีกนิด เราจะไม่สามารถควบคุมระบบการขับถ่ายได้ ซึ่งย่อมเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นไปอีก

ตอนนี้ก็ได้แต่ทำกายภาพ กินยารักษาเส้นประสาท ส่วนยาแก้ปวดนั้น เนื่อง่จากมีสารก่อให้เกิดการเสพติดได้ จึงต้องให้หมอสั่งเท่านั้น ตอนนี้เหลือ 3 เม็ด เก็บไว้กินเมื่อปวดหนักๆ จริงๆ ซึ่งก็ภาวนาว่า อย่าให้มันเป็นเลย
ในระหว่างวัน ก็ต้องคาดเอวด้วยเฝือกอ่อน หรือสายคาดเอว เพื่อช่วยรัดให้หมอนรองที่ปลิ้น ถูกดันเข้าที่เร็วๆ อีกแรงหนึ่ง

ตอนนี้ก็มียาทาเพิ่มอีกตัวหนึ่ง หมอเขาสั่งให้ชื่อ แคปซิกา มันผสมพริกด้วย ทาแล้วแสบๆ ร้อนๆ ดี ช่วยให้หายปวดได้มาก ไม่รู้ว่าเพราะความแสบไปกลบความปวดหรือเปล่า 55
ถ้าใครปวดเมื่อย ลองหาตัวนี้ไปทาดู เราว่าได้ผลดีพอควร ใช้แบบเจลนะ จะได้ผลกว่าแบบน้ำที่มีหัวขวดเป็นฟองน้ำ

ก็คิดว่า คงพอจะเป็นข้อมูลให้ได้บ้างนะคะ
เราเชื่อว่า ร่างกายคนเรา มันรักษาตัวเองได้อยู่บ้าง ถ้าไม่หนักหนาเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของร่างกายโดยตรง เช่น อาการปวด เมื่อย อันเนื่องจากร่างกายผิดท่า ผิดทางไป
การรักษาด้วยกายภาพจึงเหมาะและตรง มากกว่าจะไปผ่าเพื่อตัด ดันให้มันเข้าที่ มันได้ผลเร็วก็จริง แต่ไม่จำเป็นขนาดนั้น

ขอให้ทุกคนรักษา ถนอมร่างกายของตนให้ดีนะคะ

Create Date : 17 มิถุนายน 2554

Last Update : 17 มิถุนายน 2554 9:39:39 น.

9 comments

Counter : 4675 Pageviews.

กลับมาเยี่ยมเยียนครับ
อาการตอนนี้เ็ป็นอย่างไรบ้างครับ
มีข้อเสนอแนะว่า
ลองเอาน้ำร้อนใส่ขวดเครื่องดื่มชูกำลังนะครับ(ขวดแก้วสีชาเล็กๆ)
แล้วเอาก้นขวดที่มันเล็กกว่าขวดแบบอื่นๆมาประคบเบาๆ
อาจเอาผ้ารองก่อน กันผิวพอง
พอเริ่มทนได้ก็เอาผ้าออก
แล้วเอาก้นขวดวางไปตามแนวกระดูกสันหลังนะครับ
เป็นการนวดด้วยความร้อนแบบง่ายๆอย่างนึงที่ราคาถูก
และทำได้เองที่บ้านครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ

หมอโจ ทพ ภฤติพงค์ แจ้งจำรัส

หากอยากได้ความรู้ด้านดนตรีบำบัดอ่านที่บล๊อกนี้นะครับ ดนตรีบำบัด

อ่านบทความเรื่องการดูแลสุขภาพหัวเข่า การป้องกันเข่าเสื่อมได้ที่นี่ เข่าเสื่อม

โดย: หมอโจ (preutipong

) วันที่: 17 มิถุนายน 2554 เวลา:11:23:54 น.

เข้ามาเยี่ยมเยียนคุณหนมตอนดึก ๆ ค่ะ

ตอนนี้อาการปวดที่เคยเต็ม 10 ลดลงมาเหลือเท่าไหร่แล้วอ่ะคุณหนม..

หายไว ๆ เพี้ยงงง..สู้ ๆ นะคุณหนม

โดย: i'm not superman

วันที่: 17 มิถุนายน 2554 เวลา:23:12:12 น.

สวัสดียามเช้าค่ะคุณหนม..

อ่านที่คุณหนมไปส่งข่าวบล้อกแหม่มแล้ว เผลอตัวร้องเฮ้อ...ออกมาด้วยเลยค่ะ เป็นห่วงน่ะ

จริง ๆ การรักษามันก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนมันนั่นล่ะเนอะ มันไม่ใช่ของวิเศษจะได้หายได้ภายใน 1 นาที เวลาเราปวด มันยังต้องสะสมอาการ สะสมสาเหตุมาตั้งนาน เวลารักษาก็คงต้องใช้เวลาอีกเช่นกัน

หายไว ๆ นะคะคุณหนม แหม่มเป็นกำลังใจให้ค่ะ..

ปล.งานแหม่มเริ่มเบาแรงลงนิดหน่อยแล้วค่ะ มีเรื่องให้ตามไล่แก้น้อยลง แต่ก็จะมีเรื่องของ "การจัดการ" เข้ามาแทนที่ ตอนนี้กำลังไล่ปิดงานส่วนที่เหลือของตึกหลังอยู่ ส่วนตึกแรก ก็คงอีกเป็นเดือนอ่ะ กว่าจะแล้วเสร็จ

โดย: i'm not superman

วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:9:38:46 น.

ขอให้หายไวๆนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ปวดขาเหมือนกันค่ะหลังจากเดินออกกำลังกายแล้วกลับมายืนทำกัยข้าวอีกจะปวดจากใต้ขาลงไปน่องเลยค่ะ หาหมอก้อได้แค่เอายาแก้ปวดมากิน ไม่จำเป็นจริงๆไม่อยากทานเลย

โดย: ผ้าแก้ว (ผ้าแก้ว

) วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:21:18:07 น.

ขอขอบคุณมากนะคะ ที่กรุณาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ค่ะ จะจำไว้และบอกต่อไปค่ะ
ขอส่งกำลังใจ และ ภาวนาให้สุขภาพกลับมาแข็งแรง
เหมือนเดิม เร็วๆนะคะ

โดย: คุณย่า IP: 58.11.112.119 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:23:22:11 น.

จริง ๆ อยากมาบ่นให้คุณหนมฟัง แต่คิดแล้วไม่เอาดีกว่า..เอาความสบายใจมาฝากคุณหนมดีกว่า จะได้หายปวดหายเจ็บไว ๆ

คืนนี้ขอให้หลับสบาย ไม่มีอาการปวดมากวนใจ นะคุณหนม

โดย: i'm not superman

วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:23:43:38 น.

แล้วตอนนี้ อาการเป็นอย่างไรมั่งครับ
เจ็บหนักผ่านมาแล้ว
ชีวิต พระเจ้าคงไม่อยากทดสอบอะไรๆ บ่อยนักดอก ครับ
หวังว่า ต่อๆไป จะมีรางวัลอะไรมาปลอบใจคนป่วยมั๊งน๊อ

ทานข้าวต้มกับใบปอผัด อร่อยลิ้นดีนะครับ เค็มๆมันๆ ลองดูสิครับ

ก็เอาใจช่วยให้หายไวๆ และเขียนเรื่องราวที่เป็นกำลังใจให้คนป่วยในอนาคต
อีกหลายๆคนได้อ่านกันนะครับ
ขอให้มีความสุขโข สโมสร อิ่มตา อิ่มบุญ อิ่มใจนะครับผม

หากอยากได้ความรู้ด้านดนตรีบำบัดอ่านที่บล๊อกนี้นะครับ ดนตรีบำบัด

โดย: หมอโจ (preutipong

) วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:22:58:26 น.

คุณพ่อก็เข้าใจเปรียบเทียบตรงดีนะครับ
เป็นเพลงสวดก็แสดงว่าท่านเข้าใจจุดประสงค์ที่ EnYA แฝงเอาไว้ในเพลงนะเองครับ อิอิ

หากอยากได้ความรู้ด้านดนตรีบำบัดอ่านที่บล๊อกนี้นะครับ ดนตรีบำบัด

โดย: หมอโจ (preutipong

) วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:19:39:26 น.

อยากทราบการดูแลตนเองหลังจากดึงหลัง//เวลาดึงหลังรู้สึกอย่างไรบ้าง ปวด ไหมhttps://www.bloggang.com/emo/emo14.gif

โดย: รัตภูมิ IP: 113.53.13.222 วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:42:10 น.