Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
กฏรัก บัญญัติหัวใจ บทที่ ๑

บทที่ ๑







กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง... กริ๊ง...

“นา รับโทรศัพท์”

กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง... กริ๊ง...

“ฉันบอกให้รับโทรศัพท์”

“มารับเองสิ”

“มันอยู่โต๊ะแก ตรงหน้าแก”

“เออ แล้วมายุ่งทำไม”

คำตอบที่แสนจะกวนโอ๊ย ทำให้แขไข ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นจากโต๊ะ

เดินกระทืบเท้ามาที่โต๊ะของนาริน ฉวยหูโทรศัพท์ขึ้นมากรอกลงไปว่า

“คนชื่อนารินตายแล้วค่ะ อย่าได้โทรมะ...อุ๊ยคุณแม่เหรอคะ อยู่ค่ะ

มันนั่งอยู่นี่แหละ ไม่ยอมรับแขเลยต้อง...”

คนพูดๆไม่จบ โทรศัพท์ก็ถูกแย่งจากมือ

“แม่จ๋า นาเพิ่งออกจากห้องน้ำ  มีอะไรให้นารับใช้ฮะ เดี๋ยววันศุกร์นากลับ

ไปรับแม่ไปเที่ยวผับกับนาดีไหม เพื่อนมันเปิดใหม่ไปเจิมให้หน่อยแล้วนาจะ…”

“ไม่ต้องเอาเรื่องเที่ยวมาล่อนาริน เห็นการ์ดแล้วใช่ไหม?”ปลายสายส่งเสียงเขียว

มาทันใด

นารินปรายไปทางซองสีชมพูที่มีการ์ดใบหนึ่งอยู่ใกล้ๆ  ภาพในการ์ดมองดูไม่ถนัด

นักเพราะว่าเธอเอาเมจิกสีแดงขีดแต้มซะสะใจไปแล้ว แต่ปากก็เจื้อยแจ้วเฉยว่า

“การ์ดอะไรคะ?”

“ก็การ์ดงานหมั้นของแสงแก้วนะสิ”

“อ้าว ต๊าย ตกลงยัยแสงจะหมั้นเหรอคะ? กับใคร เมื่อไหร่?”.

นารินใส่สุ้มเสียงตื่นเต้นเกินเหตุ แต่เสียงของมารดายังเครียด

“ฉันไม่สน แต่งานนี้ แกต้องพาแฟนแกไปด้วย ไม่งั้น...”

 “ก็เขายังไม่หายดี จะให้เขาไปโชว์ตัวได้ยังไงแม่ก็...”

“ไม่รู้ล่ะ ต่อให้เอารถปอเต็กตึ้งไปรับมา ก็ต้องมา   ถ้าไม่มีมา ฉันจะตกลงกับย่าเรื่อง

ที่คนเขาดูตัวแกทันที”

“แม แหม่ แม่ แม๊ แหม”นารินรัวอย่างไม่ทุกข์ร้อนนักกับน้ำเสียงคาดคั้นนั้น เพราะไม่ใช่

ครั้งแรกที่แม่พูดกับเธออย่างนี้

“ไม่ต้องมาเรียกฉัน  ไม่มีฝีมือเลยแกนี่ แค่แฟนคนเดียวยังหาไม่ได้  ปล่อยให้คนอื่น

มาว่าฉันได้”

“อ้าว…ใคร...ใครมาเจ๋อเรื่องของนา ลุงป้าน้าอาคนไหนบอกมา เดี่ยวศุกร์นี้กลับไป

 จะไปฉะ เสียให้สะใจ”

“ทะลึ่งไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ โธ่เอ๊ย ขนาดยัยเด็กแสงแก้วอยู่แต่ในบ้านแท้ๆ ยังได้แต่งงาน

ก่อนแก”

สุ้มเสียงเยาะเย้ยปนขัดอกขัดใจของมารดา ทำให้นารินต้องเม้มปากเล็กน้อย แต่แล้วก็เจื้อย

แจ้วกลับไปว่า

“โธ่แม่ก็...ถ้านารู้ว่าแม่อยากให้นามีสามีขนาดนี้ นาเอามันตั้งแต่อายุสิบหกแทนที่จะ

ยี่สิบหกเสียเลยก็ดีหรอก จะได้ไม่เสียยี่ห้อคุณแม่กวินนาคนสวยสาวสิบเจ็ดพบรักแท้กับ

หนุ่มทหาร...”

“ไม่ต้องมาปากดี” คุณกวินนาเสียงเขียวใส่ลูกสาวอีก “ถ้ายังไงหาหนีบไปสักคนงานหมั้น

นี่ด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะ หาให้แกเอง จำตาคัมภีร์ ลูกคุณลุงโบราณได้ไหม?”

นารินเบือนหน้าหนีโทรศัพท์ ส่งเสียงแหวะออกมาเบาๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งอมยิ้มเมื่อมารดาพูดต่อ

ราวกับตาเห็นว่า

“แกไม่ต้องมาแหวะ ครั้งนี้ฉันเอาจริง”

“โนๆๆ ไม่ต้องเครียดหาให้เหนื่อยเลยแม่จ๋า  อย่างนาน่ะถ้าเอาจริง ไม่ใช่แค่หนีบแฟนไปนะ

จะข้ามขั้นเอาสาละมีเลยก็ได้ กลัวแต่ที่บ้านลุงๆป้าๆ พี่น้องทั้งหลายจะตกใจเท่านั้นแหละ”

“อะไรนะ พูดเล่นพูดจริงนี่”

เสียงมารดาขุ่นขึ้นมาทันใด แต่นารินหัวเราะร่วน

“แม่จ๋า คิดเอาเองสิว่าจริงไหม  นารินนี่ลูกสาวคนสวยของใครกันล่ะ แค่นี้นะลูกค้ารายใหญ่

นามาแล้ว ”

พูดจบนาริน ก็กดแป้นวางหูโทรศัพท์ไว้นอกเครื่อง  ใบหน้ายิ้มระรื่นเปลี่ยนเป็นเซ็งจัด ชี้หน้า

เพื่อนว่า

“อย่ามารับโทรศัพท์โต๊ะฉันอีกนะ ถ้าไม่อยากเป็นคนหาผัวให้ฉันอีกคนละก็...”

“ก็จะไปรู้เหรอว่าแม่แกจะโทรมา”

“ทำไมไม่เบิ่งตาดูนาฬิกา แม่ฉันจะโทรมาทุกวันอังคารตอนบ่ายสาม”

แขไขอดไม่ได้ที่จะมองไปยังนาฬิกาบนผนัง เวลาประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ ใบหน้าใสแต่อวบ

อูมเพราะการตั้งครรภ์ยิ้มอย่างขันๆ ที่แม่ของเพื่อนรักของเธอก็ช่างโทรมาตามเวลาเป๋งจริงๆ แต่

ก็แก้ตัวว่า

“ก็ฉันหนวกหูนี่  เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ”

“เออ”

นารินตอบ แล้วเพยิดหน้าไปยังการ์ดที่ปลายโต๊ะ

“กะอีแค่เลี้ยงฉลองงานหมั้นยังแจกการ์ด”

“อิจฉาเขาละสิ” แขไขค่อนหยิบเอาการ์ดขึ้นมาดู

“ฉันจะไปอิจฉาทำไม แต่หมั่นไส้ว่ะ ก็คนอยู่บ้านรั้วเดียวกันแท้ๆ จะมาแจกการ์ดหาพระแสงทาง

ไปรษณีย์ทำไม?”

“เขาคงกลัวแกไม่ไปมั้ง เดือนหนึ่งๆ แกกลับบ้านกี่หนเชียว”

แขไขพูด มองภาพที่ถูกเมจิกสีแดงทำลาย แต่ก็ยังพอเห็นเค้าของสาวสวยยิ้มหวานในชุดสีขาวภายใต้

อ้อมกอดของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในสูทสีเข้ม  ฉากหลังคือต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางทุ่งหญ้าสีเขียว

“เอ...หน้าผู้ชายคนนี้ฉันคุ้นๆ นะ แกดูแล้วยัง”

แขไขยื่นการ์ดให้ แต่นารินปัดทิ้ง

“ไม่สนโว๊ย! แกไปดูลิสต์รายชื่อหน่อยสิ มีใครพอเอามาให้ฉันแก้ขัดได้บ้าง”

“ในบัญชีเพื่อนชายที่พอหาได้ หมดแล้ว”

“ก็ขยายวงออกเป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนสิวะ”

“ปีนี้แก เลือกหาไปโชว์เกือบห้าคนแล้วนะ แม่แกไม่มีเชื่อหรอก”

“งั้นก็จ้าง เอาแบบมืออาชีพหน่อยนะ ถ้าจะให้ดีเอาที่มันขาพิการหน่อยแล้วกัน”

“ทำไม?”

“อ้าว ก็ตอนขอเงินแม่ไปเที่ยวเมืองจีน  ฉันบอกแม่ว่าขับรถชนคนนี่หว่า เดี๋ยวเมคเรื่องต่อ รักแรก
พบเสียเลย"

แขไขส่ายหัวกับความกะล่อนของเพื่อน

“แกไม่รู้สึกอะไรเหรอ ที่หลอกเอาเงินแม่น่ะ”

“เอะ...จะทำไม ก็แม่ลูกกัน แม่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่ อีกอย่างแกจะรอให้ฉันได้รับมรดกแล้ว

ค่อยใช้เงินเหรอ มันเรื่องอะไรไปแช่งแม่ตัวเองอย่างนั้น”

แขไขขมวดคิ้วส่ายหน้ากับวาจาเรื่อยเปื่อยของเพื่อน แต่แล้วก็ถอนใจยาวก่อนจะถามอย่างเป็นจริง

เป็นจังแต่นับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า

“ถามจริง แกเป็นทอมจริงๆ หรือเปล่าวะ”

“ถามอย่างนี้กล้าให้สาละมีแกมาพิสูจน์กับฉันไหม?”

พูดไปแล้วก็ต้องรีบหลบเมื่อการ์ดในมือแขไขปาใส่หน้าทันที

“อย่าพูดให้พิธานได้ยินเชียว เขาจะกระทืบแกนังนา ทุกวันนี้เขายังบอกให้ฉันเลิกคบแกอยู่เลย”

ใบหน้านารินยังระรื่นเมื่อสวนกลับไปว่า

“เนรคุณจริงๆ ผัวเมียคู่นี้ ที่ได้แต่งงานกันก็เพราะฉันแท้ๆ”

“หุบปากเลย” แขไขตวาดแว้ด

“อ้าว ตะโกนเข้า เดี๋ยวลูกก็ไหลหรอก” นารินยังอดยั่วไม่ได้

“หาเอาเองนะผู้ชายที่แกต้องการน่ะ”

แขไขพูดใส่หน้า แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง  แต่นารินยิ้มยักไหล่พูดไล่หลังว่า

“อย่าลิมสโลแกน เพื่อนต้องช่วยเพื่อนนะโว้ย ครั้งนี้ลดสเป็กลงมาหน่อยก็ได้ จะให้ดีเอาที่

มันเข้าข่ายแบดบอยหน่อยนะ สุภาพเกินไปมันไม่เหมาะกับฉัน เดี๋ยวแผนแตก หาคนตก

งานได้ยิ่งดี เผื่อไว้สักสามเดือนล่วงหน้าเลย เพราะจะมีงานวันเกิดคุณย่ารออยู่ แต่อย่าลืมล่ะ

ต้องเอาที่ขาพิการหน่อยๆ เผื่อจะขอเงินแม่มารักษาเขาได้อีก”

แขไขอดไม่ได้จะหันกลับมามองหน้าเพื่อนอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันไปสนใจกับงานที่ทำเมื่อครู่

เธอกับนารินเข้าหุ้นเปิดบริษัทออกแบบตกแต่งภายใน กิจการก็ดำเนินไปได้เรื่อยๆ  ไม่ค่อย

จะมีปัญหาอะไร แม้ว่าในบางครั้งแทบจะไม่มีงานเข้า แต่ทั้งคู่ก็อยู่ได้สบายเพราะมีทางบ้าน

คอยช่วยเหลือ เธอกับนารินเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย สนิทสนมกันมากจนใครๆต่าง

ก็คิดว่าเป็นคู่ทอมดี้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าท่าทางของนารินที่ออกจะออกไปทางสาวหล่อ

ข่าวลือจึงเป็นจริงเป็นจังนัก  และก็เพราะความเป็นสาวหล่อของ นาริน นี่แหละ ถึงได้ทำให้เธอ

ได้แต่งงานกับพิธานเพื่อนชายที่เธอหลงรัก แม้ว่าแผนการครั้งนั้นจะทำให้ชายหนุ่มอีกคนต้อง

อกหัก และเสียหน้าไปบ้าง มันเป็นเรื่องที่เธอและนารินไม่อยากจะพูดถึงเท่าไหร่ 

เธอรู้ว่านารินไม่ได้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นคนโผงผางชอบยั่ว

 เฮไหนฮานั่น  ความจริงแล้วก็มีผู้ชายมาชอบนารินหลายคน แต่นารินไม่ค่อยจะสนใจ แต่พอมี

เรื่องต้องหาใครสักคนก็คว้าคนโน้นคนนี้บ้างไปแก้หน้า จนแม่ไม่เชื่อแล้วครั้งนี้ยังจะมาพูดว่า

ลดสเป๊ก... ไอ้คนตกงานขาพิการด้วย มันหาได้ง่ายๆ หรือไง?

อีกครั้งที่แขไขต้องหันกลับไปมองนาริน ทีก้มหน้าก้มตาวาดอะไรอยู่ตรงหน้าอย่างพิจารณา

นารินเป็นคนสวยเก๋ อาจจะไม่ใช่คนเรียบร้อยนัก แต่หากคิดจะหาผู้ชายสักคน ก็ไม่ยากหรอก

เธอจะปล่อยให้เพื่อนใช้ชีวิตเล่นๆ ไปวันๆ ไม่ได้แล้ว ปีนี้นารินย่างยี่สิบหกแล้ว มันเป็นวัยที่

ตัวเลขสมควรจะได้แต่งงาน แม้สมัยนี้คนโสดนะมากขึ้นก็เถอะ เธออยากให้นารินมีครอบครัว

ที่อบอุ่น มีรักแท้อย่างที่เธอมี  แต่ทำไมนารินไม่รักใครสักคนนะ มันเพราะอะไร? ผู้หญิงเรา

มันก็น่าจะมีผู้ชายในฝันบ้างสิ แต่นารินไม่เคยเอ่ยปากให้เป็นจริงเป็นจังเลยว่าชอบแบบไหน

ถามทีไรก็พูดเป็นเล่นไปหมด

“มีอะไร เห็นจ้องฉันนานแล้วนะ”  เสียงนารินถามมา

“ฉันจะหาผัวให้แกจริงๆ ครั้งนี้” แขไขตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ

นารินยักไหล่ขำๆ “เออ  ก็เอาแคตตาล็อกมาให้ฉันเลือกสิ หล่อๆ หน่อยนะโว้ย และ...

เพื่อให้สมใจแม่สื่อเพื่อนรัก งานนี้เกย์ก็ไม่เกี่ยงว่ะ”

“ฉันจะถือว่าแกรับปากฉันแล้ว ห้ามคืนคำ”

แขไขสำทับมาอย่างจริงจัง เมื่อความคิดหนึ่งแวบเข้ามาอย่างที่เธอเองก็นึกไม่ถึง...

...มันต้องคนนี้ ถึงจะเอานารินอยู่!



:+:+:+:+:+:+:+:






Create Date : 11 สิงหาคม 2553
Last Update : 11 สิงหาคม 2553 20:24:10 น. 3 comments
Counter : 1412 Pageviews.

 
yeah yeah, this is another good one..it's not serious novel favor to comedy..love it very much..Narin's character is acceptable for me to handle..chob chob maak..!!


โดย: P'Corn IP: 71.81.178.101 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:23:57:16 น.  

 
ตามมาเป็นกำลังที่บลอคนี้ด้วยคนคะ
หนึ่งลิปดา ชื่อเก๋ดีนะ


โดย: INNAM IP: 203.130.132.85 วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:13:56:59 น.  

 
ตามมาด้วยคนคร๊า เพิ่งเห็นว่ามีบล็อกนี้ด้วย ได้อ่านเรื่องใหม่แระ ขอบคุณมากคร๊า อิอิ

Happy New Year ล่วงหน้านะคะ


โดย: Kwanita IP: 115.87.240.190 วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:19:12:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตันตราวี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




ทำไมต้อง "หนึ่งลิปดา"

การค้นหาหรือจะตั้งชื่อนามปากกา
ให้ถูกใจเราเองนั้น...ยาก
เพราะไม่เพียงคิดชื่อ
แต่มันต้องให้สอดคล้อง
ไปกับธีมของสิ่งที่เราอยากจะเขียนด้วย ^--^

แล้วถ้าหากจะเขียนในสิ่งที่เรียกว่า
"ความรัก ความหลัง ความโรแมนติก
การทะเลาะ การงอนง้อ ความเข้าใจ
ความทรงจำอันอบอุ่น เพื่อน มิตรภาพ ฯลฯ "

ชื่อ "หนึ่งลิปดา" จึงผุดขึ้นมา อย่างชอบใจเลย ^--^

จากฟีลิปดา


ลายปากกา
 
Art Prints

New Comments
Friends' blogs
[Add ตันตราวี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.