space
space
space
<<
กรกฏาคม 2562
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
8 กรกฏาคม 2562
space
space
space

ข่าวรับจ้างวาดรูป5บาท

ปกติเขียนลงแต่ในwebsiteนานๆทีจะมา แต่ทีนี้มีแฟนตัวยงจากเฮิทโตนกับดูแรนโก้ ถามเข้ามา/อยากรู้ความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวการขายหรือว่าจ้างศิลปินมาวาดภาพ โดยที่เด็กคนนั้นที่เปิดเพจขายรูปในราคา5-10 บาท ทำให้คนที่อยู่ในวงการไม่พอใจ ว่าเหมือนไปดูถุกผลงานเขาประมาณนี้  https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10157646230338291?comment_id=10157648754733291¬if_id=1562516076339348¬if_t=comment_mention :แหล่งข่าวเบื้องต้น
                                            คือจะบอกว่ามันมองได้หลายมุมมอง มุมมองฝั่งคนที่เขาทำงานสายนี้จริงๆกับที่ไม่ได้ทำเหมือนน้อง(คือเข้าใจก่อนว่าน้องเขาไม่ได้เรียนมา แต่อยากวาดขึ้นมาเฉยๆฝึกฝีมือไรงี้อย่าว่าน้อง) มุมฝั่งคนทำงานนี้จริงๆก้บอกว่าลดเกรด คุณค่าในงานศิลป์ลงรึป่าวไปกดราคา ทำให้ราคาปกติที่เขารับวาดลดลงรึป่าว คือภาพวาดมันไม่มีราคากลาง หรือราคาพื้นฐานที่ว่าวาดเละเทะแค่ไหนก็ไม่ควรต่ำกว่า50 สามารถตั้งราคาเองได้เลยตามที่ฝั่งคนขายกับคนซื้อตกลงราคากัน คือพอมันไม่มีราคากลางเนี่ยมันก็พูดยากการหาดุลยภาพของตลาด(Market Equilibrium)ในอุปทานของตลาด (market supply) การหาราคาดุลยภาพและปริมาณดุลยภาพเนี่ยเราเอาอุปทานของหน่วยผลิตแต่ละหน่วยมารวมกันก็จะได้อุปทานของทั้งตลาดsupply เช่นกันในดุลยภาพของตลาดรวมเมื่อราคาสินค้าส่วนใหญ่ตัดที่ดุลของตลาดอยู่แล้วแต่เมื่อมีsellerตั้งราคาใหม่ที่ถูกลงกว่าเดิมจะทำ(*ให้ปัจจัยอื่นคงที่สินค้าเหมือนกันต้นทุนเท่ากัน)ให้demandเพิ่มขึ้นตามกฏlaw of demand ในส่วนของsupplyก็จะลดลงตามกฏของlaw of supply เส้นsupplyใหม่ก็จะลดลง และเมื่อเส้นsupplyลดแต่demandเพิ่ม ดุลยภาพของตลาดที่เป็นไปได้ในส่วนของทั้งอุปสงค์และอุปทานเลื่อน ส่งผลให้ราคาเพิ่มแต่ปริมาณไม่แน่(ในกรณีที่คนวาดรูปถ้าsellerคนนั้นมีแค่คนเดียวหรือส่งผลกระทบต่อตลาดน้อยอาจไม่มีผลต่อเส้นsupplyในระยะยาว)สุดท้ายกลไกราคาจะปรับตัวเข้าหากันถ้าเกิดexcessของทั้ง2ฝั่ง  คือพอมันไม่มีราคากลางอย่างที่บอกไปการหาดุลยภาพหรือให้กลไกราคาในยุคตลาดเสรี/ทุนนิยม มันก็ทำไม่ได้แต่ก้อยากยกตัวิย่างอย่างง่ายพราะสินค้าส่วนใหญ่มีราคากลางกันเกือบหมด พอพูดถึงราคากลางก็จะโยงไปถึง ค่าความยืดยุ่น (elasticity)ทางฝั่งsellerถ้าเราลองใช้ค่าความยืดยุ่นแบบช่วง(arc elasticity)วัดค่าความยืดยุ่นในช่วงบนเส้นอุปทานหรือช่วงหนึ่งๆของราคาโดยใช้ค่าเฉลี่ยของราคาขายและปริมาณเป็นฐานเดิมลองใช้สูตรคำนวนแล้วEs=0(ตอนแรกนึกว่าไม่มีน่าจะเป็น1รึป่าวปรากฏมีจริง) Es=0อุปทานไม่ยืดยุ่นอย่างสมบูรณ์(perfectly inelastic supply) อุปทานในระยะสั้นมากๆVSRS หมายความว่าไม่ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงปริมาณเสนอขายก็จะเท่าเดิม  เส้นSตั้งฉากกับแกนนอนให้ ราคา(P)เป็นแกนตั้ง Qเป็นแกนนอน        อธิบายได้ว่าไม่ว่าราคารูปวาดจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่ผู้ผลิตก็จะขายในปริมาณเท่าเดิมราคาที่100 หรือ 5 บาท ก็ขายในปริมาณ1ชิ้น(ในกรณีที่ให้ปัจจัยทุกอย่างคงที่เหมือนกัน)  เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่ามั
ไม่เกี่ยวกันป่าววะ55555555 แต่ก็ขี้เกียจลบ ชั่งมัน  จบเศรษฐศาสตร์ที่ตรงนี้เดี่ยวหลอนกว่าเดิมผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ภาพวาด
(ในความเป็นจริงถ้าหน่วยผลิตใดลดราคา หน่วยผลิตอื่นๆจะลดตามด้วย เพราะกลัวว่ายอดขายของตัวเองจะตกแต่ในกรณีที่หน่วยผลิตเพิ่มราคาหน่วยผลิตอื่นจะไม่เพิ่มตาม*อุปสงค์หักงอ)
สรุปคือ มันขึ้นอยู่กับdealทั้ง2ฝ่ายเองว่าจะตกลงราคากันที่เท่าไหร่แม้มันจะไปกดราคารายอื่นก้ตามแต่sellerรายอื่นก็ควรปรับตัวในยุคทุนนิยมและ วิธีการแก้ตัดราคา ก็ควรสร้างแบรนด์ หรือทำให้สินค้า มันดูเป็นเอกลักษณ์ ทำการตลาดอะให้คนลูกค้าเขาเนี่ยเป็นสาวกคุณติดตามคุณเชื่อใจในแบรนด์คุณ เข้าใจว่าผลงานศิลป์บางอันมันประเมินราคาไม่ได้ หรือทำให้เป็นเอกลักษณ์ยากหน่อย แต่คือสร้างอะไรที่ทำให้ชื่อคุณเข้าไปอยู่ในใจคนซื้อเขาได้  สมมุต อ.วาดรูปที่มีชื่อเสียงคนนึงที่เก่งมากเคยประมูลงานได้เป็น10ล้าน กับเด็กที่วาดรูปตามอาจารย์คนนั้นเลยเหมือนกันเปะ แต่ขายราคา10บาท  เป็นคุณจะเลือกซื้อผลงานใคร  วิธีทำให้ผลงานมีค่าหรือทำให้รู้ว่าเป็นของจริง ในรูปอาจมีลายเซ็นอาจารย์หรือรูปถ่ายคู่อาจารย์แปะไว้หลังรูปก็ทำได้ เพื่อในอนาคตมาขายต่อในผลงานของแท้ที่มีคุณค่า
125129
(**ซึ่งมันก็จะโยงไปอีกว่าราคารวมถึงคนที่ดูผลงานศิลปะเป็นมันแล้วแต่กลุ่มลูกค้าว่าคุณจะเข้าถึงกลุ่มไหนอีก)
สรุปอีกรอบ  ยังมีปัจจัยที่ไม่ได้ใส่ลงไปทั้งคุณภาพสินค้า ต้นทุนการผลิต กำไรสุทธิ เรื่องพวกนี้มันก็ต้องคิดอีกในเรื่องฝั่ง บัญชีว่าแม้เขาขายตัดราคา ก็ต้องไปดูว่าขายเท่าไหร่ ต้นทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกเท่าไหร่ ลบ กันจะได้ กำไรสุทธิออกมาเท่าไหร่ ในขณะเดียวกันคนที่ขายของออนไลน์ที่ตัดราคาคุณ เขาอาจจะได้กำไรเท่าคุณก็ได้เพราะรายจ่ายเขาน้อยกว่าคุณ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป รวมถึงมีกระเป๋าเงินอิเล็คโทรนิค มายิ่งต้องปรับตัวกัน แหนะหลงประเด็นอีกแล้ว พอ ให้3กลุ่มที่อธิบายได้ดีและสอดคล้อง1.วงการวาดรูป ถ้าเถียงไม่จบ ไปต่อ2.บริหารธุรกิจ สาขาตลาดอะไรก้ได้ 3.บัญชี 4.เศรษฐศาสตร์


16




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2562
0 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2562 21:10:19 น.
Counter : 479 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 1116722
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 1116722's blog to your web]
space
space
space
space
space