Deutsche Bank AG เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติระดับโลกและบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินมีสำนักงานใหญ่ในเมืองแฟรงค์เฟิร์ตประเทศเยอรมนีและเป็นบริษัทจดทะเบียนสองแห่งในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต เครือข่ายของธนาคารครอบคลุมถึง 58 ประเทศ เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 17 ของโลก *กำไรสุทธิปี2019 ติดลบ5389ล้านยูโร THEMOUNTAIN2 จะพาคุณย้อนเวลากลับไปปี1870-ปัจจุบัน (ยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างที่ไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน และถูกเก็บเป็นความลับมาจนถึงปัจจุบัน)
ภายใต้อาณาจักร 1870-1919 เมื่อความคิดในการก่อตั้งธนาคารดอยซ์แบงก์กลายเป็นจริงในปี 1870 อุตสาหกรรมการเงินการธนาคารอยู่ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ -ธนาคารดอยซ์แบงก์ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในกรุงเบอร์ลินในปี ค.ศ 1870 (ในฐานะธนาคารผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการค้าต่างประเทศและส่งเสริมการส่งออกของเยอรมนี ต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศเยอรมนีเนื่องจากรูปแบบธุรกิจมุ่งเน้นไปที่การจัดหาเงินทุนให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม) -รัฐบาลปรัสเซียนอนุญาติให้ Deutsche Bank ได้รับใบอนุญาตประกอบการธนาคาร -เป้าหมายหลักในการประกอบธุรกิจของ Deutsche Bank ในขณะนั้นคือ การทำธุรกรรมธนาคาร ธุรกิจทุกชนิดโดยเฉพาะการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้า(ก่อนที่จะมีการก่อตั้งธนาคารดอยซ์แบงก์ผู้นำเข้าและส่งออกชาวเยอรมันต้องพึ่งพาสถาบันการเงินธนาคารของอังกฤษและฝรั่งเศสในตลาดโลกซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในตั๋วเงินของเยอรมันซึ่งแทบจะไม่เป็นที่รู้จักในด้านการค้าระหว่างประเทศเลยเมื่อเทียบกับ ตั๋วเงินอังกฤษหรือฝรั่งเศส) เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอื่นๆต่อเยอรมัน โดยในระหว่างปี1871-1873 Deutsche Bank ได้เริ่มเปิด5สาขาทั้งในและต่างประเทศ ใน Bremen, Shanghai, Yokohama, Hamburg และ London สรุปตามTimelineที่สำคัญ 1. Deutsche Bank ก่อตั้งปี1870 2.สาขาแรกในประเทศ ตั้งที่เบรเมินและฮัมบูร์ก สาขาแรกในต่างประเทศคือเซี่ยงไฮ้และโยโกฮาม่า ตั้งในปี 1872 3.ในปี1883 เริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมทางธุรกิจในแปซิฟิกเหนือกับบริษัท รถไฟในสหรัฐอเมริกา 4.ในปี1886 ก่อตั้งมูลนิธิ Deutscheและธนาคาร Ueberseeische 5.ในปี1888 รัฐบาลตุรกีได้รับความร่วมมือจาก Deutsche Bank เป็นครั้งแรก โดยได้สัมปทานในการสร้างรถไฟอนาโตเลียเชื่อมโยงอิสตันบูลและอังการา 6.ปี1890 Deutsche Bank เข้าร่วมในการก่อตั้งMannesmannröhren-Werke(อุตสาหกรรมท่อเหล็ก) 7.ปี 1892 เปิดตัวสาขาแรกในมิวนิค -โดยในระหว่างปี 1889-1903 เรื่องราวไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากเพียงแค่ Deutsche Bank เริ่มมีการฝากเงินสดรวมถึงมีการลงทุนในธุรกิจต่างๆ และย้ายสำนักงานใหญ่ไป ยังสถานที่ที่อยู่ใกล้มาก ณ ตอนนั้น นั่นคือ ตลาดหลักทรัพย์เบอร์ลิน
-1905-1917 การเติบโตอุตสาหกรรมในเยอรมันเริ่มเฟื่องฟูเริ่มมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มธนาคารรวมถึง Deutsche Bank มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า เคมีและเหล็ก ของเยอรมัน เริ่มมีการทำธุรกิจแบบ Joint ventures ในหลายประเทศหลายภูมิภาคทั้งในลาตินอเมริกาและเอเชีย 1919-1932 หลังสงครามโลกครั้งที่1หลายธนาคารในโลกเริ่มมีการปรับตัวสู่ยุคใหม่ ธุรกิจในโลกเริ่มฟื้นตัว ส่วนในเยอรมันเกิดปัญหาเงินเฟ้อ -ช่วงหลังสงครามสิ้นสุด ธนาคารหลายแห่งในโลกประสบปํญหาการขาดทุนและเริ่มมีการควบรวมกิจการ โดยรวมกับพันธมิตรธนาคารในภูมิภาค -ในปี1929เป็นจุดพีคของอุตสาหกรรมการธนาคารเนื่องด้วยผลประกอบการกำไรมากสุดในประวัติศาสตร์ของเยอรมัน 1933-1945 ฮิตเลอร์เข้ายึดอำนาจถือเป็นช่วงเวลาที่มืดมิดตกต่ำที่สุดของ Deutsche Bank เป็นเวลากว่า6ปีที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐนาซี(Reference: Deutsche Bank History) -ฮิตเลอร์ได้สั่งให้ Deutsche Bank ที่ถือเป็นธนาคารของเยอรมันสนับสนุนทางการเงินแก่พรรคนาซีของตนแทนหลายธนาคารอื่นในเยอรมันที่มีผู้บริหารเป็นชาวยิว - Deutsche Bank ต้องไล่ สมาชิกที่เป็นชาวยิวที่อยู่ในสถานะผู้บริหาร ณตอนนั้นออก ก่อนการกวาดล้างชาวยิว 1933-1934 -ปี1938รัฐบาลแห่งชาติดำเนินนโยบายตรวจสอบและตรึงสินทรัพย์ของชาวยิว ลูกค้าชาวยิวของ Deutsche Bank ได้รับผลกระทบอย่างมากไม่แม้นธนาคารอื่นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน(จนกระทั่งสงครามจบลง สินทรัพย์และบัญชีเกือบจะทั้งหมดที่ถือครองโดยลูกค้าชาวยิว ทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายไปยัง เยอรมัน รีค กระบวนการพวกนี้ถูกส่งผ่านภายใต้กฏหมายลับ) *หลังจากอดอล์ฟฮิตเลอร์เข้ามามีอำนาจจึงได้ก่อตั้งสถาบันรีค 1933-1945 -หลังสิ้นสงครามฝ่ายพันธมิตรได้เข้ามาจัดการค้นและเก็บเอกสารต่างๆใน Deutsche Bank บางสาขา แต่ก็มีบางสาขาที่เอกสารถูกเก็บโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Deutsche Bank ไว้แล้ว
ในปี1999 ในทุกสำนักข่าวทั่วโลกรายงานว่า Deutsche Bank AG ยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับค่ายเอาช์วิทซ์ -โดย Deutsche Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีได้ตีพิมพ์เอกสารที่แสดงให้เห็นว่าได้รับทุนสนับสนุนการสร้างค่ายกักกันเอาชวิทซ์ -เอกสารที่เกิดขึ้นที่สำนักงานสาขาของธนาคารดอยซ์แบงก์ในคาโตวีตเซในประเทศโปแลนด์ที่ถูกยึดครองก็แสดงให้เห็นว่าตำรวจลับนาซีและไอจีฟาร์เบนซึ่งเป็น บริษัท ในเครืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างค่ายกักกันเอาชวิทซ์ก็มีบัญชีอยู่ที่ธนาคารดอยซ์แบงก์ -การตัดสินใจของ Deutsche ในการเผยแพร่เอกสารเกิดขึ้นไม่นานหลังจาก Bank Austria ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของออสเตรียได้เสนอที่จะเปิดเอกสารสำคัญของตนเองให้กับทนายความที่ทำงานในนามของเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ว่าตนถูกควบคุมโดย Deutsche ในช่วงสงคราม - เอกสารที่เก็บเป็นความลับเป็นเวลา 50 ปีแสดงให้เห็นว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีให้ความช่วยเหลือระบอบการปกครองของนาซีในปี 1933 ในการเวนคืนธุรกิจชาวยิวและช่วยฮิตเลอร์ควบคุมเศรษฐกิจในดินแดนใกล้เคียง *ธุรกิจหลักของชาวยิวถูกบังคับให้ขายให้กับนักลงทุนที่ไม่ใช่ชาวยิวในราคาที่ลดลงครึ่งนึงหรือธนาคารในเยอรมันสามารถที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ได้เอง - Manfred Pohl ผู้อำนวยการสถาบันประวัติศาสตร์ของธนาคารดอยซ์แบงก์กล่าวกับสำนักข่าวในเยอรมันว่าเอกสารลับที่เพิ่งถูกเปิดไปแสดงให้เห็นว่าธนาคารมีการเชื่อมโยงกับ บริษัท ที่สร้างค่ายในโปแลนด์(Auschwitz) นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับ บริษัท หนึ่งที่สร้างเตาเผาและให้ทุนแก่อีก บริษัท หนึ่งคือบริษัท ในเครือทำก๊าซ Zyklon-B ที่ใช้ในค่าย -Deutsche Bank ตกลงที่จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ประสบภัยผู้เสียหายจะได้รับค่าตอบแทน -ธันวาคม 1999 Deutsche พร้อมกับ บริษัท เยอรมันรายใหญ่อื่น ๆ มีส่วนช่วยเหลือกองทุนชดเชยค่าเสียหาย 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากการฟ้องร้องดำเนินคดีโดยผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ * คำว่า การล้างชาติ ในภาษาอังกฤษคือ "holocaust" มีรากศัพท์มาจากคำในภาษากรีกว่า holókauston ซึ่งแยกได้เป็นสองคำ คือ (holos) "อย่างสิ้นซาก" และ (kaustos) "เผา" ซึ่งมีความหมายถึงการบูชายัญต่อพระเจ้า ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 11 คำดังกล่าวได้ถูกใช้ในภาษาละตินว่า holocaustum ใช้บรรยายถึงการสังหารหมู่ชาวยิวโดยเฉพาะ และเมื่อถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 คำว่า holocaust ใช้ในความหมายว่า ความหายนะหรือความล่มจม