|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รายงานพิเศษ : เสื้อแดง เอาสิทธิอะไรมา ขู่ รัฐบาลให้ยุบสภา!?!
อมรรัตน์ ล้อถิรธร....รายงาน
ไม่ว่าที่สุดแล้ว การเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดงจะได้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่ข้อเสนอของแกนนำเสื้อแดงที่ให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อแลกกับการยุติชุมนุม พร้อมเปิดทางให้ทุกพรรคลงพื้นที่หาเสียงได้อย่างเสรี ก็ถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่า นี่หรือคือสิ่งที่ปากบอกว่าพร้อมเจรจา แท้จริงแล้วน่าจะเป็นการข่มขู่รัฐบาลมากกว่า นี่ยังไม่รวมกรณีที่ บิ๊กจิ๋ว และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดดลงมาร่วมวงโค่นล้มรัฐบาลอย่างเปิดเผย แต่จะสำเร็จหรือไม่ ต้องให้หลายฝ่ายวิเคราะห์ หลังแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายวีระ มุสิกพงศ์-นายจตุพร พรหมพันธุ์-นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นัดชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงเพื่อขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มี.ค.โดยตั้งเป้า 3 วันน่าจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ แต่กลายเป็นว่า 10 วันล่วงไปแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโค่นรัฐบาลสำเร็จ ขนาดทั้งปลอบทั้งขู่ให้รัฐบาลยุบสภา ด้วยการอ้างว่า พร้อมเจรจากับรัฐบาลเพื่อสงบศึก โดยนายกฯ ต้องประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ แล้วกลุ่มเสื้อแดงจะยอมยุติการชุมนุม และพร้อมจะให้ทุกพรรคลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งได้ในทุกพื้นที่จะไม่ขัดขวาง แถมยังพูดเหมือนดูดีว่า เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับผลเลือกตั้ง เพื่อให้บ้านเมืองสงบ แต่หลายฝ่ายก็รู้ทันว่า ที่แกนนำเสื้อแดงพูดเช่นนี้ได้เพราะมั่นใจว่า ถ้าเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยจะชนะแน่ และเมื่อคิดว่าพรรคตัวเองชนะ จึงดักคอไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าห้ามใครออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน นอกจากกลุ่มเสื้อแดงจะพยายามกดดันรัฐบาลทุกวิถีทางแล้ว ด้าน ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยังโดดลงมาร่วมวงช่วยกลุ่มเสื้อแดงโค่นรัฐบาลอย่างเปิดเผยด้วย โดยวางหมากเดินสายเจรจากับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หวังกล่อมให้ถอนตัว-พลิกขั้วให้ได้ โดยอ้างว่า รัฐบาลอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถบริหารประเทศได้อีกต่อไปแล้วจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ก่อนจะได้บทสรุปว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะจบลงอย่างไร และแกนนำพรรคเพื่อไทยจะกล่อมพรรคร่วม ให้ทิ้งรัฐบาลสำเร็จหรือไม่ ลองมาหยั่งกระแสสังคมดูว่ารู้สึกอย่างไรกับข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดง รวมทั้งการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร อาจารย์ประจำคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มองท่าทีของกลุ่มเสื้อแดง ว่า ต้องการเจรจากับรัฐบาล เพราะคงไม่สามารถคุมม็อบให้ปักหลักสู้ในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ปกรณ์ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่เหมือนการชี้นิ้วสั่งของแกนนำเสื้อแดง พร้อมแนะว่า รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่คิดไม่เหมือน นปช.ด้วย ไม่ควรจะเป็นการเจรจาแค่เพียง 2 ฝ่าย เพราะฝ่ายที่ 3 ซึ่งไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีการคิดของกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโดยตรง อาจจะมีกลุ่มอื่นที่อยากจะเรียกร้องให้มีการ คือข้อคิดอาจจะเหมือนกัน คือเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องการขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน เรียกร้องการปรับปรุงการแก้ไขกฎหมาย แต่ไม่ได้เห็นด้วยกับการยุบสภาในขณะนี้ เพราะฉะนั้นการเจรจามันไม่ควรจะมีแค่เพียงข้อเสนอประเด็นที่ นปช.เรียกร้อง คือเจรจาเฉพาะกับรัฐบาลเท่านั้น (ถาม-แกนนำเสื้อแดงบอกว่า รัฐบาลยุบสภาสิ แล้วจะให้ทุกพรรคลงพื้นที่หาเสียงได้ทุกพื้นที่ ไม่ขัดขวาง?) ตกลงวันนี้คนเสื้อแดงจะชี้นิ้วประเทศใช่มั้ย คนที่ไม่ได้เป็นเสื้อแดง เสื้ออื่น เสื้อเหลือง พวกผมนี่ไม่มีสิทธิ์จะชี้นิ้วประเทศนี้ใช่มั้ย นี่เป็นประชาธิปไตยแบบไหน การข่มขู่รัฐบาล การข่มขู่ประชาชน เป็นวิธีการประชาธิปไตยหรือเปล่า สิ่งที่เขาทำกับสิ่งที่เขาเรียกร้อง มันคนละเรื่อง (ถาม-อ.ประเมินแล้วจะยังไงต่อไป กลุ่มเสื้อแดงจะยื้อเวลาไปเรื่อยๆ หรือเปล่า เพราะเมื่อเสาร์ที่แล้ว (20 มี.ค.)ก็เคลื่อนพลทั่วกรุง เสาร์นี้ (27 มี.ค.)ก็เคลื่อนอีก?) เขากำลังทดสอบความอดทนของคนกรุงเทพฯ ว่า คนกรุงเทพฯ จะมีความอดทนแค่ไหน ถ้าคนกรุงเทพฯ จะปล่อยให้เขาปิดเมืองได้เนี่ย คิดว่าก็ให้เขาปิดประเทศไปเลย (ถาม-อ.มองการเคลื่อนไหวของบิ๊กจิ๋ว และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยยังไงที่โดดลงมาร่วมวงกับ นปช.อย่างไม่เหนียมแล้ว และตอนนี้กำลังเดินเกมล็อบบี้ให้พรรคร่วมฯ ถอนตัวจากรัฐบาล?) คนเหล่านี้ไม่มีความหมาย เป็นคนที่ไม่มีราคา ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต หรือบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหลาย ที่โดดลงมาร่วมในขณะนี้ สังคมไม่ได้ให้ราคาอะไร สังคมไม่ได้ให้ความสำคัญ และบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ล้มเหลวทางการเมือง แม้แต่ พล.อ.ชวลิต เองก็ตาม เพราะได้ทำอะไรมาหลายเรื่องแล้ว ที่นี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ชวลิต ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้าไปดึงพรรคร่วมรัฐบาลออก วันนี้ (23 มี.ค.) มีการประชุม ครม.พรรคร่วมฯ ก็ไปครบถ้วนสมบูรณ์ การถอนตัว (ของกลุ่มเสื้อแดง) ที่จะไม่ไปกดดันการประชุม ครม.ก็แสดงให้เห็นว่า ทางเสื้อแดงเองก็อยากจะเจรจา เพราะการที่จะคุมม็อบให้อยู่ในระยะยาวไม่อยู่ในสภาพที่จะรับได้ ด้านนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ก็ไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในขณะนี้เช่นกัน เพราะเห็นว่ายังไม่มีเหตุให้ควรยุบ พร้อมแนะกลุ่มเสื้อแดงว่า ควรยอมรับประชาธิปไตยเสียงข้างมาก หากจะเรียกร้องให้ยุบสภา ต้องถามประชาชนอีกหลายสิบล้านคนดูด้วยว่า อยากให้ยุบสภาหรือไม่ ผมว่าไม่มีเหตุน่ะ การยุบสภามันเป็นเรื่องที่สภาไม่สามารถทำหน้าที่ได้ มีความขัดแย้งกันในการบริหารจัดการในนิติบัญญัติ ตอนนี้ผมยังไม่เห็นมีเหตุตรงนี้เลย มีเหตุอย่างเดียวคือคุณจะเอานายกฯ ออกไป และไปสู่กระบวนการเลือกตั้ง ถ้าเลือกตั้ง ถามว่าเลือกตั้งตอนนี้ แล้วเรารับรองได้ยังไงว่าจะไม่เกิดเหตุอย่างที่พวกเขาว่ามา ตรงนี้คือสิ่งที่เราต้องตอบว่า การยุบสภาต้องมีเหตุมาจากสภานิติบัญญัติไม่สามารถทำงานได้ (ถาม-โอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัว เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน?) ผมมองว่า ตอนนี้ถ้ายุบสภาแล้ว เขามั่นใจได้มั้ยว่าเขาจะหาเงินที่ไหนมาซื้อเสียงกัน มาจัดการเลือกตั้งกัน เพราะปัจจุบันต้นทุนมันอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านต่อเขตแล้ว ผมถามว่า ถ้าบังคับ ส.ส. ส.ส.จะยอมมั้ย ส.ส.คงไม่ยอมหรอก อยู่ๆ คุณก็ตกงานไง และอีกอย่าง เอ๊ะ! คุณชุมนุมกันเสร็จเรียบร้อย คุณบอกให้ยุบสภา ผมถามว่าคุณชุมนุมถึง 13 ล้านคนมั้ยล่ะ ถ้า 13 ล้านคน ก็เหลืออีกประมาณ 40 กว่าล้านที่เขาไม่ได้ชุมนุมกับคุณน่ะ คุณถามเขารึเปล่าว่าควรจะยุบสภาควรจะลาออก ประชาธิปไตยมันต้องถือเสียงข้างมากใช่มั้ย ไม่ใช่ใช้เสียงของการกดดัน ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ พูดถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ว่า หลังจากมีการขับรถเพ่นพ่านทั่วกรุงเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาโดยไม่เกิดเหตุรุนแรง คงต้องดูว่าการจะเคลื่อนขบวนอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.นี้จะมีเหตุรุนแรงหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเหมือนส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ให้ม็อบอยู่ต่ออีก 7 วัน สะท้อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะพยายามทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ในช่วง 7 วันดังกล่าว นายสมศักดิ์ ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกรณีที่แกนนำเสื้อแดงเสนอให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อแลกกับการยุติชุมนุม เพราะถือเป็น 1 ในหลายๆ พฤติกรรมของกลุ่มเสื้อแดงที่พยายามข่มขู่และแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีอำนาจเหนือรัฐ อันนี้ก็เป็นการข่มขู่อยู่เหนืออำนาจรัฐ อย่างเมื่อวาน ที่เขาเดินไป พวกหมอเหวงเดินไปจะไปตรวจค้นอาวุธทหาร พวกนี้พยายามสร้างในแง่จิตวิทยาให้เห็นว่าอำนาจรัฐอยู่กับพวกนี้แล้ว จะไปตรวจอาวุธทหาร ซึ่งเขามีสิทธิที่จะพกหรือไม่พอเป็นสิทธิของเขา แต่ทางนั้นก็ตอบไปว่าไม่มีอาวุธ แทนที่จะตอบว่าเขาไม่มีสิทธิที่จะมาค้น คุณเป็นใคร นี่ก็คือความพยายามที่จะสร้างเหนืออำนาจรัฐ แบบนี้ก็เหมือนกัน คือ เขาเกทับ เดินเหนือรัฐบาล และตกลงรัฐบาลนี่ไม่สามารถปกป้องประชาชนให้มีเสรีภาพในการเดินทางไปไหนมาไหนได้ ปล่อยให้อันธพาลก่อกวน แม้กระทั่งนายกฯ วิ่งหัวซุกหัวซุน สภาพการณ์แบบนี้นายกฯ อาจจะดูเป็นสุภาพบุรุษในสายตาภาพกว้าง แต่ด้านหนึ่งกลับไปสร้างให้พวกนี้ฮึกเหิมว่า เห็นมั้ยนายกฯ พวกเราก็ไล่ หนีหัวซุกหัวซุนอยู่ ทำให้เขาไปโฆษณาได้ว่ารัฐเนี่ยหมดอำนาจ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี ฉะนั้นเขาไม่มีสิทธิจะมาบอกว่า มาทำสัญญาเอ็มโอยู แสดงว่าคุณควบคุมประเทศนี้ไว้แล้วเหรอ แสดงว่าเขามีอิทธิพลอำนาจป่าเถื่อนอยู่เหนืออำนาจรัฐแล้ว
ฉะนั้น รัฐจะต้องทำให้เห็นว่า เสรีภาพในการเดินทาง ผู้ใดจะไปที่ไหน ถ้าใครมาฝ่าฝืนมาขัดขวางละเมิดสิทธิเสรีภาพคนอื่น รัฐต้องเป็นคนจัดการ รัฐบาลต้องจัดการในเรื่องนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เขาข่มขู่คุกคาม มันไม่ใช่เป็นการยื่นข้อเรียกร้องเจรจาต่อรองเกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนเหมือนเกษตรกรชาวไร่ชาวนา หรือขบวนการของสหภาพแรงงาน มันคนละเรื่องกันนะ เพราะฉะนั้นจะไปเจรจาเรื่องอะไร นั่นคือ คำตอบ ไม่ใช่เจรจา และพวกนี้เรียกร้องให้ยุบสภา เมื่อรัฐบาลยุบสภาก็แสดงว่ายอมรับ เขาก็ชนะแล้ว และหลังจากยุบสภาแล้ว พวกนี้บอกว่าจะไปไหนมาไหนได้ จะให้เกิดความเรียบร้อย ทำสัญญาสงบศึก ถ้ารัฐบาลทำอย่างนั้นก็คือความพ่ายแพ้ คือการยอมรับอำนาจที่การชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายภายใต้การบงการของนักโทษชายทักษิณที่กำลังป่วนบ้านป่วนเมือง รัฐบาลมีหน้าที่กำกับดูแลควบคุมจัดการไม่ให้คนที่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย มาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน มันต่างกับพันธมิตรฯ พันธมิตรฯ เราเรียกร้องว่ารัฐบาลนั้นมาโดยไม่ชอบ เราเห็นมั้ยว่ามันพิสูจน์กันชัดเจนทั้งหมดเลยว่า เขาไม่ชอบเพราะอะไร โกงการเลือกตั้ง ศาลก็ยุบแล้ว ทำผิดหลายอย่าง ยุบพรรคก็เห็นปรากฏชัดเจนแล้ว แต่รัฐบาลนี้มันต่างกัน เพราะเขามาเช่นเดียวกับคุณสมัคร คุณสมชาย เมื่อถามว่า คิดว่า มีโอกาสจะเกิดการพลิกขั้วของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หลัง พล.อ.ชวลิต และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามเดินเกมล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลให้ถอนตัว นายสมศักดิ์ บอกว่า เป็นเรื่องที่ไม่กล้าฟันธง เพราะหลายคนในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้ที่เคยไปมาหาสู่และร่วมงานกับคนในพรรคเพื่อไทยมาก่อน และอย่างที่รู้กันว่า นักการเมืองในสภาปัจจุบันก็เหมือน ของเหลว วันดีคืนดี ถ้าผลประโยชน์ลงตัว ก็พร้อมจะไปรวมกันได้ ถ้าผลประโยชน์ไม่ลงตัวหรือไม่มากพอ ก็แยกกัน แต่ถ้าวิเคราะห์จากสถานการณ์ปัจจุบัน คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่น่าจะแยกกัน นายสมศักดิ์ ยังฝากถึงรัฐบาลด้วยว่า ควรจัดการปัญหากลุ่มเสื้อแดงที่สร้างความเดือดร้อนให้คนกรุงเทพฯ โดยเร็ว เพราะขณะนี้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับหลายพฤติกรรมของผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ เช่น การนำเลือดมาเท ซึ่งเข้าขั้นวิตถาร ขณะเดียวกัน ตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาชุมนุมใน กทม.ก็เกิดระเบิดตูมตามขึ้นที่นั่นที่นี่ยิ่งกว่าอยู่ในภาวะสงครามเสียอีก หากนับกรณีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่กระทรวงสาธารณสุข ที่ ครม.ใช้เป็นสถานที่ประชุมเมื่อวานนี้(23 มี.ค.) ก็ 8 ครั้งเข้าไปแล้วสำหรับระเบิดใน กทม.ดังนั้น รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด ไม่ใช่เพื่อคนกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศต่างๆ ที่จะมาร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา(ไอพียู) ครั้งที่ 122 ที่ กทม.ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-1 เม.ย.นี้ด้วย!!
Credit : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2553
สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ H O M E
Create Date : 25 มีนาคม 2553 |
Last Update : 25 มีนาคม 2553 13:01:52 น. |
|
11 comments
|
Counter : 562 Pageviews. |
|
|
|
โดย: รักเมืองไทย IP: 183.89.216.197 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:19:38:40 น. |
|
|
|
โดย: รักเมืองไทย IP: 183.89.216.197 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:19:41:26 น. |
|
|
|
โดย: BB IP: 58.136.51.225 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:20:47:16 น. |
|
|
|
โดย: แม่บ้านเห่อลูก IP: 58.136.51.225 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:20:49:20 น. |
|
|
|
โดย: jee jee IP: 58.136.51.225 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:20:50:54 น. |
|
|
|
โดย: ใหม่และสดรสดีเสมอ IP: 114.128.141.67 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:22:53:31 น. |
|
|
|
โดย: ถรุยยยยยยยยย IP: 124.122.203.179 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:18:05:28 น. |
|
|
|
โดย: 1O8C วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:22:29:52 น. |
|
|
|
โดย: ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 125.26.151.56 วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:23:41:20 น. |
|
|
|
โดย: sarocha IP: 188.174.10.151 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:5:08:23 น. |
|
|
|
โดย: าาห IP: 125.26.141.66 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:16:25:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
Editor บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง "สนามหลวงแก็งค์" kunkorn : Facebook
"Sanamluang's Gang" "สนามหลวงแก๊งค์" kunkorn : Facebook
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก ● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ ● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป
ด้วยจิตคารวะ www.sanamluang.bloggang.com kunkorn : Facebook
ดาวหาง เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้
มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้ ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด
แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น
จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว
● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"
บริการดูดวง
"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี
มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน
มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว
แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น
กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี
การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้
สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า
ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ
"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"
หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น
แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)
ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%
สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้
สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง
แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย
นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย
ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com -------------------------------------------- ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ -------------------------------------------- ● ปัญหาติดต่อราชการ บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต -------------------------------------------- ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,
● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work -------------------------------------------- สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com
รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ
ราคาย่อมเยา
|
หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน" เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน
เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว..... ..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??
ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป>>>
อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|
แฉ ทักษิณ ปลุกม็อบแดง ขู่รัฐบาล คืนเงิน 7 หมื่นล้าน ประกาศลั่น ไม่ทำตาม... ประเทศไทยฉิบหายแน่ !
ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร
มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย
คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย
ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่ ?
เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัว
รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท
แต่ ทักษิณ ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก
ทั้งๆ ที่ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด
ที่ทักษิณ แจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น ถูกอายัดไว้
ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียว เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว
ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร
มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย
คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย
ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่ ?
เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัว
รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท
แต่ ทักษิณ ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก
ทั้งๆ ที่ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด
ที่ทักษิณ แจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น ถูกอายัดไว้
ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียว เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว
ไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แบบมหาเศรษฐีระดับโลก
ทักษิณ ยัง ทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพ ในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษ
ให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้.!
เท่านั้นยังไม่พอ ที่ทักษิณ เพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเอง ก็คือ
จ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาท
จ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัว
ด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท
ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ.อีก 3 คน
ไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่าว่า
ทักษิณ ไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้
เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า
ไม่ได้ทำธุรกิจ ประกอบอาชีพใดๆ เลย
ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร
มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย
คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย
ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่ ?
เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัว
รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท
แต่ ทักษิณ ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก
ทั้งๆ ที่ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด
ที่ทักษิณ แจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น ถูกอายัดไว้
ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียว เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว
แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ทักษิณ สามารถเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลก ที่อยากจะไป ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมชั้นหนึ่งคืนละหลายแสนบาท
ไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แบบมหาเศรษฐีระดับโลก
ทักษิณ ยัง ทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพ ในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษ
ให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้.!
เท่านั้นยังไม่พอ ที่ทักษิณ เพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเอง ก็คือ
จ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาท
จ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัว
ด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท
ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ.อีก 3 คน
ไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่าว่า
ทักษิณ ไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้
เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า
ไม่ได้ทำธุรกิจ ประกอบอาชีพใดๆ เลย
นอกจากทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดในประเทศไทย
ทักษิณ ยังถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ ไว้อีก 140,000 ล้านบาท !! ทักษิณ ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเอาเงิน 140,000 ล้าบาท มาจากไหน
ได้มาด้วยวิธีการอย่างไร และได้มาตั้งแต่เมื่อไร
ทักษิณ จึงถูกถอนวีซ่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีก
พูดง่ายๆ ก็คือ ทักษิณ เป็นบุคคลที่ประเทศอังกฤษไม่ต้อนรับ :)
ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านั้น ทักษิณ ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ นานกว่า 1 ปี.
ทำไมท่าทีของรัฐบาลอังกฤษต่อทักษิณจึงเปลี่ยนไป ?
เพราะ ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่ต่างจากอาชญากรเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก*
ที่ตอบไม่ได้ว่าได้เงินมาอย่างไร
เพราะ ประเทศไทย กลับคืนสู่สภาพปกติ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว
เพราะทักษิณ มีสถานะเป็น นักโทษหนีคุก หนีศาล ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง.!!
นอกจากจะไม่เป็นที่ปรารถนาของอังกฤษ
ทักษิณยังถูกบังคับให้ขายหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ออกจนหมด
และถูกสโมสรลบชื่อออกจากทำเนียบประธานสโมสร
ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวงการฟุตบอลอังกฤษ
ทักษิณโจมตีรัฐบาลอังกฤษ ว่าถูกรัฐบาลไทยแทรกแซง
จนไม่กล้าให้วีซ่า และปฏิเสธคำขอเข้าประเทศอังกฤษ ของเขา
ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริวารของทักษิณ ก็กล่าวหาว่า
ราชวงศ์ของไทย ร้องขอให้ ราชวงศ์อังกฤษ สั่งห้ามรัฐบาลอังกฤษออกวีซ่าให้ทักษิณ
การกล่าวหานี้ มีเป้าหมายให้เกิดผลกระทบต่อราชวงศ์และ
สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย
และ ราชวงศ์ของอังกฤษอย่างร้ายแรง
ในสายตาของชาวไทยและชาวโลก
วันนี้ ปัญหาของทักษิณ ไม่ได้อยู่เงิน 76,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลไทยอายัด เพราะมีหลักฐานพอเชื่อได้ว่า มีที่มาจากการขายหุ้น
ซึ่งหากทักษิณไปพิสูจน์ในศาล ก็เชื่อว่าน่าจะได้คืน
แต่เงินก้อน 140,000 ล้านบาทที่อังกฤษอายัดไว้ต่างหากที่เป็นปัญหา
ซึ่งทักษิณ ชี้แจงไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร
ใช่เงินของคนไทย ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทออกไปจากประเทศไทย หรือ ไม่ ?
เป็น เรื่องผิดปกติอย่างมาก ที่คนต่างชาติคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในอังกฤษปีเศษ
จะทำธุรกิจได้กำไร มีเงินทองกองอยู่ในอังกฤษ มากกว่า 140,000 ล้านบาท
หากไม่โกง หรือ กอบโกยมาจากประเทศอื่น
เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ทักษิณ ถูกต้อนจนมุมคาจอโทรทัศน์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี
จนต้องสารภาพว่า เขาทำธุรกิจอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิ้น
ซึ่งเป็นแหล่ง ฟอกเงิน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก*
เป็นไปได้ไหม ที่เงินจำนวน 140,000 ล้านบาทนี้ ถูกส่งออกจากประเทศไทย
ไปฟอกที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ? แล้วถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในอังกฤษ ในชื่ออื่น
ที่ไม่ใช่ ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก่อนจะเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
วันนี้ สิ่งที่ ทักษิณ ต้องทำ ก่อนที่จะคิดกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
มีอำนาจเหนือประเทศไทย อย่างที่พูดอยู่ทุกวัน ฝันอยู่ทุกคืน
ก็คือ ชี้แจงให้ประชาชน ทราบ 4 เรื่อง ดังนี้
1. เงินที่งอกขึ้นมาเกือบ 50,000 ล้านบาท ก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งแจ้งไว้กับป.ป.ช. ว่ามีอยู่ 25,000 ล้านบาท มาจากที่ไหน ?
2. เงินจำนวน 140,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอังกฤษ อายัดไว้
มีที่มาอย่างไร ?
3. เงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ใช้ลงทุนและซื้อทรัพย์สินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เอามาจากที่ไหน ?
4. เงิน 20,000 ล้านบาท หรือราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่ทักษิณ บอกกับนักข่าวว่ามีเหลือติดตัวอยู่เท่านี้
เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้มาอย่างไร ?
หากตอบคำถาม 4 ข้อนี้ไม่ได้ ก็ป่วยการที่จะคิดฝัน
ถึงวันจะกลับมาเป็นผู้มีอำนาจเหนือประเทศไทยอีกครั้ง
เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ ตาสว่างแล้ว :D
ตาสว่างพอที่จะมองเห็นว่า ทักษิณ วางแผนปลุกระดมคนเสื้อแดง
ก่อความไม่สงบในประเทศไทย แล้วใช้เป็นเงื่อนไข
บีบบังคับให้รัฐบาลต้องคืนเงิน 76,000 ล้านบาทที่อายัดไว้
โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่มาของเงินในศาล.!
เปรียบกันง่ายๆ วันนี้ทักษิณจับประเทศไทย
และประชาชนเป็นตัวประกัน
ข่มขู่ให้คืนเงิน 76,000 ล้านบาทคืน
หากไม่ทำตามที่เขาต้องการ...
ป ระเทศไทยต้องฉิบหาย . คนไทยต้องล่มจม.!!
เมื่อข้าอยู่ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใคร หน้าไหน จะอยู่อย่างสงบ
นี่คือ ประกาศิตของทักษิณ ก่อนเคลื่อนพลใหญ่ 8 เมษายน นี้
คำถามก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ จะยอมให้ทักษิณ และ สมุน
กระทำทารุณกรรมต่อประเทศไทย หรือไม่ ?
ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร
มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย
คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย
ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่ ?
เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัว
รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท
แต่ ทักษิณ ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก
ทั้งๆ ที่ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด
ที่ทักษิณ แจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น ถูกอายัดไว้
ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียว เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว
แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ทักษิณ สามารถเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลก ที่อยากจะไป ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมชั้นหนึ่งคืนละหลายแสนบาท
ไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แบบมหาเศรษฐีระดับโลก
ทักษิณ ยัง ทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพ ในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษ
ให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้.!
เท่านั้นยังไม่พอ ที่ทักษิณ เพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเอง ก็คือ
จ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาท
จ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัว
ด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท
ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ.อีก 3 คน
ไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่าว่า
ทักษิณ ไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้
เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า
ไม่ได้ทำธุรกิจ ประกอบอาชีพใดๆ เลย
นอกจากทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดในประเทศไทย
ทักษิณ ยังถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ ไว้อีก 140,000 ล้านบาท !! ทักษิณ ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเอาเงิน 140,000 ล้าบาท มาจากไหน
ได้มาด้วยวิธีการอย่างไร และได้มาตั้งแต่เมื่อไร
ทักษิณ จึงถูกถอนวีซ่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีก
พูดง่ายๆ ก็คือ ทักษิณ เป็นบุคคลที่ประเทศอังกฤษไม่ต้อนรับ :)
ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านั้น ทักษิณ ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ นานกว่า 1 ปี.
ทำไมท่าทีของรัฐบาลอังกฤษต่อทักษิณจึงเปลี่ยนไป ?
เพราะ ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่ต่างจากอาชญากรเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก*
ที่ตอบไม่ได้ว่าได้เงินมาอย่างไร
เพราะ ประเทศไทย กลับคืนสู่สภาพปกติ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว
เพราะทักษิณ มีสถานะเป็น นักโทษหนีคุก หนีศาล ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง.!!
นอกจากจะไม่เป็นที่ปรารถนาของอังกฤษ
ทักษิณยังถูกบังคับให้ขายหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ออกจนหมด
และถูกสโมสรลบชื่อออกจากทำเนียบประธานสโมสร
ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวงการฟุตบอลอังกฤษ
ทักษิณโจมตีรัฐบาลอังกฤษ ว่าถูกรัฐบาลไทยแทรกแซง
จนไม่กล้าให้วีซ่า และปฏิเสธคำขอเข้าประเทศอังกฤษ ของเขา
ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริวารของทักษิณ ก็กล่าวหาว่า
ราชวงศ์ของไทย ร้องขอให้ ราชวงศ์อังกฤษ สั่งห้ามรัฐบาลอังกฤษออกวีซ่าให้ทักษิณ
การกล่าวหานี้ มีเป้าหมายให้เกิดผลกระทบต่อราชวงศ์และ
สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย
และ ราชวงศ์ของอังกฤษอย่างร้ายแรง
ในสายตาของชาวไทยและชาวโลก
วันนี้ ปัญหาของทักษิณ ไม่ได้อยู่เงิน 76,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลไทยอายัด เพราะมีหลักฐานพอเชื่อได้ว่า มีที่มาจากการขายหุ้น
ซึ่งหากทักษิณไปพิสูจน์ในศาล ก็เชื่อว่าน่าจะได้คืน
แต่เงินก้อน 140,000 ล้านบาทที่อังกฤษอายัดไว้ต่างหากที่เป็นปัญหา
ซึ่งทักษิณ ชี้แจงไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร
ใช่เงินของคนไทย ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทออกไปจากประเทศไทย หรือ ไม่ ?
เป็น เรื่องผิดปกติอย่างมาก ที่คนต่างชาติคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในอังกฤษปีเศษ
จะทำธุรกิจได้กำไร มีเงินทองกองอยู่ในอังกฤษ มากกว่า 140,000 ล้านบาท
หากไม่โกง หรือ กอบโกยมาจากประเทศอื่น
เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ทักษิณ ถูกต้อนจนมุมคาจอโทรทัศน์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี
จนต้องสารภาพว่า เขาทำธุรกิจอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิ้น
ซึ่งเป็นแหล่ง ฟอกเงิน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก*
เป็นไปได้ไหม ที่เงินจำนวน 140,000 ล้านบาทนี้ ถูกส่งออกจากประเทศไทย
ไปฟอกที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ? แล้วถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในอังกฤษ ในชื่ออื่น
ที่ไม่ใช่ ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก่อนจะเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
วันนี้ สิ่งที่ ทักษิณ ต้องทำ ก่อนที่จะคิดกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
มีอำนาจเหนือประเทศไทย อย่างที่พูดอยู่ทุกวัน ฝันอยู่ทุกคืน
ก็คือ ชี้แจงให้ประชาชน ทราบ 4 เรื่อง ดังนี้
1. เงินที่งอกขึ้นมาเกือบ 50,000 ล้านบาท ก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งแจ้งไว้กับป.ป.ช. ว่ามีอยู่ 25,000 ล้านบาท มาจากที่ไหน ?
2. เงินจำนวน 140,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอังกฤษ อายัดไว้
มีที่มาอย่างไร ?
3. เงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ใช้ลงทุนและซื้อทรัพย์สินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เอามาจากที่ไหน ?
4. เงิน 20,000 ล้านบาท หรือราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่ทักษิณ บอกกับนักข่าวว่ามีเหลือติดตัวอยู่เท่านี้
เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้มาอย่างไร ?
หากตอบคำถาม 4 ข้อนี้ไม่ได้ ก็ป่วยการที่จะคิดฝัน
ถึงวันจะกลับมาเป็นผู้มีอำนาจเหนือประเทศไทยอีกครั้ง
เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ ตาสว่างแล้ว :D
ตาสว่างพอที่จะมองเห็นว่า ทักษิณ วางแผนปลุกระดมคนเสื้อแดง
ก่อความไม่สงบในประเทศไทย แล้วใช้เป็นเงื่อนไข
บีบบังคับให้รัฐบาลต้องคืนเงิน 76,000 ล้านบาทที่อายัดไว้
โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่มาของเงินในศาล.!
เปรียบกันง่ายๆ วันนี้ทักษิณจับประเทศไทย
และประชาชนเป็นตัวประกัน
ข่มขู่ให้คืนเงิน 76,000 ล้านบาทคืน
หากไม่ทำตามที่เขาต้องการ...
ป ระเทศไทยต้องฉิบหาย . คนไทยต้องล่มจม.!!
เมื่อข้าอยู่ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใคร หน้าไหน จะอยู่อย่างสงบ
นี่คือ ประกาศิตของทักษิณ ก่อนเคลื่อนพลใหญ่ 8 เมษายน นี้
คำถามก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ จะยอมให้ทักษิณ และ สมุน
กระทำทารุณกรรมต่อประเทศไทย หรือไม่ ?