1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
สมัครฯ เป็น "โนมินี" หรือ เป็น........ อะไร?
เขียนโดย : kamit ...คุณสมัครรู้ตัวไหม ว่า ตัวเองไม่ใช่ "โนมินี"(nominee)ของ คุณทักษิณฯ หรอก ..ถ้าอย่างนั้น..... ถามว่า แล้วคุณทักษิณฯ ชักชวนคุณสมัครฯ เข้ามาอยู่ พรรค พลังประชาชน เพื่อการอันใด คุณทักษิณฯ ต้องการให้คุณสมัครฯมาเป็นอะไร มาทำอะไร ให้แก่ พรรคพลังประชาชน ฤา ? ....... ขอตอบได้เลย ว่า คุณทักษิณฯต้องการให้ คุณสมัครฯ มาทำหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้าฝูงแกะ และทำหน้าที่ เป็นสุนัขล่าเนื้อ คอยกัดกับฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณฯ ครับผม ชัดเจนไหม? .......เพราะ อะไร ที่ กล่าวเช่นนั้น ประการที่ 1 คุณสมัครฯไม่ได้ มีความรู้ความสามารถและไม่เคยมีผลงาน ในเรื่อง การแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจของบ้านเมือง หรือการสมานฉันท์ หรือ ด้านใดเลย ตรงข้ามท่านมีความสามารถที่จะทำอะไรสวนกระแสสังคมได้ตลอดเวลา ยกเว้น ความสามารถเรื่องพูดน้ำไหล ไฟดับ โดยไม่ต้องเว้นวรรคหายใจ ให้คนอื่นได้มีโอกาสพูด เลย หรือความสามารถในการ ชิมไป บ่นไป" แล้วพ่นน้ำลาย ใส่ หนังสือพิมพ์ ใส่นักวิชาการ ใส่คนโน้นคนนี้ แต่ยังไม่เคยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนเป็นชิ้นเป็นอัน สักอย่าง มีแต่ผลงานจากลมปากทั้งนั้น อย่างเช่น ตอนที่ คุณสมัครฯ มาเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ก็ได้แต่พูด แล้วก็อ้างว่า เหตุที่ทำอย่างที่พูดไว้ไม่ได้ ก็เพราะ ได้รับการขัดขวาง จาก สภากรุงเทพมหานคร(สก.).เลยทำอะไรไม่ได้ แต่ในทางตรงข้าม ท่านสามารถสวนกระแสการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมได้อย่างหน้าตาเฉย ด้วยอาศัยวิวาทะ ที่ไม่มีใครเทียบทานไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำ ด้วยนโยบายสนับสนุนการใช้กระทงโฟมคัดค้านการใช้วัสดุธรรมชาติ ในช่วงที่ใครต่อใครกำลังรณรงค์การเลิกใช้โฟมให้หันมาใช้วัสดุธรรมชาติ นโยบายสนับสนุนให้มีหาบเร่แผงลอย ล้อเลื่อน รถเข็นขายบนทางเท้า ของคุณสมัครฯ ที่มาแปลกกับ ผู้ว่าฯคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง ประเภทสุดขั้ว กับผู้บริหารทุกชุดที่เคยเขามาบริหาร กรุงเทพมหานครฯ ที่พยายามควบคุมจัดระเบียบ หาบเร่ แผงลอย กัน เพราะชาวประชาเขาเดือดร้อน เรื่องหาบเร่แผงลอย เพราะไม่มีทางเท้าจะเดิน และทำให้ถนนหนทางสกปรก ทำให้บ้านเมือง ไม่เป็นระเบียบ คุณสมัครฯประกาศเสียงดังฟังชัดเจนว่า หาบเร่ แผงลอย เป้นเอกลักษณ์อยู่คู่กรุงเทพฯ มานาน ไม่ควรยกเลิก ปล่อยให้ขายทุกวันไม่มีวันหยุด ทำให้ทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ด้านความสะอาด เขาบ่นกันขรม วิสัยทัศน์ และความดื้อรั้น ไปแบบข้างๆ คูๆตามสไตล์ ของคุณสมัคร แล้วมาบัดนี้ การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ล้อเลื่อนรถเข็นเป็นอย่างไรบ้าง ประชาชนก็ยังคงเดือดร้อน ถนนหนทางก็ยังคงสกปรกไร้ระเบียบ ยิ่งกว่าเดิม แม้กระทั่ง เมื่อกรุงเทพ เกิดมีน้ำท่วม หรือไฟไหม้ บ้านเรือนประชาชน ประชาชนเดือดร้อนไปถ้วนหน้า คุณสมัครฯ ก็ไม่เคยเยี่ยมกรายออกไปดู โดยอ้างว่า ไม่ใช่หน้าที่ ของ ผู้ว่าฯ กทม. แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประการที่ 2 คุณสมัครฯ เคยล้มเหลวในการนำพรรคการเมือง "พรรคประชากรไทย" ของคุณสมัครฯ ซึ่งขณะนี้ ก็ได้ล้มหายตายจากไปแล้ว ประการสุดท้าย ที่สำคัญ ที่พิสูจน์ ความเห็นดังกล่าวข้างต้น คือ คุณสมัครฯ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นโยบายพรรค ที่ตนเองกำลังมาเป็นหัวหน้าพรรค มีนโยบายว่าอะไร เมื่อได้เข้ามาบริหารประเทศชาติ จะบริหารเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างไร อย่างดี ก็พูดว่า ต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ หนที่สุดพอทำไม่ได้ ก็ โทษเพราะอ้ายนั่น เพราะอ้ายนี่ ตามลีลาของคุณสมัคร? ขนานแท้และดั้งเดิม ไม่เปลี่ยน รสชาติสักหยดเดียว แม้จะเปลี่ยน ขวดและยี่ห้อใหม่ก็ตาม เหล่านี้ เป็นข้อพิสูจน์ ว่า คุณทักษิณฯ ชักชวนให้ คุณสมัครฯเข้ามา อยู่พรรคพลังประชาชน มิใช่เพราะเชื่อว่า คุณสมัครมีความรู้ ความสามมารถ แต่คุณทักษิณฯ มีความเชื่อเรื่องฝีไม้ลายมือในด้าน พูด ด่า ฟัน และชน กับศรัตรูของคุณทักษิณฯ ได้ดีกว่า สมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น และให้คุณสมัครฯ ทำหน้าที่เฝ้าฝูงแกะดูแลฝูงแกะ ที่อีกหน่อย พอเจ้าของคอก เริ่มโปรยเหยื่อให้ แกะที่แตกฝูงก็ จะเข้ามาอยู่รวมฝูงกันใหม่ และคอยสร้างความสับสน เวียนหัว ให้กับฝ่ายตรงข้ามคุณทักษิณฯ คุณทักษิณฯ เชื่อมั่นว่า คุณสมัคร จะสามารถ ทำหน้าที่ คอยกัด และเห่า ศัตรูคู่แค้นของคุณทักษิณฯ และคอยปกป้องคุณทักษิณฯ ที่ไม่สามารถ ออกนอกหน้าในทางการเมือง ในประเทศได้อย่างชะงัดนัก และ คราวนี้แหละคุณทักษิณฯ ก็สามารถ ควบคุมการบริหารประเทศ โดยอยู่เบื้องหลัง ได้ อย่างแน่นอน สหายเอ๋ย ทุกวันนี้ สิ่งที่น่ากลัวสำหรับความขัดแย้ง ของคนในชาติ เรา ก็คือ การยั่วยุ ปลุกปั่นให้คนมีมิจฉาทิฐิ ก่อความแตกแยก ยั่วยุอารมณ์คน ให้เข้าห้ำหั่นหากัน โดยมิได้มี หิริ โอตตัปปะ ขาดซึ่งความเคารพเกรงใจ ละลาบละล้วงล่วงเกิน จะหา ความเกรงใจและเกรงกลัวเป็นไม่มี ไม่มีใครดี อยู่ในสายตาแล้ว คิดว่า ตัวเอง ฉลาด ตัวเองเก่ง ดื้อด้านสุดขั้ว สวนกระแสสังคมแบบมิจฉาทิฐิ กลับคำได้แม้เพียงชั่วข้ามคืน และกอร์ปด้วย มีโมหะจริต โทสะจริต คนแบบนี้ เป็นอันตรายต่อสังคม อย่างยิ่ง เพราะ ไม่ยอมฟังใคร ด้วยเหตุผล ถือเอา ความเชื่อของตนเองแบบสุดขั้วเป็นใหญ่ และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่คนไทยบางคน นิยมชมชอบลีลาการพูดแบบนี้ โดยถือว่าเป็นคนเก่งเป็นวีระบุรุษ เอาลีลาการกล้าพูดกล้าชน กับใครต่อใคร ว่าเป็นคนเก่ง โดยไม่ได้ดู พฤติกรรม และจุดยืน นี่ซิน่ากลัว ช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 คุณสมัคร สนับสนุนเผด็จการทหาร ต่อต้าน ด่าทอนักศึกษา ประชาชน ที่ ลุกขึ้นมาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิเสรีภาพทางการเมืองการปกครอง ขับไล่เผด็จการทหาร อย่างออกนอกหน้า เสร็จแล้ว บ้านเมือง เรา เป็นประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง คุณสมัครฯ สามารถกลืนน้ำลาย ก้าวเข้ามานั่งในสภา ตีฝีปากกลางสภา พ่นน้ำลายใส่ฝ่ายตรงข้าม นักการเมืองใครต่อใครได้ อย่างหน้าตาเฉยทั้งๆที่คุณสมัครไม่ได้มีส่วนช่วยหรือสนับสนุนการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ แต่ตรงข้ามกลับขัดขวางขบวนการ นิสิต นักศึกษา ประชาชน ทั้งประเทศ ชนิดทำตัวเป็นตัวแทนเผด็จการทหาร ตรงข้ามกลับต่อต้านจนได้รับประกาศนียบัตร ขวาตกขอบเสียด้วยซ้ำไป คงจำกันได้ ปัจจุบันนักศึกษา ประชาชน และนักการเมืองบางคนในนั้นก็ได้เข้ามาเป็น สมาชิกสังกัด"พรรคพลังประชาชน" ณ บัดนี้ หลายคนที่เป็นขั้วตรงข้ามก็ดี คนที่เคยเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองกับคุณสมัครฯหลายคน ก็ได้มารวมกันอยู่ที่ เวที "พลังประชาชน " ที่มีคุณสมัครฯ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เต็มตัว แล้ว ก็เห็นทุกคน..ดูจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวดี นี่คืออะไร...ถามว่า ท่านเหล่านั้น มารวมกันด้วย อุดมการณ์ทางการเมืองตรงกัน หรือ? มารวมตัวกันเพราะเป็นพวกเดียวกันมาก่อนหรือ มารวมตัวกันเพราะเคยต่อสู้ ขับไล่เผด็จการมาด้วยกันหรือ ? หรือเพราะมีความรักชาติ รักแผ่นดิน หรือรักประชาชน รักชาติจนตัวสั่น? หรือมารวมกันด้วยเหตุผล อันใด ณ ขณะนี้ ทุกคนตั้งแต่ หัว ยันหาง ดูเสมือนหนึ่งสงบนิ่งรอฟังอาณัติสัญญาณอะไรบางอย่าง จากนอกโลก ซึ่งนักวิชาการ นักการเมืองและนักข่าวกลัวคุณสมัคร ไม่กล้าโต้คารมด้วยเป็นแถว นับว่าคุณสมัคร มีของดี ที่ใครๆต่างก็กลัวปากคุณสมัคร แม้แต่พิธีกรรายการ ที่เชิญคุณสมัคร มาออกรายการ ยังสู้คุณสมัครไม่ได้ พูดไม่ทันปากคุณสมัคร ปล่อยให้คุณสมัคร พูดเพียงฝ่ายเดียว ด้วยลีลาและคารมตามแบบฉบับได้อย่างหน้าตาเฉย ที่สำคัญ เมื่อต่อมาภายหลังแม้คำพูดที่เคยพูดไว้จะผิด แต่โทษทีคุณสมัคร ไม่เคยยอมรับ ว่า ตนได้พูดอย่างนั้น สามารถ เลี่ยงบาลี แบบ ศรีธนญชัยได้อย่างหน้าตาเฉย ท่าน ก็ว่ากันไปไม่เชื่อ ไปเปิด เทป รายการ ตัวจริง ชัดเจน ของช่อง TITV ซี ว่า คุณสมัคร ได้พูด เกี่ยวกับว่าตนเองเป็น โนมินี ตัวจริง ของคุณทักษิณฯ ชัดเจน แต่พอเริ่ม มีการวิพากษ์ ว่า การเป็น โนมินี ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ คนในพรรคพลังประชาชน หลายคน เริ่ม กระสับกระส่าย คำพูด คุณสมัครฯ ตอนนี้ เริ่มเปลี่ยนว่า เจตนาไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น .. ส่วน ปี่ ขลุ่ย ฆ้อง กลอง ข้างคุณทักษิณฯ ต่างก็ ลุกขึ้นมา สนับสนุน กันเป็นพรวน ดูเอาเองซิครับท่าน เรียกว่า ยิ่งกว่า ปลาไหลใส่สเก๊ตเสียอีก "คนโกหกไม่ประพฤติชั่ว เป็นไม่มี" ท่านที่รัก. กิระดังที่ได้ยินมา ว่าคุณสมัครฯ กำลัง สิ้นลมปราณทางการเมืองรอมร่ออยู่แล้ว ด้วย ก่อนหน้านั้น พรรคของตนเองก็ล่มสลาย สมาชิกพรรดประชากรไทย ที่สมาชิกล้มหายตายจากไปเกือบหมด ส่วนสมาชิกพรรคคนสุดท้ายที่เคยจงรักภักดีก็ตีจากไปอยู่ในอ้อมอก รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ กทม.เรียบร้อยแล้ว คุณสมัครฯ เอง ก็เคยประกาศตัวว่าจะวางมือจากการเมืองเนื่องจากหมดน้ำยา และน้ำเลี้ยงทางการเมือง จึงไปเอาดีทาง ชิมไปบ่นไป แต่ คราวมีการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 คุณสมัครฯ ก็ลองสมัคร สว.ด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย บังเอิญสอบได้เนื่องจากยังมี แฟนคลับที่ชื่นชอบลีลาของคุณสมัครฯ ยังให้การสนับสนุนคุณสมัครฯอยู่ คุณสมัครฯ จึงเกิดแรงฮึด ลุกขึ้นมาสำแดงอิทธิฤทธิ์ได้อีกรอบหนึ่ง เหมือนคุณทักษิณฯ สมัยเป็นนายกฯ พอมีกระแสต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น คุณทักษิณฯ ก็ประกาศจะวางมือทางการเมืองแน่นอน พอถูกกระแสเชียร์ จากบริวารที่เกาะท้องเสือทางการเมืองและกลุ่มรักทักษิณฯส่งเสียงสนับสนุน ก็เกิดแรงฮึดชูกำปั้นสำแดงเดชใหม่อีก ดังนั้นจึงไม่สงสัย ว่า นายสมัครฯที่เคยเงียบมานาน หลังจาก ได้รับอาณัติจาก คุณทักษิณฯ ให้เข้ามาทำหน้าที่ สุนัข เฝ้าฝูงเกาะ และ ทำหน้าที่สุนัข ล่าเนื้อ คุณสมัครฯ จึงฟาดหัวฟาดหาง อย่างลิงโลด ที่จะสวมบท ทั้งเห่า ทั้งกัด สุดแรงเฮือกสุดท้ายของชีวิตด้วยความเต็มใจ ทันที อย่างไม่รีรอ และเชื่อไหมว่า ..ถ้า...พรรคพลังประชาชน ไม่ได้เป็น รัฐบาล คอยดู คำพูดและลีลาคุณสมัครฯ ต่อไป ซิ ว่า จะยังคง อ้างตัวเอง เป็น "โนมินี" ของคุณทักษินฯ อีกหรือไม่แล้วดูซิว่า พรรคนี้จะเหลือสมาชิก ที่เคียงข้างคุณทักษิณฯ สักกี่คน คุณสมัครฯ คุณ"วีระฯ" แม้กระทั่ง "คุณเฉลิม" เองมาเกิดทางการเมือง ใต้ร่มธง "ประชาธิปปัตย์" ในยุคที่พรรค "ประชาธิปัตย์"รุ่งเรือง แต่ในที่สุด ก็ออกจากพรรคประชาธิปปัตย์ กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตทางการเมืองกับ "พรรคประชาธิปปัตย์" เพราะอะไร ลองย้อนกลับไปดูไม่ใช่ขัดแย้ง เรื่องนโยบาย หรือขัดแย้งเรื่อง อุดมการณ์เลย ล้วนเป็นเพราะเรื่องของตำแหน่งทางการเมืองทั้งสิ้น ฝูงแกะ และสุนัขเฝ้าฝูง ตอนนี้ ยังเชื่อว่า คุณทักษิณฯ ต้องกล้บมามีอำนาจทางการเมือง จะต้องได้กลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ล้านเปอร์เซ็นต์ ละครเรื่องนี้สนุกแน่ หากใครไม่เชื่อ คอยติดตามดู ตอนต่อไป.อย่าตกใจปู่ฯที่ลูกแกะไม่กลับเข้าคอกของปู่ฯ ปูสมัครฯ หะแรก ลิงโลด ว่าได้ฟื้นคืนชีพทางการเมือง อีกครั้ง หลังจาก เกือบ หมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย ที่ ลูกพรรค หนีออก คอกประชากรไทยให้ร้างโรยรา ล่มสลายทางการเมือง แต่พอ ปู่สมัครฯ ถูกดึงให้เข้ามาคุม คอกใหม่ ทุนหนา ไม่อั้นเรื่องน้ำหล่อเลี้ยง ปู่ แก ก็ประกาศ เสียงกร้าว ว่า ผมเองนั่นแหละ เป็น โนมินี ตัวจริงของคุณทักษิณฯ อย่างออกหน้าออกตา เสียงดังฟังชัด ใครจะทำไม ใครจะว่า งัย มันจะผิดตรงไหน แต่พอ ลูกแกะแตกฝูงที่คิดวาส คงต้องเข้าฝูงเข้าคอกใหม่ แน่นอน แต่กลับไปรวมตัวกันตั้งพรรคใหม่ ที่ประกาศตัวว่า ชาตินี้ ขอ พลีเพื่อ แผ่นดิน เพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ เพื่อประชาชนตาดำๆ จะสร้างพรรคใหม่นี้ด้วยอุดมการณ์อันสูงส่ง จนหมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย เท่านั้นแหละ ปู่สมัครฯ ถึงกับหน้าจ๋อย เสียงอ่อย บ่นพึมพำๆ ในลำคอ ลงทันที ไม่ต้องตกใจหรอก ปู่ฯ มันก็อย่างงี้ แหละ นักการเมืองไทย ปู่เองก็เจอมาเยอะแล้วมิใช่หรือ เหมือนคลื่น เหมือนลม ลมเพ ลมพัด นั่นแหละ แต่ที่แน่ๆ หากพรรคไหน มีแนวโน้มว่าจะได้เป็นรัฐบาล เขาก็ กลืนน้ำลายที่เคยถ่มรดหน้าใครต่อใคร แล้วก็จะไปอยู่ซีกนั้น แต่ถ้าซีกไหน มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่ ลูกพรรคเขาก็จะหนี ออกจากอ้อมอกไป หรือ ถ้าอยู่พรรคซีกรัฐบาล หากไม่ได้ตำโหน่งตำแหน่ง ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต สักพักเขา ก็จะ ออกไปอยู่พรรคอื่น หรือ ไม่ก็ตั้งพรรคใหม่ เหมือนอย่าง ปู่ฯเอง เหมือนอย่าง คุณวีระฯ และ เหมือนอย่างน้องเฉลิม และใครต่อใคร นั่นแหละ ตอนนี้ ใครเขาจะตั้งพรรคตั้งกลุ่มอะไร ประกาศจุดยืนทางการเมือง เป็นทางเลือกที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ที่หก อย่างงัย จะไปจับขั้วอะไรกับใครก็แล้ว แต่ ที่สุดแล้ว พออัดเงินเข้าไป พอเสนอตำแหน่งทางการเมืองให้ และหากได้เป็นฝ่ายรัฐบาล เดี๋ยวพวกนี้ ก็กลับมาเอง มันเป็นสัจธรรมทางการเมืองของเมืองไทย นั่นแหละ ปู่ฯ.**คลิกเข้าสู่เวทีเสวนาการเมืองและสังคม ออกความคิด ความเห็นได้ที่นี่** H O M E
Create Date : 30 สิงหาคม 2550
10 comments
Last Update : 22 กันยายน 2551 18:40:12 น.
Counter : 1046 Pageviews.
โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.122.245 1 กันยายน 2550 9:36:26 น.
โดย: พุ่มสกี้ IP: 58.8.122.245 1 กันยายน 2550 10:34:58 น.
โดย: ดอน กีโต้ IP: 58.8.122.245 1 กันยายน 2550 22:54:35 น.
โดย: jenifaae 3 กันยายน 2550 10:11:02 น.
โดย: White Nights IP: 58.8.119.111 4 กันยายน 2550 12:39:43 น.
โดย: White Nights IP: 58.8.119.111 4 กันยายน 2550 15:02:36 น.
โดย: ดอน กีโต้ IP: 58.8.117.126 7 กันยายน 2550 10:22:36 น.
โดย: White Nights IP: 58.8.115.250 8 กันยายน 2550 9:04:14 น.
โดย: Yoawarat 17 กันยายน 2550 3:19:55 น.
โดย: mankind IP: 125.24.86.42 3 ตุลาคม 2550 12:30:03 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [? ]
Editor บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง"สนามหลวงแก็งค์" kunkorn : Facebook "Sanamluang's Gang" "สนามหลวงแก๊งค์" kunkorn : Facebook เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก ● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ ● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป ด้วยจิตคารวะ www.sanamluang.bloggang.com kunkorn : Facebook ดาวหาง เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้ มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้ ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก" บริการดูดวง "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น กรรม เป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โหรฯ เป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรม ที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้ สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์" อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา" อย่างมี "เหตุผล" หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" เท่านั้น แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.com จัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553) ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2% สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย" อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com -------------------------------------------- ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ -------------------------------------------- ● ปัญหาติดต่อราชการ บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต -------------------------------------------- ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work --------------------------------------------สำนักพิมพ์ดาวหางwww.sanamluang.bloggang.com รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ ราคาย่อมเยา
หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน" เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว..... ..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย... เพื่อใคร..?? ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป>>> อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>
MY VIP Friend
บุคคลิกและเป้าหมายของคุณหมัก-ไม่เคยเปลี่ยน
เน้นรับใช้เผด็จการทหาร ผสมพันธุ์กับทุนสามานย์
คุมอำนาจรัฐใช้ระบบอุปถัมภ์แสวงหาผลประโยชน์
ล้าหลังครอบงำพลเมืองในสังคมเคยเป็นแบบไหน
ก็ยังเป็นแบบนั้นตลอดไปไม่เคยมีวิวัฒนาการดีขึ้น
ประชาชน มาถึงทางเลือกในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของชาติ*
ระหว่างประชาธิปไตยแบบใช้ทุนสามานย์ข้ามชาติ
ของกลุ่มชนชั้นอภิมหาเศรษฐีทุนนิยมมาผสมพันธุ์
เผด็จการทหารบางกลุ่ม มาร์เฟียร์มีสีผลประโยชน์
แบ่งแยกช่องว่างระหว่างชนชั้นเห็นเงินเป็นพระเจ้า
ละโมบเห็นแก่ตัวสูง ทำลายทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
บริโภคนิยมโลกธุรกิจแก่งแย่งแข่งขันที่เอาเปรียบ
โฆษณาทำประชานิยม-หลอกรากหญ้าจนอ่อนแอ
กับประชาธิปไตยแบบเน้นสังคมนิยม-รัฐสวัสดิการ
ความเสมอภาคเท่าเทียมกันเช่นพื้นฐานการศึกษา
การรักษาพยาบาล ดำเนินชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง
มีความรู้ความคิดก้าวหน้า รู้จักรากเหง้าตนเองและ
รู้คุณค่าของธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ผืนป่า-แหล่งน้ำ
มองโลกความจริงอย่างยั่งยืน ต่อต้านความรุนแรง
ยึดหลักความเจริญเป็นองค์รวม-ภายในสู่ภายนอก
ระหว่างความเห็นแก่ตัวกับการมีจิตสำนึกสาธารณะ
อย่างแรกนำไปสู่ความหายนะ อย่างหลังเน้นยั่งยืน