|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
20 เมษายน 2550
|
|
|
|
สองจีน
สองจีน
โดย โชติช่วง นาดอน 13 พฤษภาคม 2546 13:56 น.
สมัยก่อนเราเรียกไต้หวันว่า จีนชาติ หรือ จีนคณะชาติเรียกจีนแผ่นดินใหญ่ว่า จีนแดง รัฐบาลไทยมีสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนคณะชาติ โดยไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแดง ในยุคสงครามเย็น การแยกค่ายมันชัดเจน และก็เกิดสงครามอุดมการณ์ขึ้นทั่วโลก การต่อสู้กันในเวทีองค์กรสหประชาชาติก็ดุเดือดเหมือนกัน โลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนะครับ ในที่สุด จีนแดงก็ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จีนคณะชาติต้องลุกออกไป ทั้งนี้ เป็นไปตามญัตติที่นายรีส มาลิลรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของอัลบาเนียเสนอให้สหประชาชาติรับจีนแดงเข้าเป็นสมาชิก ขับไต้หวันออกไป สหประชาชาติลงมติเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2514 มีชาติที่สนับสนุนญัตติของอัลบาเนียถึง 76 ประเทศ ไม่เห็นด้วย 35 ประเทศ และไม่ออกเสียง 17 ประเทศ ตัวแทนประเทศไทยเราไม่ออกเสียงครับ พอมติชนะ ตัวแทนประเทศไทยฝ่ายซ้ายก็ไชโยโห่ร้องกันใหญ่ นายรีล มาลิล ลุกขึ้นพูดว่า "การตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา" เท่านั้นเองครับ นายจอร์จ บุช ผู้แทนของสหรัฐ ก็ดึงหูฟังออก เขวี้ยงใส่หน้านายมารีส มาลิล...ก็นายจอร์จ บุช สิงห์คาวบอยผู้พ่อ ผู้บุกอิรักเมื่อ 12 ปีก่อนนั่นแหละครับ สงสัยโมโหร้ายจนลืมมารยาทกันทั้งบ้าน! สหรัฐแพ้มติครั้งนั้นเสียหน้าไปเยอะ แม้ว่าจะมีการเจรจากันแล้วระหว่างเอ็นรี่ คิสซิงเจอร์กับโจวเอินไหล ปูทางไว้สำหรับประธานาธิบดีนิกสันจะไปเยือนจีนแดง ถึงแม้ว่า นายจอร์จ บุช(ผู้ต่อมาได้เป็นประธานาธิบดี) จะอาละวาดน่าดูในองค์การสหประชาชาติ แต่ประธานาธิบดีนิกสันก็เดินทางไปถึงปักกิ่งจนได้ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2515 แล้วไทยก็เดินตามรอยสหรัฐไปปักกิ่งบ้าง จนกระทั่งได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นผลสำเร็จ ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ความสัมพันธ์ไทย - จีน พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนจากศัตรูร้ายกลายเป็น เพื่อนรักมิตรแท้ไปแล้ว ส่วนทางไต้หวันก็ไม่ลดละความพยายาม ยังคงพยายามต่อสู้รักษาสถานภาพในองค์กรสากลต่อมาตราบถึงขณะนี้ รัฐบาลไทยเรารับรองหลักการ จีนเดียว แต่จริงๆ แล้วก็คบหาสนิททั้งสองจีนนั่นแหละครับ ปัญหาที่กระทบถึงสังคมชาวจีนอพยพและผู้มีเชื้อสายจีนในไทย คือจะลำบากใจเมื่อถูกบังคับให้ต้องเลือกข้าง แม้จะยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ แต่มันก็มีเรื่องอื่นๆ ที่คล้ายๆกับว่า เป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขัน เช่นเรื่องการเรียนการสอนภาษจีนนั่นแหละ ไต้หวันนั้น ใช้ตัวอักษรเก่า มีขีดเยอะๆ แบบในหนังสือพิมพ์จีนที่พิมพ์ในไทย และมีระบบสัญลักษณ์แทนเสียงที่เป็นของจีนเอง (คือถ้าเห็นสัญลักษณ์นี้แล้ว จะรู้ว่าคำๆนั้นออกเสียงอย่างไร) ส่วนแผ่นดินใหญ่ สมัยก่อนเขาเห็นว่าตัวอักษรจีนเก่ามันเขียนยาก จึงปฏิรูปลดจำนวนเส้นที่ต้องขีดไป และใช้ระบบสัญลักษณ์การออกเสียง(เรียกว่าพินอิน) เป็นตัวอักษรโรมัน ซึ่งเรียนง่าย แต่ต้องยอมรับระบบของเขาเสียก่อน เช่นตัวB ในระบบพินอินนั้น ออกเสียง ป.ปลา ถ้ายังคิดเป็นภาษาอังกฤษว่ามันต้องออกเสียงว่า บ.ใบไม้สิ มันก็ยุ่ง โรงเรียนภาษาจีนทุกวันนี้ที่เปิดๆกันน่ะ สอนระบบอะไร โดยทั่วไปคงจะสอนทั้งสองระบบ คือบอกให้รู้ แล้วจะเลือกใช้ตามถนัดอย่างไรก็คงแล้วแต่ว่าผู้เรียนจะไปเรียนต่อหรือไปทำงานที่ไต้หวัน หรือแผ่นดินใหญ่ แต่ดูความนิยมแล้ว ในมหาวิทยาลัยของเรายังใช้อักษรแบบเก่า(ฝานถี่จื้อ) แต่สอนออกเสียงระบบพินอิน คือ กลายเป็นลูกผสม ซึ่งผมก็เห็นว่ามันก็ดี ไม่ต้องเอาชนะคะคานกันจน คบหากันไม่ได้ เรื่องระบบการสอนภาษานี่เป็นสงครามสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ที่สองจีนเขาสู้กันอยู่ ส่วนเรื่องระบบถ่ายเสียงจีนเป็นอักษรไทยนั้น คงจะเป็นสงครามภายในของคนไทย ระบบที่ราชบัณฑิตยสถานกำหนดออกมา ผมก็ยังไม่ได้อ่านจริงจังสักที การถ่ายเสียงจีนของผม จึงเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวของผมครับ.
ที่มา: //www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=4639357888102
Create Date : 20 เมษายน 2550 |
Last Update : 20 เมษายน 2550 14:46:19 น. |
|
2 comments
|
Counter : 414 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: แขก IP: 58.8.134.233 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:22:19:26 น. |
|
|
|
โดย: Qingqing IP: 58.8.74.91 วันที่: 26 เมษายน 2550 เวลา:15:53:31 น. |
|
|
|
| |
|
|
roundfinger2547 |
|
|
|
|
พยายามทุกทางให้นานาชาติยอมรับความเป็นประเทศ
ให้ทุนอุดหนุนประเทศยากจนหลายประเทศเพื่อผูกมิตร
แต่พอจีนแดงที่ทุนหนากว่า ตามตลบหลัง
ประเทศเหล่านั้นก็หันไปซบอกจีนแดง
แต่อีกความรู้สึกก็ไม่อยากให้ไต้หวันคิดแยกประเทศ
ไม่อยากให้มีสงคราม
เดี๋ยวลุงแซมจะตามมาเพ่นพ่านแถวนี้อีก (จอมถือโอกาส)
ผมว่า จีนเองก็คงไม่คิดทำสงคราม เจ็บตัวเปล่าๆ
แค่วางก้ามขู่ไต้หวัน กับเขตปกครองตนเองหรือมณฑลห่างไกลมากกว่า
(นึกถึงธิเบตก็เศร้าอีกแล้ว เฮ้อ!...)
คิดถึงเรื่องสองจีนทีไร ความรู้สึกแยกออกเป็นสองพวกทู้กที
ขอให้สองจีน สามจีน สี่จีน อยู่กันอย่างสงบสุขก็แล้วกันครับ