He says, she says >>> เจ้าหญิง เจ้าชาย <<<
จากกระทู้ He says, she says >>>>> เจ้าหญิง เจ้าชาย <<<< //www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9067121/W9067121.html
She says: เจ้าหญิงกับเจ้าชายเจอกันในวันแห่งการเริ่มต้นชีวิตนอกกะลาครอบใบเล็กๆ เจ้าชายนั่งห่างแบบเยื้องๆ กันคนละแถวกับเจ้าหญิง เจ้าหญิงเห็นเขาก่อน แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งคู่ก็ได้เห็นหน้ากัน เมื่อเจ้าชายมานั่งข้างเจ้าหญิง...นั่นล่ะ จุดกำเนิดของความว่างเปล่า พวกเขาเกือบกลายเป็นเงาของกันและกัน ... แค่เกือบ... เพราะในความจริง เจ้าชายเป็นร่มให้คนอื่น และเจ้าหญิง... ก็อยู่ในร่มเงาของใครอีกคน แต่พวกเขาก็พบกันบ่อย สนิทสนม คุยกันเสียงดัง แข่งงัดกันข้อท่ามกลางเสียงเชียร์
เมื่อ 4 ปีผ่านพ้นไป เงาของเพื่อนๆ หายไปทีละคน ทีละคน และสุดท้าย... เหลือเพียงเจ้าหญิงเจ้าชายยืนจ้องหน้ากัน แต่รีรออยู่ได้แค่ครู่เดียว พวกเขาก็เหมือนใครๆ ย่ำอยู่ที่จุดกำเนิดไม่ได้ จึงต้องแยกอยู่บนละแกนชีวิตที่ตั้งฉากกัน ก็เจ้าชายขึ้นเหนือไปไกลลิบลิ่ว... แต่เจ้าหญิงกลับมุ่งไปทางทิศตะวันตก ไม่ได้เลวร้ายเสียทั้งหมด มุมที่ทำให้เส้นตรงตั้งฉาก ยังไม่ยากที่จะลากเส้นมากำหนดพิกัดพบเจอได้ 4 ปี เคยมากพอที่จะให้รู้จักกัน กลับไม่มีอะไรคืบหน้า แต่เสียงโทรศัพท์ไม่กี่ครั้งทำให้พวกเขาได้นั่งยิ้มทั้งวัน เสียงหัวเราะเจ้าชายเริงร่าขึ้นกว่าเมื่อก่อน เจ้าหญิงก็มีเรื่องเล่าเจ้าชายได้ทุกวัน ดวงดาวสวยเด่นบนฟ้า อาทิตย์ให้ความอบอุ่น หยดน้ำค้างให้พลังแห่งชีวิต ได้พาเจ้าหญิงเจ้าชายกลับมาพบกันอีกที่จุดกำเนิด ในอีก 2 ปี ต่อมา นิ้วกลางมือซ้ายเจ้าชายเกี่ยวนิ้วนางมือขวาเจ้าหญิง พากันเดินไปทั่วพิพิธภัณฑ์เกือบทุกแห่ง ในกรุงเทพฯ เพราะมันเงียบเกินไป หรือทั้งคู่คุยกันมากพอแล้วทางโทรศัพท์ เจ้าหญิงกับเจ้าชายจึงเลือกที่จะสบตากันแค่บางครั้ง แล้วก็หุบปากสนิท เมื่อถึงค่ำคืน เสียงเพลงสนั่นตามวัยนั่นก็ดังมากไป กลบทุกอย่างไม่ต่างจากความเงียบ
เพราะอยู่บนจุดกำเนิด เสียงหัวใจเต้นแรงแค่ไหน มันก็ไม่พ้นความว่างเปล่า ทั้งคู่จึงลาจากแต่ละวันด้วยรถเมล์กลับบ้านพักคนละสาย ในวันถัดมา ดูเจ้าชายจะรวบรวมความกล้าได้มากกว่าเจ้าหญิง เขาบอกว่า ถึงเวลาที่เราทั้งคู่ควรอยู่มาอยู่ร่วมแกนเดียวเสียที อย่ามัวตั้งฉากใส่กันอีก เจ้าหญิงพยักหน้าเห็นตามทุกอย่างแน่นอน ฉันก็คิดอย่างนั้น เจ้าชายโอบกอดเจ้าหญิง พร่ำคำกระซิบขำขันว่า ทำไมเราถึงไม่เคยกอดกันเลย ถึงตอนนั้นจุดกำเนิดถูกทำลายไป มันไม่แค่ความว่างเปล่าแล้ว กลิ่นดอกรักโชยหอมน่าหลงใหล...แต่มันแค่ 45 นาที ก่อนรถของคนแต่ละคนจะมาถึง เจ้าชายไม่ได้ยืนมองรถเจ้าหญิงหายไปจนเหลียวหลังอย่างที่ควรจะเป็น เพื่อให้ใจหายเท่าๆ กัน ทั้งคู่ผละนิ้วที่เคยเกี่ยวออก แล้วหันหลังให้กันเดินขึ้นรถของตัวเอง เจ้าหญิงขึ้นรถไปเมืองเหนือ เจ้าชายนั่งรถไปทางใต้... คนละทิศ...
นั่นเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย ไม่มีใครผิดคำพูด!!! เจ้าหญิงและเจ้าชายได้อยู่บนแกนเดียวกันอย่างแท้จริง แต่คงเพราะเติบโตเกินไป เสียงโทรศัพท์ก็ไม่สามารถช่วยสร้างพิกัดใดๆ ให้ทั้งคู่ได้เจอกันอีกแล้ว อาจเพราะเชื่อมั่นว่า การได้ยืนอยู่บนเส้นตรงเดียวกัน คือทุกอย่างของหัวใจ ทั้งคู่จึงชาเฉย และไม่เคยรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาด
จนกว่าวันหนึ่งที่จดหมายพร่ำเพ้อสารภาพถึงความผิดพลาดจากเมืองเหนือกองสูงถึงเอว และโปสการ์ดจากเมืองใต้สูงหนาพอๆ กัน ความจริงก็พอหาจุดพบกันได้ ถ้าทั้งโปสการ์ดและจดหมายได้ส่งออกไปตามที่ได้จ่าหน้าจริงๆ เสียบ้าง
สักฉบับก็ยังดี แต่ไม่เลย... ต่างฝ่ายเอาแต่เขียนๆ และทิ้งมันลงในกล่องสีทึมๆ ข้างโต๊ะทำงาน เหลือบดูบ้างบางครั้ง กว่าใครจะรับรู้ความผิดพลาด ก็วันที่รู้ซึ้งว่าโปสการ์ดและจดหมายพวกนั้นรวมกันเมื่อไหร่ กองกระดาษหนาๆ นั่น มันได้สูงเอ่อท่วมท้นหัวใจเลยทีเดียว จนกระทั่งหัวใจพวกเขารับมันไม่ไหว และต้องหลั่งออกมาเป็นน้ำตา เพื่อลดล้างความเศร้า
Create Date : 01 เมษายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2553 8:51:54 น. |
Counter : 398 Pageviews. |
|
|
|