Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
กลัว"เยี่ยวจะแตก"


ถ้าพูดถึงผีในความหมายของแต่ละคนคงจะมีความคิดต่อผีแตกต่างกันไปตามแต่จินตนาการของแต่ละคนจะพาไป และถ้ารวมไปถึงความกลัวด้วยก็คงจะแยกแยะได้อีกเยอะเลยว่ากลัวอะไร กลัวตรงไหน กลัวแบบไหน ทำไมถึงกลัว

แต่สำหรับตัวผมแล้วผมเป็นคนไม่เชื่อว่าผีมีจริงซึ่งผีในความหมายของผมนั้นคือวิญาญของคนที่ตายไปแล้วซึ่งก็เหมือนกับที่แต่ละคนคิดน่ะแหละ แล้วถ้าโยงกลับไปถึงความที่ผมไม่เชื่อว่าผีมีจริงก็จะได้ความว่า ผมไม่เชื่อหรอกว่าเมื่อคนตายไปแล้วจะกลายเป็นวิญาญ สิ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นความจริงก็คือ เมื่อมนุษย์ตายแล้วทุกอย่างก็จบ ไม่เห็นอะไรอีกต่อไป ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความทรงจำใดๆเหลืออยู่อีก ไม่รู้ตัวซะด้วยซ้ำว่าเคยมีชีวิต ทุกอย่างสูญเปล่า เหมือนกับการดึงปลั๊กทีวีน่ะจบแค่นั้น..

แต่จะว่าก็ว่าเถอะไม่รู้ทำไม ผมว่าไอ้ความเชื่อกับความกลัวนั้นมันคนละเรื่องกัน...

ผมกำลังจะบอกว่าถึงแม้ว่าผมจะไม่เชื่อเรื่องผีหรือชีวิตหลังความตายหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ามาถามผมว่ากลัวผีไหม? ผมตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่ากลัวมาก

อย่าเพิ่งสับสนไปนะครับ แล้วก็อย่าหาว่าผมบ้าด้วยเพราะผมว่าไอ้เรื่องความรู้สึกคนนี่มันยากที่จะหยั่งถึงจริงๆ

แม้ว่าผมจะฟันธงว่า ผีไม่มีจริง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อทางศาสนาบางศาสนา ความเชื่อชาวบ้าน ความเชื่อของคนส่วนใหญ่ และที่สำคัญคือ สื่อ สิ่งเหล่านี้มันสวนทางกับความคิดผมอยู่ตลอดเวลาและที่สำคัญมันยังช่วยสร้างจินตนาการในส่วนลึกภายในจิตใต้สมองของผมให้ไอ้เรื่อง ผี, วิญาญ ถูกฝังลงไปเรื่อยๆสะสมเข้าไปในส่วนลึกของสมองซ่อนไว้ภายใต้รอยหยัก(ซึ่งไม่ค่อยเยอะเท่าไร) แล้วนอนสงบนิ่งอยู่ในนั้นไม่ไปไหน กลายเป็นความกลัวที่อยู่ข้างในลึกๆซึ่งพร้อมที่จะระเบิดออกมาทุกเมื่อ ทุกคราว เมื่อถึงเวลาถูกกระตุ้น นี้คงเป็นสาเหตุที่ผมกลัวล่ะมั้ง

ก่อนหน้านี้เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาผมยังไม่ค่อยจะรู้ตัวหรอกว่าผมจะกลัวผีได้ขนาดนี้ ความชัดเจนของความกลัวผีมันชัดขึ้นเรื่อยๆตามประสบการ์ณที่เพิ่มขึ้น...ดังเรื่องต่อไปนี้

ไม่ใช่เรื่องผีหรอกนะ แต่เป็นเรื่องความกลัวของผมเอง


เมื่อประมาณ ตอนที่หนังเรื่อง The Sixth Sense
เข้ามาฉายบ้านเราหมาดๆ ผมก็ไม่พลาดตามภาษาคนชอบดูหนัง ผมยอมรับเลยครับว่าขณะดูอยู่งี้...เรียกกันหยาบๆเลยว่า “เยี่ยวจะแตก” ขี้หดตดหายเลย และผมมักจะเป็นโรคจิตอย่างนึงคือเวลาที่อยู่ในภาวะสะพรึงกลัวมากๆผมจะรู้สึกว่าเหมือนน้ำตามันจะเอ่อทะลักคลอๆอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าหนังมันสนุกดี (สนุก + ดี) จริงๆแล้วในขณะดูอยู่เนี่ยผมพบว่ามันเป็นความกลัวแบบว่ามันผสมความสนุกสนานที่จะได้ท้าทายกับมันถึงจะกลัวแต่สมองก็ไม่มีเวลาใส่ใจกับความกลัวมากนัก ยังต้องใช้ไปกับการคิดตามเนื่อเรื่องให้ทัน แล้วไหนจะต้องอ่านซับไตเติลอีก ที่ผมอยากจะบอกว่า สิ่งที่ทำให้ผมกลัวมากที่สุดเลยมันกลับเป็นตอนที่หนังจบแล้ว...

เมื่อนั้นแหละหัวสมองผมมันจะถูกกระตุ้นจินตนาการแห่งความน่ากลัวที่ฝังอยู่ออกมา แบบทะลักออกมาเลย แล้วมันก็วนเวียนวิงเวียนไปมาอยู่เรื่อยๆไม่ไปไหนซะที จนกระทั้ง ความมืด มาเยือน...จากจินตนาการความคิดที่วิงเวียนอยู่ก็ได้ฤกษ์ แปรสภาพเป็นภาพผุดขึ้นตามที่ต่างๆรอบตัวผม ผมรู้แม้กระทั้งว่าบางตัวมันแอบดูผมอยู่ พูดง่ายๆก็คือหลอนน่ะแหล่ะ....




The Sixth Sense (1999)


ผมจำได้ว่าคืนนั้นหลังจากดู The Sixth Sense จบผมกลับมาบ้านเข้าห้องนอนทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ผมไม่กล้าที่จะออกจากห้องนอนไปเผชิญระยะทางอันมืดมิดระหว่ามห้องนอนไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเท่านี้ยังไม่พอ ที่ผมสงสารตัวเองก็คือแม้แต่ภาวะก่อนหลับซึ่งก็ต้องหลับตาให้สนิทเห็นแต่ความมืดเท่านั้น สมองผมมันดันไม่อยากจะหลับไปกับผม มันยังคงทำการผลิตภาพหลอนออกมาหลอกผมเรื่อยๆจนผมนอนไม่ได้เลย ผมจำไม่ได้ว่าวันนั้นได้หลับไปจริงๆกี่ชั่วโมง รู้แต่ว่ามันทำให้ผมไปโรงเรียนสาย

อาการแบบนี้มันไม่ได้เป็นแค่วันเดียวนะครับขอบอก มันล่อเข้าไปเกือบสัปดาห์ทุกๆคืน แล้วมันก็ค่อยๆบรรเทาลงเรื่อยๆเหมือนกับอาการป่วยน่ะครับ แล้วมันก็เลือนรางลงไปฝังตัวอยู่ที่เดิมเพื่อรอคอยการกระตุ้นครั้งต่อไป

หลังจากนั้นผมมักไปคุยกับเพื่อนๆที่ได้ดูหนังเรื่องนี้

“ไม่เห็นจะน่ากลัวเลยว่ะ”

“น่ากลัวตรงไหนวะ”

นี่เป็นคำตอบที่ผมได้รับซะเป็นส่วนใหญ่...เท่านั้นแหละทำให้ผมเริ่มที่จะรู้ตัวว่า ผมกลัวผีมากกว่าคนปกติ และเมื่อเวลาผ่านไปไอ้เรื่องผีต่างๆหนังผีต่างๆที่มีมาให้เสพอยู่เป็นระยะหรือเป็นกระแสนั้น ก็เริ่มที่จะอยู่ในความสนใจของผมน้อยลงไปทุกทีๆ จนกระทั้งผมไม่รับเรื่องพวกนี้เลย เมื่อผมมีสิทธิ์ที่จะไม่เลือกผมก็ไม่เลือกที่จะรับมันอีกต่อไป ดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว

จะว่าไปผมก็ยังนับว่ามีความโชคดีอยู่บ้างตรงที่ ถึงแม้ว่าผมจะกลัวผีจนสุดขั้ว แต่ตลอดชีวิตที่ผมอยู่บนโลกนี้มา ผมยังไม่เคยเจอของจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว และนี่คงเป็นสาเหตุละมั้งที่ผมยังคงยืนยันได้ว่า ผีไม่มีจริง

ส่วนสิ่งที่ชอบหลอกหลอนผมให้กลัวจริงๆแล้วนั่นก็คือ “ความมืดแห่งรัตติกาล” และ “จินตนาการของผมเอง” นั่นเอง







Create Date : 13 กรกฎาคม 2548
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2548 14:22:45 น. 1 comments
Counter : 892 Pageviews.

 


โดย: 5553 IP: 203.154.49.2 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:19:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kimprite
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Everyone should have a reason to believe.So I still believe that LIGHTNING could STRIKES TWICE for me Yeah Yeah Yeah !!

LIGHTNING STRIKES TWICE
Saint Etienne
Friends' blogs
[Add kimprite's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.