|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กลัว"เยี่ยวจะแตก"
ถ้าพูดถึงผีในความหมายของแต่ละคนคงจะมีความคิดต่อผีแตกต่างกันไปตามแต่จินตนาการของแต่ละคนจะพาไป และถ้ารวมไปถึงความกลัวด้วยก็คงจะแยกแยะได้อีกเยอะเลยว่ากลัวอะไร กลัวตรงไหน กลัวแบบไหน ทำไมถึงกลัว
แต่สำหรับตัวผมแล้วผมเป็นคนไม่เชื่อว่าผีมีจริงซึ่งผีในความหมายของผมนั้นคือวิญาญของคนที่ตายไปแล้วซึ่งก็เหมือนกับที่แต่ละคนคิดน่ะแหละ แล้วถ้าโยงกลับไปถึงความที่ผมไม่เชื่อว่าผีมีจริงก็จะได้ความว่า ผมไม่เชื่อหรอกว่าเมื่อคนตายไปแล้วจะกลายเป็นวิญาญ สิ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นความจริงก็คือ เมื่อมนุษย์ตายแล้วทุกอย่างก็จบ ไม่เห็นอะไรอีกต่อไป ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความทรงจำใดๆเหลืออยู่อีก ไม่รู้ตัวซะด้วยซ้ำว่าเคยมีชีวิต ทุกอย่างสูญเปล่า เหมือนกับการดึงปลั๊กทีวีน่ะจบแค่นั้น..
แต่จะว่าก็ว่าเถอะไม่รู้ทำไม ผมว่าไอ้ความเชื่อกับความกลัวนั้นมันคนละเรื่องกัน...
ผมกำลังจะบอกว่าถึงแม้ว่าผมจะไม่เชื่อเรื่องผีหรือชีวิตหลังความตายหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ามาถามผมว่ากลัวผีไหม? ผมตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่ากลัวมาก
อย่าเพิ่งสับสนไปนะครับ แล้วก็อย่าหาว่าผมบ้าด้วยเพราะผมว่าไอ้เรื่องความรู้สึกคนนี่มันยากที่จะหยั่งถึงจริงๆ
แม้ว่าผมจะฟันธงว่า ผีไม่มีจริง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อทางศาสนาบางศาสนา ความเชื่อชาวบ้าน ความเชื่อของคนส่วนใหญ่ และที่สำคัญคือ สื่อ สิ่งเหล่านี้มันสวนทางกับความคิดผมอยู่ตลอดเวลาและที่สำคัญมันยังช่วยสร้างจินตนาการในส่วนลึกภายในจิตใต้สมองของผมให้ไอ้เรื่อง ผี, วิญาญ ถูกฝังลงไปเรื่อยๆสะสมเข้าไปในส่วนลึกของสมองซ่อนไว้ภายใต้รอยหยัก(ซึ่งไม่ค่อยเยอะเท่าไร) แล้วนอนสงบนิ่งอยู่ในนั้นไม่ไปไหน กลายเป็นความกลัวที่อยู่ข้างในลึกๆซึ่งพร้อมที่จะระเบิดออกมาทุกเมื่อ ทุกคราว เมื่อถึงเวลาถูกกระตุ้น นี้คงเป็นสาเหตุที่ผมกลัวล่ะมั้ง
ก่อนหน้านี้เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาผมยังไม่ค่อยจะรู้ตัวหรอกว่าผมจะกลัวผีได้ขนาดนี้ ความชัดเจนของความกลัวผีมันชัดขึ้นเรื่อยๆตามประสบการ์ณที่เพิ่มขึ้น...ดังเรื่องต่อไปนี้
ไม่ใช่เรื่องผีหรอกนะ แต่เป็นเรื่องความกลัวของผมเอง
เมื่อประมาณ ตอนที่หนังเรื่อง The Sixth Sense เข้ามาฉายบ้านเราหมาดๆ ผมก็ไม่พลาดตามภาษาคนชอบดูหนัง ผมยอมรับเลยครับว่าขณะดูอยู่งี้...เรียกกันหยาบๆเลยว่า เยี่ยวจะแตก ขี้หดตดหายเลย และผมมักจะเป็นโรคจิตอย่างนึงคือเวลาที่อยู่ในภาวะสะพรึงกลัวมากๆผมจะรู้สึกว่าเหมือนน้ำตามันจะเอ่อทะลักคลอๆอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าหนังมันสนุกดี (สนุก + ดี) จริงๆแล้วในขณะดูอยู่เนี่ยผมพบว่ามันเป็นความกลัวแบบว่ามันผสมความสนุกสนานที่จะได้ท้าทายกับมันถึงจะกลัวแต่สมองก็ไม่มีเวลาใส่ใจกับความกลัวมากนัก ยังต้องใช้ไปกับการคิดตามเนื่อเรื่องให้ทัน แล้วไหนจะต้องอ่านซับไตเติลอีก ที่ผมอยากจะบอกว่า สิ่งที่ทำให้ผมกลัวมากที่สุดเลยมันกลับเป็นตอนที่หนังจบแล้ว...
เมื่อนั้นแหละหัวสมองผมมันจะถูกกระตุ้นจินตนาการแห่งความน่ากลัวที่ฝังอยู่ออกมา แบบทะลักออกมาเลย แล้วมันก็วนเวียนวิงเวียนไปมาอยู่เรื่อยๆไม่ไปไหนซะที จนกระทั้ง ความมืด มาเยือน...จากจินตนาการความคิดที่วิงเวียนอยู่ก็ได้ฤกษ์ แปรสภาพเป็นภาพผุดขึ้นตามที่ต่างๆรอบตัวผม ผมรู้แม้กระทั้งว่าบางตัวมันแอบดูผมอยู่ พูดง่ายๆก็คือหลอนน่ะแหล่ะ....
The Sixth Sense (1999)
ผมจำได้ว่าคืนนั้นหลังจากดู The Sixth Sense จบผมกลับมาบ้านเข้าห้องนอนทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ผมไม่กล้าที่จะออกจากห้องนอนไปเผชิญระยะทางอันมืดมิดระหว่ามห้องนอนไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเท่านี้ยังไม่พอ ที่ผมสงสารตัวเองก็คือแม้แต่ภาวะก่อนหลับซึ่งก็ต้องหลับตาให้สนิทเห็นแต่ความมืดเท่านั้น สมองผมมันดันไม่อยากจะหลับไปกับผม มันยังคงทำการผลิตภาพหลอนออกมาหลอกผมเรื่อยๆจนผมนอนไม่ได้เลย ผมจำไม่ได้ว่าวันนั้นได้หลับไปจริงๆกี่ชั่วโมง รู้แต่ว่ามันทำให้ผมไปโรงเรียนสาย
อาการแบบนี้มันไม่ได้เป็นแค่วันเดียวนะครับขอบอก มันล่อเข้าไปเกือบสัปดาห์ทุกๆคืน แล้วมันก็ค่อยๆบรรเทาลงเรื่อยๆเหมือนกับอาการป่วยน่ะครับ แล้วมันก็เลือนรางลงไปฝังตัวอยู่ที่เดิมเพื่อรอคอยการกระตุ้นครั้งต่อไป
หลังจากนั้นผมมักไปคุยกับเพื่อนๆที่ได้ดูหนังเรื่องนี้
ไม่เห็นจะน่ากลัวเลยว่ะ
น่ากลัวตรงไหนวะ
นี่เป็นคำตอบที่ผมได้รับซะเป็นส่วนใหญ่...เท่านั้นแหละทำให้ผมเริ่มที่จะรู้ตัวว่า ผมกลัวผีมากกว่าคนปกติ และเมื่อเวลาผ่านไปไอ้เรื่องผีต่างๆหนังผีต่างๆที่มีมาให้เสพอยู่เป็นระยะหรือเป็นกระแสนั้น ก็เริ่มที่จะอยู่ในความสนใจของผมน้อยลงไปทุกทีๆ จนกระทั้งผมไม่รับเรื่องพวกนี้เลย เมื่อผมมีสิทธิ์ที่จะไม่เลือกผมก็ไม่เลือกที่จะรับมันอีกต่อไป ดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว
จะว่าไปผมก็ยังนับว่ามีความโชคดีอยู่บ้างตรงที่ ถึงแม้ว่าผมจะกลัวผีจนสุดขั้ว แต่ตลอดชีวิตที่ผมอยู่บนโลกนี้มา ผมยังไม่เคยเจอของจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว และนี่คงเป็นสาเหตุละมั้งที่ผมยังคงยืนยันได้ว่า ผีไม่มีจริง
ส่วนสิ่งที่ชอบหลอกหลอนผมให้กลัวจริงๆแล้วนั่นก็คือ ความมืดแห่งรัตติกาล และ จินตนาการของผมเอง นั่นเอง
Create Date : 13 กรกฎาคม 2548 |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2548 14:22:45 น. |
|
1 comments
|
Counter : 892 Pageviews. |
|
|
|
โดย: 5553 IP: 203.154.49.2 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:19:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สมุทรปราการ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Everyone should have a reason to believe.So I still believe that LIGHTNING could STRIKES TWICE for me Yeah Yeah Yeah !!
LIGHTNING STRIKES TWICE Saint Etienne
|
|
|
|
|
|
|