ถั่วต้มหลบฝน
4 ส.ค.2548 พฤหัส
" ฟืด....ฟืด..." นี่คือเสียงหายใจของผม...ผมเป็นหวัด
เช้าวันนี้อากาศดีไม่มีทีท่าว่าฝนจะตก ไม่น่าจะต้องเตรียมร่มออกจากบ้าน ขี้เกียจถือ เพราะว่าวันนี้ต้องถือฟิล์มจำนวนหนึ่งไปล้างก็เลยไม่อยากจะพ่วงภาระถือของเพิ่ม...ลำพังขึ้นรถเมล์คนเยอะเบียดเสียดยังกะปลากระป๋อง ก็จะแย่อยู่แล้ว ยังดีบ้านอยู่ต้นสายได้นั่ง
ยังไงซะฝนมันคงไม่ตกหรอก ผมตัดสินใจไม่ถือร่มไป
ฟิล์มที่อยู่ในมือตอนนี้มันบังคับให้ต้องเสียเวลาเดินทางไกลขึ้นเพื่อเอามันไปล้าง ที่อยากรีบไปแต่เช้าก็เพราะว่าตอนเย็นหลังเลิกงานจะได้ไปรับรูปพอดีก่อนกลับบ้าน ว่าแล้วผมก็ตัดสินใจนั่งรถเมล์ต่อไปยังร้านล้างรูปแล้วเมื่อนั้นแหละผมก็เริ่มที่จะได้กลิ่นฝน
8.17 น. ติดต่อเรื่องรูปเสร็จเรียบร้อย ออกมาจากร้านก็เห็นท่าจะไม่ดีแล้ว ท้องฟ้าเริ่มตั่งเค้าร้องว่า อีกเดี๋ยวกูตกแน่ๆ เสร็จกันล่ะซิกู...แต่ผมก็ยังคงเดินหน้าขึ้นรถเมล์ต่อไปโดยหวังว่าจุดหมายที่ผมต้องไปมันจะสั้นกว่าระยะเวลาที่ฟ้ามันจะเริ่มร้องไห้ และแล้ว...
มันก็ตกลงมาจนได้ระหว่างที่ผมนั่งอยู่บนรถเมล์
มันเริ่มตกแบบเบาๆก่อนให้ผมมีความหวังเล่นๆว่า พอถึงจุดหมายแล้วคงพอวิ่งฝ่าฝนที่ยังตกไม่หนักมากไปสู่ตึกที่ทำงานได้โดยไม่เปียกจนเกินไป แต่อะไรๆมันก็ไม่เป็นอย่างที่คิดหรอก...
8.25 น.ลงรถเมล์ปุ๊บกำลังวางแผนปนคาดคะเนอยู่ว่าจะวิ่งโดยใช่เส้นทางไหนจึงจะเปียกน้อยที่สุด ว่าแล้วขณะกำลังวางแผนมันก็ตกลงมาราวกับถุงยางคลุมฟ้าแตก ดับความหวังว่าจะวิ่งฝ่าไปได้เลยเพราะยังไงก็เปียกมากแน่นอนแล้วประเด็นคือผมไม่อยากเปียก ผมเป็นหวัด " แม่งเอ้ย !!! ทำไมกูไม่เอาร่มมาวะ...."
ย้อนกลับไปเมื่อวาน
ฝนตกหนักแต่เช้าเลยตอนออกจากบ้านผมก็เลยเตรียมร่มไปได้ใช่แน่ๆวันนี้ แต่ไอ้การได้ใช้ร่มของวันนี้มันเป็นการใช้แค่ระยะทางจากจุดยืนคอยป้ายรถเมล์ไปจนถึงประตูทางขึ้นรถเมล์
3 เมตร คือ ระยะทางที่เดินกางร่มเพื่อกันฝน
10 วินาที หรือน้อยกว่านั้น คือ ระยะเวลาที่ได้กางร่มเพื่อกันฝน
แค่นี้จริงๆ...เพราะกว่าจะลงรถเมล์อีกทีฝนก็หยุดแล้ว อีกครั้งที่ต้องเดินก็คือหลังเลิกงาน ซึ่งได้แต่เดินถือร่มแต่ไม่ได้กางโดยไม่คิดกลัวว่าฝนจะตก มึงตกลงมาซิ 555 กูมีร่มกูไม่กลัวหรอก...แต่มันก็ไม่ยักจะตกซะที
มาวันนี้ต้องใช้ร่มจริงๆจัง ผมกลับไม่ได้เอาร่มคู่ใจมา ก็เลยต้องมายืนหลบฝนอยู่บริเวณปากอุโมงค์ข้ามถนน คนที่มีร่มก็โชคดีไปเดินต่อได้ คนไม่มีร่มอย่างผมก็ต้องรอลูกเดียว ผมรอหวังว่าจะให้มันเบาลงแล้วจึงวิ่งไปสู่ตึกทำงาน แต่ซ้ำร้ายมันไม่ยักจะเบาลงอย่างที่คิดแฮะ แทนที่มันจะตกลงมาตรงๆมันกลับมีลูกเล่นตกเฉียงไปเฉียงมาทำให้ที่ทียืนอยู่ไม่สามารถกันฝนได้อีก ก็มันไม่มีที่กั้นด้านข้างนี่นา ฝนมันเล่นสาดเข้าข้างๆ ทำให้ต้องย้ายที่หลบฝนลงไปหลบในอุโมงค์...
แล้วผมก็เห็นบางอย่าง...ผมเห็นคนขายถั่วต้ม...ลุงแกท่าทางมาหลบอยู่ในนี้ก่อนผมไม่นาน เป็นแบบมีไม้เสียบตรงกลางแล้วหาบ 2 ข้าง ข้างหนึ่งหาบกล้วยปิ้ง มันเผา ส่งกลิ่นหอมกลบกลิ่นน้ำฝนได้หมดเลย อีกข้างหนึ่งเป็นถั่วต้ม....... " มีอะไรทำแล้วกู " ผมคิด
" เอาถั่วต้ม 10 บาทครับลุง " ผมพูดกับลุงคนขาย
" เออ...ของถุงเปล่าใบนึงด้วยครับ " ผมจะเอาไว้ใส่เปลือก
ยืนกินไปซักพักนึง มองคนผ่านไปผ่านมา ซักพักก็มีเพื่อนร่วมอุดมการ เป็นนักศึกษาชายไม่มีร่มเหมือนผมและก็ซื้อถั่วมากินเพื่อรอฝนหยุดเหมือนผมเลย คนอื่นก็ผ่านไปผ่านมาฝนมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คนมีร่มก็ไปได้คนไม่มีร่มก็ต้องมายืนคอยเหมือนผมน่ะแหละ ผมก็มองๆชายผู้นั้นซึ่งกำลังกินถั่วอยู่ ผมมองไปที่ถุงถั่วซึ่งก็มี 2 ใบเหมือนผม และนั่นแหละมันทำให้ผมคิดออกแล้วว่าจะไปต่อได้ยังไง...
เอาถุงถั่วครอบหัวแม่งซะเลยแล้วก็ลุยเลย ถ้ากลัวว่าถุงถั่วมันจะเลอะถั่วก็ไปขอลุงเค้ามาอีกใบ...แต่นี้ผมแค่คิดจะทำเฉยๆยังไม่ได้ทำ ตอนนี้สิ่งที่ทำอยู่คือ กินถั่ว และก็ กินถั่ว ขอกินมันให้หมดเลยล่ะกันไหนๆก็ไหนๆแล้ว คิดดูดิว่าตลอดทั่งชีวิตนึงจะหาโอกาสได้กินถั่วคนเดียวจนหมดถุงได้ที่ไหนนอกจากที่นี่เท่านั้น 555 นึกแล้วขำตัวเอง ชายผู้นั้นจะคิดเหมือนผมไหมนะ?ผมสงสัย แต่ที่แน่ๆเลยคือผมไม่มีทางยอมให้ถั่วของชายผู้นั้นหมดก่อนผมแน่นอนท่าทางแกจะกินเร็วซะด้วย เพราะไอ้ผมน่ะเรื่องกินถั่วเร็วไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว...
เคยสังเกตกันบ้างไหมครับว่าถั่วต้มก้นถุงมักจะเป็นถั่วเม็ดเล็กเสมอๆ ผมสังเกตุมาหลายครั้งแล้วก็เพราะเหตุผลง่ายๆเลยคือผมมักจะเลือกเม็ดใหญ่ๆกินก่อนทำให้เหลือแต่เม็ดเล็กๆหรือเม็ดที่ไม่ค่อยสวยไว้ก้นถุง
8.56 น.ผมใช้เวลากินถั่วจนหมดถุงและยืนคอยประมาณ 20 นาที หมดก่อนชายผู้นั้น...
ว่าแล้วก็ถึงเวลาลุยซะทีมีถุงไว้ครอบหัวแล้ว...ปรากฎว่าขึ้นมาจากอุโมงค์เห็นโลกภายนอกฝนก็หยุดซะแล้ว " กินถั่วจนลืมเลยกู " จนแล้วจนรอดมีถุงเปล่าเตรียมไว้ก็ไม่ได้ใช่ฝนมันดันหยุดก่อน แต่พอไม่มีร่มจะใช้ฝนดันตก เมื่อวานมีร่มก็ได้ใช้แค่นิดเดียว " แล้วมึงจะเอายังไงวะเนี่ย..."
แล้วพรุ่งนี้ผมจะเตรียมร่มมาดีไหมเนี่ย...
Create Date : 04 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 4 สิงหาคม 2548 11:27:38 น. |
|
1 comments
|
Counter : 764 Pageviews. |
|
|