' จตุคำ ' รุ่นพระพยอมสร้าง ' รวยโคตร ' อิ่มอร่อยไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ "พระพยอมปั๊มคุกกี้“ ฉุกคิด 4 คำ "รวยโคตร!” สอนธรรมะ รับประกันว่าไม่ใช่แค่กินได้ แต่มีอิทธิฤทธิ์ คือ “อิ่มอร่อย...ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ” พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จัดแถลงข่าวตรงกับเวลาฉันเพลในวันศุกร์ที่ 15 มิ.ย. ที่วัดสวนแก้ว ฉันโชว์คุกกี้ “จตุคำ" รุ่น "ฉุกคิด 4 คำ รวยโคตร!” โดยเชิญผู้สื่อข่าวมารับแจกคุกกี้ติดยี่ห้อ “จตุคำ” ซึ่งบรรจุอยู่ในกระป๋อง และมีฉลากติดไว้อย่างสวยงามเหมือนขนมขายในห้างสรรพสินค้าหรู และภายในกระป๋องเป็นถุงพลาสติกมีแถบรัดลายเซ็นชื่อ พระพยอม กัลยาโณ และสติกเกอร์รูปพระพยอมชวนชิมอิ่มบุญ “หากินกับพระ” โดยบรรจุคุกกี้ที่ทำออกมาดูเผินๆ คล้ายเหรียญจตุคามฯ พิมพ์คำว่า “จตุคำ” เด่นชัดไว้บนคุกกี้แผ่นกลมใหญ่ 4 ชิ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชนชั้นกลาง หรือระดับปัญญาชนขึ้นไป พระพยอม กล่าวว่า ได้พยายามพร่ำสอนเตือนให้คนไทยได้ฉุกคิด โดยการเทศน์ การเขียน มาตั้งแต่แรกเริ่มที่เกิดกระแสจตุคามรามเทพฟีเวอร์ หวังให้คนไทยโดยเฉพาะชาวพุทธที่กำลังหลงทิศนำเอา “จตุคามฯ” มาแทนที่ “จตุราอริยสัจ” หรือ “อริยสัจ 4” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ อันเป็นหัวใจแท้ๆ ของชาวพุทธที่สอนให้รู้ว่า ทุกข์เกิดได้อย่างไร 4 ประการ คือ การมีอยู่ของทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และหนทางไปสู่ความดับทุกข์ ซึ่งชาวพุทธมักจะบอกว่ารู้แล้ว แต่ยังหลงไปบูชาอย่างอื่น นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย “เวลานี้มีหลวงปู่หลวงพ่อของไทย ท่านกำลังทำสมาธิโดยไม่เกิดฌาณทัสนะ คือ ปัญญาอันรู้แจ้ง กลับหวังแต่จะปลุกเสกให้วัตถุของขลังมีพลังมีฤทธิ์มีเดชมีอำนาจ ทำให้คนร่ำรวยเป็นเศรษฐี จากสารพัดมวลสาร อาตมาไม่รู้ว่าจะไปตอบชาวพุทธทั่วโลกเขาว่าอย่างไร จนมีคนบอกว่า พระไทยชอบเสก พระเวียดนามชอบสอน เห็นจะจริง ดูอย่างท่านติช นัท ฮันห์ ที่ท่านมาเมืองไทยเมื่อคราวก่อน มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งแขก จีน ไทย ฝรั่ง แห่ไปฟังคำที่ท่านสั่งสอน สิ่งหนึ่งซึ่งท่านไม่สนใจเลยคือ การปลุกเสกจตุคามรามเทพ เครื่องรางของขลัง ขณะที่พระไทยยังนั่งปลุกเสกกันอยู่ พระไทยน่าละอายต่อพระเวียดนามหรือไม่" พระพยอม กล่าว "จริงๆ แล้ว มวลสารที่ทำให้คนเรามีความสุข กระปรี้กระเปร่า คือ เอนโดรฟิน ซึ่งร่างกายจะหลั่งออกมาเองจากความปีติปราโมช เช่น เมื่อขณะนอนหลับสนิท หรือเป็นสุขอันเกิดจากหยาดเหงื่อ ไม่ว่าออกกำลังกาย หรือทำงานจนเหงื่อไหล ไม่ใช่มาจากเศษดิน หิน ปูน ทราย หรือมวลสารอะไรทั้งสิ้น” พระพยอม กล่าว พระพยอม กล่าวถึงการพร่ำสอนที่ผ่านมาว่า คงไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไร เพราะสื่อมวลชนก็มีส่วนร่วมไปโฆษณาชวนเชื่อด้วย ทำพิธีปลุกเสกที่ไหนก็มีข่าวตามมาทันทีว่า เกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อย่างโน้นอย่างนี้ หรือไม่ก็ลงโฆษณาชวนเชื่อกันเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็เป็นประธานกดปั๊มพิมพ์เสียเอง ก็ยิ่งกู่ไม่กลับ ชนชั้นปัญญาชนกลับไม่รู้จักใช้ปัญญา หน่วยงานของรัฐอย่าง สคบ.ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ออกมาคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ควรจะทำ หรือว่ากำลังคิดจะจัดสร้างเองกับเขาด้วย อย่างนี้ก็คงลำบาก “อาตมาเห็นมีดารา นักร้อง นักแสดง พิธีกรมากหน้าหลายตาไปร่วมงานปลุกเสกจตุคามฯ แล้วตั้งหลายรุ่น ถามหน่อยมีดาราคนไหนพร้อมมาเป็นอาสาสมัคร ช่วยแนะนำ “จตุคำ" รุ่นฉุกคิด 4 คำ รวยโคตร! ที่อาตมาจัดสร้างนี้บ้างไหม จะขออนุโมทนาไว้ล่วงหน้า” พระพยอม กล่าวว่า พระพยอมยังระบุว่า คุกกี้ของวัดมีอิทธิฤทธิ์คือ “อิ่มอร่อย...ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ” ซึ่งนี่คือการสอนอีกวิธีหนึ่งที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อสอนให้คนไทยได้ฉุกคิด และไม่ยึดติด หลงใหลในวัตถุอย่างไร้สติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ซึ่งเป็นช่วงฉันเพล พระพยอมได้ฉันคุกกี้ และเชิญชวนผู้สื่อข่าวให้ชิมคุกกี้ “จตุคำ” พร้อมทั้งแจกจ่ายจตุคำกระป๋องให้ผู้สื่อข่าวติดมือกลับสำนักพิมพ์กันอย่างถ้วนหน้า โดย "จตุคำ" หรือ คำ 4 คำ คือ “อุ อา กะ สะ-ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้" ได้นำมาปั๊มไว้ด้านหลังคุกกี้ “จตุคำ” เพื่อเตือนสติให้ฉุกคิดกันว่า คนเรานั้นรวยได้ทุกคน รวยได้ทั้งโคตร จากความขยันหมั่นเพียร รักษาทรัพย์ ไม่คบคนผลาญทำลายทรัพย์ และไม่ใช้จ่ายเกินตัวนั่นเอง แต่ถ้ารวยแบบจตุคามฯ รุ่น "รวยได้โดยไม่มีเหตุผล" ทำให้คนเราอยู่นิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ถ้าห้อยแล้วจะรวยอย่างไม่มีเหตุผล ให้ขอซื้อสักโหล จะเอาไปห้อยที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน้ากระทรวงต่างๆ จะได้ช่วยให้รวยกันทั้งประเทศ ไม่ต้องมาห้อยกันทีละคนให้คอเคล็ดขัดยอก ทั้งนี้ "4 คำล้ำค่า คาถาเศรษฐี" ที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนและมีปราชญ์สรุปไว้เป็นคำย่อว่า “อุ อา กะ สะ” นั้น "อุ" มาจากคำว่า "อุฏฐานสัมปทา" คือ พร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร ในการประกอบสัมมาอาชีพ หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันหา "อา" มาจากคำว่า อารักขสัมปทา คือ การเก็บรักษาทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบธรรม หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันเก็บ "กะ" มาจากคำว่า "กัลยาณมิตตา" คือ การคบหาสมาคมกับคนดีมีคุณธรรม มีน้ำใจ และเป็นเพื่อนที่ไม่พาไปผลาญทรัพย์ หรือจำง่ายๆ ว่า เลือกคบ "สะ" มาจากคำว่า สมชีวิตา คือ การใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ฟุ่มเฟือย หรือจำง่ายๆ ว่า เลือกใช้ จตุคำ “อุ อา กะ สะ” คือ ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้ ขอบคุณที่มา : คมชัดลึก ------------------------------------------------------------------- เพลง สุดท้ายก็คือนิพพาน ศิลปิน อพาร์ตเม้นคุณป้า บางคราว ฤดูหนาวก็คงจะคล้ายกับจิตใจของเรา ที่พวกเค้ามักมองข้ามไป เมื่อวานนี้ กวีคนนั้นยอมตายเพื่อปัจจุบันของตน และพระเจ้าที่ไม่มีตัวตน คำตอบ ความไม่มั่นคง คือ ร่างเปลือย กับเงาของพระพุทธองค์ และจักรวาลที่มันเล็กลง ถ้าหากฉันคือกวี คือโสเภณี คือผู้ทำลาย สุดท้ายก็คือนิพพาน บางเวลาทรวดทรงบนฟ้าก็คือศิลปะในการทำลาย และสวรรค์มันก็คือความตาย หลับตาดู เราคงจะรู้ว่าการเกิดยังคงมีอยู่จริง ในเมื่อกระสุนยังไม่เคยหยุดยิง คำตอบ คงไม่สำคัญ ในเมื่อศาสดาก็ยังสับสนเช่นกัน ฤดูกาลที่เป็นนิรันด์ สุดท้ายก็คือ สุดท้ายก็คือ สุดท้ายก็คือนิพพาน   Create Date : 16 มิถุนายน 2550 40 comments Last Update : 16 มิถุนายน 2550 12:55:54 น. Counter : 641 Pageviews. Share Tweet

สาธุ..สาธุ.... เห็นด้วยอย่างยิ่ง จะดีไม่น้อยถ้าบูชาไปห้อยไว้ที่หน้ากระทรวงการคลัง   โดย: พลทหารหน้าตาย IP: 203.151.42.226 16 มิถุนายน 2550 12:32:49 น.

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ถ้าทำให้รวยได้จริง ควรสร้างองค์ใหญ่ๆ เท่าอนุเสาวรีย์ แล้วคล้องบนยอดตึกที่ทำการกระทรวงเลยค่า   โดย: ดอกซากุระบานแค่เจ็ดวัน 16 มิถุนายน 2550 13:21:26 น.

ผมว่าครีเอตพอๆกับ จตุคามรุ่นโอรีโอ...มีกูไว้ไม่หิว   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 16 มิถุนายน 2550 13:55:02 น.

"รวยเหรอ?" เราก้อมีน่ะองค์จตุคามรามเทพนี่ แต่ไม่ใช่รุ่น ที่มีคำว่า"โคตร.." หรือ "รวย..."หรอกนะ อยากรวยอยากมีเงินก็หาจิ ไปขอเหรียญกันทำไม หากไม่ใฝ่หาทรัพย์แล้วทรัพย์จะเกิดเหรอ? .ขยันทำมาหากิน รับรองไม่อับจนหรอก... องค์จตุคามรามเทพนะน่ะ มีท่านไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เคารพ นับถือ จิ ... คนเราน่ะหากไม่รู้จักทำมาหากินน่ะ ใครจะช่วยได้ล่ะ? มีรูปเคารพท่านแล้วนับถือไปในทางที่ผิดกัน นี่หรือชาวพุทธ ชาวพุทธที่แท้จริงเค้าต้องรู้จักไตร่ตรองในความเป็นจริงกัน ไม่ใช่หลงเชื่ออะไรตะพึดตะพือ การนับถือท่านในทางที่ผิด ไม่รู้จักแยกแยะดี ชั่ว นานแหละจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้องค์จตุคามรามเทพเสื่อมเสีย และสุดท้ายคือเสื่อมศรัทธา และอีกอย่างเราเห็นเองเลยนะว่า การปลุกเสกองคจตุคามรามเทพที่ทำแบบมืดฟ้ามัวดิน ทำรุ่นต่อรุ่นไม่จบเนี่ย ทำให้พระสงฆ์ที่ถูกนิมนต์ไปสวดต้องอาพาตไปหลายรูปแล้ว อยากให้เหล่าชาวพุทธหยุดหลงผิดได้แล้วน่ะ เหล่านายทุนที่มาสร้างองค์จตุคามฯน่ะ จริงๆแล้วมันมีอยู่สองพวกนะ 1.คือพวกที่นับถือ สรัทธาจริงๆ ศรัทธาอย่างถูกต้อง 2. คือเหล่านายทุนที่ถือเอาตรงนี้เป็น จุดที่จะกอบโกยเพื่อผลประโยชน์ใส่ตัว นายทุนหลายแหล่งที่เข้ามาจัดสร้างองค์จตุคามฯแล้วไปขอชื่อวัดมาใช้จัดสร้างน่ะ บางรายจัดสร้างเสร็จก็หมดกัน ไอ้ที่บอกว่าจะทำนูนน่ให้วัดน่ะ มันโกหกทั้งเพ เพราะสุดดท้ายเจ้าอาวาสต้องมานอนก่ายหน้าผาก เพราะวัดไม่ได้อะไรเลย แต่ใช้วัดในการหากิน นายทุนบางรายได้ค่าจอง องค์จตุคามฯเป็น 10-20 ล้านแต่ให้วัดแค่นิดเดียว แค่เศษๆอ่ะ ขอถามพวกนายทุนนิดเหอะ ไม่ละอายใจกันบ้างเหรอที่ใช้วัดในการกิน **ขอโทษเจ้าของกระทู้ค่ะที่ร่ายยาวเลย อ่านข้อความพวกนี้แล้วเกิดอาการวีนพวกที่หลงผิดจริงๆๆๆๆ ไม่ได้คิดจะก่อกวนเจ้าของบล๊อกนะจ๊ะ   โดย: กรวี 16 มิถุนายน 2550 14:14:28 น.

ถะ..ถะ..ถะ..ถูกต้องแล้วครับ กำลังคิดว่า ต่อไปคงมี จตุคลำ...คลำอะไรมั่งหว่า..อิ..อิ..   โดย: ตาเรน IP: 61.7.139.180 16 มิถุนายน 2550 14:25:43 น.

สวัสดียามบ่ายค่ะ เข้ามาอ่านสาระดีๆและอยากบอกว่านี่แหละ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้กราบไหว้วัตถุด้วยความงมงาย ไม่ได้สอนให้กราบไหว้เพื่อให้ร่ำรวย เคยได้ฟังพระมหาวุฒิชัย วชิระเมธีเทศนาไว้ ท่านกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่คนไทยหันไปคลั่งไคล้ กราบไหว้องค์จตุคามรามเทพ มีตอนหนึ่งท่านพูดไว้น่าสนใจและเตือนสติได้ดีมาก ท่านบอกว่าพระพุทธเจ้าคือพระที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว เพราะท่านได้บำเพ็ยเพียรจนบรรลุธรรม แต่สำหรับองค์ท้าวจตุคามท่านเพิ่งอยู่ในขั้นเทพที่กำลังปฏิบัติธรรมเพื่อให้บรรลุเป็นพระอรหันต์เหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเหตุใดเราถึงจะกราบไหว้บูชาท่านให้เหนือกว่าพระพุทธองค์เล่า สำหรับเราเองถ้าจะเป็นเทพอย่าองค์ท้าวจตุคาม เราก็สามารถทำได้ เพียงแค่เรารู้จักละอายชั่ว รู้จักกลัวบาป แค่นี้เราก็สามารถเป็นเทพได้เหมือนท่านแล้ว" ................... สำหรับตัวเองเชื่ออยู่สิ่งเดียวค่ะ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อยากรวยจ้องขยัน ต้องรูจักอดออม ................... ขอบคุณสิ่งดีๆที่เอามาฝากค่ะ   โดย: ฝากเธอ 16 มิถุนายน 2550 15:35:24 น.

เห็นด้วยกับหลวงพ่อ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" สมเหตุผลที่สุด   โดย: I.Brother 16 มิถุนายน 2550 20:59:47 น.

อิ อิ แล้วอย่าลืมเปลี่ยน BG นะคะ เราอยากรู้ว่าออกมาดูดีป่าว ถ้าสวยจะได้เอามาฝากอีก   โดย: จิ๋ว (เดี๋ยวขอนึกก่อนนะ ) 16 มิถุนายน 2550 21:18:28 น.

คนสะมสจตุคามแวะมาอ่าน ที่สะสมจตุคามเพราะชอบในพุทธศิลป์ ความสวยงามของเหรียญ kitty มีจตุคามรุ่นที่ชอบและคิดว่าดีค่ะสวมแล้วมีโอกาสหาเงินทองโดยสุจริตเพิ่มขึ้น แต่ ...ขอบอกว่าคนจะรวยต้องขยันทำมาหากินอย่าหวังนอนรอให้โชคช่วยอันนั้นยากมากที่จะประสบความสำเร็จ ^--^ จตุคำ...ยังไม่ได้ลองกินเลย ข่าวว่าขายดีมากๆ ต้องรอให้กระแสนิยมจางก่อน ดูโทรทัศน์ต้องสั่งจองล่วงหน้าสองอาทิตย์น่ะ คนคิดช่างมีอารมณ์ขันจริงๆค่ะ   โดย: justkitty (justkitty ) 16 มิถุนายน 2550 22:09:12 น.

เมื่อกลางวันดูคุณสรยุทธเล่นไปหลายเลย จตุหลายๆคำ อิ อิ ไม่รู้ว่าจะมีคน "ฉุกคิด" ได้ตามชื่อรุ่นสักเท่าไหร่หนอ....   โดย: ST.Exsodus 16 มิถุนายน 2550 23:58:12 น.

จำแลงไปนั่งบนฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เป็นสาวญี่ปุ่นอีกต่างหาก   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 17 มิถุนายน 2550 17:50:48 น.

ถ้าผมเป็นดาราจะอาสาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ฟรี ๆ เลย   โดย: 9A 18 มิถุนายน 2550 7:22:17 น.

คนเช่าจตุคามส่วนมาก เพราะมันขึ้นราคา ก็แค่นั้น   โดย: จตุคำ IP: 203.172.197.178 18 มิถุนายน 2550 11:08:49 น.

คิดถึงจัง ได้เข้ามาแล้วดูBlog นี้ สดชื่น ทุกที   โดย: นกแห้ว 18 มิถุนายน 2550 12:46:40 น.

ขอบคุณครับ สำหรับคำชม หลายคนบอกว่าน่ากลัวนะ   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 18 มิถุนายน 2550 18:54:42 น.

โดย: At IP: 58.9.58.124 18 มิถุนายน 2550 19:50:13 น.

อยากให้พระพยอมออกมาเตือนในรูปแบบอย่างนี้มากๆคะ เราต้องยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านะคะ   โดย: ชมพู่ IP: 125.27.12.86 18 มิถุนายน 2550 20:04:37 น.

คำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่นี่ สร้างปัญหาให้กับสังคมไทยมาแล้วหลายเรื่องครับ   โดย: ฟ้าดิน 19 มิถุนายน 2550 0:49:49 น.

แวะมาอ่านครับ   โดย: สอระ (สอระ ) 19 มิถุนายน 2550 8:28:39 น.

สวัสดีค่ะ ทราบมาจากข่าวบ้างแล้วค่ะ " ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้ " สั้น ๆ ได้ใจความดีค่ะ หนังสือกำลังเดินทางไปนะคะ ขอโทษที่ส่งต่อให้ช้าค่ะ ป่วยอยู่หลายวัน เขียนบันทึกได้บทหนึ่งก็งีบไปหลายงีบ แล้วก็เพิ่งฝากน้องไปส่งให้ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ   โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 19 มิถุนายน 2550 9:28:27 น.

เกือบได้มุดดินแล้วครับ แผ่นดินไหวแรงมากเลย ใจหายหมดเลย   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 19 มิถุนายน 2550 12:27:41 น.

ในเมื่อเทวดาเป็นปุถุชน การที่มนุษย์ไปเฝ้าประจบยกยอบนบานต่างๆ ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะประสบผลเสีย เทวดาทั้งหลายก็พลอยเสียไปด้วย เพราะจะเกิดความหลงใหลมัวเมา ในคำยกย่องสรรเสริญ ติดในลาภสักการะคือสิ่งเซ่นสรวงสังเวย และปรารถนาจะได้ให้มากยิ่งขึ้น โดยนัยนี้ทั้งเทวดาและมนุษย์ ต่างก็มัวเมาฝักใฝ่วุ่นวายอยู่กับการบนบานและการให้ผลตามบนบาน ละทิ้งกิจหน้าที่ของตน หรือไม่ก็ปล่อยปละละเลย ให้บกพร่องย่อหย่อน เป็นผู้ตกอยู่ในความประมาท แล้วทั้งมนุษย์และเทวดาก็พากันเสื่อมไปด้วยกัน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)   โดย: กายแก้ว 19 มิถุนายน 2550 12:52:03 น.

สวัสดีครับ ขอบคุณที่ไปอวยพรครับ... ไปอ่าน just 2 cam ที่บ้านสิครับ ขอให้มีความสุขเช่นกันนะครับ   โดย: เซียน_กีตาร์ 19 มิถุนายน 2550 15:06:46 น.

คุณนกครับ หนังสือจากน้องใบไม้ร่วงจะไปถึงคุณ จากคุณนกก็ไปที่คุณ catt.&.cattleya ใช่มั้ยครับ.... ตอนนี้มีเพื่อนใหม่มาขออ่านต่อจากคุณ catt.&.cattleya งั้นเดี๋ยวผมบอกเค้าให้นะครับ ขอบคุณมาก   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 19 มิถุนายน 2550 17:25:49 น.

สงสัยเน็ตที่เชียงใหม่ยังตื่นตระหนกอยู่ครับ 555 ไม่เสียหายหนัก แต่รู้สึกว่าไหวแรงมากครับ ปีนี้ไหวบ่อยมาก จนชักสงสัยแล้วสิ ว่าท่านธรรมชาติ กำลังส่งสารอะไรมาถึงพวกเราอยู่ ขอให้เป็นข่าวดีก็แล้วกัน   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 19 มิถุนายน 2550 17:52:58 น.

พระพยอม ทำอะไรออกมาให้ทึ่งอยู่เสมอ เป็นพระที่ทันสมัยตลอด และช่างคิดมาก ๆ นับถือท่านมากค่ะ   โดย: โสดในซอย 19 มิถุนายน 2550 18:51:36 น.

ลึกซึ้งๆ   โดย: เฮ้อ IP: 125.24.0.107 20 มิถุนายน 2550 6:15:23 น.

ช่วงนี้ผมชอบอ่านงานของท่าน ว . วชิรเมธีนะครับ แล้วก็นั่งดูพระมหาสมปอง จากวีซีดี ก็ขำดี ท่าน ว. ให้แนวคิดที่นิ่ง มีสติ มีปัญญา ส่วนท่านสมปอง ให้ความขำและการฉุกคิดด้วยความสนุกสนาน ดีคนละแบบ   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 20 มิถุนายน 2550 19:09:08 น.

แวะมาอ่านจ้า นอนหลับฝันดีเน้อ   โดย: gripenator 20 มิถุนายน 2550 22:41:49 น.

เมื่อวันก่อนอ่านข่าวพระเอกดังไปทำพิธีกดแบบพิมพ์ ... เดี๋ยวนี้เหมือนเป็นวัตถุนิยมไปแล้วอ่ะนะ เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ค่ะ สะท้อนภาพสังคมตอนนี้ที่บ้านเมืองแทบจะร้อนเป็นไฟ แม้แต่ศาสนาก็จะแบ่งแยก คนไทยขาดที่พึ่งทางใจจริง ๆ อ้าว...มัวแต่บ่น จะมาอรุณสวัสดิ์ค่ะ ...   โดย: เดี๋ยวขอนึกก่อนนะ 21 มิถุนายน 2550 7:53:00 น.

ผมอ่านจากตำราสมัยก่อน เค้าเรียกว่าโบตั๋น หรือ ผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน แต่ที่เมืองจีนดอกโบตั๋นจะคล้ายดอกเบญจมาสมากกว่า ปัจจุบันนี้บางคนเรียกว่าต้นแก้วมังกร แต่ต้นที่ผมปลูกอยู่จะไม่มีผลแบบแก้วมังกรครับ ออกดอกเสร็จคืนเดียวก็เหี่ยวเลย แถมบานตอนกลางคืนอีก ต้องรอจังหวะดีดี ไม่งั้นก็อดดูครับ   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 21 มิถุนายน 2550 10:57:00 น.

แวะมาทักทายตอนใกล้ค่ำค่ะ วันนี้จขบ.เป็นไงบ้างคะ มีความสุขดีหรือเปล่า คืนนี้ นอนหลับฝันดีนะคะ   โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 21 มิถุนายน 2550 18:47:19 น.

ยินดีค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ ฝันดีค่ะ   โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 21 มิถุนายน 2550 22:08:46 น.

อืม ฮิตกันจริง ๆๆๆๆๆๆๆ   โดย: ความเจ็บปวด 22 มิถุนายน 2550 17:36:31 น.

เราว่าเป็นความคิดที่ดีนะนิ เมื่อวันนี้มาถึงนึกเยือนหา เรารู้สึกระลึกนึกถึงมิตร.. ขอมอบใจและอายอุ่น ทำให้สุขเสมอเมื่อเยือนหา ในพระนี้..ที่สงบสู่ใจ...คุณ..มิตรแสนดี มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นงูเห่า บัณฑิตคือผู้มีปัญญา มีภูมิธรรม มีเมตตาจิตรู้ให้อภัยศัตรู คือบัณฑิตมีจิตใจสูง ทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตร คนประเภทดังงูเห่า คือคนไม่มีคุณธรรม กตัญญูตากตเวทิตา..คนประเภทนี้ควรถอยห่าง ของท่านพระพุทธทาสภิกขุ..ค่ะ อนุโมทนาค่ะ   โดย: catt.&.cattleya.. 22 มิถุนายน 2550 21:01:01 น.

เข้ามานั่งอ่านคอมเม้นท์ในนี้ก็เพลินนะครับ หลากหลาย...แต่ค่อนข้างไปทาง "ไม่เชื่อ" ผมคิดว่าไม่เกิน 6 เดือนคงซาไปเยอะครับ แต่จตุคำไม่แน่ ถ้ารสชาติดี   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 23 มิถุนายน 2550 7:20:58 น.

นั่นสิน่ะ ช่วงนี้ อินเทรนเหลือเกินค่ะ เลยไม่รู้ว่า หากินกันกับวัตถุมงคลกันหรือเปล่า สวัสดีค่ะ วันนี้เจนนี่พอมีเวลา เลยแวะมาทักทายค่ะ อย่าลืมแวะไปชมรูปใหม่ๆที่บล็อคเจนนี่อีกน่ะคะ อัพเดทเรียบร้อยแล้วจ๊ะ ไว้ว่างๆเจนนี่จะแวะมาทักทายอีกน่ะคะ สำหรับวันนี้ขอให้เป็นวันดีดีของคุณจ๊ะ   โดย: สาวอิตาลี 23 มิถุนายน 2550 13:21:35 น.

ผู้ฟุ้งซ่าน...ฟังทางนี้ iceicy แวะมาเยี่ยมค่ะ นำหลักธรรมมาฝากค่ะ   โดย: IceIcy (lcelcy ) 5 กรกฎาคม 2550 15:33:04 น.

.........จตุคำจะซื้อในจัง หวัดน่านได้ที่ไหน   โดย: ......................... IP: 125.25.218.189 26 กรกฎาคม 2550 9:17:46 น.

^^"   โดย: printcess of the moon 1 สิงหาคม 2550 0:32:20 น.