วันนี้จะขอเล่าเรื่องการเดินทางไปจ.อุบลราชธานีให้จบนะคะ จะได้ขึ้นเรื่องใหม่กันซะที ^^

การเดินทางวันแรก
การเดินทางวันที่สอง

เช้าวันที่3ของการเดินทาง ซึ่งจะเป็นวันเดินทางกลับ ไกด์ปลุกเราตอนหกโมงเช้าเช่นเดิม อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกันตอนประมาณ8โมง(ถ้าจำไม่ผิด) เพื่อมุ่งหน้าไปยังวัดภูเขาแก้ว ตั้งอยู่ที่อ.พิบูลมังสาหาร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ พระอุโบสถ ที่ประดับด้วยกระเบื้องทั้งหลัง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ ความงามของอุโบสถ ได้ถูกถ่ายทอดจากฝีมือของช่างพื้นบ้าน โดยการออกแบบของเจ้าอาวาส ซึ่งสถาปัตยกรรม หรือลวดลายที่ใช้ตกแต่ง ส่วนใหญ่จะถูกถ่ายทอดมาจากลวดลายของปราสาทขอมค่ะ







ก่อนจะออกจากวัดภูเขาแก้ว ก็มีคำคมดีๆ นี้มาฝากค่ะ



ออกจากวัภูเขาแก้ว เราก็ไปต่อกันที่วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ เป็นวัดที่ก่อตั้งโดยหลวงปู่ชา ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นที่เคารพ กราบไหว้บูชาของชาวบ้าน วัดหนองป่าพงเป็นต้นแบบของวัดป่ากว่า 100 แห่งในประเทศไทย และอีกหลายแห่งในยุโรป ออสเตรเลีย มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ ประกอบด้วย โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถระกูฏิพยาบาลหลวงพ่อชา กุฎิพระ กุฎิแม่ชี กุฎิหลวงพ่อชา







และก่อนออกจากวัด ก็มีคำคมดีๆ มาฝากอีกเช่นกันค่ะ



ออกจากวัดหนองป่าพง เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่อ.เมืองอุบลราชธานี ไปวัดทุ่งศรีเมือง มีพระอุโบสถสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมอีสานที่ได้รับอิทธิพลจากกรุงเทพฯ สร้าง ประมาณต้นสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่บ่งบอกถึงอารยธรรมและวัฒนธรรมของคนอุบลในสมัยโบราณเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีหอไตรกลางน้ำ สร้างด้วยไม้ มีลักษณะผสมระหว่างไทย พม่า และลาว





ที่วัดดนี้คณะของเราไม่ค่อยมีใครสนใจเดินดู หรือถ่ายรูปกันซักเท่าไหร่นัก อาจจะเพราะแดดร้อนด้วย และอีกอย่างในตอนนั้นเป้นเวลาใกล้เที่ยงเต็มทีแล้ว ทุกคนใจจดจ่ออยู่กับอาหารมื้อเที่ยง สรุปเวลาที่เราเดินอยู่ในวัดทุ่งศรีเมือง เพียง10นาทีเท่านั้น ออกจากวัดทุ่งศรีเมือง เราก็ไปทานอาหารเวียดนามกันที่ร้านอาหารครัวเช้า แล้วไปซื้อของฝากที่ร้านดาวทอง ซึ่งเป็นร้านของฝากขึ้นชื่อของเมืองอุบล แป๋วซื้อหมูยอกลับมา 4 แท่ง (เค้าใช้ลักษณนามเป็นอะไรเหรอคะ ใครรู้บอกที)


ร้านครัวเช้า

ทานอาหารกลางวันและซื้อของฝากเรียบร้อย เราก็เดินทางออกจากจ.อุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่จ.บุรีรัมย์ เพราะจุดหมายสุดท้ายของเราคือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรู้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เราไปถึงที่พนมรุ้งกันตอนเกือบๆ 5 โมงเย็นแล้ว จึงรีบเดินขึ้นตัวปราสาททันที ในวันที่เราไป ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้าง เพราะในช่วงนั้น พระอาทิตย์จะตกตรงช่องประตูทั้ง15บานของปราสาท แต่วันที่ตกได้ตรงครบทุกช่องประตู เป็นวันที่ 8 มีนา แต่วันที่เราไปเป็นวันที่ 10 มีนาแล้ว จึงได้เห็นเพียง 10 ประตูเท่านั้น ก็ถือว่ายังโชคดีที่ได้เห็นนะคะ เพราะบ้านแป๋วอยู่ใกล้ๆ แค่นั้น แป๋วยังไม่เคยไปดูซักครั้งเลยค่ะ และต้องขอโทษที่ไม่มีภาพของปราสาทพนมรุ้งมาให้ชมกัน เนื่องจากกล้องแบตหมด มีรูปที่นี่น้อยมาก มีเพียงรูปบรรยากาศยามเย็นมาให้ชม ไม่ว่ากันนะคะ