Oath Ceremony
เมื่อวานพิมไป Oath Ceremony มาค่ะ
เค้านัดตอนเที่ยงที่ตึกที่อยู่ในดาวน์ทาวน์ พิมก็เลยนั่งรถไฟเข้าเมืองไปกับพี่โจ้ตั้งแต่เช้า(แถมฝนตกอีกตังหาก) แล้วก็นั่งเล่นที่ตึกที่ทำงานพี่โจ้จนกระทั่งสิบเอ็ดโมงก็ไปทานข้าวเที่ยงกับพี่โจ้
พี่โจ้เดินไปส่งถึงหน้าตึก แล้วก็กลับไปทำงานต่อ พอดีเมื่อวานคนที่ทำงานลาหยุดไปด้วย พี่โจ้ก็เลยเข้าไปดูพิธีสาบานตนกับพิมไม่ได้ ... เสียดายจัง
แต่ไม่เป็นไรค่ะ
พอผ่านการตรวจเช็คความปลอดภัยก่อนเข้าเรียบร้อย ก็ขึ้นไปบนชั้นที่ 25 ขึ้นไปถึงเจอคนเยอะแยะไปหมด เห็นเค้ายืนต่อคิวกันเรียงเป็นแถว พิมก็เลยไปต่อกะเค้ามั่ง
สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาบอกว่า ให้กรอกเอกสารด้านหลังจดหมายที่ส่งให้ไปให้เรียบร้อย (ทุกข้อต้องติ๊ก no นะคะ ข้อแรกที่ถามเรื่องแต่งงานด้วยนะคะ) เซ็นต์ชื่อลงวันที่ให้เรียบร้อย แล้วก็ให้หยิบใบเขียวกับโฟโต้ไอดีเตรียมไว้ด้วย เดี๋ยวจะต้องเช็คเอกสารค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เปิดห้อง ห้องที่พิมใช้ในพิธีสาบานตนเป็น courthouse ค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้เข้าไปใน courthouse บรรยากาศขรึมมากเลย
แล้วก็เดินแถวเรียงหนึ่งไปตรวจเอกสาร มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสองคนค่ะ ตรงนี้เค้าจะเก็บจดหมายนัดกับใบเขียวเราไปค่ะ แล้วก็ให้เราไปนั่งรอเรียงกันที่เก้าอี้
เค้านัดเที่ยงตรง แต่พิธีจะเริ่มบ่ายโมงตรงค่ะ ที่นัดก่อนก็เพราะต้องมาตรวจเอกสารพวกนี้ล่ะค่ะ
พอทุกคนนั่งที่กันหมดแล้ว เค้าก็จะเอาซองจดหมายใหญ่ๆจาก White House ส่งให้ค่ะ
ในนั้นมีจดหมายแสดงความยินดีหนึ่งฉบับจากประธานาธิบดี
พิธีสาบานตนนี้เราสามารถนำ guest เข้าไปได้ด้วยนะคะ แต่ว่าตอนแรกเราน่ะเข้าไปก่อน นั่งรวมกลุ่มกับคนอื่นๆที่มาสาบานตนเช่นกัน พอตรวจเอกสารเสร็จนั่งที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็จะให้บรรดา guest เข้ามาทีหลังค่ะ นั่งแยกกันอีกกลุ่มค่ะ
งานนี้สามารถถ่ายรูปได้ค่ะ จะมีเวลาให้ถ่ายรูปในช่วงก่อน Judge จะเข้ามาทำพิธีให้
แต่ว่าห้ามถ่ายรูปตรานกอินทรีที่อยู่ด้านบน ห้ามถ่ายรูป Judge นอกจากว่า Judge จะเอ่ยอนุญาตเอง
พิมไม่ได้ถ่ายสักรูปค่ะ เพราะว่าพิมไปคนเดียว ครั้นจะเอ่ยปากให้คนข้างๆถ่ายให้ก็นะ เอาเถอะของบางอย่างเก็บเอาไว้ในความทรงจำก็พอ ^^
เจ้าหน้าที่จะแจกหนังสือให้เราสองเล่มด้วยนะคะ
วันที่พิมไปทำพิธี มีคนได้ซิติเซ่นในวันนั้น 141 คน จาก 38 ประเทศค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า โดยปรกติจะเฉลี่ยครั้งละ 30 ประเทศ วันนี้ถือว่าหลากหลายประเทศกว่าปรกติค่ะ
พอบ่ายโมงตรง Judge ก็เข้ามา ทุกคนก็ต้องยืนแสดงความเคารพ เจ้าหน้าที่จะบอก Judge ว่าเรามากันวันนี้เพราะอะไร เสร็จ Judge ก็พูดต้อนรับ อธิบายถึงความหมายของคำสาบานตนที่เราจะต้องพูด จากนั้นก็ให้ทุกคนยืนขึ้นแล้วพูดตาม Judge ค่ะ
เสร็จปุ๊บ Judge ก็พูดต่อว่า เราทุกคนมีสิทธิ์อะไรบ้างในประเทศนี้ สิทธิที่สำคัญที่สุดก็คือ right to vote ขอให้ทุกคนใช้สิทธิ์นี้กันด้วย แล้ว Judge ก็กลับเข้าไปค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็จะมาแจก citizen certificate ให้เราเซนต์ชื่อให้เรียบร้อยด้วยหมึกสีดำ(กลับมาเซ็นต์ที่บ้านก็ได้) และห้ามนำใบนี้ไปใส่กรอบซีลปิดเป็นอันขาด ถ้าจะต้องทำใหม่ ต้องเสียเงินประมาณ 380 เหรียญค่ะ
พอรับแล้วให้เช็คความถูกต้องของข้อมูลของเรา ถ้าผิดก็ให้มาบอกทันทีจะได้ส่งไปแก้วันนั้นเลย ถ้าหลังจากวันนั้นจะแก้อะไรก็ต้องเสียเงินค่าแก้ค่ะ
ตอนออกมากจากห้องก็จะมีเจ้าหน้าที่มารอให้เราลงชื่อสำหรับการโหวตได้เลย แต่พิมยังไม่ได้รีจิสเตอร์ค่ะ ค่อยทำวันหลัง อยากจะรีบเอาไปโชว์พี่โจ้เต็มที รูปที่ติดในใบเซอร์สวยเชียว เป็นฝีมือการถ่ายรูปของพี่โจ้ ^^
เดี๋ยวนี้ถ้าต้องถ่ายรูปติดบัตรอะไร พี่โจ้จะเป็นคนถ่ายให้ แล้วเอาไปอัดเท่านั้นเองค่ะ
ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยตอนเวลาบ่ายโมงครึ่งค่ะ เร็วมากเลยนะคะ
ตอนแรกพิมกะว่าจะทำพาสปอร์ตให้เสร็จซะเลย เพราะตึกทำพาสปอร์ตก็อยู่ตรงข้ามกัน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจะไปทำพาสปอร์ตต้องนัดล่วงหน้าก่อนค่ะ อยู่ๆไปน่ะเค้าไม่รับทำค่ะ ก็เลยอด ไว้ค่อยทำวันหลังก็ได้ แต่บางที่บางรัฐก็สามารถทำพาสปอร์ตได้เลยนะคะไม่ต้องนัด
ถ้าใครมีนัดไปสาบานตนเร็วๆนี้ แต่งตัวสวยๆแล้วพาใครไปด้วยนะคะ จะได้มีถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วยค่ะ
Create Date : 05 มีนาคม 2551 |
|
25 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2551 0:16:50 น. |
Counter : 1045 Pageviews. |
|
|
|