เข้าไปปุ๊บ เจ้าหน้าที่จะให้เราสาบานตนว่าเราจะพูดแต่ความจริง
เสร็จก็จะขอดูใบเขียว พาสสปอร์ต ไอดี
จากนั้นก็จะเริ่มถามคำถาม คำถามทั้งหมด 10 ข้อ แต่ถ้าเราตอบถูก 6 ข้อก็จะผ่านเลย
ซึ่งพิมตอบได้ทั้งหกข้อแรก ^^
แล้วก็ให้เราเขียนประโยคง่ายๆหนึ่งประโยค
ให้เราอ่านประโยคง่ายๆหนึ่งประโยค
จากนั้นก็จะถามข้อมูลส่วนตัว เช่น นามสกุลเดิมคืออะไร สามีชื่ออะไร เราออกไปนอกประเทศเกินหกเดือนบ้างรึเปล่า
แล้วก็จะถามว่าเราเคยโดนจับมั๊ย เคยเป็นคอมมิวนิสต์รึเปล่า เคยพยายามพาใครเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายมั๊ย อันนี้ต้อง โน ตลอดนะคะ
แล้วก็ถามว่า เราพร้อมที่จะสนับสนุนคอนแกรสรึเปล่า พร้อมจะให้ความช่วยเหลือประเทศยามที่ชาติต้องการรึเปล่า อันนี้ก็ต้อง เยส ตลอดนะคะ
เสร็จก็ถามว่าเราต้องการจะเปลี่ยนชื่อมั๊ย ของพิมบอกว่าต้องการ
พิมจะใช้ชื่อ Kay เป็นชื่อทางการค่ะ ง่ายกว่าใช้ชื่อจริงของตัว
แล้วก็เซ็นต์เอกสารอะไรต่างๆ
แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่เกินหกอาทิตย์จะมีจดหมายนัดสาบานตนส่งไปให้ที่บ้านค่ะ
พี่โจ้บอกว่า พิมใช้เวลาเข้าไปไม่ถึง 10 นาทีเลยด้วยซ้ำ ^^
แต่ 10 นาทีนั้นมันเหมือน 10 นาทีในความฝันนะคะ
ออกมาจะเล่าให้พี่โจ้ฟังว่าเค้าถามอะไรพิมบ้าง พิมจำไม่ได้เลยค่ะ
ข้อสอบหกข้อที่พิมตอบ ตอนออกมาครั้งแรกพิมจำได้ข้อเดียวเท่านั้นเอง
และจนเดี๋ยวนี้พิมก็จำไม่ได้หมดทั้งหกข้อนะคะว่าถามอะไรบ้าง
มันแบบว่างเปล่าไปหมดเลยล่ะ ^^
วันนั้นก่อนสอบ หิวพิมก็ไม่หิว แต่ก็ทานอะไรนิดๆหน่อยๆลงไปบ้างเหมือนกันนะคะ พี่โจ้ถามว่าจะทานอะไรก่อนไปสัมภาษณ์มั๊ย พิมก็บอกว่าไม่หิว
พอสอบเสร็จเท่านั้นล่ะ
รีบบอกพี่โจ้เลยว่า "น้องหิวจัง" ^^
พอนั่งรถไฟกลับบ้านก็หลับตั้งแต่ต้นจนจบ
สองวันที่ผ่านมารู้สึกเหมือนว่าใช้พลังงานไปเป็นอย่างมากเลยค่ะ
เมื่อวานเย็นหมดแรงไปเลย
สรุปว่าการสอบสัมภาษณ์ซิติเซ่นไม่ยากเลยจริงๆค่ะ
ไม่ยากอย่างที่ใครๆพากันบอกพิมนั่นล่ะ
ขอเพียงแค่อ่านหนังสือไปสอบแค่นั้นก็รับรองว่าผ่านแน่ๆอยู่แล้วค่ะ
สำหรับใครที่มาอ่านหน้านี้แล้วกำลังเตรียมตัวไปสอบขอให้โชคดีนะคะ
โชคดีจ๊า