Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

It feels like spring !!

 


สองสามวันที่ผ่านมาเนี่ย อากาศอุ่นขึ้นมากๆเลยค่ะ


ใครจะนึกว่าต้นเดือนมกราอากาศจะสูงถึง 60F (หกสิบกว่าๆด้วยนะ) (15.5C)


 



 


ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าสปริงเลยค่ะ ออกไปข้างนอกใส่แจ็กแก็ตบางๆสักตัวก็โอเคแล้ว


แถมยังมีฝนตกลงมาทุกวันอีกตังหาก


วันนี้เดินนอกบ้านเจอไส้เดือนตัวอ้วนพีตั้งหลายตัวแน่ะ ><"


 



 


แต่อีกเดี๋ยวอากาศก็ค่อยๆลดกลับเข้าสู่บรรยากาศของวินเทอร์อีกรอบแล้วล่ะค่ะ


 



 


มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ...


เมื่อตอนซัมเมอร์นะ หลังจากพิมย้ายเข้ามาบ้านนี้ใหม่ๆ บ้านข้างๆก็ประกาศขายอยู่เหมือนกันค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่งก็คุยกัน เค้าก็บอกว่ากำลังจะย้ายออกแล้วล่ะ แล้วเค้าก็ย้ายออกไป พิมก็รอว่าใครหนอจะมาเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของเรา แต่ก็รอเก้อ เพราะตั้งแต่เจ้าของบ้านเก่าย้ายออกไป ก็ไม่เคยเห็นเจ้าของใหม่เข้ามาสักทีค่ะ จนชักจะแปลกใจ เพราะบ้านที่นี้ ซื้อทิ้งไว้คงจะไม่ค่อยมีหรอกค่ะ เพราะเมื่อซื้อบ้านแล้ว ก็จะต้องมีค่าผ่อนบ้านล่ะ แล้วสมมุติว่าซื้อเงินสด ก็ใช่ว่าจะหายห่วงไปเลย เพราะยังไงก็จะต้องจ่ายภาษีบ้านทุกๆปี ซึ่งหนึ่งปีจะต้องจ่ายสองครั้ง (สำหรับที่อิลินอยส์นะคะ) แล้วภาษีบ้านก็ใช่ว่าจะถูกๆ เรื่องจะซื้อบ้านทิ้งๆไว้แล้วยอมจ่ายเงินเปล่าๆไปเรื่อยๆ คงจะไม่ค่อยมีใครทำกัน เพราะแถวนี้ก็ไม่ใช่เป็นเวเคชั่นโฮมซะด้วยสิคะ


บ้านหลังนั้นก็ถูกปล่อยทิ้งไว้เกือบครึ่งปี จนมาวันหนึ่งก็มีรถเข้ามาจอดหน้าบ้านสักพักแล้วก็ขับออกไป พิมก็นึกว่าเจ้าของใหม่คงจะมาแล้วละมั้ง แต่พอขับรถผ่านไปถึงได้เห็นป้ายติดไว้ว่า "Bank owned property" งั้นก็แสดงว่าบ้านนี้โดยแบงค์ยึดไปซะแล้วล่ะค่ะ สองวันผ่านไปก็มีป้ายขายปักติดอยู่หน้าบ้าน


 



 


ช่วงนี้บ้านโดนยึดกันเยอะมากเลยค่ะ เป็นเพราะช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา แบงค์ปล่อยเงินกู้กันง่ายมาก แล้วช่วงนั้นดอกเบี้ยก็ต่ำ คนก็กู้เงินซื้อบ้านกันสนุกสนาน บ้านใหม่ๆขึ้นกันคึ่กคึ่ก ยิ่งสร้างยิ่งใหญ่ ยิ่งสร้างยิ่งแพง คนซื้อก็ไม่แคร์จะกี่แสนจะเป็นล้านก็ซื้อกันไหว ขอให้ได้บ้านหลังใหญ่เอาไว้ก่อนละกัน ตอนนั้นที่ผ่อนได้เพราะอะไรละค่ะ


อย่างนี้นะคะสมมุตินะ บ้านหลังละสามแสนกว่า คนซื้อมีเงินมาสองหมื่นสามหมื่นก็สามารถซื้อบ้านได้ ที่เหลือผ่อนธนาคารกันไปซึ่งบางคนเลือกจ่ายแบบไม่ Fix ดอกเบี้ย เมื่อก่อนดอกเบี้ยต่ำก็สบายค่ะ แต่ผ่านไปทุกปีดอกเบี้ยก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ลำบากสิคะทีนี้


 



 


แล้วอย่างที่บอกคือ ซื้อบ้านแล้วยังต้องจ่ายภาษี บ้านใหม่ๆน่ะที่นี้จะคิดภาษีบ้านสองเปอร์เซนต์กว่าๆของราคาซื้อบ้านค่ะ ยิ่งบ้านราคาแพง ภาษีก็ยิ่งแพงตามไปด้วย แล้วภาษีบ้านก็รับรองได้ว่าขึ้นราคาทุกปีค่ะ แล้วถ้าใครไม่จ่ายภาษีสองปี (สี่งวด) เค้าก็จะยึดบ้านเราไปนะคะ


เค้าจะมีวิธีการแบบนี้ด้วยค่ะ สมมุติว่าถึงเวลาจะต้องจ่ายภาษีแล้ว แต่เรายังไม่จ่าย ทางซิตี้ก็จะคิดดอกเบี้ยไปเรื่อยๆตามวันที่เราเลทเลยค่ะ ถ้าเราไม่จ่ายสองงวด ซิตี้จะเอาบ้านเราขึ้นลิสต์เอาไว้ ซึ่งลิสต์นี้ถ้าใครมาเห็นแล้วถูกใจ ยอมจ่ายภาษีให้กับทางรัฐเป็นเวลาสองปี คุณก็จะได้บ้านนั้นไปเลยค่ะ ถ้าเจ้าของบ้านไม่ยอม จะขอจ่ายกลับก็ต้องเสียดอกเบี้ยให้คนที่จ่ายภาษีให้กันไป หรืออาจจะขึ้นโรงขึ้นศาลกันไปก็ได้ ถ้าไม่มีใครยอมใครนะคะ


 



 


ช่วงนี้ตลาดบ้านเริ่มซบเซา บ้านขายกันไม่ค่อยจะออก ลดราคากันลงมาเป็นแถว พวกที่ไม่มีเงินผ่อนให้แบงค์ ก็โดนยึดไปอย่างข้างๆบ้านพิมเนี่ยค่ะ แล้วบ้านโดนแบงค์ยึดบางบ้านนี่นะคะ ก่อนออกก็ทำลายบ้านซะเยินเลยค่ะ ถอดเอาประตู ตู้ อุปกรณ์ต่างๆในบ้านออกมาขายเป็นชิ้นส่วน บ้านก็เหลือแต่โครงเท่านั้น ก่อนที่จะซื้อบ้านนี้พิมก็เคยไปดูบ้านที่โดนแบงค์ยึดมาหลังนึงค่ะ บ้านยังใหม่มากอยู่เลยแต่ว่าโดนถูกกระทำซะเยินเหมือนกันค่ะ


หมู่บ้านใหม่ๆที่กำลังสร้างก็เห็นเลิกกันไปหลายที่แล้วเหมือนกัน ผู้คนเริ่มออกมาบอกความต้องการให้รัฐช่วยตรึงอัตราดอกเบี้ยอย่าให้สูงขึ้นไปกว่านี้ ผลกระทบคือคนธรรมดาที่ไม่ได้อยู่อย่างราชา แต่มีเงินเก็บในแบงค์ดอกเบี้ยก็จะต้องโดนลดลงไปด้วย


 



 


ไหนๆก็พูดเรื่องเงินแล้ว ก็ขอคุยเรื่องบัตรเครดิตต่อหน่อยเถอะค่ะ วันก่อนดูหนังสารคดีเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิตเนี่ยล่ะ ชื่อเรื่อง Maxed Out


คือทางธนาคารก็แย่นะคะ พยายามยั่วยวนให้คนใช้บัตรเครดิตของตนมากๆ เพื่อจะได้เก็บดอกเบี้ยจากการใช้เงินเกิน ซึ่งดอกเบี้ยสูงมากล่ะ แต่ของอย่างนี้ไม่มีการบังคับนะคะ มีแต่โวลันเทียร์ที่จะใช้ ถูกมั๊ย พอคนที่ไม่รู้จักประมาณตัว อะไรก็รูดปรี๊ด รูดปรี๊ด พอยอดเงินมาจ่ายไม่หมด ก็ทบต้นทบดอก จากเงินจำนวนนิดเดียวก็กลายเป็นเงินจำนวนมากไปได้ แล้วก็มาร้องร่ำว่าแบงค์ใจร้าย ไม่มีเงินจ่ายจะให้ทำยังไง บางคนถึงกับฆ่าตัวตายหนีหนี้แล้วครอบครัวก็ไปโทษว่าแบงค์ผิด


แต่พิมฟังดูแล้วก็ว่าแปลกๆนะคะ ตอนใช้ละไม่นึก รูดปรี๊ดกันสนุก พอเค้าจะทวงเงินคืนไม่มีก็ไปว่าเค้า คนเราเนี่ยถ้าไม่รู้จักประมาณตัวแล้วก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะคะ


 



 


เรื่องทั้งหมดที่เขียนมาวันนี้ถือเป็นความคิดส่วนบุคคลนะคะ อาจจะมีใครที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ได้ ไม่เป็นไรค่ะ คนเราถ้าคิดเหมือนกันหมดก็ไม่สนุกสินะ แต่นี้คือส่วนหนึ่งของความคิดของพิมที่อยากจะแชร์กับเพื่อนๆ ข้อมูลทั้งหมดไม่มีอะไรจะให้อ้างอิงจากที่ไหนหรอกนะคะ


พิมกับพี่โจ้ยังเคยคิดกันเล่นๆเลยว่า การใช้ชีวิตให้คุ้มน่ะมันคืออะไรกันแน่


อดออม เก็บออม จับจ่ายใช้สอยอย่างประหยัด รู้จักประมาณตน ถ้ารู้ว่าตนไม่สามารถก็ไม่ไขว่คว้าหาหนี้ใส่ตัว อยู่กันอย่างสมถะ พอมีพอกินพอเก็บ ไม่ต้องถึงกับอดอยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย


หรือ


ใช้ไปเลย อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากมีบ้านหลังสี่ห้าล้านก็หา อยากขับรถสุดหรูก็ขับ ชีวิตหนึ่งเอาให้สุดๆไปเลย เดี๋ยวก็ตายแล้ว มีหนี้ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ใครจะรู้เราอาจจะตายก่อนผ่อนหมดก็ได้ แต่ถึงตายก็คุ้มเพราะใช้ชีวิตอย่างที่อยากจะเป็นอยากจะมีแล้ว ถ้ามัวแต่เก็บเกิดตายเร็วก็อดใช้กันเท่านั้น


 


......................


 





 

Create Date : 09 มกราคม 2551
18 comments
Last Update : 9 มกราคม 2551 5:43:53 น.
Counter : 663 Pageviews.

 

คนเราคิดไม่เหมือนกันหรอกเนอะ ต่างคนก็ต่างความคิด
อยู่ที่ว่าใครทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำๆไปเถอะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นพอ
สำหรับเราชอบแบบพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ประมาณว่านกน้อยทำรังแต่พอตัว หรือ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม แต่อันหลังนี้ไม่ค่อยชอบแฮะกลัวพร้าขึ้นสนิมซะก่อน

 

โดย: นก IP: 77.184.45.132 9 มกราคม 2551 6:06:31 น.  

 

แถวนั้น บ้าน ราคาลงแล้วเหรอครับ ..

แถวนี้ NYC มีแต่ขึ้นหรือก้อไม่ ลง อ่ะครับ งง อ่ะ ..

 

โดย: everything on 9 มกราคม 2551 6:42:50 น.  

 

Just excuse us on our recent gift we bought...

I totally agreed with you all the way about how to manging personal fund n saving, the line of work that I am in is to manage most US corporate financial. Cash market is the best investment when the country turnin' to recession.

ei ei Talk about saving money, I put most in IRAs and 401K acct. so you won't be seeing me buy a LV bag indeed..., my budget is only $30 for a handbag... And about the credit card debt, check your master card n see if Citibank's raised the rate recently. It is a major impact on great credit consumer like you and me...

 

โดย: The Zephyr 9 มกราคม 2551 6:56:57 น.  

 

บ้านแถว Richmond นี่ขึ้นราคาทุกปีเลยค่ะ..
ยิ่งปี 2010 จะมีโอลิมปิคฤดุหนาวที่นี่ด้วย..ยิ่งทำให้ที่แถวนี้เป็นทำเลทองเลย..
ราคาที่ ราคาบ้าน อาจจะแพงที่สุดใน Canada แล้วล่ะมั้งคะเนี่ย

คนเราชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไปนะคะ..
ในความคิดตัวเอง อยู่อย่างพอเพียงก็มีความสุขแล้วค่ะ..
ไม่มาก ไม่น้อย เดินสายกลาง
และถึงแม้จะใช้บัตรเครดิตแต่ก็ไม่นิยมเป็นหนี้อ่ะค่ะ

 

โดย: กะตุ้งนิ้ง 9 มกราคม 2551 7:21:44 น.  

 

เราเป็นแบบ ข้อนี้มากกว่า ...
อดออม เก็บออม จับจ่ายใช้สอยอย่างประหยัด รู้จักประมาณตน ถ้ารู้ว่าตนไม่สามารถก็ไม่ไขว่คว้าหาหนี้ใส่ตัว อยู่กันอย่างสมถะ พอมีพอกินพอเก็บ ไม่ต้องถึงกับอดอยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย..

ตอนนี้ ไม่กล้าใช้บัตรเครดิตเลย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ กลัวหนี้มากๆ..55กลัวดอกน่ะค่ะ

 

โดย: ปลายฟากฟ้า 9 มกราคม 2551 8:06:11 น.  

 

เป็นแ่ง่คิดที่ดีค่ะ ต่างมุมมองและนานาทัศนะคติของแต่ละคนค่ะ
ขอบคุณ ที่มาแบ่งปันสาระและความรู้นะค๊า

 

โดย: ออย (Borken ) 9 มกราคม 2551 10:22:48 น.  

 

โห..เขามีการคิดภาษีบ้านกันด้วยเหรอคะเนี่ย อืม..ได้ความรู้ใหม่อีกและ คือว่าเราไม่เคยซือบ้านก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องพวกเนี้ยค่ะ แต่ก็โหดเหมือนกันเนอะ

ว่าแต่ว่าคุณพิมเก่งเนอะ สามารถถ่ายรูปผักกะข้าวของในบ้านให้ดูสวยได้ นับถือค่ะ

 

โดย: BeachBum 9 มกราคม 2551 12:19:34 น.  

 

เป็นความรู้ดี ๆ ที่นำมาให้รู้ค่ะคุณพิม ถึงแม้จะไม่ได้อยู่เมกาก็เหอะ..ประดับความรูี้ไว้ก็ดีค่ะ..

 

โดย: สปันงา 9 มกราคม 2551 16:37:43 น.  

 

คุณพิม อ่านไปดูรูปไปเพลินเลยค่ะ

เรื่องบ้านที่อเมริกา ก็ได้ยินข่าวช่วงนี้บ่อยมากๆค่ะ เพราะเดี๋ยวมันก็กระทบไปภาคพื้นอื่นๆด้วย ที่นี่เลยลงข่าวเรื่องอสังหาริมทรัพย์ทางฝั่งนั้นเยอะเหมือนกัน เรื่องการปล่อยเงินกู้ แล้วแบงค์ก็จะมีหนี้เสียมาก ตอนนี้เงินดอลล่าห์ก็ตกลงเยอะเลย

ส่วนบัตรเครดิต เห็นด้วยกับคุณพิมค่ะ ถ้าไม่จำเป็นก็พยายามไม่ใช้ แต่เดี๋ยวนี้การซื้อของออนไลน์ หรือจองโรงแรมมันก็ยังต้องใช้อยู่ แต่ไม่ใช้แบบรูดปรี๊ด รูดปรี๊ด ที่นี่คนใช้บัตรเครดิตกันบ้าง แต่รวมๆไม่ค่อยมีนิสัยการรูดซื้อของ เพราะว่าใช้เอทีเอ็ม หรือบัตรเดรบิตรูดกัน เรียกกว่าเป็นนิสัยการใช้จ่ายมังคะ เรื่องบัตรเครดิตเลยไม่ค่อยเป็นประเด็นเท่าไหร่

แบงค์หลายๆแบงค์ และสถานบันการเงินมักเอาตัวเครดิตมาล่อ ถ้าเราไม่ระวังก็ตกหลุมได้ง่ายๆนะคะ พยายามใช้พอเพียงเป็นดีที่สุดแล้วนะคะ (อันนี้บอกตัวเองน่ะค่ะ ต้องพยายาม)

อ้อ ทำไมอุณหภูมิขึ้นลงต่างกันเยอะแบบนี้คะ แล้วอย่างนี้คนไม่ป่วยกันเหรอคะเนี่ย ขึ้นลงในเดือนเดียวต่างกันตั้งสิบ ยี่สิบองศา

 

โดย: KOok_k 9 มกราคม 2551 17:10:54 น.  

 

เป็นความคิดส่วนบุคคลของคุณพิมที่อ่านแล้วเพลินมากเลยค่ะ ชอบบบบบบบบ

สำหรับครอบครัวนัท เราเข้าข่ายแบบแรกค่ะ สำหรับความคิดเห็นเรื่องการใช้ชีวิตให้คุ้ม

 

โดย: Picike 9 มกราคม 2551 20:29:07 น.  

 

อดออม เก็บออม จับจ่ายใช้สอยอย่างประหยัด รู้จักประมาณตน ถ้ารู้ว่าตนไม่สามารถก็ไม่ไขว่คว้าหาหนี้ใส่ตัว อยู่กันอย่างสมถะ พอมีพอกินพอเก็บ ไม่ต้องถึงกับอดอยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย

---------------

แอนน์คิดว่าแอนน์เป็นแบบนี้เสียมากกว่าค่ะ เพราะว่าถ้ารู้ว่ายังไม่มีรายได้ก็ใช้น้อยลงหน่อย เมื่อไปทำงานก็ได้ของที่ต้องการขึ้นมาเป็นระดับรายได้ เพราะทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะขัดสนเนอะ ถึงได้รอจังหวะรถจะมาเป็นของตัว เพราะไม่ชอบเป็นหนี้เท่าไรน่ะค่ะ ถ้าไม่จำเป็น บัตรเครดิตแอนน์ส่วนมากปิดทุกเดือนค่ะ ใช้เพื่อเอาส่วนลด ฮ่าๆๆ แต่อันนี้ต้องรู้จักประมาณกำลังอย่างว่าค่ะ เพราะบัตรเครดิตเผลอไม่ได้ค่ะ ต้องบอกตัวเองว่าอย่าเป็นหนี้ ยอดเลยเป็นศูนย์ทุกเดือนค่ะพี่พิม แต่เราได้ point สะสม เพื่อจะได้ส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินบ้าง ไอ้เรื่องอยากได้อยากมีใครก็อยาก แต่ก็ต้องประมาณตนอย่างว่า มีก็มีพอที่กำลังตัวเองมี

เรื่องบ้านน่ะแอนน์เพิ่งจะรู้ซึ้งๆก็พี่พิมเล่าเนี่ยแหละค่ะ แอนน์กับพี่เคลย์เลยเลือกบ้านเล็กพอตัวค่ะ เพราะภาษีจะได้ไม่อ่วม ราคาบ้านก็ไม่สูง ถ้าอยู่แถวบ้านพี่สาวพี่เคลย์น่ะราคาอีกเท่าตัวเลย แต่เราก็เลือกตรงนี้ค่ะ จะขยับขยายก็ต้องคิดดีๆ เพราะภาษีก็จะตามมาด้วย นี่ขนาดเค้าทำแบบนี้เพื่อกำหราบคน หรือให้บทเรียนคน แต่หลายคนก็กระโจนเข้าบ่อกิเลสนะคะพี่พิม พอรู้ตัวอีกที มันก็สายไป ต้องทำแบงค์รัพซี่ แย่เนอะ



 

โดย: ClayAnn 9 มกราคม 2551 22:35:29 น.  

 

แวะมาเยือนยามค่ำ ของคืนนี้ครับ

ใช่ครับ ทำมาแล้วไม่ใช้จะทำไปทำไมให้เหนื่อยทุกๆวัน

ผมทำมาหาใช้ครับ ตายไปก็เอาไปไม่ได้

เหลือจากที่ใช้ก็เก็บไว้นิดหน่อยเผื่อไว้แก่ตัวมาจะได้จ้างพยาบาลสาวๆมาดูแล (ถ้าได้แก่นะครับ อิอิ....)

ฝันดีครับ....

 

โดย: พฤกษาริมน้ำ 9 มกราคม 2551 22:38:08 น.  

 

อ่านแล้วก็เห็นด้วยกับคุณพิมค่ะ ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ
เพราะฉะนั้นก็ตัวเราเองนี่แหละค่ะ ที่ต้องบริหารเงินในกระเป๋าตัวเองให้ดี
แนนก็เป็นอีกคนนึงค่ะ ที่ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย จะซื้ออะไรทีคิดแล้วคิดอีกว่าจำเป็นมั๊ย
(แตกต่างกับตอนเป็นวัยรุ่นมากๆค่ะ ตอนนั้นแนนใช้เงินเปลืองมาก
หมดกับการช็อปกับการกินไปเยอะมากๆ พอโตมาก็เริ่มคิดได้ ตอนนี้ประหยัดมากๆค่ะ)

ถ้ามีอันจะกินก็ใช้ไปเถอะค่ะ แต่ถ้าไม่มีแล้วดันทุรังเนี่ย อันนี้น่าสมเพช อิอิ
ความอยากได้อยากมีมันไม่เข้าใครออกใคร ฮี่ๆๆ

 

โดย: Complicatedgirl 10 มกราคม 2551 0:00:59 น.  

 

ปล. รูปสวยมากๆเลยค่ะ ฮี่ๆๆ

 

โดย: Complicatedgirl 10 มกราคม 2551 0:02:50 น.  

 

วันนี้เข้ามาอ่านบล๊อคคุณพิมแล้วได้ข้อคิดคล้ายๆกันคะ
ถ้าให้กิเลือก ขอเลือกแบบแรกคะ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีกินมีใช้ แต่ไม่ฟุ่มเฟือยมาก แล้วก็ไม่ขอมีหนี้สิ้นดีกว่าคะ

การไม่มีหนี้สินเป็นลาภอันประเสริฐคะ

 

โดย: ความทรงจำดีๆในชีวิต 10 มกราคม 2551 1:38:24 น.  

 

คิดเหมือนคุณพิมเหมือนกันค่ะ คนเราต้องประมาณตัวเอง ให้ได้ก่อนค่ะ แบ๊งค์เค้าก้อมีรายได้หลักจากดอกเบี้ยเงินกู้นี่แหละค่ะ แต่เราต้องหักห้ามใจเราเองอย่าเกินตัวเท่านั้นอย่างคุณพิมว่าค่ะ

 

โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 22 มกราคม 2551 15:53:54 น.  

 

แวะมาสวัสดีพิม
พูดถึงอุณหภูมิ 60F นี่ว่าสูงเหรอ ที่ฟลอริดา 60นี่หนาวววเลยนะ :))

สารคดีMaxed Out พึ่งดูไปเมื่อสองวันก่อนนี้เอง คุยกับพี่ที่บ้าน เขาบอกหลายปีที่ผ่านมา เมืองไทยก็เริ่มเหมือนที่เมกาเหมือนกัน คือ ใช้บัตรเครดิต รูดเอาๆ แล้วปลายเดือนไม่มีจ่าย ก็บริษัทต่างชาตินี่แหละไปเปิดสาขา เอากำไรกับคนทั่วโลก

 

โดย: Overseas 24 มกราคม 2551 1:04:17 น.  

 

อากาศที่อิลินอยเป็นไงบ้างคะ เมืองน่าอยู่ป่ะคะประชาชนเถื่อนป่าว อยากทราบมากอ่ะคะ

 

โดย: Dhanya IP: 202.91.18.205 21 สิงหาคม 2551 5:25:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pim(พิม)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]





** ถ้าต้องการรูปจากบล็อคพิม รบกวนบอกกล่าวกันสักนิดนะคะ พิมไม่หวงภาพ เพียงแต่ขอให้บอกกันก่อน อย่าเอาไปโดยพลการนะคะ ... ขอบคุณค่ะ **

++ บทความล่าสุด ++

Friends' blogs
[Add pim(พิม)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.