มิถุนายน 2553

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
30 มิถุนายน 2553
ตอน Between Us # 1
P&Kong’s Stories: ‘เรื่องของเขา...เราอยากจิ้น’

ตอน Between Us

--- 1 ---

#..ติ๊ก..ติ๊ก..ติ๊ก..# เสียงเข็มวินาทีของนาฬิกาแขวนผนังตัวใหญ่ในห้องรับแขกเหมือนจะดังจนได้ยินชัดเจนในยามดึกสงัด บ่งบอกได้อย่างดีว่าบรรยากาศขณะนี้เงียบสงบแค่ไหน ตรงกันข้ามกับอารมณ์ร้อนรุ่มในใจของชายหนุ่มที่เดินกระสับกระส่ายไปมาอยู่ในห้อง ผลัดกับชะโงกมองประตูรั้วหน้าบ้านเป็นระยะๆ สายตาคมเหลือบมองหน้าปัดนาฬิกาบนผนังบ่อยครั้ง

“จะเที่ยงคืนแล้ว ทำไมยังไม่กลับอีกนะ” พีรวิชญ์ทิ้งตัวลงนั่งตรงโซฟากลางห้อง เอื้อมมือหยิบมือถือบนโต๊ะข้างหน้ามากดโทรออกหาเบอร์ล่าสุดซึ่งเขาพยายามติดต่อมาตั้งแต่ช่วงค่ำเป็นหลายสิบหน และเสียงตอบกลับก็ยังคงเป็นเสียงผู้หญิงคนเดิม

~ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก…~ พีรวิชญ์จิ๊ปากอย่างขัดใจกดตัดสายแล้ววางเจ้าเครื่องมือสื่อสารที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์สำหรับชายหนุ่มเสียเหลือเกินลงที่เดิม

‘ทำไมเหลวไหลแบบนี้นะก้อง ไม่รู้เหรอไงว่าผมเป็นห่วงขนาดไหน’

คิ้วเข้มบนใบหน้าคมคายขมวดแทบจะเป็นปม ถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางเอนหลังทิ้งน้ำหนักกับพนักโซฟา นึกหงุดหงิดเจ้าของดวงหน้าอ่อนละมุนที่ปล่อยให้เขาเป็นกังวลว้าวุ่นใจอยู่อย่างนี้ เปลือกตาบางปิดลง.....พีรวิชญ์พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นกว่านี้ หูฟังเสียงเข็มนาฬิกายังทำหน้าที่ของมันต่อไปเรื่อยๆราวกับขับกล่อมให้ใจค่อยๆสงบลง ไม่นานนักความง่วงงุ่นบวกการความเหนื่อยล้าจากกองเอกสารงานมาทั้งวันก็ทำให้ชายหนุ่มเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น......

.........................
..................
...........
......
...

“น้องพี...น้องพีคะ ทำไมมานอนหลับตรงนี้ล่ะคะเนี่ย?” เสียงปลุกของเจ๊ตุ่มเรียกสติสัมปชัญญะของชายหนุ่มให้กลับมาอีกครั้ง

“ก้องล่ะครับพี่ตุ่ม ก้องกลับมารึยัง?” พีรวิชญ์ถามเสียงงึมงำขณะผุดขึ้นนั่งตัวตรงพลางยกมือลูบหน้าลูบตาไล่ความง่วง

“นี่น้องพียังรอน้องก้องอยู่อีกเหรอคะ? ตายแล้ว...อย่าบอกนะว่ารออยู่ตรงนี้ตั้งแต่ 2 ทุ่มยันตอนนี้น่ะ อุ๊ย! ตี 1 กว่าแล้วนะคะ” เจ้าของร่างท้วมทำตาโตถามอย่างประหลาดใจ เธอเผลอตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วรู้สึกคอแห้งจึงลุกมาดื่มน้ำ เห็นมีแสงสว่างจากไฟนีออนเล็ดลอดมาจากห้องรับแขกจึงลองเดินมาดู กลับเจอพีรวิชญ์กำลังหลับคอพับคออ่อนอยู่บนโซฟาในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนที่ดูไม่น่าจะสบายตัวนัก ที่แท้ก็คงจะรอก้องบดินทร์อยู่นานจนเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียนี่เอง โถ...น่าสงสารจริงๆ

“ครับ แล้วนี่ป่านนี้ก้องยังไม่กลับเลย จะเป็นอะไรรึเปล่าไม่รู้” คนถามมีสีหน้ากังวล เจ๊ตุ่มจึงรีบพูดปลอบ

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้องก้องก็โทรบอกป้าฟองตั้งแต่เย็นแล้วว่าวันนี้ต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดผอ.โรงพยาบาลคงจะกลับดึกหน่อย น้องพีน่ะอย่าคิดมากไปเลยค่ะ เมื่อก่อนบางวันน้องก้องต้องเข้าเวรตอนดึกๆกลับบ้านเกือบเช้าก็มี อีกอย่างเห็นบอกว่ารุ่นพี่ที่ทำงานจะขับรถมาส่งถึงบ้านเลยปลอดภัยแน่ค่ะไม่ต้องเป็นห่วง”

“แต่นี่ผมพยายามโทรหาก้องตั้งแต่หัวค่ำแล้วนะครับ ติดต่อกันไม่ได้เลยแล้วจะไม่ให้ผมเป็นห่วงได้ไง”

“เอ่อ......น้องก้องคง.....โทรศัพท์แบตหมดล่ะมั้งคะ” เจ๊ตุ่มพยายามแก้ตัวแทน

“แต่ถ้าเขาพยายามจะติดต่อผมจริงคงหาทางโทรกลับมาไม่ยากมั้งครับ ตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว...ที่ก้องจะไปงานเลี้ยงโทรบอกคุณแม่ แต่กลับไม่บอกผมสักคำ...” พีอดตัดพ้ออย่างน้อยใจไม่ได้ เจ๊ตุ่มมองชายหนุ่มที่นั่งกลัดกลุ้มอย่างเห็นใจ

~น้องก้องนะน้องก้อง บทจะเอาแต่ใจก็น่าตีจริงๆเลยเชียว~


ตั้งแต่พีรวิชญ์พิสูจน์ตัวเองจนได้รับการยอมรับให้คบหากับก้องบดินทร์ได้อย่างเปิดเผยจากทุกคนในครอบครัว ป้าฟองก็อนุญาตให้พีเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะสมาชิกในครอบครัวอีกคนเพราะเห็นใจที่พีนอกจากจะต้องรับช่วงดูแลกิจการแทนพี่ชายแล้วยังคอยตามไปรับไปส่งก้องอยู่เสมอๆทำให้เหนื่อยหนักขึ้น แม้ก้องจะเคยห้ามแล้วเพราะเป็นห่วงที่พีต้องขับรถกลับดึกดื่นอยู่บ่อยครั้งแต่ชายหนุ่มกลับรั้นที่จะเต็มใจทำ ในที่สุดป้าฟองก็เลยให้พีย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกันเสียเลย ประกอบกับแก้วกัญญาที่แต่งงานและย้ายออกไปอยู่กับปรมินทร์ บ้านนี้จึงเหลือลูกชายคนเล็กหัวแก้วหัวแหวนอยู่คนเดียว การมีพีรวิชญ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวก็ทำให้บ้านนี้อบอุ่นขึ้น แถมความน่ารักน่าเอ็นดูของคู่นี้ก็ช่วยสร้างสีสันและความสดชื่นให้ทุกคนได้อีกด้วย แต่เท่าที่เห็นพีรวิชญ์เป็นคนเปิดเผยและตรงไปตรงมา รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มจนเดี๋ยวนี้พีก็ยังเสมอต้นเสมอปลายในการแสดงออกให้รู้ว่าเขารักก้องมากแค่ไหน หากแต่ตัวก้องเองที่เป็นคนขี้อาย ชอบเก็บความรู้สึกตัวเอง ยิ่งอยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่าหวังเลยว่าจะเห็นก้องแสดงออกประเจิดประเจ้อ แต่ทุกคนก็รู้ว่าที่จริงก้องก็รักพีมากไม่น้อยไปกว่าความรักที่ได้รับมาเช่นกัน.....

“พี่ว่า....น้องพีเข้านอนก่อนดีกว่าไหมคะ? เห็นท่าทางจะเพลียถึงผล็อยหลับอย่างนี้......ส่วนรายนั้นน่ะไม่เป็นห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวก็คงใกล้กลับมาถึงแล้ว” เจ๊ตุ่มบอก

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ตุ่ม ผมจะรอก้องเขาตรงนี้แหละครับ”

“น้องพีอย่าดื้อเลยค่ะ อากาศเย็นๆตอนกลางคืนมานั่งรอในชุดนอนบางๆแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ”

“แต่ว่า....” พีอึกอัก

“ถ้าพรุ่งนี้ป้าฟองรู้เข้าจะไม่สบายใจเอานะคะ ที่น้องก้องกลับดึกแล้วทำให้น้องพีเดือดร้อน” ในที่สุดเจ๊ตุ่มก็งัดไม้ตายเอาชื่อป้าฟองขึ้นมาอ้างเพราะรู้ว่าพีรวิชญ์เชื่อฟังและเกรงใจป้าฟองมาก

“เฮ้อ....ก็ได้ครับพี่ตุ่ม งั้นผมขอตัวขึ้นห้องเลยนะครับ” ชายหนุ่มจำต้องรับคำ คว้ามือถือที่วางไว้แล้วลุกขึ้นเตรียมเดินไป

“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ปิดประตูบ้านให้เอง” เจ๊ตุ่มบอกพลางรุนหลังชายหนุ่มไปส่งถึงปากทางขึ้นบันได รอจนร่างพีรวิชญ์เดินลับตาหายขึ้นบันไดไป จึงเดินกลับไปดื่มน้ำที่ตู้เย็นตามความคิดแรกที่ตั้งใจไว้ ก่อนจะเดินย้อนไปหน้าบ้านเพื่อใส่ล็อคประตูกระจก แว่วได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถมาจากถนนแต่ไกล ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้แทบจะไม่มีรถราวิ่งผ่านซอยในหมู่บ้านอยู่แล้ว คงจะเป็นรถที่ขับมาส่งก้องบดินทร์แน่นอน เจ้าของร่างท้วมจึงชะโงกมองหน้าประตูรั้ว ไม่ถึงอึดใจรถเก๋งคันงามสีดำมันวาวก็เคลื่อนมาจอดนิ่งที่หน้าบ้านจริงๆ เห็นเงาคน 2 คนที่อยู่บนรถเหมือนพูดคุยกันอยู่สักพักร่างเล็กที่คุ้นตาก็ก้าวลงมาจากรถ ก้องบดินทร์ยืนโบกมือส่งจนรถคันนั้นค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจึงเปิดประตูรั้วเหล็กเดินเข้าสู่ตัวบ้าน เห็นเจ๊ตุ่มยืนเกาะประตูหน้าบ้านรออยู่แล้ว

“อ้าวพี่ตุ่ม? ทำไมยังไม่เข้านอนอีกล่ะครับ? อย่าบอกนะว่ารอก้องน่ะ.... ก็ก้องโทรบอกแม่ตั้งแต่เมื่อเย็นแล้วไงว่าก้องจะกลับดึก แล้วก็เอากุญแจบ้านไปด้วยไม่ต้องอยู่รอก็ได้” หนุ่มน้อยพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ

“ฮึ....คนที่เขารอน้องก้องจริงๆไม่ใช่พี่หรอกค่ะ พี่แค่ตื่นมากลางดึก นู้นนน....น้องพีต่างหาก นั่งรอน้องก้องมาตั้งแต่หัวค่ำจนดึกป่านนี้น่ะ นี่พี่ก็เพิ่งไล่ให้น้องพีให้ขึ้นไปนอนได้เมื่อสักครู่นี้เอง” เจ๊ตุ่มบอก เห็นก้องบดินทร์ชะงักมองตามมืออวบๆที่ชี้ไปทางบันไดก็พูดขึ้นต่อด้วยน้ำเสียงตำหนิเด็กหนุ่มที่รักเสมือนน้องชายแท้ๆของตน

“น้องก้องนะน้องก้อง.....ทำไมใจร้ายกับน้องพีแบบนี้ล่ะคะ? จะไปไหนทำอะไรก็ไม่บอกเขาตรงๆ น้องพีพยายามโทรหาก็ติดต่อไม่ได้ หายเงียบไปเลยแบบนี้รู้ไหมคะว่าน้องพีเขากระวนกระวายเป็นห่วงน้องก้องขนาดไหน.....น้องก้องลองคิดดูนะคะว่าถ้ากลับกัน เป็นน้องพีทำเป็นไม่สนใจใยดี ทำเพิกเฉยแบบนี้กับน้องก้อง......น้องก้องจะรู้สึกยังไงคะ?”

“.............” ก้องเงียบไป คิดตามที่เจ๊ตุ่มพูดแล้วก็รู้สึกผิดต่อพีขึ้นมา สาวร่างท้วมจึงถอนหายใจพลางพูดต่อ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

“เฮ้อ~ จริงๆพี่ก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องระหว่างน้องสองคนหรอกนะคะ แต่เห็นว่าเรื่องบางเรื่องคงจะใกล้ตัวเกินไปจนน้องพีน้องก้องอาจจะมองไม่เห็น ในฐานะคนที่เฝ้าดูอยู่อย่างพี่ก็เลยอยากจะบอก.....น้องพีอาจจะทุ่มเทและแสดงความรู้สึกออกมาจนน้องก้องรู้สึกกระดากอายเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นใช่ไหมคะ น้องก้องคงคิดว่ามันมากเกินไป ส่วนน้องก้องเองพี่ก็เห็นว่าบางครั้งก็เย็นชากับน้องพีเกินไปเหมือนกัน พี่ว่าบางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้น่าจะพูดคุยปรับตัวเข้าหากันได้นะคะ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน ปล่อยไว้มันก็คาใจกันทั้งสองฝ่าย..... แต่สุดท้ายแล้วความรักมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน ฉะนั้นคนที่เราควรแคร์ความรู้สึกที่สุดก็คือคนใกล้ตัวเรานะคะไม่ใช่สายตาหรือความรู้สึกคนรอบข้าง ถ้าน้องก้องอยากให้อะไรดีๆในชีวิตอยู่กับเราไปตลอด น้องก้องต้องทนุถนอมดูแลสิ่งๆนั้นให้ดีๆสิคะ”

“......ก้อง.....ก้องขอโทษครับพี่ตุ่ม ก้องลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป แล้วก็ขอบคุณนะครับที่ทำให้ก้องเข้าใจอะไรๆมากขึ้น”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้องก้อง เอ.....แต่พี่ว่าคนที่น้องก้องควรจะขอโทษจริงๆน่ะไม่ใช่พี่หรอกมั้งคะ” เจ๊ตุ่มส่งซิกพยักเพยิดบอกพลางอมยิ้ม

“ก้องรู้แล้วครับพี่ตุ่ม” ก้องระบายยิ้มให้พี่สาวร่างท้วมและได้รับอ้อมกอดอุ่นๆจากเจ๊ตุ่มแทนคำตอบรับ สมกับที่เจ๊ตุ่มใกล้ชิดสนิทสนมดูแลเขามาตั้งแต่เล็กๆจริงๆถึงอ่านจิตใจ ความรู้สึกนึกคิดของเขาได้ทะลุปรุโปร่งไปหมด

“อย่างที่พี่เคยบอก....ผู้ชายดีๆอย่างน้องพีหายากนะคะ พี่หามาทั้งชีวิตยังไม่มีโผล่มาให้เห็นเลย น้องก้องโชคดีมากนะคะที่เจอและได้รับความรักจากเขา.....อ๊ะ! แต่ถ้าเบื่อน้องพีเมื่อไรก็บอกพี่คนแรกเลยนะคะ พี่ขี้เกียจหาแล้วรอเซ้งต่อจากน้องก้องดีกว่า” เจ๊ตุ่มพูดติดตลกทำเอาก้องยิ้มขำ

“พีเป็นคนนะครับ ไม่ใช่รถมือสองถึงเบื่อแล้วเซ้งต่อให้กันได้น่ะ........อีกอย่าง......พีเขาเป็นคนรักของก้อง และคนนี้ก้องหวงมากด้วย เพราะฉะนั้นก้องไม่มีวันยอมสูญเสียพีไปง่ายๆหรอกครับ” เจ๊ตุ่มได้ยินก็ยิ้มกว้างออกมา เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ก้องพูดแสดงความรู้สึกออกมาให้คนอื่นรู้ นี่ถ้าเจ้าของชื่อได้ยินกับหูตัวเองคงยิ้มกว้างยิ่งกว่าเธอจนปากแทบฉีกถึงหูเลยล่ะมั้ง

“งั้นน้องก้องไปพักผ่อนเถอะค่ะนี่ดึกมากแล้ว ป่านนี้อีกคนคงนอนกระสับกระส่ายแย่แล้ว” ก้องพยักหน้ารับแล้วบอกราตรีสวัสดิ์เจ๊ตุ่มขึ้นห้องนอนไป

.........................
..................
...........
......
...

TBC.



Create Date : 30 มิถุนายน 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 3:40:07 น.
Counter : 574 Pageviews.

5 comments
  
โดย: thenok วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:37:35 น.
  
สงสารคุณพีร์จัง..น้องก้องนะน้องก้อง

อย่างงี้ต้องงอลลลล ให้ง้อซะให้เข็ด..

อย่างนี้คุณพีร์ต้องป่วยประชดซะเลยดีไหม..
โดย: พี่ปูเป้ IP: 110.49.193.5 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:09:29 น.
  
กลับดึกก็ไม่โทรบอกพี

ก้องใจร้ายจัง .. =='

ขอบคุณคนเขียนฟิคนะคะ ^^

เรื่องราวน่าติดตามมากมากค่ะ .. ^__^
โดย: sky IP: 110.168.22.174 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:19:15 น.
  
ขอเป็นกำลังใจในการแต่งฟิคน่ารักอย่างนี้ไปเรื่อยเรื่อยนะคะจะรออ่านค่ะ
โดย: keanmdeang1@smile IP: 58.9.112.50 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:23:17:38 น.
  



สวัสดีปีใหม่ 2554 ขอให้สุข

หมดสิ้นทุกข์ กายจิต มิผิดผัน

อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน

แสนสุขสันต์ สุขภาพดี มีเงินทอง

โดย: หน่อยอิง วันที่: 31 ธันวาคม 2553 เวลา:18:38:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poohwha
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]