|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กว่าจะมาเป็นนักร้องยอดนิยม
นักร้อง....... อยากเป็นนักร้องกันมั้ยครับ โธ่ ถามมาได้แมวที่ไหนมันจะไม่อยากเป็นล่ะ ไม่งั้นทุกวันนี้จะมีรายการ เรียลลิตี้ ที่เค้าจับคนที่อยากเป็นนักร้องไปขังไว้ในบ้าน (แหมพูดซะน่ากลัวเชียว) เพื่อฝึกร้องเพลงกัน ใครได้รับการโหวตให้เป็นผู้ชนะก็ได้ออกอัลบั้มสมใจนึกกันไป
(ไอ้ตอนให้ส่ง SMS โหวตเค้าน่ะ ก็กระหน่ำส่งกันบ้าเลือดเลย เสียตังค์เท่าไหร่ไม่ว่า แต่พอเค้าได้ออกอัลบั้มแล้ว ซื้อซีดีเค้ามั่งป่าวเนี่ย เห็นออกมาแป๊บๆ ก็เงียบหายไปซะงั้น สงสัยซีดีขายดีจัด)
แต่ว่า...มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดนะครับ นักร้องที่เราเห็นมายืนหน้าใสร้องเพลงให้เราฟังกันเนี่ย กว่าจะคลอดอัลบั้มออกมาได้แต่ละชุด ว่าเลือดตาแทบกระเด็นแล้วนะ ยัง......ยังต้องซ้อมร้องซ้อมเต้น ฝึกการออกเสียง การแสดง ไหนจะการวางตัว การพูดการจาต่อหน้าคนอื่นอีกจิปาถะ หยุมหยิมซะยิ่งกว่าการทำขนมชั้น ขายขนมเบื้องซะอีก
และการที่จะเป็นนักร้องยอดนิยม ที่สามารถครองใจแฟนเพลงทั่วฟ้าเมืองไทยได้นั้น ไม่ใช่เรื่องหมูๆ เลยนะ ต้องผ่านด่านอุปสรรคนานับปการ บางคนหน่วยก้านให้ถึงแม้เสียงจะห่วยก็ตาม แต่ถ้าหน้าตาดีแฟนเพลงยังพอให้อภัยได้ ก็ได้เป็นนักร้องออกอัลบั้มกันไป (อัลบั้มเพลง ไม่ใช่อัลบั้มภาพนู้ดนะ) แต่บางคนเสียงดีฉิบเป๋ง เสียตรงที่หน้าตาดันผิดระเบียบ พยายามเพ่งมองหน้าแล้วก็ยังไม่เห็นแวว ก็ต้องกลับไปขายน้ำเต้าหู้เหมือนเดิม
น่าเห็นใจครับคนประเภทนี้ บุญมีแต่กรรมบัง หรือจะพูดอีกอย่างก็ได้ว่า มีความสามารถแล้วต้องมีบุญหนุนนำด้วย
เอาล่ะ ทีนี้เรามาพูดถึงตอนที่บุญกุศลหนุนนำ ได้ออกเทปมีอัลบั้มเป็นของตัวเองขึ้นมาแล้ว จะไปอยู่สังกัดของอากู๋ อากิ๋ม อาม่าหรืออาเฮียไหนก็ตาม มันก็ต้องมีแผนการโปรโมทเทปของตัวเอง มีกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อให้เป็นที่รู้จักของบรรดาแม่ยกแฟนเพลง ตามสเต็ป เราเองก็เห็นผ่านตากันมาเยอะแยะแล้ว ส่วนมากมีอะไรบ้างน่ะหรอ ได้ๆ ถ้าอยากรู้ เดี๋ยวผมจะโม้ให้ฟัง -คอนเสิร์ต- ถ้านี่เป็นการขายเครื่องออกกำลังกายอึ๊บโด่มิไนเซ่อๆ ซ่าๆ ก็มีจะ 2 คู่ชู้ชื่นซาร่ากับจ๊อด ออกมาโชว์สาธิตเล่นเครื่องออกกำลังกายด้วยกันอย่างครื้นเครง จะเล่นจะทำอะไรดูง่ายไปซะหมด จากก่อนหน้าที่ชีวิตที่ยังไม่ได้เล่นอึ๊บโด่มิไนเซ่อ ตกระกำลำบากอย่างมาก ตกงานเมียหนีมีหนี้บานเบอะ โบกรถเมล์ก็ไม่จอดรับ แถมยังถูกโกงแชร์อีก ชีวิตมีแต่ความเลวร้าย
แต่พอได้มาเล่นอุปกรณ์เศษเหล็กของบักจ๊อด แค่วันละ 5 นาทีเท่านั้น โอ้ว... พระเจ้าไม่อยากเชื่อเลย สุดยอดจริงๆ คุณทำได้ไงเนี่ยจ๊อด ชีวิตเปลี่ยนไปทันตาเห็นเหมือนโกหก สาธยายให้เราได้เห็นว่าของเค้าดีจริง น่าซื้อจนรอช้าไม่ได้แล้วซะงั้น แต่ถ้าเปลี่ยนจากการขายเครื่องเศษเหล็กมาเป็นการขายซีดีเพลงล่ะก็ ถือเป็นการโชว์เรียกน้ำย่อยของศิลปิน ที่ต้องมาเปิดตัวด้วยฟรีคอนเสิร์ต ตัวจริงเสียงจริง ให้คนดูเห็นว่าเสียงร้องกระเส่าลูกคอ 9 ชั้นครึ่งที่ได้ยิน ในซีดีน่ะ เสียงเค้าเองจริงๆ นะ เห็นมั้ยเต้นก็เป็น เพลงก็เพราะทุกเพลงจับใจ แต่ให้ร้องพอหอมปากหอมคอนะครับ เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าร้องฟรี (มิน่าถึงเห็นมาร้องเปิดเพลงลิปซิ้ง อ้าปากขมุบขมิบกันเป็นแถวเชียว ไว้รอมีคอนเสิร์ตขายบัตรเสียตังค์ก่อนเถอะ จะแหกปากร้องให้ขาดใจตายคาเวทีเลย ขายบัตรยิ่งแพงยิ่งร้องดัง)
โอ้ว.. พระเจ้าไม่อยากเชื่อเลย มันเยี่ยมจริงๆ เลยนักร้องคนนี้ รอช้าไม่ได้แล้วต้องรีบไปซื้อ MP3 เอ้ย ซื้อซีดีของแท้มาฟังซะแล้ว ในส่วนของตัวนักร้องเอง การขึ้นเวทีแรกอาจประหม่าจนพูดไม่ออก ร้องเพลงก็จำเนื้อไม่ได้ ครั้นจะเต้นตามที่ซ้อมมาก็ดันลืมท่าอีก เอาไงดีล่ะเนี่ยกลัวแฟนเพลงผิดหวัง ไม่ต้องกังวลครับผมมีวิธีแก้ขัดเวลาลืมเนื้อเพลงมาฝาก -ไมค์เสีย-
เฉไฉแบบน้ำขุ่นๆ วิธีแรก เป็นการโดยนความผิดให้ไมค์ไปซะ ร้องๆ ไป พอถึงท่อนที่ลืมเนื้อร้อง ก็หยุดร้องแล้วทำปากขมุบขมิบเหมือนร้องอยู่ แต่ร้องแบบไม่มีเสียงออกมา แล้วก็แกล้งทำเป็นตกใจเล็กน้อยพ ร้อมกับเหลือบมองไปที่ไมค์ เพื่อให้คนดูเห็นว่า เราไม่ผิดนะ ไมค์มันเสียว้อย พอถึงท่อนที่ร้องได้ ก็รีบแหกปากร้องออกไปให้เต็มเสียง พอถึงท่อนแป็ก ก็ขมุบขมิบปากเหมือนเดิม อ๊ะ ไมค์ดับอีกแล้ว มันก็จะติดๆ ดับๆ ตลอดจนจบเพลงนั่นแหละ หน้าด้านเข้าไว้ อย่าอายที่ จะทำ สู้ๆ นอกซะจากว่าเราทะลึ่งลืมเนื้อเพลงตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ถ้างั้นก็อย่าหน้าด้านใช้มุขไมค์เสียเลยครับ จะปล่อยให้ทั้งเพลงมีแต่เสียงดนตรีไม่มีเสียงนักร้องเลยหรือเนี่ย ปิดคอนเสิร์ตกลับบ้าน กินข้าว อาบน้ำ นอนดีกว่า -ช่วยร้องหน่อย ค้าบบบ...บบบบ- ถือเป็นวิธียอดฮิตของนักร้องเลยล่ะ แนบเนียนดี ใช้เมื่อไหร่คนดูมักจะจับผิดไม่ค่อยได้หรอก เวลาเปิดคอนเสิร์ตขึ้นมา เพลงไหนท่อนไหนพอร้องได้ก็ร้องแบบแถไถไปก่อน ถ้าถึงช่วงไหนที่ลืมเนื้อเพลงก็กลบเกลื่อนด้วยการยื่นไมค์ ขอฟังเสียงร้องจากแฟนๆ แทน
เอ้า ช่วยกันร้องหน่อยค้าบบบ....บบบบ
"ดีมากกก (ที่หลงกลกรู) สุดยอดทุกคนเลยยย"
แล้วทำหน้าซึ้ง หลับตาพริ้มฟังเพลงตัวเองว่าร้องยังไง แฟนเพลงก็จะพร้อมใจร้องให้อย่างไม่สงสัยเลยครับว่า โดนเราหลอกใช้งานอยู่ และเมื่อร้องจบก็อย่าลืมยกนิ้วโป้งให้แล้วบอกว่า
เยี่ยมมากๆ เก่งทุกคนเลยที่ช่วยกันทำมาหากิน (รอดตายไปอีกเพลงตู) และพอเราร้องจบไปเพลงสองเพลง มันต้องมีการทักทายแฟนเพลงตามธรรมเนียม นักร้อง : ไงทุกคนสบายดีกันมั้ย แฟนเพลง : กรี๊ดดดดด.....ดดดด (ถ้ากรูป่วยจะหอบสังขารมาดูมรึงเรอะ เห็นกันอยู่ ถามมาได้) นักร้อง : เอ้า ขอมือหน่อย แฟนเพลง : กรี๊ดดด.....ดดดด (ไม่ให้ว้อย ให้ไปแล้วกรูจะเอามือที่ไหนเช็ดก้นล่ะ) อ้อ แล้วอย่าลืมแบ่งปันความรักให้แฟนๆ ด้วยคำพูดที่นักร้องต้องจำให้ขึ้นใจว่า รักทุกคนเลย พร้อมกับชูมือ ทำสัญลักษณ์ว่ารักช่วยอีกทาง แต่เอ๊ะ... เพลงที่เราจะร้องต่อไปเป็นเพลง.....ซวยแล้ว จำเนื้อไม่ได้อีกแล้วเรา ทำไงดี....อย่ารอช้ารีบพูดประกาศออกไปเลยว่า เพลงต่อไปนี้มันเป็นเพลงของทุกคน ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันร้องดังๆ เลยนะ (น่านๆ หลอกใช้งานคนดูอีกแล้ว)
เอ้า ช่วยกันตบมือด้วย อย่าเฉยๆ เอ้า เสียงอย่าหาย เสียงหายไปไหน ดังอีกๆ เอ้า แถวหน้าหลับไป 5 คนแล้ว ตื่นๆ อย่ามาทำขี้เซา ตบมือเดี๋ยวนี้เลย....
เอ้าๆ นักร้องหิวแล้ว มีใครช่วยวิ่งออกไปซื้อข้าวหมูกระเพราไข่ดาวให้หน่อย....เอ้าๆ....... ผมเข้าใจแล้วครับว่า ทำไมเค้าถึงเรียกบางคอนเสิร์ตว่า มหกรรมคอนเสิร์ต เพราะมันเป็นเวรกรรมของคนดู อุตส่าห์เสียตังค์ซื้อตั๋วไปแพงๆ หวังว่านั่งจะฟังเพลงแบบชิวๆ จนจบ ยังไม่วายโดนนักร้องใช้งานให้กรี๊ด ตบมือ ชูมือ ตีลังกา เต้นแร้งเต้นกาตะบี้ตะบัน จนไม่มีเวลาพัก นี่มันแค้นอะไรเรามาก่อนหรือเปล่าวะ สมชื่อที่ว่า มห(เวร)กรรม(ของคนดู)คอนเสิร์ต จริงๆ -สัมภาษณ์- เป็นนักร้องทั้งที มันต้องมีการออกรายการทั้งวิทยุ และโทรทัศน์ให้พิธีกรสัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปของนักร้องและการทำงาน และตัวนักร้องเองก็ต้องพยายามตอบ ให้ดูเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของอัลบั้มให้ได้มากที่สุด พิธีกร : พอใจแค่ไหนกับอัลบั้มของตัวเองชุดนี้ นักร้อง : อัลบั้มชุดนี้ถือว่าพอใจมากที่สุดเพราะมันเป็นอะไรที่ (มันเป็นอะไรก็บอกไปเลยสิ ทำไมต้องพูดมันเป็นอะไรที่ทุกที มันเป็นคำพูดที่เป็นโรคติดต่อในวงการบันเทิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว) เป็นตัวของตัวเองที่สุดทุ่มเทให้กับมันเต็มร้อย พิธีกร : ได้ข่าวว่าอัลบั้มชุดนี้ได้เข้าไปช่วยเค้าทำด้วย มีส่วนร่วมกับอัลบั้มชุดนี้ไงบ้าง นักร้อง : ก็มีช่วยพี่เค้าออกแบบเสื้อผ้า เพราะเราอยากใส่เสื้อผ้าที่ เป็นตัวเองที่สุด (ถ้าคุณเล่นดนตรีไม่เป็นเลย ทางออกที่ดีที่สุดคือการช่วยออกแบบเสื้อผ้าครับสร้างสรรค์มาก) แล้วก็ช่วยเสนอท่าเต้น เป็นท่ารำวงมาตรฐาน แต่พี่เค้าไม่เอาไม่รู้เพราะอะไร แล้วก็ช่วยทำตัวให้เป็นภาระคนอื่นเค้า เพราะจริงๆ ทำอะไรไม่เป็นเลยหน้าตาดีอย่างเดียว พิธีกร : จากข้อมูลที่เราแอบไปสืบมา เค้าบอกมาว่า กว่าที่จะก้าวเข้าสู้เส้นทางนักร้องได้ เพราะความสามารถของตัวเอง จริงๆ เลยใช่มั้ย นักร้อง : อุ๊ย....(ทำเสียงตกใจบวกกับสีหน้าประหลาดใจสุดๆ) รู้เรื่องนี้ได้ยังไง ผมไม่เคยบอกกับใครมาก่อนเลยนะเนี่ย โอ้ เซอร์ไพรส์มั่กๆ เลย เอาล่ะ นี่ถือเป็นที่แรกเลยนะที่ผมจะบอก คือวันนั้นผมไปเดินเหล่หญิงที่สยาม หลีหญิงอยู่นานจนปวดฉี่ เลยแว้บไปเข้าห้องน้ำ พอยิงกระต่ายเสร็จด้วยความรีบดันรูดซิปหนีบโดนน้องชายของตัวเองอย่างจัง ผมร้องจ๊ากกกก!!!...ลั่นห้องน้ำเลย บังเอิญมีพี่โปรดิวเซอร์จากค่ายเพลง เค้ายืนฉี่อยู่ซองข้างๆ พอดี เค้าได้ยินเสียงร้องโหยหวนที่ได้จังหวะจะโคนมาก เค้าเลยลองชวนให้มาลองเทสต์เสียงดู พอไปเทสต์เสียงแล้วตอนแรกๆ ผมร้องไม่ได้เลยเกร็ง ประหม่าไปหมดเสียงเพี้ยนมาก พี่เค้าเลยบอกว่าให้ลองจินตนาการถึง ตอนโดนซิปหนีบน้องชายดู แล้วร้องออกมากตามอารมณ์นั้น เลยลองหลับตานึกดู ผลออกมาร้องผ่านฉลุย ก็เลยมีวันนี้ในที่สุด พิธีกร : โอ้โห สุดยอดจริงๆ แสดงให้เห็นว่าคุณมีพรสรรค์ทางด้านการร้องอย่างมาก นักร้อง : ทีแรกก็ไม่รู้ตัวเองว่ามีพรสวรรค์ทางนี้ จะรู้ก็แค่ว่าอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่ยังเป็นตัวอสุจิอยู่เลย ปกติเวลาอยู่บ้านจะแหกปากร้องเพลงทั้งวัน คนแถวบ้านก็ชื่นชอบกัน เพราะสังเกตได้จากของฝากจากเพื่อนบ้านจะมีรองเท้ามั่ง มีขวดมั่ง แจกันดอกไม้มั่ง ปามาให้เสมอไม่ขาดสาย ตอนนี้ที่บ้านมีรองเท้าหลายคู่แล้ว ฝากบอกเพื่อนบ้านที่ชื่นชอบด้วยว่าเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นมั่งก็ได้ ถ้าเป็นเปลือกทุเรียนขอติดเนื้อมาซักพลู สองพลูด้วยก็ดี ชอบๆ พิธีกร: เห็นยามที่เฝ้าหน้าห้องอัดกะดึกเค้าบอกว่า คุณทุ่มเทกับอัลบั้มชุดนี้มากถึงขนาด ดึกดื่นก็ไม่ยอมกลับบ้าน ขอนอนในห้องอัดจนถึงเช้าเลย นักร้อง: ครับใช่ คือผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วต้องเต็มที่กับมันครับ เราอยากให้เพลงออกมาดี เพราะแฟนๆ ที่รอฟังอยู่จะได้ไม่ผิดหวัง และเมื่องานมันยังออกมาไม่ดี ผมก็ไม่อยากกลับบ้านอยากทำ อยากร้องอยู่ตรงนั้นทั้งคืนแหละครับ (จริงๆ น่ะ หนีไปเที่ยวเธคกับโปรดิวเซอร์ตั้งแต่เย็นแล้ว พอเมาแอ๋กลับบ้านไม่ถูก ไม่รู้จะไปไหนดี เลยต้องโผล่มานอนที่ห้องอัดเนี่ยแหละ) พิธีกร : ขอถามถึงแนวเพลงในอัลบั้มนี้หน่อยว่า เป็นเพลงแนวไหน นักร้อง : ก็จะเป็นเพลงแนว ป็อปแด๊นซ์ ครับ จังหวะเพลงก็จะหลากหลายมาก เพราะเราอยากได้แบบวาไรตี้เพื่อที่จะได้ไม่น่าเบื่อ จำเจ อยากจะแด๊นซ์จังหวะเร็วๆ ก็มี จะเอาหนักๆ หน่อยก็จัดให้ แต่เราไม่เน้นหนักหน่วงอะไรมากมาย เพราะผมอยากให้คนฟังทุกคน ได้ฟังไปโยกไปหนุกหนานครับ ส่วนคนที่ชอบเพลงช้าก็มีให้ฟังกัน รับรองได้เลยว่า ซึ้งกันใจไม่ผิดหวังแน่ครับ (คือประมาณว่า ทำเพลงมาดักทางไว้แล้ว พี่แกกะขายคนฟังทุกกลุ่มเลย ชอบเพลงเร็วก็ต้องซื้อนะ หรือใครชอบเพลงช้าก็ต้องซื้ออีกนั้นแหละ หรือใครที่ไม่ชอบ ไม่สนใจเลย ก็ซื้อเหอะ น้าๆ ถ้าไม่อยากฟัง ซื้อซีดีเอาไปผูกไว้ที่หางช้างก็ได้อย่างน้อยก็ยังดีใจ ที่แผ่นเพลงเรายังเป็นประโยชน์) พิธีกร : โอโห ช่างเป็นคนที่มากความสามารถจริงๆ ร้องเพลงได้ทุกแนวเลย สุดยอด (เว่อร์จริงๆ พิธีกรเนี่ย) แล้วทำไมต้องเป็นแนว ป๊อปแด๊นซ์ด้วยล่ะ นักร้อง : คือ ผมเป็นคนชอบเพลงแนวป๊อปแด๊นซ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รู้สึกว่า มันเป็นอะไรที่....เอ่อ.....ประมาณว่า......อ่า.....เป็นตัวของตัวเอง ที่สุด เพราะตอนเด็กสมัยนั้นผมอยู่กับแม่ที่แอล เอ พี่สาวก็จะชอบเปิดเพลงของนักร้องที่นั่นแล้วก็ชอบร้อง เต้นตาม ผมได้ยิน ได้เห็นอยู่ทุกวันก็เลยซึมซับมา คำตอบเรื่องแนวเพลงเนี่ย ผมได้ยินจากนักร้องบ้านเราซะเอียนแล้วครับ ลองสังเกตกันดูสิ พอตอนออกอัลบั้มแรกมา แนวแด๊นซ์ๆ มันๆ ก็บอกว่า เป็นตัวของตัวเองที่สุดชอบเต้น ชอบแด๊นซ์เป็นชีวิตจิตใจ พอออกชุดที่ 2 มา แล้วเจ๊ง ขายไม่ออกเหมือนก่อน ก็ต้องหนีไปทำเพลงแนวอื่นแทนละ พอชุดที่ 3 พี่แกเล่นหนีไปออกแนวลูกทุ่งนั่นเลยครับ ร้องเพลงช้าออดอ้อนซึ้งซ้ามะมีอะ หวังจะมาเข้าหาแม่ยกละ แล้วก็บอกเหมือนเดิมครับว่า ชุดนี้มันเป็นอะไรที่ เป็นตัวตนจริงๆ เลยนะ เพราะปกติแล้วชอบฟังเพลงลูกทุ่งมากกกก....กกก เพราะผมเองก็เป็นเด็กต่างจังหวัด (อ้าวไหนบอกอยู่ แอล เอ กับแม่ไง) เวลาที่ครอบครัวเราอยู่บ้านกัน คุณพ่อที่เป็นกำนัน เค้าก็จะชอบเปิดเพลงลูกทุ่งฟังกัน ก็ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แหละครับ จนความเป็นลูกทุ่งมันซึบซับเข้าไปอยู่ในหัวใจแล้ว ตกลงตัวตนที่แท้จริงของคุณพี่นี่ จะแด๊นซ์หรือจะเซิ้ง กันแน่อะครับ ผมเห็นตัวตนของพี่เปลี่ยนไปเรื่อยเลย และแล้วก็ต้องมีช่วงเซอร์ไพรส์ (อีกแล้ว) ที่ทางรายการสาระแนไปสืบมาแล้วเอามาแฉออกรายการ และเป็นประเพณี ที่แขกรับเชิญต้องแกล้งทำ หน้าตาตื่นประหลาดใจให้สมใจพิธีกร พิธีกร : ทางทีมงานเราสืบทราบมาว่า ทุกครั้งก่อนขึ้นร้องเพลงบนเวทีคุณต้องแอบดมกางเกงในก่อนทุกครั้ง และทางเราก็ได้เอากางเกงในตัวนั้นมาด้วย เป็นกางเกงในขาบานด้วยครับใช่ตัวนี้หรือเปล่า นักร้อง : โอ้ย ตายละ รู้ได้ยังไงใครบอกมา แล้วเอามาได้ยังไงเนี่ยอุตส่าห์เก็บไว้อย่างดี อายจังเลย รายการนี้สุดยอดจริงๆ ทนไม่ไหวละ ไหนเอามาดมหน่อย ซื้ด... ฮ่า กลิ่นอโรมาเทอราพี่หอมชื่นใจ (ทั้งพิธีกรกับแขกรับเชิญบ้าจี้เพี้ยนพอกันครับ) -มิวสิควีดีโอ (MV)-
ถ้านักร้องหน้าตาดีจะได้เป็นพระเอกมิวสิควีดีโอเองเลย ก็เหนื่อยหน่อย ไหนจะร้องเองแล้วยังต้องเล่น MV เองอีก แต่ก็ไม่ต้องแสดงแอ๊คติ้งไรมากมาย แค่ยืนก้มหน้าไว้พอกล้องแพนมาหาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นทำหน้าเหมือนจะหล่อมองกล้องอย่างช้าๆ แค่เนี้ยพอ แล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายๆ ชุด มายืนเงยหน้ามองกล้องไปเรื่อยๆ จนจบเพลง เอาให้คอเคล็ดกันไปข้าง แต่ถ้าเป็นเพลงแนวอกหักรักคุดก็เหนื่อยหน่อยทำใจไว้ เตรียมตัวเปียกแบบไม่มีเหตุผลไว้ได้เลย เพราะอกหักทีไรฝนมันจะต้องตกซะทุกทีไม่รู้เป็นไร เราจะต้องวิ่งตากฝนเปียกปอนหรือไม่ก็ต้องอาบน้ำ ทั้งๆ ที่ยังใส่เสื้อผ้าอยู่ชัวร์ป๊าด ซวยสองเด้งอกหักแล้วยังเป็นหวัดอีก โคตรจะไม่คุ้มเลย เป็นบทเรียนให้รู้ว่าคราวหน้าถ้าใครจะอกหัก แล้วไม่อยากเปียก ช่วยโทรไปเช็คสภาพดินฟ้าอากาศกับกรมอุตุล่วงหน้าด้วย แต่ถ้านักร้องหน้าตาไม่ดีหมดสิทธ์เป็นพระเอก MV ครับ สมน้ำหน้า ไม่ได้กอดนางเอกได้แต่ยืนเกาพุงเกากีต้าร์ร้องประกอบมิวสิคไป ถือซะว่าเป็นข้อดีไปก็แล้วกันอย่างน้อยไม่ต้องวิ่งตากฝนต้องมาเสียเวลาเปลี่ยนกางเกงในอีก -สักการะแท่นพิมพ์- สุดท้ายแล้วครับที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ สำหรับอาชีพนักร้องหรือคนทำงาน ในวงการบันเทิง จะแจ๋วหรือจุกมันดูกันตรงนี้อย่าลืมนะครับ อย่าลืมไปสักการะแท่นพิมพ์ยักษ์ใหญ่เด็ดขาด ไปยืนยิ้มแป้นแล้นเอามือชี้แท่นพิมพ์แล้วให้เค้าถ่ายรูปไว้ประจานลงหนังสือพิมพ์ด้วย หา....... อะไรนะ ขี้เกียจไปไร้สาระหรอ อย่าทำเป็นเล่นไปเชียว เพราะขนาดนักร้องดังจากเมืองนอกเมืองนา จะมาเปิดคอนเสิร์ตที่บ้านเรา เค้ายังต้องมากราบไหว้ แท่นพิมพ์ยักษ์ของเราเลย (ออกแนวไหว้เจ้าที่เจ้าทาง) เห็นมะว่า ขนาดฝรั่งยังไม่กล้าลบหลู่เลยนะ ประหนึ่งว่าถ้าใครเข้าวงการมา แล้วใครไม่แวะไปเยี่ยมสักการะแท่นพิมพ์มีอันไม่รุ่งทุกคน ถ้ารู้อย่างนี้แล้วเวลาไปน่ะ ก็อย่าลืมเอาพวงมาลัยกับธูป เทียน ไปไหว้ด้วยล่ะ อ้อ เอาทองเปลวไปติดด้วยก็ดี นี่แหละครับกว่าจะเป็นนักร้องยอดนิยมทั้งที ต้องทำอะไรตั้งร้อยแปด..... จะว่าไปผมก็อยากเป็นนักร้องกับเค้าบ้างเหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ (แย่แล้วโรคมันเป็นอะไรที่ระบาดมาถึงตัวผมซะแล้ว ส่อแววจะดังซะแล้วเรา) ชอบประมาณนี้ เอ้า ครับผมรักทุกคนเลย สบายดีหรือเปล่า ขอมือ ขอขา ขอตังค์ ขอเสียงหน่อย ฮิ้ว..........
Create Date : 07 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2552 22:47:17 น. |
|
6 comments
|
Counter : 848 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:23:28:36 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:14:20:31 น. |
|
|
|
โดย: roslita วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:12:29:21 น. |
|
|
|
โดย: oRanGIsM วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:17:50:15 น. |
|
|
|
โดย: kitasornciao (kitasornciao ) วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:4:15:34 น. |
|
|
|
โดย: ウルトラマン IP: 58.9.44.96 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:0:33:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
แถมรอยยิ้มเพิ่มด้วย ต้นฉบับ อาร์ตตัวแม่
คลิกที่ภาพก็จะทะลุมิติไปคลังพี่โน้ตเยย 555+
">
โจจัง