Group Blog
 
 
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
วิสาขฯ เราสามคน

หนูอายุ 12 สัปดาห์กับ 5 วัน  ถึงวันวิสาขบูชาแรก ที่เรามีกันและกันครบสาม

ช่วงเช้าเราไปบ้านปทุม พาคุณยายของหนูไปทานข้าว 
ตอนแรกพ่อกับแม่ตัังใจจะไปปล่อยปลาที่ตลาดปทุม  พาพี่ปลาออกจากแผงคาวเลือด เอาไปว่ายน้ำที่วัดบางโพธิ์ที่สงบ เย็น ร่มรื่น น่าจะเป็นบ้านที่ปลาทุกตัวอยู่ได้อย่างมีความสุขจนหมดอายุขัย แล้วไปเวียนเทียนรอบเจดีย์วัดหงษ์ วัดเล็กๆ ที่มีสะพานปลายาวๆ มีบรรยากาศชาวมอญ มีเสียงเด็กหัดเล่นดนตรีไทยเหง่งหง่าง

แต่แดดร้อนมาก  พ่อกลัวแม่จะเหนื่อยมากไป  กลัวพื้นลื่น ไหนจะพื้นตลาด พื้นวัดอีก 
กลัวตอนเดินลงบันไดเปียกน้ำ  ถนนแถบนั้นบางช่วงก็ไม่เรียบ คิดไปคิดมาพ่อว่าไม่พาไปดีกว่า

พ่อว่าทำบุญเมื่อไหร่ก็ทำได้  ตอนนี้เรามีหน้าที่สำคัญที่ต้องระวังตัวมากกว่า  
พ่อบอกว่าเราต้องไม่ยึดติดกับรูปแบบพิธีกรรมนะ ต้องแยกแยะให้ออก
กุศล บารมีอะไรก็ตามอยู่ในใจเรา  บ้านเรานี่แหละปฏิบัติธรรมสร้างกุศลได้ดีที่สุด

ตอนอยู่บ้านยายแม่เพลียมาก ง่วงจนมึน หลับก็ไม่สบาย พ่อเลยรีบพากลับบ้านมานอน
แต่พอกลับมาถึงบ้านเรา  ได้นั่งพักสักแป๊บ อยู่ๆ แบตในตัวแม่ก็ชาร์จเต็มอีกครั้ง
แม่บอกพ่อว่า อยากพาลูกไปเวียนเทียนจริงๆ 

ตอนนี้เป็นปลายของไตรมาสแรก แม่จะอาการน้อยสุด
กว่างานบุญเวียนมาอีก ตอนนั้นแม่ท้องแก่กว่านี้คงมาไม่ไหว
และที่สำคัญ ตอนที่หนูเกิดแล้ว พ่อกับแม่ไม่มีทางพาหนูมาที่คนแยะควันเยอะแบบนั้นเด็ดขาด  
กว่าหนูจะมาได้ก็อย่างน้อยต้องวิ่งเก่ง ตัวโตๆ แล้ว ไม่มีปัญหากับควันธูปแล้ว ซึ่งนั่นอีกเป็นปีๆ เชียว

พ่อถามซ้ำไปมาสักสามสี่รอบ  นั่งจ้องหน้าแม่จนแน่ใจว่าแม่ไม่เหนื่อยจริงๆ และอยากไปจริงๆ พ่อก็ตกลง ขับรถพาแม่ไปวัดอารามหลวงใกล้บ้านเรา

วัดนี้เป็นวัดใหญ่  พอมีงานบุญแบบนี้รถจะติดมาก   
จากตอนที่จะออกจากบ้านฟ้ายังสว่าง  แต่กว่าจะคืบๆ ขยับจนจอดก็กลายเป็นชั่วโมง ฟ้ามืดพอดี 
แม่สงสารพ่อมากที่ต้องมาขับรถแบบขยับทีละนิดๆ ฝ่าฝูงชนเยอะแยะขนาดนี้  แม่นั่งลูบแขนพ่อ นึกในใจว่าไม่น่าชวนพ่อมาลำบากเลย พ่อบอกไม่เหนื่อยเลย สบายมาก ห่วงแต่แม่ละจะเมื่อยจะหิวมั้ย

นี่คือการแสดงความรักของบ้านเรานะลูก  
บ้านเราไม่พูดคำหวานๆ  บ้านเราไม่ได้บอกรัก บอกคิดถึงกันบ่อยๆ 
แต่ฝ่ายนึงจะห่วงอีกฝ่ายนึง ห่วงใจ ห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายมากกว่าตัวเองเสมอๆ 

ที่วัดคนเยอะมาก พ่อเดินแบบเอาตัวติดหลังแม่ กางแขนออกกันคนมาชนแม่ด้านข้าง  
ถ้ามีอะไรต้องเดินขึ้นลง step พ่อจะคอยร้องบอก และยื่นแขนมาข้างหน้าให้แม่เกาะ  

พ่อบอกว่าอยากพาลูกมาถวายสังฆทานก่อน   
เรากราบพระ สวดมนต์ ถวายสังฆทานเวียน กรวดน้ำ แล้วพ่อก็ไปรดน้้ำที่ต้นไม้ใหญ่

หนูรู้จักสังฆทานเวียนมั้ยจ้ะ

สังฆทานคือการถวายของให้พระสงฆ์แบบไม่ระบุองค์  ถวายให้หมู่สงฆ์หมู่มาก โดยไม่ยึดติด

ปรกติทั่วไปเค้าก็ซื้อกระป๋องสังฆทานเหลืองๆ ที่จัดสำเร็จไปถวาย กระป๋องละ 300-600 ประมาณนั้น ส่วนใหญ่ของไม่ค่อยดีหรอกลูก พ่อค้าก็อยากได้กำไรมาก แถมคนซื้อก็ไม่ได้ใช้ พระที่รับไปแล้วจะมาบอกโยมก็ไม่ได้  ของกระป๋องละหลายร้อย  เลยใช้ประโยชน์จริงได้นิดเดียว

ถ้าบ้านเราทำสังฆทานถวายวัดป่าที่เราไปกันประจำ เราจะเลือกของดีๆ ในซุเปอร์เองทีละชิ้น เลือกของที่ดีกว่าหรืออย่างน้อยดีเท่าๆ กับที่เราใช้อยู่ทุกวัน

อย่างวัดหลวงนี่คนถวายเยอะจนเหลือ  เลยเกิดพิธีกรรมสังฆทานเวียนแทน  คือ วัดเตรียมของเป็นแพคๆ ไว้  เราหยิบยืมมาอธิษฐาน  ให้ได้ความรู้สึกและเป็นบุญยกิริยาวัตถุว่าเราได้น้อมถวายของพระภิกษุแล้ว เราวางคืนคนอื่นก็ได้ใช้ต่อเวียนกันไปเรื่อย  จบพิธีเราเอาปัจจัยเท่าที่อยากทำบุญใส่กระป๋องให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่วัดต้องการใช้จริง 

กล่องรับปัจจัยมีให้เลือกหลายแบบ  วัดใหญ่ ค่าใช้จ่ายก็มากตามตัว
วัดใหญ่ๆ นี่  ไม่ได้อยากได้กระป๋องซักผ้า  ไม่อยากได้ยาสีฟัน แปรงสีฟันเยอะแยะแล้ว

พ่อแม่เลือกทำบุญเกี่ยวกับ ทุนการศึกษาของพระเณร  และกองทุนผ่าตัดเด็กพิการ
ปัจจัยหลักร้อยของเราสองคน ได้มีส่วนร่วมในกองทุนให้พระเณรได้เล่าเรียน เด็กพิการได้รับการรักษา  แค่นี้่เราก็อิ่มใจแล้ว  เป็นการบริหารจัดการของวัดที่ดีกว่าเราเสียสตางค์ซื้อกระป๋องบรรจุยาสีฟันแปรงสีฟันเป็นไหนๆ   

ขอให้บุญกุศลปกปักษ์รักษาลูก 
ขอให้ลูกปฏิสนธิสมบูรณ์ แข็งแรง มีสติปัญญาพร้อมแก่การเรียนรู้ด้วยเถิด  

ลูกอาจถามว่า พ่อแม่ทำบุญแบบนั้นแล้วส่งผลให้ผมจริงหรือเปล่าคับ
แม่จะตอบลูกว่า  การทำบุญใดๆ ไม่ต้องรอพิสูจน์ที่ไหน  ดูที่ใจเราแค่นั้นพอ ว่ามีความสุข อิ่มใจ เย็น เบิกบานหรือเปล่า  พ่อกับแม่มี เพราะฉะนั้นสิ่งนั้น บุญนั้นเกิดขึ้นในใจเราสองคนแล้ว พ่อแม่ทำบุญและได้บุญนั้นไปเรียบร้อยแล้ว  แม่มีความสุข สารแห่งความสุขจะหล่อเลี้ยงโอบไปถึงลูกด้วยแน่นอน

การอธิษฐานใดๆ เป็นการตั้งเข็มทิศเพื่อให้นาวาชีวิตหันเหตาม
คำอธิษฐานนั้น เรานั่นแหละเป็นผู้ได้ยินเป็นคนแรก

พ่อกับแม่อธิษฐานให้ลูกแข็งแรง  
ไม่เคยอธิษฐานให้ลูกร่ำรวยเงินทอง หรือมีชื่อเสียง

การเลี้ยงดูลูกของเรา ก็จะมุ่งพุ่งเป้าที่ทำให้ลูกแข็งแรง มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี  เลี้ยงดูให้เจ้ามีสติปัญญา รักการเรียนรู้  รู้จักคิด รู้จักไตร่ตรอง รู้จักหน้าที่มีความรับผิดชอบ  นั้นเป็นเข็มทิศของครอบครัวเรา   

ส่วนการช่วยเด็กพิการ  เพราะเราเข้าใจความรู้สึกคนเป็นพ่อแม่ดี เราสงสาร อยากมีส่วนร่วมช่วยผ่าตัดรักษาให้เด็กหายดี  และเราจะหล่อหลอมปลูกฝังให้ลูกเรารู้จักสงสาร เห็นใจ และอยากเสียสละทรัพย์เพื่อช่วยคนอื่นที่ลำบากด้วยเช่นกัน

คนบางกลุ่มไม่ชอบสังฆทานเวียนนี่มากๆ จนไม่อยากเข้าวัดมาทำบุญ  
บางคนเล่าว่า แค่เห็นก็รำคาญและเสียความรู้สึกไปแล้ว  บางคนเอามาเป็นเรื่องโจ๊กล้อเลียน

แต่พ่อกับแม่ชอบ เราเข้าใจทั้งพระ วัด  ญาติโยม การบริหารทรัพยากร พ่อค้ากระป๋องสังฆทาน 
และเราก็เข้าใจคนที่ไม่ชอบด้วยเช่นกัน  ความเข้าใจช่วยให้เราไม่ต้องหงุดหงิดกับฝ่ายไหนเลย

เมื่อไรลูกต้องหงุดหงิดกับอะไรซักอย่าง
ย้อนกลับมาถามตัวเองนะลูก  ว่ามีอะไรที่ยังไม่เข้าใจหรือเปล่า
เอาความคิดของตัวเป็นศูนย์กลางการตัดสิน ชี้ผิดถูกเขามากไปหรือเปล่า



เราค่อยๆ เดินช้าๆ  ขึ้นพระเจดีย์ไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ  สวดมนต์ทำวัตรเย็นกัน
พ่อพกหนังสือธัมมจักกัปปวัตตนสูตรมาสวดต่อ บทสวดนี้พ่อชอบมาก พ่อสวดบ่อยๆ บอกว่าสวดให้ลูกฟัง  ส่วนแม่ไม่ไหวหลับไปก่อนแล้วทุกที 

สวดมนต์เสร็จเราก็เดินเวียนเทียนกัน
ปรกติ ชาวพุทธจะถือดอกไม้  จุดธูปเทียนในมือ แล้วเวียนรอบสามรอบ  

รอบนี้พ่อบอกแม่ว่า เราอย่ามากังวลถือธูปเทียน แล้วต้องคอยพะวงถึงน้ำตาเทียน กับควันธูปเลยนะ  
ใจที่สงบ เป็นสมาธิ เป็นสิ่งที่ใช้บูชาระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยได้ดีที่สุดมากกว่า  

พ่อแม่เดินพนมมือเปล่าสักพัก  ก็วางมือลง ประสานมือเหมือนเดินจงกรมแทน  
พ่อสวดอิติปิโสไปเรื่อย  ส่วนแม่บริกรรมพุทโธ ธัมโม สังโฆ ตามรอบจนครบองค์สาม

แม่เคยเวียนเทียนมาหลายต่อหลายรอบ  
บางครั้งก็อิ่มใจ มีกำลังสมาธิมากๆ จนเกิดปิติ บางครั้งรู้สึกแบบปัญญาขยับ เกิดพิจารณาธรรมบางข้อได้ก็เคยมี   บางครั้งก็โกรธคนที่เดินไม่ระวังเอาธูปมาโดนแม่  บางครั้งก็นึกไม่ชอบคนเดินคุยโทรศัพท์ เดินช้าๆ จนรบกวน หรือพวกสาวน้อยนุ่งสั้น   หรือคนเอาเด็กมาแล้วไม่ระวังดูเด็ก ปล่อยเด็กถือของร้อนฉวัดเฉวียน  บางครั้งก็พะวงว่าลมพัดเทียนดับ อยากขอต่อคนอื่นอยู่นั่น

แต่ครั้งนี้  ครั้งที่แม่พาลูกมาเดินอยู่ด้วยกัน
แม่รู้สึกใจสงบ เป็นสมาธิ  สามารถรวบรวมกำลังสติอยู่กับพุทโธ ธัมโม สังโฆได้ครบรอบ

ทุกลานเวียนเทียนมีสิ่งรบกวนเหมือนๆ กันไปหมด
ยิ่งอารามหลวงแบบนี้  มีเสียงจากลำโพงดังๆ เป่าประกาศให้ร่วมบุญนั้นบุญนี้มากมาย

แต่นั่นคือ  "สิ่งภายนอก"
ถ้ากำลังของเราเข้มแข็งจริง เราจะตัด คัดกรอง เลือกรับสิ่งกระทบได้  
เหมือน   "ได้ยิน" แต่ "ไม่เอา"  และ  "ไม่ได้สนใจ"

แม่เดินลงจากเจดีย์สูง รู้สึกอิ่มใจและมีความสุขมาก มากเกือบเหมือนเวลาได้ไปปฏิบัติธรรมไกลๆ
มือที่เหลือจากการเกาะแขนพ่อ  แม่ใช้ลูบท้องส่งความสุขและสบายใจให้ลูกรับรู้ด้วย

เราขับรถออกมากินข้าวต้มใบเตย  ร้านนี้อร่อยจังเลย แม่ชอบมาก ไว้จะพาลูกมาชิมนะ

แม่คิดว่าที่แม่สุขมากๆ วันนี้ได้  จากความสงบภายใน
แม่จะพาลูกมาด้วยทันทีที่ลูกโตพอ  ไม่ใช่เพราะอยากให้ลูกสัมผัสความสงบภายในได้ เพราะประสบการณ์ภายในเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อยากให้เกิดไม่ได้  และถ่ายทอดกันไม่ได้ 

ใครทำใครรู้   เหมือนใครทานใครอิ่ม

แต่แม่จะพาลูกมา  เพราะแม่รู้สึกว่าเป็นวัฒนธรรมที่น่ารัก เป็นธรรมเนียมที่น่ารักน่าเอ็นดู

ผู้คนมากมาย หนุ่มสาวเด็กเล็กคนแก่ทุกวัยที่มาวันนี้ มาร่วมกันทำบุญเวียนเทียนด้วยกัน 
ที่ผ่านมาแม่อาจเคยรำคาญเค้า  แต่วันนี้แม่รู้สึกทุกคนน่าเอ็นดูที่พยายามรักษาวัฒนธรรม หรือ วิถีความเชื่อชาวพุทธที่อยากได้บุญวันนี้หรืออะไรก็ตามแต่   ทุกคนที่ลำบากเดินทางมาก็ล้วนร่วมกันสร้างความทรงจำวันวิสาขบูชาให้เรา   งานนี้ถ้าไม่มีหนุ่มสาวเลย  ไม่มีเด็กเล็กเลย ไม่มีคนเสียงดังเลย ไม่มีใครพกมือถือมาเลย  ก็คงแปลกๆ ไปมาก   ลูกว่าจริงมั้ย





แม่คิดถึงเฟซบุคของเพื่อนมัธยมคนนึง
เพื่อนของแม่เป็นสาวเก๋ไก๋ ชิคๆ คูลๆ 

น้าสุดคูลคนนี้  มีป้าเป็นมะเร็ง และอยากให้พาไปทำบุญ
น้าคูลพาป้าไปวัดอารามหลวงชื่อดัง  ปรากฎสิ่งที่เจอ เหมือนเป็นพุทธพาณิชย์ไปซะหมด  คนเยอะ เสียงดัง  ห่างไกลความสงบ มีลำโพงบอกบุญ  กระป๋องทำบุญสารพัดกระจายทุกที่  มีรูปแบบพิธีการทำบุญสารพัด เดาว่าคงมีสังฆทานเวียนด้วย

เพื่อนสุดคูลชักไม่คูลแล้ว แถมต้องรับหน้าที่บริการคุณป้า  คอยรับเงินคุณป้าไปเบียดๆ มุดๆ เอาใส่กล่องทำบุญตามแต่ที่ป้าจะเลือก 

ตอนที่น้าคูลเหนื่อย หงิก และอยากกลับบ้านเต็มแก่นั่น  ก็หันมาเห็นคุณป้าหน้าแจ่มใส  ผ่อง ดูสวยสุขสว่่าง ทั้งๆ ที่กำลังป่วย แถมพื้นเดิมเป็นคนขี้หงุดหงิดคิดนั่นนู่น  

น้าคูลคิดได้ว่าตอนนั้น  ป้าได้บุญเต็มๆ  แต่หลานคูลที่ปกติสุดคูลกลับได้กรรมไปเต็มๆ 
อยู่ด้วยกัน สถานะเดียวกัน  แต่ภพภูมิของใจตอนนั้นต่างกันลิบ

น้าคุลน่ารักตรงที่คิดอะไรดีๆ  มีมุมมองน่าสนใจ ก็เอามาเล่าแชร์กันในเฟซบุค
แม่อ่านเจอนานแล้วก็ยังติดใจ จำได้ดี  อยากเอามาเล่าสอนลูกแม่ด้วย



ต่อไปในชีวิต ลูกจะเจอคนหลากหลายรูปแบบ

คนชอบทำบุญมากๆ ก็มี   คนชอบพิธีกรรมมากๆ ก็มี   คนรักสันโดษมากๆ ไม่ชอบพิธีกรรมก็มี
คนชอบเรียนอภิธรรม ชอบใช้ศัพย์แสงเพราะๆ ชอบว่าพวกคนปฏิบัติไม่ยอมหาหลักในตำราก็มี  
คนชอบปฏิบัติฝึกจิตให้สงบ ไม่ชอบศึกษาพระอภิธรรม หรือว่าเขาเป็นตู้ใบลานเคลื่อนที่ก็มี
คนที่รู้สึกว่าการเข้าวัด ร่วมพิธีกรรม เป็นคนไม่เจ๋ง  ไม่มีเหตุผล โบราณ ไม่น่าทำตาม น่าเบื่อก็มี

หรือกว่าลูกจะโต  
อาจจะเคยผ่านขั้นตอนความรู้สึกทุกรูปแบบที่ว่ามาก็ยังได้
นั่นไม่เป็นไรว่าลูกจะรู้สึกยังไง

ความรู้สึกเป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้   ชอบคือชอบ ไม่ชอบคือไม่ชอบ  แม้แต่หงุดหงิดก็บังคับกันไม่ได้

แต่อยากให้ลูก "รู้ตัว"  ว่าความรู้สึกเหล่านั้นเกิด เกิดขึ้นมาแล้ว ความรู้สึกนั้น ส่งผลให้เกิดอะไร 
สิ่งทุกอย่างที่เกิด   แสดงตัวขึ้นมาให้เราได้เรียนรู้ทั้งนั้นนะลูก  

ครั้งหนึ่งลูกอาจจะรำคาญใจกับอะไรสักอย่าง
พอใจเราไม่ชอบ  ลูกอาจทำหน้าหงิก  ผลคือเหมือนลูกไม่ยิ้มให้โลก โลกก็ไม่ยิ้มให้หนู

หนูขยับเปลี่ยนความคิดบางอย่างได้  ลูก "รู้ตัว" ว่าความคิดเปลี่ยน  แล้วลูกค่อยศึกษาดูเถอะ 
โลกรอบตัวหนูมันก็เปลี่ยนไปตามวิธีที่หนูมอง  ผ่านแว่นตาที่หนูใส่อยู่หรือเปล่า

หนูโตขึ้น  แม่จะคอยถามว่าหนูคิดยังไง
แม่จะไม่สอนรูปแบบให้ลูกคิด  เพราะนั่นไม่ใช่การเรียนรู้  การเติบโตเป็นเรื่องส่วนตัวของหนู
แต่แม่จะตั้งคำถาม  จะเล่าเรื่อง  จะเล่าวิธีคิดของแม่ 

แล้วปล่อยให้สารพันสิ่ง ค่อยตกตะกอนในใจลูก ด้วยตัวเอง



Create Date : 14 มิถุนายน 2558
Last Update : 14 มิถุนายน 2558 16:27:40 น. 0 comments
Counter : 602 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พิมพการัง
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




. .
Friends' blogs
[Add พิมพการัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.