|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ลูกดื้อจัง ( ขวบครึ่ง ถึง สามขวบ )
ลูกใครดื๊อ ดื้อ บ้างเอ่ย
ท่านไหนมีน้องเล็กๆ ขวบนิดๆ ถึงราวๆ สามขวบเนี่ย ถ้าไม่ดื้อเลยสิคะแปลก
บ้านไหนๆ ก็บ่นว่าลูกดื้อกันทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะเป็นช่วงพัฒนาการปกติของวัยเขาค่ะ
บางคนเรียกว่า วัยต่อต้าน
เป็นวัยที่น้องเล็กๆ เขาเริ่มเรียนรู้เรื่องของตัวตน สิทธิ์ และขอบเขตอำนาจของตัวเอง และอำนาจของผู้ปกครองด้วยค่ะ
น้องๆ เขาจะดูวุ๊ยว้าย ไม่ยอม ดิ้นกับอะไรที่ไม่เคยเป็นปัญหากัน ไม่อยากกิน ไม่อยากแต่งตัว ไม่อยากแปรงฟัน ไม่ยอมนอน ไม่ยอมสารพัด
มักจะเห็นเด่นๆ ชัดๆ เป็นหลักปีกว่าๆ นะคะ แล้วจะค่อยๆ ลดลงไปเอง เป็นขั้นตอนธรรมชาติค่ะ
แล้วไม่ได้แปลว่าจะเป็นนิสัยถาวร ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นคุณหนูอารมณ์ร้ายเลยค่ะ
แล้วคุณพ่อคุณแม่ทำอย่างไรดี
แนะนำแบบนี้ค่ะ
1 คุณพ่อคุณแม่สบายใจก่อน ว่าเป็นเรื่องปรกติ
2 คุณพ่อคุณแม่อย่าเครียด อย่าคิดว่าเป็นบุคลิกถาวรของน้อง และอย่าตีตราลูกค่ะ
ไม่ค่อยอยากให้คุณแม่ระบุว่า ลูกเป็นเด็กดื้อ
เพราะเด็กๆ รักคุณพ่อคุณแม่มาก ถ้าคนที่เขารักตราหน้าว่าเขาเป็นเด็กดื้อ หรือเด็กโกหกแล้ว เขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กดื้อจริงๆ ดังนั้นเขาจะรู้สึกว่า ก็เขาเป็นเด็กดื้อนี่นา ดังนั้นทำตัวเป็นเด็กดื้ออีกหน่อยก็คงไม่แปลกค่ะ
และไม่อยากให้มีคำว่า ลูกไม่น่ารักเลย ไม่รักแล้วดีกว่า ทำตัวแบบนี้ แม่ไม่รักแล้ว พ่อก็ไม่รักด้วย
อย่าใช้คำว่ารัก เป็นการต่อรอง คาดโทษ เราไม่ได้อยากให้เขารู้สึกว่า เขาต้องฝืนใจทำเป็นเด็กดี เพื่อจะได้รักจากแม่มา ความรักไม่ใช่การซื้อขาย ไม่ต้อง เช็คบิล กันเป็นวันๆ
เราอยากให้น้องโตขึ้นแบบอบอุ่น มั่นคงทางจิตใจว่า ไม่ว่าอย่างไร บ้าน และอกพ่อแม่ยังเป็นที่ที่ปลอดภัย และพร้อมจะยืนอยู่ข้างเขาค่ะ
พูดแค่ว่า แม่ไม่ชอบของเล่นเต็มพื้นเลย ช่วยกันเก็บดีกว่า แม่ไม่ชอบฟันเปื้อนๆ เลย ไปแปรงฟันกันดีกว่า แม่ไม่ชอบเสียงกรี๊ดๆ เลย เจ็บคอแทน เล่นกระซิบๆ กันดีกว่า เรารักกัน เราไม่ต้องตีกันก็ได้นะลูก โอ๋ๆ รักนะๆๆ
แบบนี้ได้ผลกว่า อบอุ่นกว่ากันเยอะเลยค่ะ
3 เวลาลูกพูดว่า "ไม่"
ยังไม่ต้องดุว่าเขา เพราะเด็กจิ๋วๆ ยังไม่ถึงสามขวบ เข้าใจศัพท์ไม่เท่าเรา บางทีเขาอาจพูดไปตามความเคยชิน พูดเฉยๆ ไม่มีเหตุผล และใจเจ้าตัวเขาเองก็อาจจะไม่คิดอะไรอย่างที่พูดก็ไม่แปลกค่ะ
เช่นนะคะ
ลูกจ๋า กินข้าว น้องตอบ ไม่
คุณแม่ไม่ต้องเสียเวลา นั่งอธิบายว่าเราต้องกินข้าว ข้าวอร่อย และอะไรอีกมากมาย และไม่ต้องมานั่งดุด้วยว่าแม่อุตส่าห์ทำ น้องพูดว่าไม่ แม่ก็เสียใจเป็นนะคะ อะไรแบบนี้ ไม่ค่อยได้ผลหรอกค่ะ
คุณแม่ก็แค่จัดแจงอาหาร เอาของมาวาง ทำท่าสนุกสนาน หม่ำๆ ให้ดู ตักให้ชิมนิด แล้วที่เหลือให้เขากินเอง เลอะบ้างก็ช่างค่ะ ไม่แปลก
แต่โปรดทราบว่าน้องเล็กๆ ไวต่อท่าทีมากค่ะ เขาไม่ชอบท่าทีที่รุกเร้า บีบบังคับ หรือคาดโทษ เขาจะรูสึกอึดอัดไม่สบายใจ และมีแนวโน้มอยากหนีออก มากกว่าจะอยากร่วมมือ
คุณแม่ทำท่าทางสบายๆ ผ่อนคลาย เห็นเป็นเรื่องขำๆ
พูดกับเขา ระวังน้ำเสียงนิดนึงค่ะ เพราะเด็กเล้กๆ ไวต่อน้ำเสียงมากด้วยเช่นกัน
4 ให้ลูกมีโอกาสเลือก แทนที่จะเลือกกิน หรือไม่กิน
เอามาให้เลือกว่าจะเอา ไก่ หรือไส้กรอก แบบนี้ค่ะ
หรือ
เอากระโปรงสีแดง หรือสีฟ้า อาบน้ำในอ่างกับพี่เป็ด หรือเต่า นอนกับพี่ผ้าห่มสีฟ้า หรือกับหมอนข้างดี
เพราะเขากำลังพัฒนาความเป็นตัวตน
ระหว่างเขาต้องทำตามสิ่งที่คุณแม่สั่ง กับเขาเลือกเอง เขาย่อมอยากเลือกเอง หรืออย่างน้อยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเองบ้างค่ะ
ถ้าเขายังไม่ย๊อม ไม่ยอม
ให้เขาเลือกว่า ลูกจะถือช้อนเอง หรือให้แม่ถือ หรือ จะให้แม่อาบน้ำให้ หรือให้ยายอาบ
5 อย่าสร้างทางเลือก ที่จริงๆ เขาไม่มีทางเลือกนะคะ
เช่น ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฝนตกแล้ว น้องต้องเข้าบ้านแน่ๆ หรือจะนั่งรถเที่ยว ยังไงๆ เขาก็ไม่ควรได้นั่งตักคุณพ่อที่ขับรถอยู่
อะไรที่เกี่ยวกับความปลอดภัย น้องไม่มีสิทธิ์เลือก
อย่างมากถ้าเขาร้องไห้
ให้เขาเลือกว่า เข้าบ้านแล้วจะเล่นบอล หรือเล่นบล๊อกไม้ หรือ นั่งในคาร์ซีท จะเอาตุ๊กตากบ หรือตุ๊กตาหมีไว้กอดดี
6 ให้เวลาลูกค่ะ
ให้เวลา เพื่อให้เขาเต็มใจร่วมมือเปลี่ยนจากกิจกรรมนึงไปอีกกิจกรรมนึง
เช่น แทนที่จะอุ้มน้องที่เล่นของเล่นอยู่ไปอาบน้ำเลยเนี่ย
ก็ต้องจัดแจงข้าวของ เอาผ้าขนหนู แชมพูให้เขาดู ว่าเดี๋ยวเราจะอาบน้ำกันน๊า นี่คุณแม่เตรียมผ้าหอมๆ ชุดใหม่สะอาดๆ น้ำอุ่นๆ นะ สบ๊าย สบาย เดี๋ยวอีกแป๊บเรามาเล่นน้ำกันดีกว่า
จนเขาสนใจ ละจากของเล่น แล้วเริ่มหันมามองตาม เริ่มเดินเตาะแตะมาเกาะประตูห้องน้ำแล้วว่าคุณแม่ทำอะไร
ยิ่งถ้าเขามานั่งยองๆ เอามือตีน้ำแปะๆ ด้วยยิ่งแปลว่าเขาพร้อมแล้วค่ะ
อย่าขัดจังหวะตอนลูกเพลินๆ กับสิ่งนึง แล้วจับไปทำอีกสิ่งนึงเลยทันทีค่ะ ร้องแน่ๆ โกรธแน่ๆ ค่ะแบบนี้
เวลาในการเปลี่ยนความสนใจ อาจเป็นหลักนาที ถึงห้านาทีสบายๆ เลยค่ะ แต่ไม่ใช่เป็นชั่วโมง ครึ่งชั่วโมงนะคะ อันนั้นนานไปค่ะ
7 ตัดกฎหยุบหยิม ที่ตามวัยเขาไม่เข้าใจแน่ๆ ออกค่ะ
เช่น มารยาทบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็กทารก พวก อย่าวางข้อศอกบนโตะ ให้เคี้ยวหุบปาก อย่าพูดตอนมีอาหารอะไรแบบนี้ ถ้าเค้ายังจิ๋วๆ ขวบสองขวบ แบบนี้ ห้ามสอนค่ะ
ทำให้เขางงว่าดุเขาทำไมมากกว่า
อีกอย่างก็คือ เวลาเลี้ยงลูกกับห้องโถงบ้าน ที่มีอะไรให้น่ารู้ น่ารื้อเต็มไปหมดเนี่ย
ลูกก็ต้องอยากเดินไปรื้อตรงนั้น เอาอันนี้เข้าปากแน่ๆ
ถ้ามีผู้ใหญ่เดินห้ามอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้ก็น่าโมโหค่ะ
คุณแม่จัดห้อง กับหาของเล่นที่เป็นของเขา แล้วอนุญาตให้เขาเล่นเต็มที่ เขาอยากทำอะไร จะเขวี้ยง จะปา จะบิด นานๆ ทีอยากเอาเข้าปากก็ยังได้ ยังจะดีกว่าตั้งเยอะ
ส่วนตัวแล้วชอบแนะนำให้เลี้ยงลูกในห้องนอนเล็ก ถ้าลงมาห้องโถง คุณแม่ก็รีบๆ ทำงานบ้านเข้า แล้วอุ้มลูกไปเลี้ยงกันห้องนอนเล็ก ปล่อยเขาเล่นไปตามสบาย จะเขวี้ยงของอะไรก็ได้ ปล่อยเขาเรียนรู้ของเขาไป คุณแม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยเก็บอะไรทั้งวัน มีโต๊ะสูงๆ เอาไว้ แล้วคุณแม่อุ้มงานบ้านที่ทำบนโต๊ะได้ อย่างพับผ้า เด็ดผัก ทำงาน อ่านหนังสือ อะไรแบบนี้เอามาทำบนโต๊ะ ตาก็ชำเลืองลูกนิดๆ หน่อยๆ พอ
ปลอดภัยกว่าด้วย สุขใจกว่า และไม่เหนื่อยแรงเรามากด้วยค่ะ
เดินตาม ห้ามเขาตลอด นั่นก็ดึงออกจากมือ นี่ก็ดุลูก โอ๊ย อย่างนี้เหนื่อยกันทั้งแม่ลูกแน่ๆ ค่ะ
8 คุณแม่อย่าดุ "ไม่" "หยุดนะ" "ปล่อยมือ" ไปเรื่อยทั้งวัน
ถ้าเราพูดไปเรือ่ยๆ ทั้งวัน นั่นก็ห้าม นี่ก็ห้าม ห้ามแล้วก็ไม่ได้ห้ามจริง แถมบางวันห้าม บางวันไม่ห้ามเนี่ย
ลูกจะเรียนรู้ว่า คำของคุณแม่ คุณแม่พูดลอยๆ ทำตามก็ได้ ไม่สนใจก็ได้ค่ะ
เหตุผลสั้นๆ ที่เด็กเข้าใจตามได้จริง และความสม่ำเสมอ มีผลมากๆ นะคะ อย่าบางวันห้าม บางวันไม่ห้ามนี่ ไม่ได้เลยนะคะ
9 อย่าปล่อยให้เขาโกรธน้อยๆ แล้วระเบิดขึ้นๆๆๆ จนถึงทนไม่ไหวกรี๊ดๆๆๆ แล้ว
มาปลอบ หรือดุกันทีหลังไม่ได้ผลแล้วค่ะ เด็กๆ เค้าจะเริ่มแสดงอาการจากน้อยๆ แล้วค่อยกรี๊ดทั้งนั้นแหละ
เวลาเขาขออะไรที่คุณแม่ไม่อนุญาตให้เล่น ไม่ใช่ทำหูทวนลม คิดว่าน้องเล็กๆ จะหยุดเอง เพราะเขามีแนวโน้มจะกรี๊ดมากขึ้น และเรียนรู้ว่าต้องกรี๊ดเท่านั้นถึงจะได้ของ
ถ้าเขาขอเล่นกรรไกร ให้คุณแม่ส่งของอื่นที่ไม่อันตรายให้ลูกเล่นแทน ไม่ใช่ดุเขา และไม่ใช่ทำเป็นไม่ได้ยินจนเขากรี๊ดแล้วค่อยดุเขานะคะ
หลักการคือเบี่ยงเบนความสนใจค่ะ
ตอบสนองเขา บางทีอาจเป็นแค่การลูบๆ หัว ลูบหลัง กอด ร้องเพลงกล่อม พาไปล้างหน้า ให้ตีน้ำเล่นได้หน่อยนึง พาไปดูนก ดูรถบรื๋นๆ ผ่านหน้าบ้าน ไปช่วยกันนับดาว ไปดูสิพี่พระจันทร์มาหาน้องหรือยัง
อะไรแบบนี้ก็ได้ค่ะ
พฤติกรรมพวกนี้ โตขึ้นก็น้อยลงเองค่ะ เมื่อเขามีทักษะด้านภาษาในการต่อรอง และเข้าใจเหตุผลของเรา ที่เราอธิบายมากขึ้นก่อนนะคะ
เลยมักจะหายตอนเกือบๆ สี่ขวบละค่ะ
Create Date : 02 มิถุนายน 2552 |
|
26 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 13:49:58 น. |
Counter : 7496 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Mookooja IP: 58.137.150.34 2 มิถุนายน 2552 14:04:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ IP: 112.142.45.10 19 สิงหาคม 2552 12:00:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่อ้อม IP: 112.142.119.39 10 กุมภาพันธ์ 2553 13:21:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณแม่มือใหม่ IP: 125.25.221.117 18 มีนาคม 2553 13:55:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณแม่น้องเซน IP: 118.172.21.83 20 เมษายน 2553 13:51:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ปัณณ์ ปัณณ์ IP: 61.19.222.4 16 กรกฎาคม 2553 14:08:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องเจย์โชว์ IP: 58.137.8.105 30 กรกฎาคม 2553 15:52:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่เฟิร์น IP: 180.180.94.41 16 กันยายน 2553 14:12:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องเพาเวอร์ IP: 110.164.191.213 1 พฤศจิกายน 2553 13:34:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องเซ็นทรัล IP: 183.88.58.182 9 พฤศจิกายน 2553 23:23:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องมิ้งค์ IP: 58.64.75.11 11 พฤศจิกายน 2553 12:57:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องพอตเตอร์ IP: 49.48.147.112 23 พฤษภาคม 2554 17:33:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ขี้วีน IP: 58.8.174.8 2 สิงหาคม 2554 12:50:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขอคำปรึกษา IP: 171.4.90.91 22 ตุลาคม 2554 3:33:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธาร IP: 118.174.68.73 14 ธันวาคม 2554 18:13:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธาร IP: 118.174.68.73 14 ธันวาคม 2554 18:16:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธาร IP: 118.174.68.73 14 ธันวาคม 2554 20:36:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธาร IP: 118.174.68.73 14 ธันวาคม 2554 20:39:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่อิคคิว IP: 125.24.224.21 6 มกราคม 2555 15:57:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: pao IP: 118.175.64.88 18 ตุลาคม 2555 10:00:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: วรางคณา IP: 115.67.67.37 21 มกราคม 2556 14:36:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้ำ IP: 202.29.14.248 3 สิงหาคม 2556 12:09:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อ่านแล้วต้องบอกว่าเป็นคุณพ่อ คุณแม่ต้องใช้ความอดทนขั้นเทพ เลยนะคะเนี่ย