46. คะจิตะซัง กับ ที่ทำงาน
มาเล่าเรื่องคะจิตะให้ฟังค่ะ ฮ่าๆ ก็ดี จะได้เก็บเป็นความทรงจำด้วย ฮี่ๆ
ตามจริงเค้าชื่อคะจิตะแหละนะ ตอนรู้จักกันแรกๆ เค้าบอกให้เรียกว่า คะซึอิ แต่ปิคออกเสียง つ ได้ห่วยมาก เลยเรียก คะจิๆ เวลาเรียกแล้วชอบคิดไปถึง "ไฟไหม้" ทุกทีเลย ฮ่าๆ
ก็รู้จักกันตั้งแต่วันแรกที่ไปมหาลัยเลยทีเดียว เพราะเค้าเป็นเม้นเตอร์ เป็นพี่ปี 2 ที่ดูแลน้องที่เพิ่งเข้าใหม่แนวนั้นค่ะ ซึ่งตอนนั้นเด็กแลกเปลี่ยนอย่างเราก็โดนจัดเข้าหมวดไปด้วย
จำได้ว่า วันแรกมาช่วยตอนทำคอมพ์ แล้วพอตอนเย็นก็มาช่วยจัดตารางสอนกับ อ.ที่ปรึกษาจนถึงสองทุ่มโน่นเลย หลังจากนั้นก็เจอกันเรื่อยๆ ก็เรียนที่เดียวกันอ่ะน้า
มีเรียนด้วยกันสองวิชา แล้วพวกเราก็ถอนไปวิชานึง เลยเรียนด้วยกันคาบเดียว แต่อะกอร่าที่ปิคกับลลูเรียนด้วยกัน เค้าเป็นเหมือนครูผู้ช่วย เลยได้เจอกัน ตลอดเวลาก็จะคอยเดินมาถามตลอดว่า โอเคมั๊ย? เข้าใจรึป่าว?
ตั้งแต่เทอมที่ผ่านมา ปิคก็แอบปลื้มมาตลอดเลย ฮ่าๆ แต่ก็แค่ปลื้ม ไม่ได้คิดอะไรไปไกลมาก บวกกับมีเรื่องของอีกคนที่เข้ามาคุยด้วย ก็เลยไม่ค่อยได้อะไรมาก
แต่ตอนเปิดเทอมสองที่ผ่านมา เค้าแลกเมลล์กับเพื่อนปิคค่ะ เพื่อนปิคก็ส่งข้อมูลเค้ามาให้เครื่องปิคต่ออีกที ปิคเลยเมลล์ไปก่อนซะเลย เหอๆๆ แต่ไม่ได้คิดจะจีบจะอะไรนะคะ ร้อนตัวๆ ฮ่าๆ
หลังจากนั้นก็เลยได้เมลล์คุยกัน เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นภาคสอง
ตอนวันเกิดก็ส่งเมลล์มาอวยพรเป็นคนแรกเลย ตื่นเต้นมาก เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย แล้วตอนปิคไปโตเกียว ก็คุยกันเรื่องดิสนีย์แลนด์ ยูเอสเจ ปิคบอกว่า เคยไปยูเอสเจแล้ว แต่แค่สองชั่วโมงเอง ยังไม่ได้ทำอะไรเล้ย เค้าเลยชวนปิคไปด้วยกันเมื่อปลายเดือนก่อนค่า
แต่ก่อนหน้านั้นอาทิตย์นึง (เหมือนเล่าไปแล้ว เล่าอีกทีก็ได้เนอะ) มาทำงานวิชาศิลปะที่มหาลัย ตอนวันศุกร์ ปิคก็ชวนเค้าทำด้วยกัน เค้าก็โทรติดต่อหาอาจารย์ให้ เพราะห้องล็อค ก็เลยได้ความวา เข้าไปทำงานตอนคาบสามได้ แต่คาบสี่กับห้าห้องต้องใช้ ปิคกับเพื่อนเลยไปทำกัน แต่น่าเห็นใจ ที่เค้าเรียนคาบสาม สรุป ปิคกับเพื่อนงานเกือบเสร็จ คนติดต่ออาจารย์ดันไม่ได้ทำ แถมคนชวนทำก็ไม่รออีกตะหาก ฮ่าๆ
ปิคก็เลยบอกว่า เออจะอยู่เป็นเพื่อนหลังคาบห้าแล้วกัน เดี๋ยวรอ ระหว่างรอห้องให้ถึงหกโมงเย็น ก็เลยได้ไปเดินเล่นกัน เป็นครั้งแรกเลย ที่ได้ออกไปด้วยกัน ไปเดินวนรอบๆมหาลัย แล้วก็คุยกันไปด้วย แล้วก็กลับมามหาลัย ปรากฏว่า ห้องธุรการปิดแล้ว ขอกุญแจไม่ได้ แหง่วววว รอเก้อนะค้า
ก็เลยเดินเล่นอีกรอบนึง ก่อนจะไปขึ้นรถไฟ เค้าก็เลยชวนว่า ศุกร์หน้าไปเที่ยวบ้านเค้ามั๊ย ไม่ได้หมายถึงไปที่บ้านนะคะ ไปที่อิเคะดะเฉยๆ มีปราสาทแล้วก็สวนสัตว์ มีภูเขาด้วย (ปิคชอบแม่น้ำ ภูเขามากๆๆๆๆๆ) ว้าวววว ดีใจ แต่ตอบไปว่า เดี๋ยวดูก่อนนะ ฮ่าๆๆ
แต่สุดท้ายก็ไปอยู่ดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
วันนั้นเค้าขี่มอไซค์มารับค่ะ แล้วก็ไปด้วยกัน หนาวมากกกกกกกก
ทำไมมันเริ่มยาว ต่อไปเล่าย่อแล้วกันนะค้า
อือ ก็ไปเที่ยว เค้าก็พาไปเที่ยว แล้วก็ไปดูเครื่องบินที่อิตะมิด้วยกัน แล้วเค้าก็บอกชอบ แล้วก็เลยคบกัน จบค่าาา
อุอุ พอบอกชอบก็พาปิคไปกินข้าวที่เค้าทำงานอยู่ คะนิโดระคุ มีใครรู้จักมั๊ยอ่ะคะ?? โดนแซวกระจัดกระจาย ปิคก็ยิ้มอย่างเดียว ทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง (ตามจริงไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว) แล้วก็กลับหอ
พอวันอาทิตย์ก็ไปยูเอสเจกัน เหนื่อยมากกกกกก นั่งมันอย่างละสองรอบ เฮ้อ แต่ก็สนุกและมีความสุขดี ^^
แล้วก็มีไปเที่ยวด้วยกันบ้างอีก แต่ต่างคนต่างยุ่ง เรียนไม่ตรงกัน ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน มีเมลล์ไปๆมาๆ ค่าโทรศัพท์ 4300 ตามที่บอกไป ยังช็อคอยู่เลยอ่ะค่ะ
ปิคไม่เคยคบใครมาก่อน เค้าก็ไม่เคยคบใคร (ตามที่เค้าบอก) ปิคไม่เคยรู้ว่าความรู้สึกต่อจากนี้มันจะเป็นยังไง พูดตามจริงก็แอบกลัว แอบกังวล กลัวว่าถ้าเค้าชอบเราจริง แต่เราดันคิดว่าไม่ใช่ หรือเราชอบเค้าจริง แต่เค้าดันตีห่าง... ฮ่าๆ ยังไงก็เป็นเรื่องของอนาคต
แต่ตอนนี้ก็มีความสุขดี แม้จะไม่ได้เปิดเผยมาก อยู่มหาลัยยังทำตัวกันเหมือนเดิม ห่างๆกันนิดหน่อย
วันนี้วันเกิดคะจิค่ะ เดี๋ยววันนี้จะออกไปกินข้าวด้วยกัน จะว่าไป วันนี้เค้าเพิ่งจะ 20 เองอ่ะ คิดมาตลอดว่าถ้าสามารถ อยากจะคบคนที่โตกว่า ดูแลเราได้ ให้อ้อนได้ ให้งอนได้ ปรามเราได้ หึหึหึ
อ้อ อีกเรื่อง จำคนนั้นได้ใช่มั๊ยคะ? ที่เคยพิมพ์ไปบล็อกก่อนๆว่า จะทำยังไงดี อยากให้เค้าเลิกพยายาม โดยไม่รู้ตัว เมื่ออาทิตย์ก่อนรู้มาว่า เค้ามีแฟนไปแล้ว คบกันก่อนปิคจะได้ออกไปเที่ยวกับคะจิซะอีก
ไม่ได้เสียใจ ยินดีด้วยด้วยซ้ำ เพราะปิคก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกไม่ดีถ้าจะทำให้เค้าเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ไอที่บอกว่าจะพยายาม ยังไงก็จะรอ ถ้าปิคมีใครก็ค่อยว่ากันอีกที เอ้อนะ... ฮ่าๆ แล้วเมื่อเดือนก่อนยังเมลล์มา อาทิตย์ก่อนยังโทรมา แบบนี้ไม่โอเครเลยแหละ ถ้าจะโทรมาบอกคงไม่ว่าอะไร แต่โทรมายังใช้คำพูดแบบเดิมๆ แบบนี้ ไม่ดีๆ
ยาวมาก จบเรื่องคะจิ ต่อไป ขอะบายเรื่องที่ทำงานนะคะ
เมื่อวันอังคารก่อน ไปทำงาน ตามปกติ ช่วงดึกๆมีแขกเมาๆ เป็นลุงคัยฉะอินแหละนะ สามคน คนนึงนี่ดูเมาสุดๆ
ตอนแรกเห็นมาส่องๆ เลยออกไปเรียกแขก แต่เค้าบอกว่า แค่ดูเฉยๆ
แต่พอมองไปอีกที เห็นมาส่องอีกแล้ว เลยออกไปอีกที คราวนี้จับมือปิคด้วยง่ะ ตกใจ แต่เค้าก็เข้าร้าน
มากินหม้อไฟกัน ราคาพอควรเลย ระหว่างนั้นก็เรียกปิคไปสั่งน้ำ สั่งอาหาร ทุกครั้งก็จะยื่นมือมาจับมือ ปิคก็ใสซื่อ(??) ยื่นมือไปแบบงงๆ อะไรหรอคะ?
แต่ชักจะไม่งามแล้ว พอหลังๆเลยถามว่า จะจับทำไมอ่ะคะ?? เค้าบอกว่า เช็คแฮนด์เฉยๆ เอ้า ถ้างั้นก็ได้วะ เมาด้วยแหละ ไม่มีอะไรหรอกมั๊ง คราวนี้ออกแนวจับแล้วลูบเหมือนจะดึง เหอออออออ ดีนะที่ชักมือไว้ รีบไปเลย อีกครั้งจะจับมืออีก ปิคเลยบอกว่ามือสกปรก เค้าบอกไม่เป็นไร มือเค้าสกปรกกว่า หึหึ
พอหลังๆเลยรีบวางของ รีบไป พยายามไม่สบตาโต๊ะนั้น ไม่อยากไปแล้วง่ะ
แต่ไออันนี้เข้าใจว่า ทำงานร้านอาหาร มันก็อาจเจอแขกแบบนี้บ้าง แต่ไอที่รับไม่ได้คือเทนโจ
เทนโจไม่ช่วยหนูเลย บอกให้ไปโต๊ะนั้นอยู่นั่นแหละ แล้วไอที่แย่ที่สุดคือบอกว่า "ปิคน่ารัก แขกก็เลยเข้ามาไง งั้น ปิคไปยืนหน้าร้าน แล้วจะได้มีแขกผู้ชายเข้ามาเยอะๆ" เหอออออออออ ผิดจุดประสงค์แล้วล่ะค่ะ ตอนนั้นพูดได้แค่ ปิคไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นนะ เฮ้อ เสียใจ รู้สึกไม่ดี ปกติเลิกงานสี่ทุ่ม แต่จะอยู่ทำต่อให้จนห้าทุ่มอัพ วันนั้นเลยขอกลับเลย สี่ทุ่มปุ๊บไปเปลี่ยนชุดทันที
แต่พอวันต่อมา เทนโจก็ปกติเหมือนเดิม ปิคคิดว่า มันคงเป็นเรื่องธรรมดามั๊งที่คนญี่ปุ่นเค้าจะพูดแบบนี้??
แต่แม่ปิคนี่โกรธมากเลย บอกให้ปิคไม่ต้องไปทำแล้ว ปิคก็เข้าใจแม่ แต่ว่า...ยังไงก็ต้องทำไม่ใช่หรอ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ปิคก็คงไม่อยากไปทำแล้ว วันนั้นปิคจะเลิกทำนะคะ
บล็อกวันนี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ล่ะค่ะ
จะปีใหม่แล้วอ่ะ เวลาสั้นลงเรื่อยๆ ไม่อยากกับไทย ><
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะค้า ^^
Create Date : 09 ธันวาคม 2553 |
|
12 comments |
Last Update : 9 ธันวาคม 2553 11:42:25 น. |
Counter : 612 Pageviews. |
|
|
|