W e l c o m e T o M y B l o g
6. ว่าด้วยเรื่อง การเรียน (วิชาที่ลง) ・時間割


วันนี้ ... ไม่ว่าง
วันนี้ ... ต้องทำการบ้าน (ที่คั่งค้าง)
วันนี้ ... อยากอัพบล็อก

เข้าเรื่องค่ะ

จนถึงตอนนี้ ก็มาอยู่ที่นี่ได้ 2 เดือนกว่าๆแล้ว
พอปิดเทอมที่ไทยปุ๊บ พักได้ 2 อาทิตย์ ก็มาญี่ปุ่น แล้วก็เปิดเทอม
รวดเร็วทันใจจริงๆ

ข้าม ข้าม ข้าม

พอมาถึงวันที่จะเปิดเทอม ก็มีวิชาให้มาเลือกลง

อันมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่นี้ หรือ 関西国際大学 ช่างไม่ค่อยมีวิชาสำหรับเด็กต่างชาติเลย
มีวิชาภาษาญี่ปุ่นให้สองคาบ นอกนั้นเลือกลงจากวิชาที่เปิดสอน
(ในขณะที่ดูเพื่อนๆคนอื่น มหาวิทยาลัยเค้าจะมีคอร์สภาษาญี่ปุ่น วัฒนธรรม วรรณคดี ประวัติศาสตร์ อะไรแบบนี้)
อันตัวเราผู้โง่เขลานั้น ก็ไปนั่งปรึกษาวิชาที่จะลงเรียนกับอาจารย์ที่ปรึกษา คือ อ.นะกะนิชิ ทั้งนี้ทั้งนั้น มีรุ่นพี่(ที่อายุน้อยกว่า) ติดกับมาช่วยเลือกวิชาอีก 1 ท่าน คือ พี่แสนดี (ชื่อจริงชื่อ คะซึ กระมัง??) และพวกเรา สามคน (ปิคกับแก้วใสกับบลู ปิคกับบลูเอกเด็ก แก้วใสเอกสังคมสงเคราะห์)

ปรึกษากันไปๆมาๆ อาจารย์และพี่แสนดี ช่วยกันหาวิชาที่ไม่น่าจะยากเกินไปลงให้ รวมแล้ว 16 หน่วยกิต โอ้ มันเยอะมากค่ะ (ปรึกษารุ่นพี่ที่ไทย บอกว่าเรียนเยอะไปรึป่าวน้อง ฮ่าๆ)
บอกอาจารย์ว่า ตามจริงเรียนแค่ญี่ปุ่นก็ยังได้เลยค่ะ
อาจารย์บอกว่า จะเรียนแค่นั้นหรอ?
ตัวเอง (คิดในใจ ป่่าวค่า แค่หมายความว่า ทั้งหมดนี้มันเยอะไป) อ่อ ป่าวค่ะ โอเคค่ะ

ตารางวันเวลาเรียนแล้ว มีคาบเรียน ดังนี้
คาบI : 9.00 - 10.30
คาบII : 10.40 - 12.10
คาบIII : 13.10 - 14.40
คาบIV : 14.50 - 16.20
คาบV : 16.30 - 18.00

วิชาที่ลงเรียนก็มี
จันทร์ : Ⅰ・社会福祉授助技術論Ⅰ①/Ⅱ・家庭Ⅰ/Ⅳ・図画工作①
อังคาร : Ⅰ・日本語作文Ⅰ/Ⅱ・上級日本語Ⅰ/Ⅳ・キャリアプランニング/Ⅴ・基礎英語①
พุธ : Ⅲ・社会福祉授助技術論Ⅰ②
พฤหัส : Ⅳ・特別研究Ⅱ(LCアゴラ(学級経営講座))①
ศุกร์ : Ⅲ・基礎英語②

รายละเอียด
社会福祉授助技術論Ⅰ เป็นวิชาเกี่ยวกับเรื่องสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ สำหรับนักเรียนเอกสังคมสงเคราะห์ปีสอง
家庭 เป็นวิชาที่สอนทำอาหาร สำหรับนักเรียนเอกเด็ก ปีสาม
図画工作 เป็นวิชาวาดรูปและประดิษฐ์ สำหรับนักเรียนเอกเด็กปีสอง
日本語 เป็นวิชาภาษาญี่ปุ่นสำหรับเด็กต่างชาติ
キャリアプランニング วิชาอะไรไม่รู้ มีคนมาบรรยายบ้าง ทำกิจกรรมบ้าง สำหรับนักเรียนเอกเด็กปีหนึ่ง
基礎英語 วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
特別研究Ⅱ หรือวิชา อะกอระ คล้ายๆโฮมรูม สำหรับนักเรียนเอกเด็กปีหนึ่ง

ทั้งนี้ทั้งนั้น เดิมทีไม่ได้ลงอะกอระ แต่ลงวิชาจิตวิทยาเด็ก ซึ่งยากมากกกกกกกกกกกก ฟังไม่รู้เรื่อง มีแต่ชื่อโรค เรียนไม่ไหวแล้ว เลยไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์บอกว่า กัมบัตตะระ หมายความว่า ถ้าพยายามล่ะ
แต่พวกเราทั้งสาม ต่างเห็นแววในอนาคตว่ารุ่งร่วงแน่นอน จึงไปถอนออกทันที

วิชาเรียนเราจึงออกมาอย่างที่เห็น รวมทั้งสิ้น 16 หน่วยกิต แต่วิชาโอนกลับไทยได้ เหมือนจะไม่มี หึหึหึ

ทีนี้ เรามาเจาะลึกแต่ละวิชากัน

วิชาแรก
社会福祉授助技術論Ⅰ
ในหนึ่งสัปดาห์ เราจะเรียนกันสองคาบ คือ จันทร์และพุธ
อาจารย์ก็จะสอนไปตามหนังสือ และพูดนอกหนังสือไปด้วย พร้อมทั้งมีใบงานเป็นกระดาษเปล่าหนึ่งแผ่น ให้มาสรุปบทเรียนในแต่ละคาบวิชา ซึ่งใบงานนั้นจะมีคะแนนให้ เป็นเกรดในอนาคต มีการทำงานกลุ่มด้วย เป็นเวิร์คชีทแผ่นๆ
ในตอนแรก นั่งเรียนแบบเดี่ยวๆ แต่เมื่ออาจารย์เล็งเห็นว่า เด็กต่างชาติทั้งสามนี้ ฉายแววหมดอนาคตออกมา อ.จึงกรุณาให้เรียนกันเป็นกลุ่ม โดยจัดกลุ่มทั้งสิ้น หก กลุ่ม
ในกลุ่มปิคนั้น มีคนญี่ปุ่นสองคน คนจีนสองคน คนไทยสองคน
ทุกคนใจดีมาก คอยช่วยเหลือ แม้เวลาฟังเค้าพูดแล้วจะแอบเจ็บปวดเล็กน้อย
ลีดเดอร์ หรือหัวหน้ากลุ่ม ดูจริงจัง แต่ก็คอยแปลที่อาจารย์พูดให้พวกเราฟังเสมอ บอกว่า ให้พยายามมมากๆ กรุณาทำงานมาด้วย งู้นงี้
คุณยามาชิตะ อดีตครูโรงเรียนประถม คอยช่วยบอกว่า ขีดเส้นในหนังสือตรงไหน อาจารย์พูดว่าอะไร (แต่ฟังเค้าพูดออกแค่นิดหน่อย เพราะมันฟังไม่รู้เรื่องง่ะ) และเป็นคนที่คอยบอกว่า ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องพยายามมากก็ได้ ค่อยๆ (ซึ่งคนญี่ปุ่นสองคนนี้ ชอบมีคำพูดคัดค้านกันซะจริง)
ต่อมาคุณเคียะคุและคุณโจวะ เป็นคนจีนสองคนที่มาเรียนสองปี คอยแปลที่เราพูดจากญี่ปุ่นง่าวๆ เป็นญี่ปุ่นสมบูรณ์ ใจดีและน่ารัก
กับวิชานี้ เคยเฟลจนแทบร้องไห้ออกมา ทุกคนในกลุ่มจึงช่วยเหลือมาก
แต่มีเรื่องนึงที่ตลกดีเหมือนกัน คือมีคาบนึง อาจารย์ให้ไปหาคำจำกัดความมา เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งให้พูดในห้อง ทั้งนี้ ทั้งจีนทั้งยุ่น ก็โยนมาให้เด็กไทยอย่างเราอ่าน ปิคก็เลยรับอาสามา ไอเราก็อ่านแบบเนิบมาก ไร้สำเนียงเสียงไพเราะใดๆ แต่พออ่านจบ ก็มีเสียงสุโก่ยๆๆๆ ฮือฮาดังเกรียวกราว ไอเราก็เลยเขิน อะไรวะ อ่านแบบชาวบ้านมากๆ
หลังจากนั้น สายตาในห้องเรียนก็เปลี่ยนไป ดูเห็นเรามีตัวตนมากขึ้นมาทันที เออ แปลกดีแฮะ ฮ่าๆ



ต้องแปลกันทุกบรรทัดเลยทีเดียว

วิชาที่สอง
家庭
วิชาเจ้าปัญหาที่เรียนอาทิตย์ละหนึ่งคาบ
การเรียน เรียนในห้องเตรียมอาหาร มีเรียนปกติ กับการทำอาหารสลับกันไป
ในการเรียนนี้ก็เรียนกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ สี่ คน (กลุ่มปิคมีบลูกับคนยุ่นอีกสองนาย)
แต่เหมือนเราจะเกิดปัญหากับเพื่อนร่วมกลุ่มที่มีเชื้อชาติต่างกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจาก ดูคุณสองคนจะ......มากที่โดนมาอยู่กับคนต่างชาติสองคน เวลาคุยกันก็ดูปกติดี แต่เวลาคุยกันเองหรือกับเพื่อนคนอื่น ชอบจิกกัดเรา (คิดว่าฟังไม่ออกหรอไง ไอเรื่องโดนนินทานี่ถนัดฟังนักแล)
เช่นว่า กลุ่มข้างมาเรียนคนเดียว อาจารย์บอก น่าสงสารจัง คนในกลุ่มพูดบ้างว่า โคะจิระโคโซะ แปลว่า ทางนี้ก็เหมือนกัน
หรือชอบมาทำหงุดหงิดใส่เวลาเราทำอะไรไม่ถูกใจ ถามว่าชั้นทำกับข้าวไม่เป็นเรอะ ขอบอกว่าไม่ใช่เลย เก่งเลยแหละ ฮ่าๆ แต่พอดั มันคนละเชื้อชาติ ขั้นตอนหรือวิธีมันคงต่าง และเค้าไม่มั่นใจว่าเราจะทำได้ เลยไม่ยอมให้เราทำเอง ต้องคอยถามคนอื่น เพราะตัวเค้าเองก็ทำไม่เป็น แล้วค่อยให้เราทำอีก
ตามจริงแล้ว พวกเราก็กังวลเกี่ยวกับคะแนนของเค้า จึงเคยไปคุยกับอาจารย์ว่า ขออยู่กันเองสามคน เพราะไม่อยากถ่วงคนญี่ปุ่น แต่อาจารย์บอกว่า คะแนนนั้น ขึ้นอยู่กับอาจารย์ อาจารย์จะตัดสินเอง เอ้า งั้นก็ช่วยไม่ได้
แต่อาทิตย์ล่าสุด ทำเค้ก และ ปิคหงุดหงิดมาก อันเนื่องมาจาก โดนหงุดหงิดใส่ ไม่สมเหตุสมผลเลย คิดว่าตัวเองลำบากใจคนเดียวหรอที่ต้องมาอยู่กับเรา เราก็ลำบากใจเหมือนกันนะ ชอบแอบจิกกัดเราลับหลัง แถมทำหน้าทำตา เป็นไงล่ะ พอโดนหงุดหงิดใส่ซะบ้าง หงอเลย เฮอะ ไม่รู้อาทิตย์หน้าจะเป็นยังไงแฮะ
แต่ยังไงก็อยากเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ




วิชาต่อมา
図画工作
วาดรูป ระบายสี ทำประตู อะไรแนวนี้
มันก็ไม่ได้ยาก แต่มันขี้เกียจ ฮ่าๆ วิชานี้เรียนกับพี่แสนดีด้วย ดีจริงๆ
อาจารย์ก็ใจดี เพื่อนร่วมห้องก็ใจดี แบบนี้ค่อยน่าเรียนหน่อยค่า





วิชาต่อไป
日本語
วิชาภาษาญี่ปุ่น แบ่งเป็นเขียนกับไวยากรณ์ แต่สุดท้ายเรียนรวมกัน คือ ทำพาวเวอร์พ้อย เขียนสคริปต์ พรีเซ้นงาน
ทุกอาทิตย์มีควิซคันจิ ก็สนุกสนานกันไป (มันเหนื่อยมากค่ะ)

หนังสือเรียน

ต่อๆ
キャリアプランニング
วิชานี้เรียนกับเด็กเอกเด็กปีหนึ่ง เรียนรวมทั้งเอกบ้าง หรือเรียนเฉพาะนักเรียนในอาจารย์ที่ปรึกษาเดียวกันบ้าง
การเรียนบางทีก็เรียนห้องเล็ก
บางทีห้องรวมมีคนมาพูดแล้วก็จดๆๆๆ
หรืออาทิตย์ก่อนก็มีไปโรงเรียนเด็กประถม อืมม ประสบการณ์แปลกใหม่ ชอบๆ
เวลาเรียนห้องรวมทีไร ทั้งแถวมีปิคกับบลูนั่งกันสองคน ไม่มีคนญี่ปุ่นมานั้งด้วยค่ะ หึหึ

ต่อด้วย
基礎英語
วิชาอิ้งที่มีเด็กเรียนทั้งสิ้น 9 คน เป็นยุ่น หก ไทย สาม อันเนื่องมาจาก เด็กยุ่นส่วนมาก สอบได้เรียนอิ้งที่พื้นฐานกว่านี้ มีรอดมาเรียนขั้นสูง หก คน
เด็กยุ่นมีผู้ชายสามคน ผู้หญิงสามคน
ทุกคนอัธยาศัยดี ยกเว้นคนนึงไม่เคยคุยด้วย เนื่องจากเค้าเป็นสาวแรง กลัวค่ะ ฮ่าๆ
อาจารย์เป็นชาวต่างชาติ ใจดีและโหดเป็นพักๆ เนื่องจากเด็กไม่ฟัง เหอๆ
ชอบวิชานี้นะ สนุกดี เพื่อนก็ดี ชอบจับปิคไปคู่กับจุนเป เนื่องจากคาบแรกโดนให้คู่กันและเราเกิดอาการงงเต็กกับนิสัยประหลาดของเค้า เลยหันไปหาเพื่อนบ่อยๆว่า ช่วยปิคด้วย แต่หลังจากนั้น อาจารย์คงอยากให้ผูกมิตร จับคู่กันตลอด ตอนนี้ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ
สงสัยว่า ตอนแรกเค้าคงไม่รู้จะทำตัวยังไงกับเด็กต่างชาติอย่างเรา เลยทำตัวไฮเปอร์ใส่ซะเลย ฮ่าๆ

วิชาสุดท้าย จี๊ดสุดๆ ฮ่าๆ
特別研究Ⅱ
เป็นวิชาที่เรียนกันทั้งเอกเด็ก
และการจัดที่นั่งนั้น โดยการ จับฉลาก
และอิฮั้นโชคดีสุดๆ นั่งหลังห้อง กับเด็กผู้ชาย ที่น่ารักและแอบบอกเพื่อนว่าน่ารักตั้งแต่ตอนเปิดเทอม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
คาบแรกที่นั่งด้วยกัน หน้าแดงมาก สุด เพื่อนก็บอกแดงมาก ที่แดงไม่ใช่เขินอาย
แต่จะร้องไห้เพราะกลัวค่ะ
เนื่องจาก ไม่เคยแยกตัวจากเพื่อนเลย แถมนั่งหลังสุด ข้างๆเป็นผู้ชาย แถมรอบด้านที่เหลือก็ผู้ชาย แล้วเวลาพวกผู้ชายคุยกัน ปิคไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปเก็บไว้ที่ไหนดี แงๆ คุยกันโหวกเหวก น่ากลัวที่สุด แถมคาบแรก สองคน ไม่คุยกันด้วย
คาบต่อๆมาเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความเขิน ฮ่าๆ
เวลาพวกผู้ชายคุยกัน ก็เริ่มฟังออก บางทีก็ขำ แต่ไม่รู้จะขำยังไง เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อยากขำที่พวกเค้าเล่นกัน ได้แต่ก้มหน้าอมยิ้ม หุหุหุ
บางทีก็ขำ เพราะเพื่อนที่นั่งข้างๆชอบเล่นอะไรตลกๆ
ล่าสุดที่เรียนด้วยกัน ต้องทำใบงาน เค้าก็รับอาสาไปทำให้ เนื่องจาก เพื่อนอีกคนเดินมาบอกเค้าว่า เอ็งควรจะทำให้เค้าไม่ใช่เรอะ ฮ่าๆๆๆ
รู้สึกดี แต่ก็กลัวจริงๆน้า

โดยรวมแล้ว วิชาเรียนยากมาก งานเยอะ แต่ก็ยังพยายามต่อไป
อาจารย์ในคาบเรียนก็ใจดีทุกคน
เพื่อนๆก็โอเค เรียนกันไปได้
อาจารย์ที่ปรึกษาใจดีสุดๆ
แถมโรงเรียนก็หรูได้อีก

ตอนนี้เพื่อนๆในเอกเด็ก ไปไต้หวันและเกาหลีกันอยู่
เอกสังคมสงเคราะห์ก็จะไปกัมพูชา
และเด็กเอกอิ้ง ถ้าไม่มีอะไรหนักหนาเกิดขึ้นอีก ก็จะไปไทยกัน

ที่นี่เค้าทัศนศึกษากันแบบนี้หรอเนี่ย

ที่ มธ. ให้งบมาจำนวนนึง ให้ไปทัศนศึกษากันเอง แต่ เงินก้อนนั้นหมดไปกับค่ารถแค่ไปเช้าเย็นกลับด้วยซ้ำ เลยต้องจ่ายเพิ่มกันเองสำหรับค่าเข้าชม ฮ่าๆ

วิชาเรียนและความรู้สึกก็จบเท่านี้ ค่ะ



Create Date : 03 มิถุนายน 2553
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 8:57:34 น. 6 comments
Counter : 714 Pageviews.

 
อ่านเรื่องน้องปิคแล้วก็หนุกหนานดีเนอะ..
อยากกลับไปสมัยเรียนใหม่.. อ่านแล้วแป่วๆกะหนุ่มยุ่น 2 คน
ในกลุ่มที่ชอบหงุดหงดใส่ปิคเนอะ คนญี่ปุ่นที่ยังไม่ค่อยเปิดใจ
นี่มีอยู่เยอะๆจริงๆ แอบเซ็งเล็กน้อยค่ะ

ยังไงน้องปิคก็สู้ๆนะ จะคอยเป็นกำลังใจให้ และจะแว๊บมาอ่านบ่อยๆจ้า


โดย: coco-wine วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:16:46:41 น.  

 
อ่านแล้วสนุกดี อาการคล้ายกับลูกตอนไปเรียนที่ญี่ปุ่นใหม่ๆ


โดย: rosarin IP: 124.122.218.195 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:16:53:30 น.  

 
สู้ๆค่ะ แม่ยุอะเรื่องเรียนนี่ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็อยากเรียนนะภาษาจะได้เก่ง ทุกวันนี้ยัง เหอะๆ


โดย: แม่ยูอะ วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:9:33:20 น.  

 
ผมมีคำถามหน่อยครับ

ไม่ทราบว่า คันยิแต่ละตัวนี้ คุณแปลได้อย่างไร... ในการหาศัพท์จากดิกส์ นะครับ


โดย: ohshun วันที่: 6 มิถุนายน 2553 เวลา:19:01:05 น.  

 
เป็นกำลังใจให้จ้า

อ่านแล้วรู้สึกอยากกลับไปเป็น

นักศึกษาอีกจังเลย อิอิ

ว่าแต่ 関西国際大学 ที่เรียนนี่

อยู่เฮียวโกะ หรือโอซาก้าคะ

ถ้าเป็นโอซาก้าก็อยู่ละแวกกับที่เรา

พักเลย


โดย: Life_is_min[e] IP: 114.174.210.119 วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:13:58:29 น.  

 
เห็นหนังสือเรียนแล้วอิจฉา

อยากกระชากวัยแล้วไปนั่งเรียนตำราแบบนั้นได้มั่ง


ขยันเผื่อผู้ใหญ่ด้อยโอกาสอย่างพี่ด้วยนะครับ (T^T)


โดย: monboy01 IP: unknown, 58.8.94.178 วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:4:46:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kuppiko
Location :
Tokyo Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




นักเรียนค่า
------------------

Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Kuppiko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.