มกราคม 2561

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
31
 
 
กาแกมหงส์ 4






งานวันไหว้ครูผ่านไปด้วยดี ผลการประกวดพานไหว้ครูในวันนี้ ผลปรากฏว่าห้อง5/1 ได้รองชนะเลิศที่สอง ส่วนห้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือห้อง 5/5 ซึ่งเป็นห้องของแก้วตา ที่เป็นคู่ปรับหมายเลขหนึ่งของมะยมนั่งเอง …

“ พานพุ่มฝีมือห่วยๆอย่างนี้ ถ้าแข่งขันเมื่อไหร่เป็นได้ที่โหล่ ไม่เคยจะชนะเลิศกับเขาซะที...บางที ลองเปลี่ยนหัวหน้าห้องดูสิมะยม อาจจะชนะเลิศก็ได้..” เสียงใสแว่วลอยมาให้ได้ยินเมื่อมะยมเดินแยกจากน้ำหวานเพื่อเข้าห้องน้ำหญิงข้างหอประชุม เป็นแก้วตา ศัตรูคู้แค้นคนเก่าคนแก่นั่นเอง .. เด็กสาวนึกฉิวขึ้นมาทันที จึงสวนไปในทันทีว่า...

“ วันนี้ไม่รู้เป็นไงคันเบื้องล่างชะมัด รู้สึกอยากเตะปากคนว่ะ ..”

“ เอ๊ะ นี่ฉันพูดกับแกดีดีก่อนแล้วนะ อย่างงี้มันหาเรื่องนี่หว่า ..”

แก้วตาไม่พูดอย่างเดียวเดินถลาเข้ามาพร้อมหมัดลุนตรงมาจะชกปากมะยม แต่ก็ต้องหยุดชะงักไว้แค่นั้นเมื่อเพื่อนอีกสองสามคนห้ามและดึงตัวเอาไว้ แก้วตาจึงแค่นเสียงออกมาอย่างอาฆาต …

“ มึงแน่จริงมาเจอกับกูหลังเลิกเรียนกันมั้ย อีทอมบอย..” คนพูดชักสีหน้าเยาะเย้ย ท้าทายอย่างเต็มที่

“ เอายังไงก็ได้ ที่ไหนเมื่อไหร่ว่ามาเลย พร้อมเสมอสำหรับแก้วใจคนนิสัยเสีย ..”

“ ลูกครูโกงอย่างแกน่ะเหรอจะมาสู้กับข้า คิดให้ดีนะเพื่อน แล้วถ้าจะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะ” แก้วตาตอบเอาคืนกลับไป ก่อนจะหันไปมองเพื่อนที่อยู่ด้านข้างที่ตอนนี้หัวเราะออกมาอย่างสะใจพร้อมเพรียงกัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายิ่งเงียบไป .. ก่อนที่หัวโจกจะพูดด้วยใจลำพองต่อไป ..

“ ฮ่ะ ๆ ๆ นึกแล้วว่าเชียวว่ายังไงก็ไม่แน่จริงเหมือนที่คุยไว้หรอก”

“ คนอย่างอีมะยมไม่เคยถอย ตอนเย็นเจอกันที่หลังอาคารสี่ หวังว่าคงไม่มีหมาหมู่นะโว้ย”

เด็กสาวตอกย้ำถามถึงน้ำใจนักกีฬาในหมู่คนพาลอีกครั้ง ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในตอนค่ำวันนี้เลยว่าจะออกมาในรูปแบบใด …

เพราะเมื่อเดินตามลำพังคนเดียวมะยมนิ่งคิดเป็นเวลานานเพื่อทบทวนถึงความบาดหมางของตัวเองกับแก้วตาว่ามันสะสมมานานตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมด้วยเรื่องบางเรื่องที่ให้อภัยกันไม่ได้ ต้องหักล้างไปข้างหนึ่งให้ได้ ...

แก้วตาเป็นลูกสาวครูน้อยคนหนึ่งในโรงเรียนที่ครูพลพ่อของมะยมเป็นครูใหญ่ และมีอำนาจสิทธิ์ขาดทุกอย่างในโรงเรียน จนมาวันหนึ่งได้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นเมื่อครูประดิษฐ์ พ่อของแก้วตาถูกจับได้ว่าไปฮั้วร้านค้าข้างนอกในตลาดท่าวังหินเกี่ยวกับนมโรงเรียน ....

ครูพลพยายามเกลี้ยกล่อมครูประดิษฐ์ให้เลิกพฤติกรรมซ้ำซากเช่นนี้หลายครั้ง ... แต่ก็ทำได้แค่ห้ามปรามเป็นคำพูดแค่นั้น เพราะครูประดิษฐ์ยังคงทำพฤติกรรมเช่นนั้นอยู่ต่อไป หาได้มีความเกรงกลัวหรือเกรงใจใครหน้าไหนในโรงเรียนเลย ...

กระทั่งวันหนึ่งทุกอย่างกลับตาลปัตร ความโชคดีไม่เข้าข้างครูประดิษฐ์เสมอไป เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสถานียกขบวนพร้อมหมายจับมาที่โรงเรียนเพื่อขอพบผู้บริหารสูงสุดคือครูพล เพื่อดำเนินการแจ้งข้อหาฉ้อโกงขโมยทรัพย์สินของทางราชการมาเป็นของตนเองโดยมีหลักฐานพร้อมพยานชัดเจน .... ผลก็คือครูประดิษฐ์กับพวกรวมสี่คนถูกจับกุมไปอย่างน่าอับอายขายหน้า กว่าที่ครูพลจะรอดจากการกล่าวหาว่าสมคบคิดกับครูประดิษฐ์ได้ก็ต้องใช้เวลาในการล้างมลทินอยู่นานเกือบสามเดือน ...

นี่เป็นเพียงสาเหตุในอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ครอบครัวทั้งสองครอบครัวบาดหมางไม่มองหน้ากันตลอดไป ..

แม้กระทั่งการช่วงชิงตำแหน่งประธานนักเรียนของโรงเรียนท่าวังหินพิทยาคมแห่งนี้ก็เช่นกัน ...

มะยมได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานนักเรียนด้วยคะแนนโหวตจากนักเรียนทั้งโรงเรียนคะแนนเป็นเอกฉันท์ โดยเฉือนชนะคู่แข่งสำคัญอย่างแก้วตาไปอย่างไม่เห็นฝุ่น สร้างรอยร้าวบาดลึกให้กับคนทั้งสองแทบต้องแข่งขันกันในทุกๆด้านทั้งกีฬา ดนตรี การเรียน และความสามารถ ...

แก้วตาเคืองแค้นมะยมแทบจะเรียกได้ว่าถ้ามีโอกาสเอาคืนได้เมื่อไหร่เป็นต้องทำในทันที …

ท้องฟ้าบนฟ้าเป็นสีคล้ำดำเตรียมจะเข้าสู่ห้วงสนธยาในอีกไม่นานแล้ว มืดค่ำของวันนี้จะเป็นอีกวันที่คนสองคนจะพิสูจน์ศักดิ์ศรีของตัวเองอีกครั้งที่หลังอาคาร 4 ..

มะยมมาก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย เพราะกว่าจะอธิบายบ่ายเบี่ยงไม่ให้น้ำหวานตามมาและให้กลับบ้านพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆได้สำเร็จ ทำเอาเหนื่อยแทบแย่ ไหนจะนายอิสราตัวดีนั่นก็อีกคน ชอบจับจ้องดูการเคลื่อนไหวของตัวเองไปซะทุกฝีก้าวก็ว่าได้ คนอะไร้เป็นผู้ดีเสียเปล่ากลับทำตัวเหมือนคนไม่มีการศึกษาโรคจิตหรือเปล่านะ…

เด็กสาวต้องหยุดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไว้แค่นั้นเมื่อได้ยินเสียงคนกลุ่มหนึ่งเดินมาด้านหลัง

“ มาตรงเวลาดีนี่ลูกคนขี้โกง” เสียงเป็นแก้วตานั่นเอง คราวนี้มาพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่มีอาวุธครบมือไม่ว่าจะเป็นมีด ไม่หน้าสาม ฟุตเหล็ก ไม้ตะพดหัวเหล็ก ...

มะยมถึงกับผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวเมื่อเห็นหน้าค่าตากลุ่มเพื่อนทั้งหมดของแก้วตา เพราะพวกนี้เป็นศัตรูเก่านมนามที่เด็กสาวเคยแจ้งความผิดกับครูผู้ปกครองว่าแอบสูบุหรี่และขายยาบ้าที่หลังโรงเรียนอยู่บ่อยๆ จนครูอภิชาต หัวหน้าฝ่ายปกครองจับได้คาหนังคาเขาได้หลายครั้ง …

มะยมรู้สึกหวั่นๆในใจอยู่ลึกๆเมื่อรู้สึกว่ากำลังของตัวเองมีไม่พอเท่าอีกฝ่าย เพราะการปะทะในวันนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นวันที่พวกนี้ทุกคนมุ่งหวังจะมาทวงเอาความยุติธรรมกับตนเองเพียงลำพังผู้เดียว ..

“ หมาหมู่เหรอนังแก้วตา เสียแรงที่เป็นถึงรองประธานฯ ทำตัวนักเลงหัวไม้ ชกตี ใช้กำลังกับชาวบ้านเขาไปทั่ว ทำตัวให้มีคุณค่าไม่เป็นรึไงวะเพื่อน เสียแรงเป็นถึงลูกครูดีเด่น ..”

มะยมกัดฟันพูดออกไปเพื่อจะข่มอารมณ์ตนเองไม่ให้ระเบิดไปในตอนนี้ ไหนจะถูกด่าพ่อล่อแม่เป็นครั้งที่สอง ไหนจะโมโหที่แก้วตาพาพวกที่เป็นโจทย์เดิมกลับมาชำระบัญชีแค้นให้รู้แตกหักในวันนี้อีกเล่า ..

“ ถุย ! อีทอมโรคจิต วันนี้มึงสิ้นฤทธิ์แน่ ลุยมันเลยพวกเราอย่าให้มันซ่าส์กลับไป..”

….ตุ๊ บ ตุ๊ บ ตั๊บ ตุ๊ บ ตั๊บ …

มะยมรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่กระทบกระทั่งเข้ามาที่ร่างกายได้จนหมด เพราะในตอนนี้เหมือนโลกทั้งโลกได้หยุดหมุนไปชั่วขณะ ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นมือ เท้า ศอก และแม้แต่หน้าขาที่กระหน่ำลงมาบนตัวเองอย่างไม่ให้หายใจหายคอกันเลย เด็กสาวทำได้แค่เพียงปิดป้องแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น …

เวลาผ่านไปเนิ่นนานชั่วกับป์ชั่วกัลป์ จนมีเสียงสวรรค์ตะโกนโหวกเหวกเสียงหนึ่งดังมาจากมุมอาคาร

“ เฮ้ย ๆ ! หยุดนะ อาจารย์ครับทางนี้ครับ ”

มะยมเงยหน้าก็มองเห็นว่าแก้วตากับพวกทั้งหมดเผ่นแน่บหายไปในทันทีที่สิ้นเสียงตะโกน ...

ร่างสูงใหญ่คุ้นตาร่างหนึ่งเคลื่อนตรงมาเหมือนภาพฝัน แล้วเข้าประคองให้ลุกขึ้นช้าๆ ปากพร่ำบอกความรู้สึกอย่างสั่นเครือ ..

“ เป็นยังบ้างมะยม คุณเป็นยังไงบ้าง ”

“ ไหนอาจารย์อยู่ไหน ฉันต้องรีบหนีแล้ว เราไปกันเถอะ ..”

เด็กสาวทำท่าจะลุกขึ้นในทันทีด้วยความกลัวคำพูดตะโกนเมื่อครู่มากกว่าห่วงอาการเจ็บของตัวเอง … แต่คนร่างใหญ่กลับดึงร่างผอมบางให้ประคองตัวอยู่นิ่งๆ มากกว่าจะให้วิ่งไป ..

“ ฟังผมนะมะยม ที่นี่ไม่มีอาจารย์ ผมหลอกพวกนั่น..” อิสราปัดฝุ่นผงที่อยู่ตามตัวและใบหน้าของมะยมด้วยแววตาที่ทอดไปอย่างเป็นห่วง แต่เด็กสาวกลับสะบัดตัวออกไปในทันที แล้วเดินพยุงร่างที่ไม่มีแรงเตรียมจะเดินจากไป …

“ รอผมด้วยสิมะยมมันมืดค่ำแล้วให้ผมไปส่งคุณที่บ้านดีกว่า ”

เด็กสาวหยุดกึกเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง เมื่อสักครู่ถ้านายคนนี้ไม่มาช่วยเอา ไม่แน่ตัวเองอาจเข้าขั้นปางตายเลยก็เป็นได้ เพราะแก้วตากับพวกชิงลงมือ ลงแข้งแทบจะเอาให้ตายให้ได้เลยทีเดียว…

“ โอยเจ็บ .. อิสราฉันขออะไรอย่างได้มั้ย..”

“ ได้สิครับมะยม...ว่ามาสิ ”

“ นายต้องไม่แพร่งพายเรื่องนี้กับใครรู้เป็นอันขาดเข้าใจมั้ย” มะยมมิวายต่อรอง ทั้งที่จะเอื้อนเอ่ยประโยคแต่ละประโยคออกมาด้วยความยากลำบาก ... กระทั่งอีกฝ่ายพยักหน้าจึงคลายใจ ..

“ ผมรับปากคุณ มาขึ้นรถทางนี้ครับ..”

สายลมเย็นยามค่ำพัดฉิวผ่านอย่างช้า เมื่อรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าเคลื่อนไปข้างหน้า มะยมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ด้วยอาการเกร็งจนตัวแข็งจากการนั่งห่างจากคนขับแทบจะตกจากเบาะหลัง อิสราชื่นมื่นใจอมยิ้มออกมาเป็นระยะๆ บางครั้งผ่านหลุมบ่อ จึงแกล้งเหยียบเบรกแรงๆ เพื่อให้เด็กสาวขยับมาชิดด้านหน้าในหลายครั้ง แต่มะยมกลับรู้ทันเอามือยึดเหล็กที่อยู่หลังเบาะไว้แน่น อิสราได้แต่อ่อนใจ แต่มิวายเอ่ยแซวไปเล็กน้อย ..

“ กลัวอะไรนักหนา ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ..”

“ ใครว่าฉันกลัว ไม่เคยซ้อนท้ายผู้ชายต่างหากเล่า..”

“ จริงเหรอครับ ... ผมคิดว่าประธานนักเรียนที่นี่จะทำได้ทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะมีข้อยกเว้นอย่างนี้”

“ ความจริงการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์พวกผู้ชายมันก้ไม่ยากอะไร เพียงฉันรู้สึกรำคาญแค่นั้นเอง..”

“ เรียกว่าไม่คุ้นเคยว่างั้นเหอะครับ ว่าแต่ทำไมคุณไปนัดพวกนั้นได้ล่ะ..”

“ เรื่องมันยาว ฉันจะเล่าให้ฟังวันหลังนะอิสรา ” มะยมพูดไปเหมือนจะขี้เกียจอธิบายความอะไรแล้ว แต่เด็กหนุ่มยังคงมีคำถามต่อเนื่องว่า “ แล้วนี้พวกสาวซ่าส์หายไปไหนกันหมด ทำไมปล่อยมะยมโดนซะอ่วมขนาดนี้ล่ะครับ..”

“ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันกับยายแก้วตา เพื่อนๆไม่เกี่ยว” มะยมพยายามอธิบายขอไปที

“ มะยมรู้ใช่มั้ยว่ามันอันตรายมาก นี่ดีนะครับที่ผมกลับมาเอาสมุดงานของอาจารย์พรพนาที่โต๊ะในห้อง เห็นหลังพวกนั้นแว่บ ๆ รู้สึกสังหรณ์ใจพิกลเลยแอบเดินตามไปดู จนเห็นว่าคุณกำลังถูกรุมทำร้าย“

อิสราเล่าขึ้นมาอย่างเห็นใจอีกฝ่าย มะยมถอนหายใจเบาๆ ตาเหม่อมองไปยังความมืดเบื้องหน้า ...

“ ขอบใจนายมากที่ ... เอ่อ ...มาช่วยฉัน ถ้านายไม่มาฉันอาจแย่จริง ๆ อย่างที่ว่าก็ได้..”

“ ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อย เราเป็นเพื่อนกัน อีกอย่างผมก็ชอบ เอ่อ... นิสัยคุณเหมือนกัน ..”

พออิสราเอ่ยจบ มะยมเกือบจะพูดสวนไปแล้วว่า ทำไมดูเหมือนนายจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตฉันทุกเรื่องเลยนะ แต่เด็กสาวก็ทำได้แต่เพียงนั่งนิ่งๆ ไม่พูดไม่จากระทั่งจนถึงบ้านพักครูโรงเรียนโคกพะงาด…

วันนี้ครูพลไปงานเลี้ยงรับรองนายอำเภอ จึงไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคนแม้แต่พลอยใสที่น่าจะเฝ้าบ้านในตอนนี้ ... มะยมอาบน้ำแต่งตัว เดินมาส่องกระจกสำรวจแผลฟกซ้ำของตัวเอง ก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย 

“ ไปฟัดกับใครมาเหรอวะมะยม หน้าตาถึงเขียวคล้ำได้ซะขนาดนี้ ”

เสียงใสดังแว่วมาจากมุมห้องนั่งเล่นมุมหนึ่งติดกับเครื่องเสียงขนาดย่อม ที่ตอนนี้เสียงเพลงร็อคเกอร์ตามแนวสมัยนิยมกำลังแผดเสียงดังกลบเสียงทุกอย่างไปได้หมด ... พลอยใสนั่นเอง วันนี้ดูจะมามาดแปลกอารมณ์ดีเป็นพิเศษไม่ขี้วีนขี้งอนเหมือนปกติ ... แต่มะยมกลับนิ่งเฉยเดินเลี่ยงไปในทันที แต่ก็ต้องชะงักขาที่ก้าวเอาไว้เพราะพลอยใสเดินตรงมาขวางไว้เหมือนจงใจแกล้ง ก่อนจะถามต่อว่า...

“ เจ็บแผลมั้ยจ๊ะ มามะฉันจะทายาให้ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังได้หรือยัง ”

“ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกเล็กน้อยเท่านั้น คือว่า .. เอ่อ .. เมื่อวานตอนเย็นมันมืดมากมะยมขี่เจ้าแก่ไปบ้านน้ำหวาน มองไม่เห็นทางเลยไปชนควายคนแถวนั่นน่ะพลอย ... ไม่อะไร ไม่ต้องไปเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟังนะ เดี๋ยวจะไม่สบายใจเปล่าๆ”

พลอยใสทำตาลุกโตเหมือนได้ฟังเรื่องอัศจรรย์พันลึก ก่อนจะแย้งกลับมาไปในทันทีที่มะยมเล่าจบ ความที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดกันมานานแสนนานตั้งแต่เด็กจนโต จนรู้นิสัยและความคิดกันเป็นอย่างดี เพราะดูจากกิริยาท่าทางของน้องสาวต่างสายเลือดแล้ว คงไม่ยอมเล่าง่ายๆ แน่ ซึ่งข้างมะยมก็รู้ถึงข้อนี้ดีด้วยเช่นกันว่ายังไงๆ พลอยใสก็ต้องซักไซร์ไล่เรียงรู้เรื่องนี้จนได้แน่นอน ..

“ มอเตอร์ไซต์ล้มทำไมมีรอยเล็บเต็มหน้าและตามตัวล่ะมะยม นี่เธอไปตบตีใครมาใช่ไหม! ใช่หรือเปล่า ! เล่ามาเหอะเราไม่บอกพ่อหรอกไว้ใจสิ ”

“ ..คือ ..ฉัน..เอ่อ..”

“ เล่ามาเหอะไว้ใจฉันสิ..” พลอยใสยิ้มหวานละมุนตามกิริยาปกติเช่นเคย ก่อนจะเอื้อมมือมาสัมผัสที่หลังมือน้องสาวที่อายุห่างกันไม่ถึงปีดีคล้ายเป็นการส่งกำลังใจให้ …

“ คือฉันไป…เอ่อ…ตีกับพวกแก้วตาเมื่อตอนเย็น..” มะยมเล่าให้พลอยใสฟังทั้งหมดจนอีกฝ่ายเข้าใจดีแล้ว แต่เด็กสาวได้เว้นเรื่องที่อิสรามาช่วยไว้อย่างเฉียดฉิว เมื่อมองเห็นว่าพลอยใสอาจจะไม่จบเรื่องนี้ถ้ารู้ว่าว่าที่คู่หมั้นเพื่อนรักไปทำอะไรคำๆมืดๆกับตนเองสองต่อสอง ...

“ ยายแก้วตาลูกครูประดิษฐ์น่ะเหรอ ยัยนี้ร้ายไม่ใช่เล่นนะ ท่าทางคิดแค้นพวกเรามาตั้งนานแล้วนี่นา”

“ ก็คงทำนองนั้นแหละ แต่มะยมว่าจะไม่เอาเรื่อง อยากให้จบไปเลย..”

“ คงไม่ได้หรอกฉันว่าพวกเพื่อนๆกลุ่มเธอ คงไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ ”

พลอยพูดฟันธงอย่างที่มะยมคิดอยู่ในใจเหมือนกัน เพราะจากสภาพใบหน้าที่บวมคล้ำคล้ายคนถูกรุมสะกรัมมาอย่างหนักเช่นนี้ ถ้าพรุ่งนี้เช้าโผล่ไปถึงโรงเรียนทุกคนต้องถามหาสาเหตุเป็นอย่างแรกเป็นแน่ เด็กสาวเล่าเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงทุ้มนุ่มดังมาจากตรงหน้า ...

“ หน้าตาปูดบวมเขียวอื้อซะขนาดนี้ ไปโดนอะไรมาลูกมะยม..” เสียงครูพลดังขึ้นมาขัดจังหวะที่สองพี่น้องที่กำลังสนทนากันอย่างเข้มข้นจนทั้งคู่ต้องหันไปตามเสียงพร้อมกับยิ้มที่ฝืดเคืองเต็มทนของมะยม …

“ มะยมน่ะซุ่มซ่ามทำอีแก่ข้างล่างล้มทับตัวเองที่สะพานข้ามน้ำน่านใกล้บ้านน้องน้ำหวานจ๊ะพ่อ..”


“ จริงเหรอลูก ทำไมสะเพร่าขนาดนั้น คราวหน้าคราวหลังระมัดระวังตัวมากกว่านี้หน่อยซิลูก เราเป็นสาวเป็นแส่ไม่ใช่เด็กๆเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ ... พออีกหน่อยมีแฟน มีครอบครัวแล้วแยกจากพ่อไป ถึงวันนั้นจริงๆ พ่อจะได้ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว พลอยใสก็เช่นกันนะลูก ต้องหัดดูแลตัวเองและดูแลน้องด้วย โดยเฉพาะน้องสาวคนนี้ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย ครูเมตตาบอกพ่อว่าเป็นลิงเป็นค่างขึ้นทุกวัน ..”

“ พ่อน่ะ มะยมโตแล้วนะจ๊ะ สิ้นปีหน้าก็เรียนจบมอหกแล้ว ถึงตอนนั้นก็เรียนมหาวิทยาลัยได้เป็นสาวเต็มกายไม่ทำให้พ่อปวดใจอีกแล้วล่ะจ๊ะ” มะยมเถียงไปอย่างข้างๆ คูๆ ก่อนจะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นพ่อด้วยความรักเหมือนเช่นเดิม จนพลอยใสที่อยู่ข้างๆเริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที...

“ หนูดูแลเค้าแน่จ๊ะพ่อ ว่าแต่ว่าเจ้าตัวเค้าจะให้ดูแลหรือเปล่านี่สิปัญหา ”

พลอยเอ่ยตอบคำถามไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ แต่ครูพลรู้ปัญหาของสองพี่น้องคู่นี้ดี จึงดึงตัวมาทั้งสองคนให้อยู่ในอ้อมกอด ..

“ ฟังพ่อนะพลอยใสกับมะยม ในวันหน้าข้างหนทางชีวิตอาจจะคดเคี้ยวจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจอะไรมันมากนัก .. เรารู้ไว้แต่เพียงว่าคนไหนทำความดีไว้มากๆ ซักวันความดีนั้นกลับมาเกื้อหนุนแน่นอนจำคำสอนของพ่อเอาไว้นะลูก ..”

ทั้งสองนิ่งเงียบคิดไปคนละทิศละทางแตกต่างกันไป แต่มะยมคิดอยู่ในใจว่าถ้าหากหยุดเวลาดีๆในตอนนี้เอาไว้ได้ เด็กสาวงจะต้องทำอย่างแน่นอน เพราะสายสัมพันธ์ที่รัดตึงกันไว้อย่างนี้อีกไม่นานจะขาดสะบั้นลงไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมาเหมือนวันเก่า ๆ เช่นวันนี้อีกแล้ว ..

แล้วจู่ๆครูพลก็เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาขณะนั่งบนโต๊ะอาหารในบ้านพัก มะยมหันไปมองพลอยใสที่แว่บแอบประตูเตรียมจะลงบ้านไปพร้อมกับอานนท์ที่รออยู่ด้านล่างแล้ว …

“ เมื่อวานตอนค่ำพ่อได้รับโทรศัพท์จากครูพักตร์โทรศัพท์มาหาพ่อแล้วบอกว่าจะขอตัวมะยมเป็นนางนพมาศของโรงเรียนในงานลอยกระทงที่จัดขึ้นที่หน้าที่ว่าการอำเภออาทิตย์หน้า ... พ่อเห็นว่าไม่เสียหายอะไรเลยรับปากตกลงไปแล้วนะมะยม แต่ตอนนี้นางงามของพ่อหน้าเขียวบวมปูดไปทั้งตัวอย่างนี้จะทำไงดีนี่ ”

ผู้อาวุโสเล่าไปเรื่อยๆ อย่างอารมณ์ดีที่ได้หยอกลูกสาวคนโปรด …

“ ห้า …พ่อจ๋าฟังมาผิดหรือเปล่า ครูพักตร์ต้องการลูกสาวพ่อคนไหนกันแน่พลอยหรือตัวหนู”

เด็กสาวรู้สึกข้องใจเป็นอย่างมากที่ได้ยินผู้เป็นพ่อบอกว่าตนเองได้รับการทาบทามให้เป็นนางนพมาศของโรงเรียนท่าวังหินพิทยาคม แทนที่จะเป็นพี่สาวคนสวย ที่ทั้งอ่อนหวาน น่ารัก สวยเก๋เลิศเลอกว่าใครในโรงเรียนออกปานนั้น หนำซ้ำยังเนื้อหมอขนาดมีคนมารุมชอบรุมรักกันทั้งโรงเรียน แต่ตอนนี้ไหงกลับตาลปัดอย่างงี้หว่า .. ไม่อยากจะเชื่อเลย ...

“ ไม่ผิดหรอกมะยม ครูพักตร์เปรยๆว่าคนสวยน่ารักอย่างพลอยใสมีเยอะเต็มโรงเรียนแล้ว แต่หาสายคมเข้มอย่างมะยมหายากมาก ถ้าแต่งหน้าดีๆ เข้ม ๆ คงสวยพิลึกกึกกือ ฮ่ะ ๆ ๆ ..”

ครูพลล้อเลียนลูกสาวคนโปรดอย่างขบขัน อารมณ์ดีตรงข้ามกับมะยมที่นั่งหน้าง้ำเหม่อลอยและครุ่นคิดไปไกลนอกหน้าต่างว่าจบขบคิดจะแก้ปัญหาหนักอกครั้งนี้ยังไง…

เฮ้อ ! … ทอมบอยกับนางงาม มันตรงกันข้ามสุดขั้วขนาดนี้ สงสัยงานลอยกระทงปีนี้คงสนุกดีพิลึก …

“ พ่อจ๋ามะยมจะทำไงดี รู้สึกไม่ชอบการเป็นนางงามอะไรนี่เลยจ๊ะ ดูไร้สาระ ปัญญาอ่อนสิ้นดี หนูคิดว่าจะส่งนังมะหมี่ไปแทนได้มั้ยล่ะ ... มันก็ของแปลกเหมือนกันกับหนู ”

“ เฮ้ย ! ทำเป็นเล่นไปลูก เมื่อวานครูพักตร์โทรหาพ่อสองสามรอบเชียวนะ พ่อว่าแกคงจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่เห็นมั้งลูก อย่าคิดมากไปเลยนะ เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดดีกว่า เรื่องอื่นไม่สำคัญแล้ว”

“ ก็ได้จ๊ะพ่อ ... มะยมไปเรียนก่อนนะตอนเย็นเจอกันค่ะพ่อ ..”

คนพูดยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อก่อนจะวิ่งลงบันใดบ้านพักครูไปในทันที ครูพลส่ายหน้าช้าๆ อย่างคุ้นชินกิริยากระโดกกระเดกเหมือนม้าดีดกะโหลกของของลูกสาวคนนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ในใจก็ยังอดห่วงลูกสาวอีกคนอยู่ไม่วาย เพราะลูกสาวคนโตคนนี้มีนิสัยใจไม่เหมือนลูกสาวคนเล็กเลย ไม่ว่าจะเป็นกิริยามารยาท นิสัยใจคอ ความชอบ หรือรสนิยมอื่น ๆ ตนเองเป็นพ่อทำได้แค่เพียงภาวนาให้ทั้งสองรักกันอยู่อย่างนี้ตลอดไป ไม่อยากเห็นความบาดหมางเกิดขึ้นในครอบครัวอีกเลยนับจากวันที่การะเกด เมียรักจากไปเพราะความเข้าใจผิด ...


สายลมพัดเอื่อยเฉื่อยพัดเอากลิ่นดิน กลิ่นโคลนจากการดำน้ำ หว่านข้าวใหม่ๆ ทำเอามะยมที่กำลังควบเจ้าแก่ผ่านทุ่งนาที่ไกลสุดลูกลูกตาเป็นตารางสี่เหลี่ยมคล้ายตารางหมารุกต้องเงยหน้าขึ้นสูงอีกนิดเพื่อสูดกลิ่นเหล่านี้เข้าให้เต็มปอด เด็กสาวรู้สึกชอบกลิ่นแบบนี้เป็นที่สุด ชีวิตเด็กผู้หญิงบ้านนอกธรรมดาๆ จะหาความศิวิไลซ์ไปได้นอกจากท้องไร่ท้องนาแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว มะยมเหลียวมองไปรอบๆตัวจะเห็นทิวเขาสีน้ำเงินทะมึนจรดขอบฟ้าสีกระจ่าง มองเห็นเมฆกระจายลอยฟูฟ่องเต็มไปทั่ว ...

เฮ้อ ! ชีวิตอันแสนสุขของเราคงจะอยู่ที่นี่ตลอดไปแน่นอน ...

พอพ้นโค้งถนนก็เลี้ยวผ่านศาลาริมทางที่พวกนักตกปลาในวันหยุดมักจะใช้เป็นที่ชุมนุมและสำหรับพักเหนื่อย คลายร้อนกันเป็นหมู่มาก แต่วันนี้กับร้างไร้ผู้คน มะยมเกือบจะมองเลยผ่านจนแว่บสายตามองเห็นร่าง ๆ หนึ่งแสนจะคุ้นเคยยืนพิงเสาศาลาเหม่อไปข้างหน้าอย่างเดียวดาย เด็กสาวหยุดเจ้าแก่แล้ววนรถกลับคืนมาดูให้แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า .... เป็นจริงอย่างที่คิดไว้เป็นสาวหน้าหวานคนเดิมนั่นเอง ..

“ มายืนคอยใครที่นี่หรือจ๊ะน้ำหวานจ๋า พี่กำลังจะไปรับที่บ้านอยู่นะ” มะยมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงออกมาทางน้ำเสียงที่นุ่มชวนฟัง ..

“ พี่มะยมต้องช่วยน้ำหวานนะ แม่กับพ่อจะให้หนูไปอยู่กรุงเทพกับป้า น้ำหวานกลัวลุง กลัวพี่พัดลูกชายป้า พวกเค้าชอบลวนลามน้ำหวานเวลาป้านวลไม่อยู่ ฮือๆๆ นี่ถ้าไปอยู่บ้านนั้นตลอดเทอมใครจะรับรองความปลอดภัยน้ำหวานได้ ฮือๆๆ น้ำหวานตายแน่ๆ ”

สาวหน้าหวานสมชื่อน้ำตารินไหลอาบสองแก้มและเปียกชุ่มผ้าเช็ดหน้าสีชมพูที่ถืออยู่เพราะความอัดอั้นความรู้สึกข้างใน ก่อนจะโผเข้ากอดมะยมไว้จนแน่น ..

“ มันไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกน่าน้ำหวาน พี่ว่าเราค่อยหาทางแก้ไขกันคราวหลังดีกว่า ตอนนี้ไปเรียนหนังสือกันก่อน เดี๋ยวพี่ไปสายอาจารย์เมตตาดุเอา ”

มะยมพูดตัดบทพร้อมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เด็กสาว แต่แล้วน้ำหวานกลับเขย่งตัวขึ้นมาจุ๊บที่แก้มมะยมอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวรู้สึกเขินไปบ้างเหมือนกัน …

“ พี่มะยมน่ารักจัง เข้าใจน้ำหวานทุกอย่าง เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะพี่นะ..”

เด็กสาวทำเสียงออดอ้อนคล้ายสาวอ้อนหนุ่ม จนมะยมรู้สึกแปลกๆเหมือนจะไม่คุ้นเคยพิกล ก่อนจะตอบไปแบบกึ่งรับกึ่งสู้ว่า “ จ๊ะ ! ได้จ๊ะไปเราไปโรงเรียนกันเถอะ ..”

พอมาจุดนัดพบ แก็งสาวซ่าส์ลุกแตกฮือเมื่อเห็นว่าใบหน้าเนื้อตัวของมะยมบอบซ้ำเหมือนไปฟัดใครมาอย่างที่ครูพลว่า น้ำฝนปราดเข้ามาสำรวจอาการเป็นคนแรกตามด้วยจิ๊บ หยาด ฝน แมว มะหมี่และส้มโอ

“ แกไปทำอะไรมานังยม หน้าตาเยินขนาดนี้ ..” มะหมี่สาวสวยประจำกลุ่มถามขึ้นมาเป็นคนแรก

“ เฮ้ย... ไม่ต้องตกใจไม่มีอะไร แค่โดนหมาหมู่มันรุมเอาเมื่อวานตอนเย็น...” มะยมช่างใจว่าจะเล่าต่อไปหรือหยุดเล่าดี เพราะตอนนี้เพื่อนทั้งกลุ่มลุกยืนขึ้นพร้อมกันแล้วยืนมุงค้ำหัวตัวเองแทบจะหายใจไม่ออก จึงแสร้งพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนสถานการณ์แล้วเล่าต่อไปว่า “ พวกแกไม่ต้องเดือดร้อนเพราะข้าขนาดนี้ก็ได้วะเพื่อน ซึ้งจังว่ะ ... ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แค่นี้ไกลหัวใจจะตาย คนอย่างอีมะยมไม่เคยกลัวใครหน้าไหนพวกแกก็รู้” มะยมเล่าไปเอามือลูบคางป่อยๆ ใช้ความคิด แต่ก็นึกฉิวไปทุกครั้งเมื่อคิดถึงพฤติกรรมหมาหมู่ของแก้วตา ..

“ ใครทำแกวะนังยม แล้วนี่หล่อนทำไมไม่มาตามพวกชั้น ไปลุยเดี่ยวอย่างนั้นทำไมวะ ... คิดว่าตัวเองเป็นแรมโบ้หญิงหรือไงย่ะ” ส้มโอเอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าของมะยมแล้วพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ก่อนจะทุบกำปั้นบนฝ่ามืออย่างเคืองแค้น ..

“ ใครนะที่กล้าลูบคมเสือ อย่างงี้ต้องเอาคืน “

“ ไม่เอาน่าเพื่อน ๆ เรื่องมันก็แล้วไปแล้ว ฉันไม่ติดใจอะไรพวกนั้น อีกอย่างฉันก็ผิดที่ปากเร็วไปรับปากท้าตีท้าต่อยกับพวกนั้นโดยไม่ปรึกษาพวกแกก่อน …ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆสาบานได้ พอดีมีคนไปช่วยไว้ทันเวลาพอดี ” มะยมพยายามอธิบายท่ามกลางหน้าที่ที่เครียดขึ้งของเพื่อนสาวทุกคนในแก๊งค์ …

“ พวกนังแก้วตาใช่มั้ยมะยม ”ส้มโอ ปกติจะเป็นคนโผงผางมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเอ่ยถามอย่างคาดคั้น มะยมเหลียวมองไปรอบๆโต๊ะก็เห็นแววตาคาดคั้นจากเพื่อนทุกคนเช่นกันรวมทั้งน้ำหวานด้วย ..

“ ใช่ ! เพื่อน ... ฉันไปท้าตีกับแก้วตาที่หลังโรงเรียนสองต่อสอง แต่มันผิดพลาดไปหน่อย ..”

“ ผิดพลาดยังไงวะ แกโดนพวกมันรุมมาหรือเปล่า” แมวที่ปกติจะเป็นสาวห้าวเข้มเต็มพิกัด ชอบอยู่เฉยๆฟังเพื่อนสนทนามากกว่าจะออกความเห็นเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง…

“ ทีแรกฉันก็นึกว่าแก้วตาจะมาคนเดียว ที่ไหนได้มันพาโจทย์เก่าทั้งหมดมาคิดบัญชีฉันใหม่อีกครั้ง แทบปางตาย แต่มันก็ดีแล้วเรื่องมันจะได้สะสางจบๆไปซะที แล้วค่อยคิดบัญชีหน้าใหม่กันต่อไป เฮ้ยเพื่อนๆ ดูหน้าตาพวกแกสิทำหน้ายังกะจะไปฆ่าแก้วตาตอนนี้ซะให้ได้งั้นแหละ” มะยมพยายามฝืนยิ้มทั้ง ๆ ที่รู้สึกปวดแปลบที่ตรงมุมปากนิดๆ

“ ถึงแกทนได้ แต่พวกเราทนไม่ได้หรอกนะมะยม ตอนเย็นนี้แหละฉันกับพวกนี้จะไปคิดบัญชีแค้นกับนังผีบ้าแก้วตานั่นเอง คราวนี้จะคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยเลยคอยดู คอยดูสิว่ามันจะรอดเงื้อมมือพวกเราไปได้ยังไง ..หนอย ! เล่นกับใครไม่เล่นเล่นกับพวกข้า วอนหาเรื่องตายซะแล้ว ”

ส้มโอสาวห้าวอีกคนแค่นเสียงออกมาดังลั่น จนหยาดทิพย์สาวหวานซ่อนเปรี้ยวประจำแก๊งต้องเอามือปิดปากเอาไว้เพราะกลัวคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน ...

ส่วนสาวสุดสวยอย่างมะหมี่ กระโดดพุ่งออกมานอกโต๊ะ ชูมือชูแขนแล้วเตะแข้งเตะขาไปข้างหน้า ตีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังผิดปกติ ก่อนจะเอ่ยประโยคบางประโยคออกมา ..

“ ฉันก็ทนไม่ไหวแล้วนะแก วันนี้จะขอเสียสละเรือนกายอันเป็นหญิงแสนสวยของฉันแปลงร่างเป็นชายแมนล่ำไปกอบกู้ศักดิ์ศรีของเธอคืนมาให้ได้ คอยดู้ คอยดูสิ ..”

“ พวกแกหยุด ๆ ๆ ๆ เลย ไม่เอา ไม่เอาน่า คราวนี้ฉันขอให้มันผ่านไปเถอะนะ ความจริงฉันเป็นถึงประธานนักเรียนไปท้าตีท้าต่อยไร้สาระอย่างนั้นได้ไง น่าละอายจริงๆ คราวหน้าถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้อีก ฉันรับปากพวกแก ๆๆๆ ว่าจะพาไปตะลุยพวกมันให้ราบเป็นหน้ากลองเลยเพื่อน เอาให้พวกมันเจ็บมากกว่าที่ทำกับฉันสิบเท่า ตกลงมั้ยวะ..”

ความเงียบเข้าปกคลุมไปนานครู่ใหญ่ ก่อนจะมีการคุยกันในเรื่องอื่นแล้ว นั่นก็แสดงว่าสถานการณ์ดีขึ้นเข้าสู่ปกติแล้ว .... มะยมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นเพื่อน ๆ มีปฏิกิริยาอารมณ์ที่เบาและเย็นลงทุกคน แต่ก็คงอาการไว้ได้ไม่นานนักเพราะเสียงทุ้มดังมาทางด้านหลังโต๊ะเสวนา …

“ ว่าไงมะยมได้ข่าวไปฟัดกับหมามาเหรอ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ เสียฟอร์มไปเลยนะเว้ย” เสียงของเดี่ยวที่ดังลั่นมาพร้อมหน้าตาที่ยียวนกวนประสาท ทำให้ทุกคนถึงกับหันหลังกลับไปมองทันที ..

“ ไอ้หมาเดี่ยว ทำไมเว้าหมาๆ อย่างงี้ล่ะ.. แกมาต่อยกับชั้นเลยมะ” ส้มโอทำท่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะไปชกปากเดี่ยวจริงๆ “ อ๊ะ! ข้าไม่ได้พูดเองนะโว๊ย ยัยแก้วตาไปโวที่โรงอาหารอยู่ในตอนนี้ ไม่เชื่อก็ลองไปฟังดูสิ ไปตอนนี้ก็ยังทันนะ เผื่อของจะขึ้นกันมั่ง ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ” เดี่ยวยังคงบรรยายต่อไปอย่างเมามัน ไม่สนอารมณ์คนฟังแม่แต่น้อย “ วอนหาเรื่องซะแล้วไอ้เดี่ยว ถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปไกลๆเลยปะ..” แมวทำท่าแยกเขี้ยวขึ้นมาขู่อีกคน จนเดี่ยวกับพวกต้องถอยกราวรูดไปในทันที มะยมเหลือบตามองแก๊งหนุ่มแสบทั้งหมดอย่างนึกฉิวตามไป แต่แล้วก็ต้องหยุดสายตาไปในทันทีเมื่อมองเห็นคนสุดท้ายที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่...

อิสรานั่นเอง มายืนแอบข้างหลังอยู่เงียบๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้.. มะยมนึกฉุนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะชวนทุกคนไปเข้าแถวเมื่อออดสัญญาณดังขึ้นมาแล้ว …

“ เข้าแถวเถอะพวกเรา ..”

(จบตอน 4)



Create Date : 29 มกราคม 2561
Last Update : 30 มกราคม 2561 17:12:46 น.
Counter : 272 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 4063778
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]