|
น้ำตาดวงดาว 2 ถึงแม้อากาศยามดึกเกือบตีสามภายนอกร้านวิกตอเรียของคืนวันนี้จะหนาวเย็นยะเยือกกว่าปกติ แต่ดาวยังคงยืนนิ่งรอคอยสีนวลที่กำลังคุยกับนางประคองอย่างเข้มข้นภายในร้านอีกครั้งให้รู้เรื่องราวทั้งหมด ตอนนี้นางประคองกำลังมีสีหน้าแดงกร่ำ เลือดขึ้นหน้ากว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมา เพราะอีกฝ่ายได้ยื่นขอเสนอที่ตนเองรับไม่ได้บางอย่าง .... หนูกับดาวจะขอหลบไปที่ไหนสักที่หนึ่ง ไม่นานหรอกจ๊ะแม่คองที่หนูจะกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง อะไร้นังนวล ... เดี๋ยวนี้แกกล้ามาขอฉันแบบนี้แล้วเหรอวะ ... หน๊อยเลี้ยงไม่เชื่องกันทั้งนั้น... นางประคองขมวดคิ้วย่นจนมองเห็นเป็นเส้นผากบนหน้าผากหลายเส้น ทอดสายตามองไปนอกร้านดูไฟท้ายรถวิ่งผ่านไปมาคล้ายจมในความคิดของตนเอง จนสีนวลที่นิ่งฟังรู้สึกขยาดไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ... นวลขอโทษแม่ที่ต้องออกไปข้างนอกเพราะดาวกำลังลำบาก... นี่ถ้าให้ฉันเดา ...คงจะเป็นเรื่องที่ไอ้หนุ่มรูปหล่อที่มาหานังดาวเมี่อคืนใช่ไหม ... นางประคองหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูดแล้วค่อยปล่อยควันอย่างช้าๆ แววตาชากระด้างเดาควารู้สึกไม่ถูก ... สีนวลยังคงก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตา ได้แต่ตอบคำถามอ๋อม ๆ แอ้ม ๆ ตามเนื้อผ้าไปว่า .... จ๊ะแม่คอง ... ดาวมันอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้วในตอนนี้ พอหนูเซ้าซี้ถามว่าเพราะอะไร ... เขาก็ไม่ยอมตอบ ... แกไม่ต้องไปถามมันหรอกนังนวล... ชั้นพอจะรู้เรื่องแล้ว.. มันร้ายแรงขนาดเลยเหรอแม่ ... ร้ายไม่ร้าย... แค่ชีวิตนี้ทั้งชีวิตของนังดาว มันจะไม่มีวันลืมเรื่องคนในครอบครัวนี้ได้ลงเด็ดขาด ... มันเป็นยังไงเล่าให้นวลฟังบ้างจะได้ไหม... นางประคองค่อยเล่าเรื่องราวของดาวนับตั้งแต่นางลำเจียก คนไม่เต็มเต็งไปพบหญิงสาวกำลังถูกชายโฉดหื่นกามสี่คนรุมโทรม จนแทบเอาชีวิตไม่รอดหากนางไปช้าอีกไม่กี่นาทีที่ไปถึง ทั้งสองรอดมาจากวิกฤตครั้งนั้นได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ต้องแลกกับขาที่พิการเพราะถูกของแข็งกระหน่ำตีทั้งสองข้าง พร้อมกับบาดแผลลึกเป็นบริเวณกว้างแถวหน้าผากของดาว ... หัวใจที่บอบช้ำของผู้ถูกกระทำ ... หนักหนาเกินกว่าจะเยียวยาด้วยวันเวลา ทิ้งรอยแผลเป็นเป็นรอยจางๆประทับไว้ทุกลมหายใจเข้าออก จนคนเล่าถึงกับซับน้ำตาอีกครั้งด้วยความรันทดใจ ... เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง หนูรู้แล้วล่ะว่าทำไมดาวถึงต้องหนี... ชั้นรู้ดีว่า สักวันนังดาวมันก็คงต้องไปตามทางของมัน.... แต่ก็น่าเสียดายตัวมัน แขกในร้านกำลังติดแทบทุกคน... แม่จ๋าแม่ ... พักนี้นังขมก็กำลังขึ้นหม้อไม่ใช่เหรอ ... ฉันกับดาวจะหนีไปกบดานสักพัก ถ้าจนไม่มีจะเลี้ยงท้องคงซมซานกลับมาขอข้าวแม่กินเหมือนเดิม ... สีนวลรำพึงเสียงสั่น คล้ายไม่มั่นใจในหนทางข้างหน้าเท่าใดนัก ... คิดวิตกว่าการออกไปจากร้านวิกตอเรียไปตายเอาดาบหน้าจะไปทำมาหากินอะไรได้ นอกจากรับจ้างเย็บผ้าโหลหรือไม่ก็ไปเป็นเด็กเสริฟร้านเนื้อย่างเกาหลี ที่ฮอตฮิตผุดเป็นดอกเห็ดเต็มบ้านเต็มเมืองๆ พอๆกับร้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของเด็กวัยรุ่น .... เออ เออ ... ก็ยอมพวกมึงแล้ว แล้วนี่นังดาวมันไปมุดหัวที่ไหน บอกมาหาหน่อยสิ... ดาวกำลังอยู่กับแขกจ๊ะแม่คอง ... เดี๋ยวฉันไปตามมาให้นะ.. รีบเข้าล่ะ เดี๋ยวแม่เปลี่ยนใจเสียหรอก... จ๊ะ จ๊ะ จะไปเดี๋ยวนี้เลย ... พอดาวเดินมาถึงนางประคองดึงตัวเข้ามากอดไว้แน่น แล้วบ่นพร่ำอีกสองสามประโยค ก่อนจะล้วงเอาซองสีน้ำตาลดูเก่าครึยื่นมาให้แล้วพูดว่า ... เก็บออมเอาไว้ให้ดี ... ใช้ประหยัดๆหน่อย ถ้าเดือดร้อนก็กลับมาร้านได้ ไม่ต้องบอกนะว่าทำไม.. ดาวขอโทษป้าคอง ที่ต้องทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้ .. เอาล่ะข้าเข้าใจเอ็งทุกอย่าง จะรีบไปก็ไป อย่าพิรี้พิไรอยู่เลย... ดาวกับสีนวลไปก่อนนะจ๊ะป้า ถ้ามีเวลาจะแวะมาหาบ่อยๆ ดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะ ... เออ ...ไปซะทีรำคาญแล้วนะ... นางประคองบ่นลากน้ำเสียงออกมายาว ๆ จนสีนวลต้องกึ่งลากกึ่งจูงดาวไปจากร้านวิกตอเรียทั้งน้ำตาที่อาบไหลนองหน้า ... ไม่รู้ว่าหนทางวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ในตอนนี้รับรู้แต่เพียงอย่างเดียวว่า ... ชีวิตที่เหลือต้องสู้ จะขอทำเพื่อตัวเองและยายลำเจียกที่ป่วยอยู่โรงพยาบาลจิตเวชเท่านั้น ... ------------------------------------- พอได้รับรู้จากอนึกว่าแทนคุณ ลูกชายคนโปรดออกจากบ้านไปในกลางดึก นางสุนีย์ ผู้เป็นแม่ถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้าตะโกนด่าทอนางละเมียด คนรับใช้อาวุโสที่รอรับที่ห้องรับแขกด้วยอารมณ์โกรธเกินจะยับยั้งได้ ... หล่อนปกป้องกันเข้าไป ระวังเถอะสักวันจะหาว่าฉันไม่เตือนนะนังเมียด... คุณแทนคงไปธุระด่วนอะไรสักอย่าง อย่าเพิ่งว่าเธอสิคะคุณ... เอ๊ะเมียด ... อยากจะถูกด่าอีกคนหรือไง ถึงปกป้องกันดีนัก.. นางละเมียดถอยครูดไปข้างหลังเล็กน้อย เมื่อนางสุนีย์หันกลับมาเท้าสะเอว นัยน์ตาเบิกโพลงจ้องเอาความเต็มที่... คุณจะเอาอะไรกันนักกันหนากับคุณแทน ... เธอเพิ่งเรียนจบด็อกเตอร์มาก็อยากจะมีอิสระบ้าง หลังจากเหน็ดเหนื่อยคร่ำเครียดมานานหลายปี นี่คงหลบปัญหาไปสักพัก พรุ่งนี้มะรืนคงกลับมา ... ใจเย็น ๆ หน่อยสิคะ.. นี่หล่อนว่าชั้นเป็นตัวปัญหาเหรอยะเมีดย ... หน๊อยเป็นขี้ข้ากำเริบเสิบสานนักนะ ... คงได้บ้านใหญ่ให้ท้ายมานะสิถึงยกหางได้สูงขนาดนี้.. บ้านใหญ่ที่นางสุนีย์ว่าหมายถึงบ้านมหศักดิ์นฤบดีที่มีคุณหญิงอาบจันทร์ คุณหญิงย่าของแทนคุณ เป็นประมุขของบ้าน ตั้งบนเนื้อที่ เกือบ 50 ไร่ บนทำเลทองแถบชานเมืองกรุงเทพ ฯ นี่.. คุณนีย์จะว่าชั้นบกพร่องหน้าที่ก็ว่าไป ไม่ควรจะลามปามไปถึงท่านนะคะ มันไม่เหมาะสม... นางละเมียด ที่เป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของบ้านมหศักดิ์นฤบดีที่คุณหญิงอาบจันทร์ส่งมาดูแลหลานชายคนเดียวที่บ้านหลังนี้ถึงกับสวนคำพูดออกไป ไม่ได้เกรงกลัวท่าทางนางสุนีย์เลยสักนิด ... ยะแม่คุณ ... ฉันไม่ใช่ผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดินแบบหล่อนนี่ยะจะได้สนิมสร้อย ทนฟังอะไรไม่ได้ไปซะหมอ... นางละเมียดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิดนึกว่าคุณแทนคุณ นายน้อยเหนือชีวิต โชคดีมากที่ได้นิสัยถอดมาจากคุณอำนาจ ผู้เป็นพ่อมาทุกกระเบียดนิ้ว ... นางนึกภาพไม่ออกเลยถ้าหากแทนคุณได้นิสัยหยาบโลน เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ โลภในวัตถุสิ่งของมากกว่าจิตใจคนจากนางสุนีย์ ผู้เป็นแม่ ... ซึ่งถ่ายทอดให้นนนี่ หรือ สาลินี น้องสาวคนเดียวของแทนคุณไปจนหมด ถอดแบบมาทุกอย่าง ... ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว อีฉันขอตัวไปนอนนะคะนี่ก็ดึกมากแล้ว ... จะไปตายไหนก้ไปเถอะยะ ... นางสุนีย์ขว้างปาหมอนกอดบนโซฟาลงพื้นอย่างอารมณ์เสีย จะไถ่ถามว่าแทนคุณออกไปกับใคร ไปทำไมกันดึกดื่นป่านนี้ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรจากใคร แถมเดินหนีเอาดื้อทั้งสองคนทั้งอนึกกับนางละเมียด... แต่นางก็ใจชื้นขึ้นมาอยู่อย่างเมื่อได้ยินเสียงแตรรถของสาลินีกำลังเรียกให้ไปเปิดประตูรั้วเพื่อจะเข้ามาบ้าน ... สาลินีเป็นที่ปรึกษาเรื่องแทนคุณกับนังดาว เด็กไร้ค่าคนนั้นได้เป็นอย่างดี แค่คิดนางสุนีย์เริ่มฉีกยิ้มอย่างคนมีแผนการ กระทั่งสาลินีเดินโซเซคล้ายคนเมาจัดขึ้นมาบนตึก .... -------------------------------------------- ในที่สุดสิ่งที่ดาวพูดไว้กับสีนวลในคืนนั้นก็เป็นจริง เมื่อได้ตัดสินใจลาจากนางประคอง ผู้มีพระคุณเจ้าของร้านคาราโอเกะวิกตอเรียเพื่อหลบหนีหน้าไปที่ไหนสักแห่งให้พ้นจากการติดตามของแทนคุณไปให้ไกลสุดขอบโลกได้ยิ่งดี... แต่มาลองนึกดูอีกทีทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะความเย่อหยิ่งไม่ได้มาพร้อมกับปากท้องที่ร้องว่าหิว ... จะคิดทำงานการอะไรดีล่ะกับสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองย่ำแย่แบบนี้ ดีนะ ถ้านั่งอยู่บ้านเช่าเฉย ๆ กินศักดิ์ศรีกับข้าวเปล่าคงอดตายกันพอดี .... และแล้วดาวก็ทนอยู่เฉยบ้านเช่าของสีนวลไม่ได้อีกต่อไป ต้องออกมาเดินหาลูกค้าที่สวนสาธารณะกลางใจเมืองแห่งนี้ สวนเขียวขจีสวยงามด้วยประติมากรรมต้นไม้นานาชนิด ... บรรยากาศดีแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมืองโคราช บริเวณสวนถูกออกแบบอย่างสวยหรู ทันสมัยต้องรสนิยมคนเมือง ... น้ำพุขนาดใหญ่ที่พุ่งสูงขึ้นท้องฟ้าครามก่อนจะตกลงพื้นล่างบอกความเคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาให้กับ ผู้คนที่เดินพักผ่อนไปมาหนาตาในวันหยุดสุดสัปดาห์วันนี้ ... พื้นที่เกือบสามสิบห้าสิบไร่มีมุมกิจกรรมต่างๆให้ได้พักกายใจ ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ สนามหญ้า ลานกีฬาพื้นเมือง ห้องสมุดเคลื่อนที่ ลานดานตรี อย่างนี้เป็นต้น ... ผู้คนที่ต้องการความสงบของธรรมชาติกลางใจเมืองมักจะหลั่งไหลมาที่นี่ในตอนเย็นจนถึงสามทุ่ม หลังจากนั้นก็ถึงเวลาคนกลางคืนอย่างเอื้อมดาว .... หญิงสาวสองคนหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราสวยเด่น แต่ถ้ามองลึกลงไปจะเห็นดวงหน้าเคลือบฉาบด้วยเครื่องสำอางราคาถูก แต่ทว่ายังน่าสนใจน้อยกว่าชุดมินิสเกิ้ตสั้นสีแดงเพลิงกับสีม่วงเข้มของทั้งสองที่สั้นเต่ออวดเรียวขาสวย จนใครๆ ที่ขับรถผ่านต้องเหลียวมองซ้ำไปไม่ได้ ฉันขอโทษเธอนะสีนวลที่ต้องมาลำบากเพราะฉัน ขอโทษจริงๆ.. ดาวเกริ่นออกมาเบาๆ ขณะสายตากวาดไปมองรถราที่วิ่งไปมาขวักไขว่ แสงไฟหน้ารถส่องวูบวาบน่าเวียนหัว ถ้าได้เหลือบตาไปมอง แต่ถ้าแสงสว่างกลับมามืดคราใดหญิงสาวทั้งสองใจหล่นหายไปทุกครั้งเพราะนักท่องเที่ยวกลางคืนที่มาเป็นขาจรหรือขาประจำจะหายไปกับรถราคันไหนสักคันก็เป็นได้ ... แสงไฟรถที่วูบหายแล้วกลับมาสว่างอีกครั้งดูไปช่างเหมือนชีวิตของหญิงสาวทั้งสองในตอนนี้ ... โธ่ ... อย่าคิดมากสิดาว เราเป็นเพื่อนกันนะ ลำบากแค่นี้ไม่ตายหรอก... แทนที่นวลจะอยู่ที่วิกตอเรียสบายๆ ก็ต้องมานั่งตบยุงหาแขก เป็นอีตัวริมทาง ต้องวิ่งหนีตำรวจเหมือนหมูเหมือนหมา แล้วไหนจะพวกเหลือบกลุ่มโน้นอีกล่ะ ... สีนวลบุ้ยปากไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณสามคนที่ตอนนี้กำลังนั่งเป่าควันบุหรี่คลุ้งทั่วบริเวณ แถมยังซุบซิบส่งสายตาวาววับ จับต้องมองมายังสองสาวที่กำลังยืนสงบนิ่งเหมือนรอจังหวะอะไรบางอย่าง ดาวปรายตามองไปแล้วนึกสังเวชใจ สงสารคนกลุ่มนี้อย่างที่สีนวล เพื่อนรักบอก ตนเองเชื่อว่าถ้าหากชายทั้งสามมีทางเลือกชีวิตที่ดีกว่านี้ คงไม่ต้องมาเป็นแมงดาคอยไถ่เงินค่าคุ้มครองอีตัวชั้นต่ำข้างถนนอย่างในตอนนี้ก็เป็นได้ ... ช่างเขาเถอะนะ .. เราให้พวกนั้นเท่าที่พวกเราให้ได้ไม่ต้องมากมายอะไร ให้พออยู่ได้ทั้งสองฝ่าย แค่นี้ก็พอแล้วนะ. พวกห่านี้ ... มันคงเชื่อเธอตายหรอกดาว ยิ่งได้คืบจะเอาศอกอยู่แล้ว... เธออย่าคิดอะไรมากเลยจ๊ะนวล แค่ปากท้องเรารอดในแต่ละวันก็ดีถมไปแล้ว.. นี่เพราะเธอเป็นคนแบบนี้แหละ ฉันถึงยอมช่วยเหลือและหนีมาด้วยกัน.. ขอบใจจ๊ะนวล ...ฉันรู้ ฉันรู้.. และที่สำคัญเธอเป็นคนดีที่เคยช่วยครอบครัวฉันครั้งนั้น ... ฉันได้สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่มีวันลืม จะเป็นบุญคุณค้ำหัวไปตลอดชีวิต ... เธอรักษาความดีนี้ไว้เถอะนะจ๊ะดาว สักวันเธอจะได้ดี คุณพระคุ้มครองคนดีเสมอ ฉันเชื่ออย่างนั้น ... บุญคง บุญคุณอะไรกันนวลเอ๊ย ... เงินแค่นั้น ขี้ประติ๋วชะมัด.. สีนวลทำตาโตแล้วอุทานว่า ... เงินตั้งห้าหมื่นนี่น่ะเหรอขี้ประติ๋ว ... ดาวส่ายหน้าช้าๆ แล้วระบายยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็กๆเรียงวาบวับสดใสข้างใน ... เล็กน้อยน่า ถ้าเรายังไม่ตายเสียก่อนก็หาใหม่ได้อีกแน่นอน ... ทั้งที่เงินส่วนนี้ เธอกำลังจะเอาไปรักษาป้าเจียกที่ป่วยอยู่จิตเวชไม่ใช่เหรอ ...ฉันนี่แย่เอาซะจริง ๆ หยิบยืมเอาเงินเธอมารักษาแม่ที่คราวนั้นหมดไปในครั้งเดียว จนวันนี้ยังไม่มีปัญญาจะใช้คืนเลย ... คิดมากน่านวลจ๋า ... ตอนนี้ป้าเจียกสบายดีขึ้นมากแล้วล่ะ ... นวลเก็บเงินนั่นไว้เถอะนะไม่ต้องมาคืนเราแล้ว.. ไม่ได้ ไม่ได้... เงินทองตั้งมากมายขนาดนั้น เราจะหามาใช้เธอจนได้ รอหน่อยนะดาว ... เฮ้ยหยุด ... ฟังนะนวล ... ดาวไม่เอาเงินก้อนนั้นแล้ว แค่เธอออกมาอยู่ลำบากอดมื้อกินมื้อกับเรา เป็นเพื่อนทำงานคู่กับเรา ... ร่วมเป็นร่วมตายทุกอย่าง ... แค่นี้ก็เป็นบุญของเราแล้วที่ได้เป็นเพื่อนกับนวลนะ ... ทีหลังอย่าพูดเรื่องเงินอีกนะ มันไม่สำคัญไปกว่ามิตรภาพของเราสองคนหรอกจ๊ะ... ขอบใจมากนะดาว ... ชีวิตของฉันก็มีแต่แม่คนเดียวเท่านั้นที่เป็นแรงใจยึดเหนียว ... สีนวลน้ำตาคลอเบ้าบีบมือดาวไว้แน่น ... ฉันก็เหมือนกัน .. ชีวิตที่เกิดมาโชคดีเหลือเกิน ได้พบเจอแต่คนดีหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือนวล ... ชาตินี้ฉันจะไม่ลืมเธอเลยแน่นอน ... ดาวปาดน้ำตาออกจากหน้าแล้วเติมแป้งไปอีกนิดหน่อยให้ดูสวย ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเพื่อนสาวอุทานเสียงดังว่า อุ้ยมาแล้ว พ่อขมองอิ่มของฉัน .... แววตาของสีนวลระริกระรี้ดีใจเมื่อเห็นชายร่างใหญ่ แลดูกำยำสวมเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยสีน้ำเงินเข้มระบายยิ้มเห็นฟันเรียงสีขาววาววับมาแต่ไกล ... เราไปก่อนนะดาว ... อยู่แถวนี้คนเดียวระวังตัวเอาไว้หน่อย สีนวลพาร่างบอบบางแต่โรยแรงของตัวเองกับ รปภ. ขวัญใจผ่านจนลับตาไปในมุมสวนตรงหน้า ดาวกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเมื่อลมหนาวพัดกรูเข้ามาอีกระลอก ... วันนี้เป็นคืนวันจันทร์ เป็นวันที่ปกติแล้วเจ้าหล่อนจะไม่มาออกรับลูกค้าริมสวนสาธารณะแบบนี้ แต่เพราะมีความจำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าบ้านในวันพรุ่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว ... จึงต้องมาหาลูกค้าริมสวนในคืนนี้ทั้งที่ต้องเสี่ยงกับถูกสายตรวจตำรวจจับพอ ๆ กับถูกนักเลงคุมสวนสาธารณะแห่งนี้มาลวนลามเพื่อขอกินฟรีแล้วบังคับให้อยู่ในสังกัดแล้วจ่ายค่าคุ้มครองเป็นรายวัน .... เมื่อมองดวงดาวไกลฟ้าลิบลับ ดาวบอกตัวเองว่าในค่ำคืนนี้ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากสีนวลเดินจากไปพร้อมคนรักก็ไม่มีรถยนต์คันไหนกล้าจอดชิดฟุตบาทเพื่อไถ่ถามราคา หรือบริการพิเศษหลังการติดต่อแม้แต่คันหรือรายเดียว .... หญิงสาวหยิบตลับแป้งราคาถูกขึ้นมาซับมันแล้วส่องกระจกดูความเนียนเรียบของใบหน้าสวยอีกครั้งเพื่อความมั่นใจเหมือนเดิมในคืนก่อนๆ แต่ก็พบว่าเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็ยังไม่มีลูกค้าคนไหนชะลอรถจอดแล้วเรียกตัวเธอไปต่อรองราคาสักคันเลย เอื้อมดาวถามตัวเองว่าคืนนี้ถ้าไม่มีลูกค้าจะทำยังไงในวันพรุ่งนี้ดี ... สายลมเย็นพัดโชยมาอีกครั้ง ลมหนาวทวีความหนาวบอกให้หญิงสาวว่าค่ำคืนนี้กำลังผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง น้ำค้างจากต้นไม้ใหญ่หยดแหมะมาถูกตัวจนต้องขยับเดินหนีจากตรงนั้น ... วันนี้ลูกค้าขาประจำที่เคยมาหายไปไหนกันหมดนะ... ดาวบ่นพึมพำอยู่คนเดียวส่ายตามองไปริมฟุตบาทใต้ร่มไม้ใหญ่ที่มีแสงสว่างสลัวรางเล็กน้อยให้ได้เห็น ... การที่มายืนตรงมุมมืดตรงนี้ก็เพราะต้องการจะหลบสายตาผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาหรือใครบางคนที่อยากหนีไปให้ไกลตลอดทั้งชีวิตนี้ ... หญิงสาวรู้ดีว่าการเร่หาเงินแบบนี้เสี่ยงต่อการไม่มีลูกค้าขาประจำเหมือนตอนอยู่ร้านวิกตอเรีย แต่ทำยังไงได้ ... สถานการณ์ในอดีตส่งผลให้ต้องวิ่งหนีไกลจากมันโดยไม่แคร์ว่าจะต้องยากลำบากเรื่องปากท้องยังไงในทางข้างหน้า หนีตายเอาดาบหน้ายังดีกว่าวิ่งถอยหลังกลับไปหาอดีต .... เฮ้ยู ...ไปเที่ยวกันไหม... เสียงทุ้มกังวาลก้องของชายรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีทองหน้าตาคมเข้ม สวมใส่เสื้อยืดรัดติ้ว กางเกงลายพรางทหาร ใบหน้าแดงกล่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างรุนแรงดังมาหาขณะย่างสามขุมเข้ามาดาวในระยะประชั้นชิดพร้อมกับเพื่อนในวัยฉกรรจ์อีกสองคนมีท่าทางไม่เป็นมิตรด้วยเช่นกัน ... ดาวขยับตัวจะผละหนีแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว ... ว่าไงจ๊ะคนสวย ฟังไอพูดรู้เรื่องมั้ย ... ดาวไม่ตอบทั้งๆที่ฟังภาษาที่ชายทั้งสามกำลังพยายามสื่อสาร และสัญชาติญาณภายในบอกกับตัวเองว่าชายทั้งสามคนนี้เป็นคนไม่ดีแน่นอน ... เพราะในทันทีที่พูดจบประโยคพวกมันกรูตรงเข้ามายึดแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้แน่น แล้วดึงไปยังรถกะบะสี่ประตูคันใหม่เอี่อมที่จอดอยู่บริเวณใกล้ๆอย่างรวดเร็วเกินจะตั้งตัวไว้ทัน ... ปล่อย ปล่อยฉันนะไอ้ฝรั่งบ้า ...จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไป ... ช่วยด้วย ช่วยด้วย ... หุบปากไว้ดีกว่าคนสวย ยูจะพาไปหาความสุขนะที่รักจ๋า .... ไม่ ฉันไม่ไป ช่วยด้วย ช่วยด้วย ... อุ๊บบบ ... ซุ้มเสียงของดาวหายเข้าไปในลำคอเมื่อหนึ่งในสามที่นั่งในรถเอื้อมมือหนาใหญ่ หยาบกร้านตะปบปากบางที่กำลังตะโกนอยู่สุดเสียงด้วยเรี่ยวแรงที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ... ดาวรับรู้ว่ากำลังกายทั้งหมดของตนเองกำลังจะหมดไปจากการดิ้นเหวี่ยงตัวไปมา .... กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในกะบะคันโตพร้อมชาวต่างชาติตัวโตหน้าแดงกร่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เต็มคราบนั่งประกบหลังยึดตัวไว้แน่น กระตุกกระดิกตัวไม่ได้เลย ... ดาวหลับตานิ่ง ทำตัวอ่อนระทวย ผ่อนปรนไปกับจับชิดตัวจนรับรู้ว่ารถกะบะกำลังเคลื่อนตัวเข้าไปยังโฮเต็ลบรรยากาศคุ้นเคย คาดเดาได้เลยว่าอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะที่ตนเองไปยืนอยู่เมื่อครู่ .... -------------------------------------------------------- ความมืดของค่ำคืนนี้ดูทึบทะมึนโรยตัวอยู่ทุกหนแห่ง ... เสียงสายลมพัดดังวู่ไหวไปมาจนดูเหมือนว่าฝนฟ้าคงจะตกกระหน่ำมาอย่างหนักในอีกไม่ช้าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ... มาวิน ธนานุรักษ์ เอื้อมมือไปลูบน้ำค้างบนกระจกบนตัวตึกเจ็ดชั้นของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งนี้อย่างช้าๆ จ่อมจมกับความเหงาของตัวเองกับเรื่องราวในชีวิตยี่สิบห้าปีที่แสนยากลำบากในอดีตที่ผ่านมา ... ด้วยหน้าที่และการงานอันมั่นคงกับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทรับเหมาก่อสร้างทุกชนิดแห่งนี้ บอกให้คนทั้งจังหวัดรับรู้ว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติ เป็นคนร่ำรวยทั้งเงินทองแลฐานะ มีพร้อมทั้งชื่อเสียงโจษจานไปทั่วเมืองแห่งนี้ ... ชายหนุ่มโก้หรู จรัสท้องฟ้าเมืองใหญ่เมืองนี้ ใครๆก็รู้จักนายมาวิน ธนานุรักษ์ผู้โด่งดังคนนี้ ตลอดจนถึงการจัดตำแหน่งที่ยืนในสังคมโกหรู ที่ไม่มีใครรังเกียจถ้าเขาจะย่างกรายไปในที่ตรงนั้น ... แต่ทว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกใบเบี้ยวใบนี้มักมีสองด้านเสมอ ... ชายหนุ่มเหม่อมองไปนอกกระจกข้างนอกจนมองเห็นว่าวามมืดเข้าครอบคลุมความสว่างเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้นแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือกริ้งดังขึ้นมาหลายครั้ง แต่เขากลับหาสนใจไม่ ... นั่นคงเป็นสายของรัศมิยาโทรเข้ามาตามให้ไปตามนัด หรือไปรับที่บ้านของเจ้าหล่อน หรือไม่ก็ให้พาไปเที่ยวยังผับหรูวีไอพีเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน ... มาวินรู้สึกเบื่อหน่ายกับการหาความสุขในรูปแบบนี้เต็มทน ... ชีวิตวนเวียนอยู่แค่ตื่นเช้ามืดดื่มกาแฟแก้วโปรด รีบบึ่งรถคู่ใจฝ่าการจราจรที่หนาแน่นยามเช้าเพื่อออกไปให้ถึงสำนักงานให้ทันลูกน้องคนอื่นๆ เป็นแบบอย่างสำหรับบริษัทชั้นนำเช่นนี้ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโต๊ะทำงานกับกองเอกสารที่รอเซ็นกองสูงท่วมหัว ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วหลายชั้น ตวัดปากกาจรดลงไปอนุมัติโครงการทันทีแบบไม่ต้องคิดอีกแล้ว ... เมื่อเงยหน้าก็พบว่าถึงเวลาทานข้าวเที่ยงอีกแล้ว ... คงจะเป็นเพราะชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้นี่เองถึงทำให้มาวินรู้สึกเหมือนว่าชีวิตประจำวันกำลังขาดหายอะไรไปสักอย่าง นั่นคือความสุขที่ต้องการ ... ชายหนุ่มลูบน้ำค้างที่เป็นหยดน้ำที่กระจกอีกครั้งก่อนจะมองเห็นแสงสีความศิวิไลซ์ในเมืองใหญ่แห่งนี้ก็เจิดจ้า เฉิดฉายในยามค่ำคืน ... มาวินหยุดความคิดไว้แค่นั้นเมื่อมีสิ่งหนึ่งแว่บหนึ่งเข้ามาในหัวสมอง ทำเอาถึงกับสะดุ้งวาบแล้วบอกกับตัวเองว่า... เออ ... ใช่สิเราต้องไปหาเธอ ... พอยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดูก็รู้สึกใจหาย สงสัยค่ำคืนนี้คงไปถึงที่นั่นไม่ทันแน่ๆ แม่สาวน้อยนัยน์ตาเศร้าสร้อยคนนั้นคงไปกับลูกค้าคนสำคัญเรียบร้อยแล้วสินะ แต่คิดไปคิดมาก็น่าจะลองเสี่ยงออกไปดูสักหน่อยว่าเจ้าหล่อนจะยังคงอยู่ที่นั่นไหม เพราะถ้ายังคงอยู่เหมือนที่ได้ไปเ ฝ้าดูทุกวัน ตอนนี้คงได้เวลาสำคัญแล้วเสียทีที่จะแสดงตัวว่ามีความสนใจในตัวหล่อนมากกว่าแอบมองดูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้ ... ชายหนุ่มคิดสรุปได้จึงรีบสาวเท้าออกจากสำนักงาน แล้วเดินตรงไปกดลิฟท์ที่เปิดอ้าค้างไว้รอแล้วด้วยหมายเลขที่ต้องการ ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปอย่างร้อนรน หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ ... กว่าที่เจ้าสปอร์ตคันหรู ราคาแพงระยับของมาวินจะฝ่าการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักหน้าห้างสรรพสินค้าจนแล่นมาถึงบริเวณสวนสาธารณะได้ก็ใช้เวลานานโขหลายนาที .... จนเมื่อจอดนิ่งสนิทใกล้ฟุตบาทที่เคยมาประจำมาวินเคาะกระจกใช้ความคิดแล้วนึกขำตัวเองว่า ... ถ้าหากใครรู้ว่าชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าป๊อบปูล่าที่สุดในหมู่สาวๆ ของเมืองใหญ่แห่งนี้อย่างตัวเอง ตอนนี้กำลังสนองรสนิยมแปลกประหลาดที่ชอบมาเฝ้ามองผู้หญิงพิเศษตามสวนสาธารณะ จนถึงกับมาตามเฝ้าเจ้าหล่อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันที่มีโอกาสว่าง ... อย่างวันนี้เป็นต้น ... พอล้อรถหยุดหมุน มาวินก็มองเห็นว่าสาวน้อยที่ตนเองมาเฝ้าดูอยู่กำลังถูกชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ชาวต่างชาติสามคนกำลังฉุดกระชากยื้อยุดลากขึ้นกะบะสีดำสี่ประตูด้วยท่าทีเร่งรีบ ไม่เป็นมิตร ... ก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนคนกำลังกระทำผิดห้อตะบึงรถออกไปอย่างรวดเร็ว ... ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง นิ่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ไม่คิดนึกว่าจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายกลางที่สาธารณะเช่นนี้ได้ ... ก่อนจะรวบรวมสติกลับมาให้ได้เมื่อมองเห็นว่าเจ้ากะบะสีดำคันนั้นได้เลี้ยวโค้งผ่านหัวมุมถนนหายลับไปกับตาแล้ว ... มาวินเหยียบคันเร่งตามรถเจ้าปัญหาคันดังกล่าวอย่างติดๆ จนเห็นว่าฝรั่งสามคนกำลังเลี้ยวรถเข้าม่านรูดที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะนั่นเอง ... บรรยากาศยามค่ำ แดดร่มลมตก อากาศจากเครื่องปรับอากาศเป่าลมพัดเย็นฉ่ำเพื่อชดเชยอากาศที่ร้อนจากข้างนอกหลังฝนตกไม่ได้ทำให้อารมณ์ของรัศมิยาดีขึ้นเหมือนอากาศที่อยู่ภายในร้านกาแฟหรูที่ชื่อ กาแฟดอยภูหลวง แห่งนี้แต่อย่างใด มีแต่จะร้อนรุ่มเมื่อเวลาผ่านไปอย่างเร่งเร้า ... การที่หญิงสาวสวยไม่มีที่ติ สมัยใหม่ทุกกระเบียดนิ้วด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนมชั้นนำพราวไปทั้งตัว อย่างรัศมิยาจะหน้าบูดบึ้ง อารมณ์เสียในตอนนี้ก็เพราะชายคนรักไม่รับสายโทรศัพท์ที่กระหน่ำโทรไปหาเป็นนับครั้งไม่ถ้วนไม่ยอมกดรับเลย .... ใบหน้าสวยคมโฉบเฉี่ยวเคลือบฉาบด้วยเครื่องสำอางราคาแพงกำลังงอง้ำด้วยอารมณ์ที่บูดบึ้งไม่พอใจอย่างรุนแรง ทุกคนรายรอบตัวสัมผัสได้ทั้งหมด ... อะไรกัน ...ทำไมไม่รับสายนะ บ้าจริงเชียว... รัศมิยากระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะจรดแก้วกาแฟที่พร่องลงมากโขอีกแล้วเงยหน้ามองสาวร่างท้วมที่ชื่อว่า อุบลวรรณ หรือ อุ้ม ขณะกำลังมองมาอยู่เงียบๆ .... จะเอะอะให้มันได้อะไรขึ้นมากันมิย่า มาวินเขาอาจจะแบตมือถือหมดหรือไม่ก็อาจจะกำลังติดฝนที่ไหนสักแห่ง เธอก็รู้นี่นาว่าโคราชเป็นเมืองใหญ่ ฝนตกไม่เคยทั่วฟ้าอยู่แล้ว .... เอ๊ะอุ้ม ... เธอรู้เรื่องของวินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...น้ำเสียงตวัดห้วนบอกความไม่พอใจอย่างแรง จนอีกฝ่ายถึงกับถอนหายใจแล้วตอบว่า ... ช่าย ...ฉันจะไปรู้เรื่องคู่รัก คู่ใคร่ของหล่อนได้ยังไงกันยะ ก็แค่เดาๆ เอาจากเหตุการณ์แค่นั้น ขอบใจย่ะที่หวังดี แต่คราวหลังขอไม่ต้องนะ เรื่องของชาวบ้าน ...คนนอกไม่เกี่ยว .. เออนังอุ้มแกคงรู้แล้วสินะว่าต่อไปต้องจำใส่กะลาหัวเอาไว้เลยว่าคราวหน้าอย่าไปเสือกเรื่องของชาวบ้านอีกต่อไป สมน้ำหน้าไหมล่ะที่นี้ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ซ้ำยังเอากระดูกแขวนคอให้หนักอีกต่างหาก จำเอาไว้หน่อยสินังอ้วนเอ๊ย ... อุบลวรรณบ่นให้ได้ยินออกมาดังลั่น จนรัศมิยารับรู้ถึงกับสะอึกเมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเพื่อนรักที่มีคำพูดเอาจริงเอาจังกับเรื่องที่พูดตามปกติจนเห็นได้ชัด .... โธ่อุ้ม ฉันแค่โมโหวินนิดหน่อยทำงอนไปได้ ... เชอะ...โมโหคนรักแล้วมาลงที่เพื่อน ตอนนี้ชั้นกำลังแย่กับคำพูดของเธออยู่นะมิย่า เดาไม่ถูกเลยว่าเธอจะมาในอารมณ์ไหน ตอนไหน ยังไงกัน ... ฉันก็แค่หงุดหงิด เลยพาลไปทั่วแบบนี้ ขอโทษนะอุ้ม ฉันขอโทษ... เรื่องนายวง นายวินนี่ก็เหมือนกัน ... ในฐานะที่เธอยกฉันให้เป็นเพื่อนแสนสนิท ... ฉันขอพูดอะไรหน่อยเถอะจะได้ไหมมิย่า แต่เอ่อ ... ไม่รู้จะรับได้หรือเปล่า... คนเล่าขมวดคิ้วเข้าหากัน ส่งสายตาเหมือนเกรงใจบ้างอยู่ในที อยากเล่าก็อยากเล่า... ก็ว่ามาสิอุ้ม. รัศมิยาก้มลงไปหยิบกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง คอตั้งเชิดตรง รอฟังเรื่องราวจากอีกฝ่ายด้วยใจจดใจจ่อเต็มที่ ... จากเหตุการณ์ในวันนี้ ... ฉันว่าเธอเลิกคบกับนายวินคนนี้ดีกว่า .. รัศมิยายกมือทาบอก สีหน้าตกใจที่ได้ยินเพื่อนรักแสดงความเห็นประหลาดเช่นนี้ ก่อนจะอุทานอารมณ์ขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง .. ว้ายตายแล้วอุ้ม ... ทำไมคิดยังงี้ล่ะเธอบ้าไปหรือเปล่า ... ฉันไม่ได้พูดเล่นนะมิย่า ฉันคิดว่าเธอควรจะเลิกกับเขา แล้วก็เลิกแผนการที่จะหลอกนายมาวินไปเข้าโรงแรมเพื่อถ่ายคลิปวีดีโอบ้าแบล็กเมล์เขาซะทีเหอะนะ ฉันนึกภาพทีไรเห็นเธอเป็นเหมือนตัวอิจฉาสิ้นคิดในละครน้ำเน่าช่องหลากสี ยังไงก็ไม่รู้สิ .. หล่อนเอาอะไรมาพูดยะ ...พูดยังงี้ฉันเสียหายนะ... เลิกเสแสร้งต่อหน้าธารกำนัลได้แล้วจ๊ะมิย่าคนสวย โต๊ะที่เรากำลังนั่งอยู่นี่ ไม่มีใครเขามาฟังเรื่องที่เราคุยกันหรอก รัศมิยาเหลียวมองไปรอบตัวซ้ายที ขวาทีจนเห็นว่าเป็นจริงอย่างที่อุบลวรรณพุดไว้เมื่อครู่ ... ลูกค้าของร้านกาแฟดอยภูหลวงในตอนนี้มีลูกค้านั่งอยู่ในร้านอยู่เพียงสองสามโต๊ะเท่านั้น เมื่อแรกเดินเข้ามาในร้านก็ยังไม่มีลูกค้าคนอื่นๆ ... สาวสวยมาดดีขาประจำของร้านทั้งสองเลือกที่จะนั่งโต๊ะมุมประจำด้านในสุดของร้าน อยู่ห่างไกลกับลูกค้าอื่นๆเช่นเดิมพอสมควร ... เรื่องราวการสนทนาของทั้งสองเริ่มต้นที่เรื่องราวเดิม ๆ เหมือนค่ำคืนก่อน รัศมิยากำลังเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมขาดการติดต่อของชายคนรักที่เป็นเอาบ่อย ๆ ในช่วงนี้ ... คืนนี้ก็เหมือนเดิม .. มาวินหายไปจากชีวิตชั่วคราว ทิ้งไว้ให้ต้องนั่งรอคอยอย่างเบื่อหน่ายอีกแล้ว .... ฝนตกริน ๆ ระลอกแล้วระลอกเล่าภายด้านนอกร้าน สัญญาณโทรศัพท์ที่ควรจะมีการตอบรับจากปลายสายเหมือนเดิมกลับเงียบสนิทเหมือนจงใจแกล้ง ... หญิงสาวเหม่อมองไปนอกร้านอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจหมดหนทางจะทำอะไรต่อไปแล้ว ... มิย่า มิย่า ... เธอกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่านี่.. เออ .. เออ ..กำลังฟังมีอะไรจะว่าฉันก็ว่ามาสิอุ้ม... อุบลวรรณส่ายหน้าช้า ๆ ยิ้มระบายที่มุมปาก คิดสงสารเพื่อนรักคนนี้เสียเหลือเกิน ชะตากรรมคนสวยเปอร์เฟ็คทุกอย่างใช่ว่าจะงามหรู เหมือนในนิยาย ... อาจจะตรงกันข้ามเหมือนรัศมิยาในตอนนี้ที่ไปข้างหน้าก็ไม่ได้ถอยหลังก็ไม่เหมาะ... ฟังฉันให้ดีนะมิย่า ถ้าฉันไม่รักหวังดีกับเธอ จะไม่พุดให้เมื่อยปากหรอกนะนี่... ฉันรู้ ฉันรู้ดี... จะด่าจะว่าฉันยังไง ก็ว่ามาเลย ฉันยอมแล้ว... เธอกำลังน้อยใจอยู่เหรอ.... ไม่รู้สิอุ้ม ... ถ้าให้ชั้นเลือกได้ก้อยากจะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งมีผู้ชายจริงใจ รักฉันคนเดียวมาหลงรัก ไม่มีวันเบื่อหน่ายหรือเงียบหายไร้การติดต่อแบบนี้ ... คนเล่าปาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตาอีกครั้ง สะอื้นออกมาเบาๆ คล้ายน้อยใจในเรื่องที่กำลังเล่าหรือถูกกระทำ สาวร่างอวบพยักหน้าว่าเข้าใจเอื้อมมือไปกุมไว้แล้วปลอบไปว่า ... ฉันดูเขาออกนะมิย่า... เธอดูยังไง... ฉันก็ดูว่าแฟนหล่อนเขาไม่ได้รักหล่อน ไม่ได้ใยดีกับหล่อนแล้วนะสิ อย่าเพิ่งมาโกรธฉันนะ ...ก้แค่ประเมินจากเรื่องราวพฤติกรรมทั้งหมดของเขา ก็เท่านั้นเอง... เฮ้อ ..ใช่ ใช่ ...เขากำลังเบื่อฉัน และอาจกำลังมีหมายใหม่ที่ไม่ใช่ฉัน ...จนลืมเรื่องความหลังของเราสัมยเรียนไฮสกรูที่อังกฤษ ... ก่อนจะมารักกันที่เมืองไทยนี่ ... รัศมิยายกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วสะอื้นออกมาดังกว่าเดิม สะอื้นไห้เสียใจกับเรื่องราวฝังใจในอดีต แต่ไม่อาจหวนคืนกลับมาได้ ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร .... เสียแรงรักใคร่ เป็นเพื่อนรักกันมาหลายปี เพาะบ่มความรักจนสุกงอม สุดท้ายกำลังจะจบเห่ไปคนละทาง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... อุบลวรรณเข้าใจความเป็นไปทุกอย่างดี ความรักหนุ่มสาวคู่นี้มีแนวโน้มที่จะหมดอายุนานแล้ว เหลือเพียงเวลาที่เอ่ยปากที่เหมาะสมเพียงเท่านั้น ... เธอควรทำใจกับเรื่องนี้ไว้บ้างนะมิย่าจ๋า ... ทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ดูฉันสิมิย่า ... ฉันลืมตาดูโลกาก็อ้วนตุ้ยนุ้ยตั้งแต่เกิด ใครก็เรียกฉันว่าอีหมูตอนมั่ง อียักษ์ขมูขีมั้ง ... หรือร้ายสุดเรียกนังผีเสื้อสมุทรไปโน้น ....พอเริ่มโตขึ้นมาก็ไม่มีใครมารักมาชอบเหมือนคนอื่นๆปกติเขา ... ทั้งที่ฉันก็อยากจะบอกว่าฉันก็เป็นคนจริงใจคนหนึ่งไม่น้อยกว่าพวกนังขี้ก้างผอมเหี่ยวทั้งหลาย ... ฉันต้องทนอยู่คนเดียวด้วยความเหงาใจ ไร้ผู้ชายคนไหนจะเหลือบตามมองเลย .... เวลาเดินผ่านไปที่ไหนดูเหมือนของไร้ค่าชิ้นหนึ่งที่ใครเมิน โดยเฉพาะมนุษย์เพศผู้ที่เราเรียกมันว่า ...ผู้ชาย... อุบลวรรณเชิดคอตั้งชัน แววตาจริงจังจนดูกร้าวแกร่งกว่าเดิมมาก ... รัศมิยาเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนรักดีเพราะแทบจะอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ... ง้นแนก็ขอโทษที่พูดไม่ดีกับเธอนะอุ้ม ... ช่างมันเถอะย่า เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ว่าแต่เธอเถอะคืนนี้เขาคงไม่มาแล้ว.. เด่ยวฉันว่าจะไปบ้านวิน คืนนี้เป็นไงก็เป็นกัน .. อยากจะเคลียให้ชัดๆไปเลย.... ใจเย็นไว้หน่อยก็ดีนะจ๊ะเพื่อน... ขอบใจอีกครั้งอุ้ม ...ฉันจะพยายาม งั้นเราคิดเงินเลยดีกว่านะ... ฮื่อ ...ไปกันเถอะ ฝนจะลงเม้ดอีกครั้งแล้ว... อุบลวรรณพารัศมิยาเดินไปที่รถ แล้วยืนคุยกันอีกสองสามประโยค ก่อนจะแยกย้ายกันที่ลานจอดรถนั่น พร้อมสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาอีกครั้ง .... ------------------------------------- ความเหม็นอับชื้นของผ้าปูที่นอนกับปอกหมอนบวกกับกลิ่นแอลกฮอล์ที่ส่งกลิ่นคละคุ้งจากชายสามคนที่ขณะนี้กำลังตะบปตะโปมทึ้งเสื้อผ้า ทำเอาดาวที่สลบไสลไปพักใหญ่ฟื้นตื่นผวาขึ้นมาจากฉุดลากเมื่อครู่ในทันใด ... สติสตังการเอาชีวิตรอดถูกเรียกขึ้นใช้มาอย่างปัจจุบันทันด่วนหลังจากสลบไปเมื่อกะบะได้เลี้ยวเข้ามาในม่านรูดแห่งนี้ แสงเทียนแห่งความหวังค่อยสว่างขึ้นมาช้าๆ นับว่าเป็นความโชคดีที่มันกลับมาได้ในยามคับขันได้อย่างรวดเร็ว เร็วจนพอจะรู้ว่าชายใจทรามกำลังพยายามล่วงล้ำความเป็นมนุษย์ด้วยอาการไร้สติ ... เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนานหลายนาทีในความรู้สึกหญิงสาว .... รอคอย ต้องรอคอยมันย่ามใจก่อนค่อยหาโอกาส ... ดาวทำตัวให้นิ่งอ่อนโอนไปกับการโลมเล้าของฝรั่งใจทรามร่างสูงใหญ่คนนี้อย่างไม่มีขัดเขินด้วยมายาหญิงเท่าที่มีทั้งหมด ...ส่วนชายร่างใหญ่อีกสองคนกำลังคุยเสียงดังสลบักับเป่าบุหรี่มวนต่อมวนเข้าร่างกาย เพื่อรอคอยเข้ามาในห้องอย่างใจจดใจจ่อ . เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงดังขึ้นมาทำให้ดาวรู้สึกว่าสวรรค์กำลังเข้าข้างอยู่เช่นกัน ... ฮัลโหล ...จะพูดกับใคร ... เสียงห้าวเข้มบอกอารมณ์เสียของคนรับได้เป็นอย่างดี .... หา หา ...ไม่ได้ยินเลย ... อะไรฟะ... เมื่อเห็นว่าผู้รุกล้ำโฉดชั่วกำลังสนใจกับการสนทนาที่ไม่รู้เรื่อง ดาวชันตัวลุกขึ้นช้าๆนั่งนิ่งแล้วเอื้อมมือไปคว้าเสื้อผ้าที่วางข้างเตียงขึ้นมาใส่อย่างลวก .... ก่อนจะถามตัวเองว่า ... แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ... ขณะมีเวลาน้อยนิดเป็นตัวเร่งกระทำ ดาวกำลังถามตัวเองเพื่อจะหาคำตอบให้ชัดเจนอีกครั้งว่าจะทำยังไงต่อไป แต่ทว่าขณะยังไม่ได้รับคำตอบก็มองเห็นว่าประตูที่ตนเองกำลังจ้องจะผลักออกถูกผลักเข้ามาในห้องอย่างรุนแรง ก่อนจะมีชายไทยแปลกหน้าไม่คุ้นเคยกวัดแกว่งเจ้ารีวอลโว่ขนาดเขื่องสีดำกำลังเล็งไปที่ฝรั่งผู้บุกรุกขณะกำลังตกใจยกมือขึ้นกุมท้ายทอยอย่างยอมความ .... ถ้าไม่อยากตาย อย่าตุกติกแล้วยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้ .... เสียงคำรามของชายแปลกหน้าก้องกังวารไปทั่วห้อง สะกดผู้รุกล้ำให้นิ่งเงียบ ก่อนจะทำตามอีกครั้งอย่างเคร่งครัด ดี .... หลับตาแล้วเดินไปทางโน้น ... เร็ว เร็วสิ... หลังจากนอนคู้คุดไปกับเตียงอยู่นานโข ดาวก็ผงกหน้าขึ้นมามองเหตุการณ์รอบๆตัวก็เห็นว่าคนชั่วได้ถูกมัดล่ามไว้ที่มุมห้อง ส่งเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ .... เมื่อทุกอย่างเงียบสงบลงแล้ว ชายแปลกหน้าสวมแว่นดำพรางสายตารูปร่างเพรียวบางได้รูปรีบเดินตรงมายื่นมือให้แล้วสั่งว่า ... คุณจะรอให้ไอ้สองคนข้างนอกตื่นขึ้นมาหรือไง ... ลุกขึ้นตามผมมาเลย... ดาวรีบลุกผวาขึ้นแล้ววิ่งตามออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว จนมายืนหน้าซีดเมื่อมองเห็นว่าฝรั่งผิวมืดสองคนนอนสลบเหมือดอยู่หน้าห้องนี่เอง ... ---------------------------------------------- เหตุการณ์ทุกอย่างดูรวดเร็วเร่งเร้าไปหมด กว่าดาวจะหายขวัญหนีก็พบว่าตนเองกำลังยืนอยู่ริมระเบียงคอมโดหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ครบครันบนตึกสูงสุดชั้น 16 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห็นทิวทัศน์ไปไกลเป็นสิบๆกิโล เพราะเสียงอาบน้ำชำระร่างกายในห้องอาบน้ำหรอกนะ ที่ทำให้หญิงสาวรีบเบือนหน้าหนี ก่อนจะเร้นตัวเดินเลี่ยงมาริมระเบียงสูงให้ลมพัดเย็นปะทะหน้ากระตุ้นสติสตังกลับมาเหมือนตอนเดินขึ้นมาบนที่แห่งนี้... นึกคิดไปแล้วก็ขำตัวเอง พอมองเห็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตที่ช่วยให้รอดพ้นจากพวกโฉดชั่วต่างชาติสามคนนั่นครั้งแรก ก็ตกใจแทบจะช็อกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในคืนนี้ เพราะว่าเมื่อชายหนุ่มที่กึ่งลากกึ่งจูงออกจากม่านรูดแห่งนั้นได้ถอดแว่นตาสีดำเข้มออก .... หัวใจดาวแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อสายตาคมเข้ม เปล่งประกายกล้าบอกความรู้สึกแจ่มแจ้งแสดงออกมาจนหมดกำลังจ้องสบตามองตัวเธออยู่แทบไม่พกระพริบตา ... ตอนนี้คงปลอดภัยแล้ว ... คุณเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม... เสียงทุ้มนุ่มเอื้อนเอ่ยประโยคคำถามมาเจือปนด้วยความห่วงใยจนสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก ... ดาว ... เอ่อ ... ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณมากที่ไปช่วยไว้... งั้นก็ดีแล้ว ... สภาพคุณดูไม่ได้เลยนะ... ดาวก้มมองสำรวจเนื้อตัวก็เห็นว่าเสื้อผ้าขาดวิ่นเปื้อนเลือดสีแดงสดเป็นกระหย่อม กระดำกระด่างไปทั่วตัว เหงื่อไคลที่ไหลย้อยก็ดูเป็นคราบสีดำกระจุกๆ ...ซึ่งก็จริงอย่างที่คนพูดพูดไว้ทุกอย่าง ... ผมว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านผมก่อนดีไหม ... ดาวยกมือขึ้นปิดส่วนที่โป๊ แล้วช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายเพื่อขอความเป็ฯส่วนตัวสักหน่อย ...คนตัวสูงก็ไม่ขัดยอมทำตามโดยดี แถมยังโยนผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดตากลิ่นหอมชุยจากน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดดีมาให้อีกหลังจากนั้น ... หญิงสาวปิดป้องสำรวจตัวเองอยู่พักใหญ่ จนเห็นว่าคงต้องทำตามอย่างที่คนขับพูดเกริ่นไว้เมื่อครู่น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าสภาพผมเผ้ากระเชอะกระเชิง เสื้อขาดวิ่น ไม่เป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้ ... แต่เมื่อคิดไปคิดมาจนแล้วจนรอดก้ยังติดใจในเรื่องความปลอดภัยที่จะตามมา กลัวว่าจะหนีเสือปะจระเข้ซะมากกว่า ... แต่พลขับที่เหลียวมองสำรวจเป็นระยะเอ่ยออกมาก่อน เหมือนกำลังรู้ว่าดาวกำลังคิดอะไรอยู่ ... ผมคงไม่ซ้ำเติมคุณขนาดนั้นหรอกครับ ... ไม่ต้องกลัวไปเลยนะ ผมมาดี... เอ่อ ...ดาวขอโทษที่ไม่ไว้ใจคุณค่ะ ... แต่ก็เกรงใจที่คุณมาช่วยเหลือ เสี่ยงชีวิตเข้าไปที่นั่น ... ทั้งๆที่เราสองคนไม่เคยเห็นหน้ากัน หรือพบเจอกันมาก่อน ... คุณดาวอย่าคิดอะไรมากเลย เดี๋ยวเลี้ยวซอยหน้าก็ถึงคอนโดผมแล้ว ... ถ้าเดินขึ้นไปข้างบน แล้วมีคนมองแบบน่าเกลียด ก็อย่าตกใจไปเลย .... คนพวกนั้นเป็นอย่างนี้แหละ เขาไม่เคยเห็นว่าผมพาใครขึ้นไปข้างบน . คอนโดของคุณชื่อ ... นันทวรรณเพลส หรือเปล่า... ช่าย ... ผมพักอยู่ชั้น 16 ชั้นบนสุดเห็นวิวเมืองโคราชทั้งเมืองไปไกลถึงสนามบินแห่งใหม่เลย... ค่ะ ...ชั้นพอจะเข้าใจ.. แล้วทั้งสองก็ไม่ได้สนทนาอะไรกันอีกเลยหลังจากนั้น กระทั่งได้เข้ามาอยู่ในห้องชุดชั้น 16 ดาวกอดอกห่อตัวลีบทันทีที่เข้าในห้อง ... ห้องสูทหรูหราทั้งห้องเป็นสีขาวอมเขียวทั้งหมด มีอยู่สามห้องเล็กกระจาดไปตามมุมต่างๆ มีครัวเล็กๆอยู่ใกล้ระเบียงที่ยื่นออกไปจากตัวตึก ... ภายในไม่กี่นาทีแอร์เย็นฉ่ำได้ทำงานตามหน้าที่ของมัน ... ดาวให้เจ้าของห้องอาบน้ำชำระร่างกายก่อน ส่วนตนเองเดินออกมาสูดลมข้างนอก เพราะจะได้ทำใจร่วมอยู่กับชายแปลกหน้าไปด้วยอีกทาง .... กระจกบานเลื่อนดังแกรกจนหญิงสาวต้องหันไปดูทันที แต่ก็ต้องรีบก้มสายตามองไปพื้นห้องเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอาภรณ์ชิ้นเดียว นั่นก็คือ ผ้าขนหนูผืนบางตัวเดียว .... ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เชิญดาว ... เอ่อ ...คุณดาวตามสบายนะครับ... ดาวไม่ตอบอะไร รีบเบี่ยงตัวไปอย่างช้าๆ ก่อนจะผลุบตัวเข้าห้องน้ำที่อยู่ถัดจากริมระเบียงไม่ไกล ... สายน้ำจากฝักบัวชโลมร่างกายจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาอย่างประหลาด หญิงสาวเหลียวมองไปรอบๆตัวเพื่อดูว่าจะมีสบู่ชำระร่างกายเหมือนที่ห้องเช่าหรือเปล่า แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมองเห็นแต่ขวดกระจกใสใส่ของเหลวที่มีหลายสีวางเรียงรายอยู่เป็นตับระรานตาเต็มไปหมด ... แต่ยังไงก็พอจะมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษอยู่บ้าง จึงเอื้อมมือไปหยิบขวดที่เขียนว่า SOAP ขึ้นมาแล้วกดจนของเหลวที่อยู่ในขวดไหลออกมา ส่งกลิ่นหอมประหลาดระคนติดหอมผิวกายและจมูก .... พอเสร็จจากอาบน้ำชำระกาย ... ดาวเดินออกมาข้างนอกห้องก็เห็นว่าเจ้าของห้องหายตัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ขณะกำลังจะก้าวขาก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตูดังแก๊ก แก๊ก ... พร้อมกับคนตัวสูงใบหน้าเกลี้ยงเกลาชวนให้ไหลหลงเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ พร้อมถุงเสื้อผ้าชุดใหญ่ ... ไม่รู้ว่าพอดีไซด์ตัวคุณหรือเปล่านะ ... รีบ ๆ เลือกจากร้านเสื้อผ้าข้างล่างมาครับ... ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ ... อีกสักพักฉันก็จะไปแล้ว... เดี๋ยวไปเปลี่ยนผ้าก่อน เราค่อยคุยกันที่โต๊ะอาหาร... ดาวหลบสายตาคมที่มองอย่างแปลกประหลาดก้มมองไปพูดพร้อมเอื้อมมือไปรับเสื้อผ้า ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าไปยังห้องเล็กที่ชายหนุ่มผู้นี้ผายมือให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น ... จนมองสำรวจร่างกายว่าเรียบร้อยแล้วดาวจึงเดินออกมาข้างนอก จนจมูกได้สัมผัสกลิ่นข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมฉุยมาจากห้องครัวที่ซ่อนโต๊ะอาหารเล็กๆน่ารักไว้อยู่ข้างใน ... ทางนี้ครับคุณดาว... หญิงสาวเดินตรงไปอย่างเชื่องช้า ทั้งไม่คุ้นเคยกับสถานที่ และเจ้าของห้องหรูหราระคนกัน ... นั่งชิมฝีมือข้าวต้มของผมดู ไม่รู้จะกินได้หรือเปล่า ... ผมทำสุดฝีมือเลยนะครับ ... คนพูดคุยอารมมณ์ดี จนพอดาวนั่งลง ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก ท้องไส้เริ่มร้องและปั่นป่วนหิวแบบคนหิวจัด น่าอับอายยิ่งนัก ดาวจึงหันไปมองเจ้าของบ้านที่กำลังมองมาและยิ้มที่มุมปากอย่างขบขัน พร้อมพยักหน้าให้ลงมือได้ นั่นแหละ ทานเยอะๆนะครับ มีแหลืออีกสองสามถ้วย ... เบิ้ลได้เลย... ขอบคุณค่ะคุณ ...เอ่อ ...คุณ... อ้อ ...ใช่สิ ผมชื่อมาวิน ...เรียกสั้นๆว่า ...วินก็ได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ... คุณวินกรุณาต่อฉันมาก ทั้งเรื่องไปช่วยในโมเต็ลนั่น หรือพามาอาบน้ำ หาเสื้อผ้า กับทำข้าวต้มแสนอร่อยให้กิน... คุณชอบหรือครับดาว ... มาวินยิ้มกว้างพลางก้มตักข้าวต้มตรงหน้ากินมือเป็นระวิงเมื่ออีกฝ่ายชมว่าอร่อย อะ....อร่อยเหลือเกินคะคุณวิน... เป็นอีกครั้งที่ดาวก้มหน้าก้มตายกข้าวต้มทานไปอร่อยไป เหนียมอายสายตาคมปลาบที่จ้องมาอย่างไม่วางตา ยิ่งพยายามค้นหานัยความหมายของแววตาก็ยิ่งงุนงง เมื่อเห็นว่ามีแววยั่วล้อ คุ้นเคยอยู่ในนั้นทุกครั้งที่สบตาคู่เข้มนั้น ... ดี ดี วันหลังผมจะได้ทำให้คุณกินอีกบ่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อพ่อครัวคนใหม่คนนี้ล่ะ... อาหารอร่อย ..คนทำให้ก็ใจดี.... ผมทำเพราะอยากทำให้คุณกิน อย่าคิดมากนะครับ... ฉันแปลกใจนิดหน่อยที่คุณเข้าไปช่วยฉันที่นั่นได้ยังไงกัน... ดาววางช้อนลงยกน้ำเปล่าขึ้นมาจิบเหลือบตามองเห็นว่ามาวินก็กำลังอิ่มแล้วเช่นกัน ... ถ้าผมเล่าให้คุณฟัง คุณจะเชื่อหรือเปล่า... หมายความว่ายังไง ดิฉันกำลังงงค่ะคุณมาวิน ... ไม่มีอะไรมากครับ ...เพียงแค่ผมจะสารภาพอะไรบางอย่าง ซึ่งมันอาจจะไม่เข้าท่า ถ้าคุณได้ฟังมัน...งี่เง่าจริงๆ.. เรื่องอะไรเหรอคะคุณวิน... เรื่องมันเกี่ยวข้องกับคุณนั่นแหละครับ คือที่ผมเห็นว่าคุณถูกรังแกจากฝรั่งสามคนนั่นก็เพราะผมได้มาเฝ้าคุณอยู่เป็นเดือนแล้ว โดยที่คุณไม่รู้ตัวว่ากำลังมีใครแอบมองอยู่เสมอๆ ทุกวันๆ ไม่ได้ขาด แม้แต่วันนี้ซึ่งฝนตกหนัก ...ตัวผมก็ต้องมาเฝ้ามองดูคุณ ... ขอเพียงแค่ได้เห็นหน้าเท่านั้นก็พอ... ชายหนุ่มเน้นย้ำน้ำเสียงบอกความในใจให้อีกฝ่ายได้รู้ถึงสิ่งที่อยู่ข้างในอก ... คนฟังเมื่อได้ฟังถึงกับอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าจะมีพฤติกรรมที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ... จะเป็นได้ยังไงที่ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ หรือชาติตระกูลที่อยู่ตรงหน้าจะมาเฝ้าดูตนเองด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่อาจจะไม่ใช่ความรักหรือเป็นความหลงก็เป็นได้ ... คะ..คุณมาวินทำยังงั้นไปทำไม.. ดาวถามคำถามแก้เขินไปยังงั้นแหละ ทั้งที่ในใจก็มีความสงสัยอยู่เต็มประดา ว่าทำไมคนที่มีฐานะรวยล้นฟ้า มีบ้านหรูหราเทียมเท่าวิมานเช่นมาวิน ยังต้องการความแปลกใหม่ในชีวิตด้วยการไปแอบมองดูผู้หญิงไร้ค่า ต่ำการศึกษา ไร้สกุลรุนชาติที่สูงส่งเช่นที่เล่ามา ... ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่ามีคืนหนึ่งผมเมาเพราะเบื่อหน่ายเพื่อน ๆ ที่พอเลิกงานก็จะพากันเข้าผับเข้าบาร็ น่าเบื่ออย่างที่สุด ผมปลีกตัวหนีมาที่สวนสาธารณะโดยบังเอิญพบเห็นคุณกำลังจะออกไปกับลูกค้า ... เกิดความรู้สึกแปลกๆเหมือนต้องชะตากับคุณขึ้นมาซะเฉย อยากเห็นหน้าทุกวัน ... และผมก็ทำตามที่ใจต้องการคือมานั่งรถดูคุณออกไปกับลูกค้า ... ก็ใจสลายไปทุกครั้งด้วยเหมือนกันที่เห็นคุณออกไปกับพวกเขา ... มาวินเล่าว่าตนเองคิดจะเดินลงรถไปแล้วเรียกใช้บริการหญิงสาวตั้งหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรู้สึกตะขิดตะขวงใจยังไงก็ไม่รู้ อยากเข้าไปบอกให้หยุดแล้วออกมากับตนเอง แต่สุดท้ายความกล้าก็ไม่สำแดงฤทธิ์ ..ทำได้แค่มองไปวัน ๆ เหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมา กระทั่งประจวบเหมาะมาคืนนี้ที่เกิดเรื่องพอดี ... จึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ ... ก็เป็นอย่างที่ผมเล่ามานี้แหละครับดาว... ยกโทษให้ด้วย ที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของคุณ... ไม่เป็นไรหรอกคุณวิน ... คืนนี้ถ้าไม่มีคุณมาช่วยชีวิตเอาไว้ ดาวอาจจะตายอยู่ในม่านรูดนั่นก็ได้ ใครจะไปรู้... ผมเห็นท่าไม่ดีตั้งแต่พวกมันเดินเซมาแต่ไกล แล้วเดินเข้าไปกระชากแขนคุณขึ้นรถ อย่าวิสาสะ.. ดาวไม่รู้จักพวกนี้เลย หน้าตาก็ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต มาจากไหนก็ไม่รู้ ...น่ากลัวชะมัด... ดาวยิ้มน้อยๆ กว่าที่จะพูดหรือเล่าอะไรออกมาคล้ายจะอารมณ์ดีขึ้น เป็นกันเองขึ้นกว่าตอนมาถึงแรกๆ แล้ว ... มาวินถอนหายใจโล่งออกมาเบาๆ รับฟังเสียงใสของอีกฝ่ายที่ไพเราะเสนาะโสตดีเหลือเกิน ... ท่าทางจะเมามาจากที่อื่น ... ดาวจะเอาเรื่องพวกมันไหม ผมจะจัดการให้... อุ้ย ... คุณมาวินจะไปทำอะไรเขาคะ... ดาวเอามือทาบอกตกใจที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีจริงจังกับคำพูดของตัวเองเมื่อครู่ ผมก็แค่จะสั่งสอนให้พวกนั้นหลาบจำ จะได้ไม่ทำกับผู้หญิงไทยเช่นนี้อีก.... อย่าเลยค่ะ ดาวขอร้อง ...ไหนๆเรื่องก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ก็ปลอดภัยดี ... เชื่อด้วยว่าพวกเขาคงไม่กล้าไปที่สวนนั่นอีกเด็ดขาด .... จะว่าไปแล้วเมื่อกี้ก็น่าหวาดเสียวเหมือนกันนะคะ ...ดาวเห็นปืนของนิโกรคนนั้นตกวางอยู่ใต้เตียง ... อ้าวพวกมันพกปืนด้วยเหรอนี่ .... เหน็บติดตัวอยู่ตลอดเวลา จนขึ้นบนเตียงนั่นแหละค่ะ เขาถึงสอดวางมันไว้ใต้เตียง พอดีคุณมาวินโผล่พรวดเข้าไปเร็วมาก เขาเลยไม่ทันตั้งตัวได้ถนัด ... คงไม่คาดเดาว่าจะมีคุณกล้าบุกเข้าไปได้ขนาดนี้ ... นับว่าดวงยังเข้าข้างผม ... แล้วเป็นไงบ้างครับ ห้องหับคับแคบแบบนี้พอจะพักได้ไหมครับดาว... หญิงสาวหลบสายตาสะเทิ้นอาย หน้าแดงสุกเป็นลูกตำลึง ... ไม่คิดนึกว่าตนเองจะมีอาการเขินอายกับผู้ชายสายตาคม หล่อเหลาราวพระเอกหนังที่นั่งจ้องตรงหน้าได้ ทั้งๆ ได้ผ่านอารมณ์นี้มากับผู้ชายค่อนร้อน ค่อนพันมาเป็นสิบปี ... สบายดีทุกอย่างค่ะคุณวิน ... ขอบคุณที่กรุณาช่วยชีวิตคนยากจนอย่างฉัน ชาตินี้ถ้าไม่ตายเสียก่อนคงได้ตอบแทนบุญคุณคุณถ้าฉันทำได้นะคะ ... ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับดาว คุณก็รู้ผมชอบคุณมาก ... ผมจะไม่ปฏิเสธตัวเอง ถ้าคุณยังอยู่เป็นเพื่อนผมที่นี่... คุณวินหมายความว่า... ดาวถึงกับหน้าถอดสี เมื่อได้ยินประโยคคำพูดของมาวินที่บอกนัยความหมายว่าต้องการจะครอบครองตัวหล่อนเหมือนที่ชายร่างยักษ์กำลังจะคิดทำในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ... ปละ ... เปล่า อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ... ผมแค่อยากให้คุณพักผ่อนให้สบายใจในคืนนี้ที่คอนโดนี่ ... ผมสาบานว่าจะไม่ทำอย่างที่คุณดาวคิดแน่นอน ... สัญญาลูกผู้ชาย ... คะ คะ ...ดาวก็ขอโทษที่เข้าใจผิด... เอ๊ะ..รู้สึกจะมีคนมากดออดที่หน้าประตูนะคะ.. มาวินรีบลงยืนขึ้นจากโต๊ะอาหาร แล้วเดินไปยังประตูห้อง ก็พบว่ามีพนักงานทำความสะอาดของนันทวรรณเพลสกำลังทำท่าเหมือนลุกลี้ลุกลนอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มจึงหยุดคุยสีหน้าเข้มครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินมาบอกว่า ...คนทั้งสองจะมาเปลี่ยนที่นอนให้ห้องที่ดาวจะเข้าไปพัก ... หญิงสาวจึงค่อยเดินเลี่ยงไปด้านในที่เป็นห้องรับแขกเพื่อหลบสายตาคนทั้งสองที่มองมาอย่างคาดคั้นเอาความ ... บนโต๊ะรับแขกมีนิตยสารการลงทุนอยู่สองสามเล่ม บนหน้าปกฉบับล่าสุดมีรูปชายหนุ่มตัวสูงหน้าคม คล้ามเข้ม ดูดีทุกกระเบียดนิ้วกำลังยิ้มทักทายคนอ่าน พร้อมโปรยปกตัวหนังสือขนาดใหญ่ว่า ... ... ฉบับนี้ห้ามพลาดบทสัมภาษณ์มาวิน ธนานุรักษ์ หนุ่มหล่อไร้ลิมิต หนุ่มสุดฮอตชื่อดังขวัญใจสาวแก่แม่ม่ายเมืองโคราชที่คุณจะต้องทึ่งกับการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ของเขา ต้องติดตามอย่ากระพริบตา ... เขาเขียนเกินจริงไปนิดนึง ผมไม่ได้เปอร์เฟคขนาดนั้นหรอกครับ... ที่แท้คุณวินก็คือคนที่เพื่อนฉันในร้านคลั่งใคล้ ถึงขนาดไปสมัครเป็นแฟนคลับคุณในเวปไซต์นั่นเอง อ้อ ... น้องๆที่บริษัททำเวปให้น่ะครับ ... ดาวเชื่อไหมว่า ผมไม่รู้เรื่องอะไรพรรณนั้นเลย พวกเพื่อน ๆ ฝันถึงคุณ พูดถึงคุณจนฉันจำรายละเอียดได้แทบทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะย่างกรายไปที่ไหนนักข่าวก็จะไปรุมทำข่าวเหมือนดาราที่อยู่กรุงเทพ แต่นี่เมืองโคราช ...ไม่ใหญ่โตเท่าเมืองหลวง แต่คุณก็ฮอตที่สุด ... อย่าไปถือสาระตะรกตัวตนแท้จริงของเราพวกนั้นเลยครับดาว ... ผมเลิกสนใจความเด่นดังแบบนั้นมานานเมื่อรู้ว่าตัวเองเริ่มแก่อายุเพิ่มมากขึ้น ... คิดได้ว่าทุกอย่างไม่จีรังยั้งยืนสักอย่าง แม้แต่ลาภยศ สรรเสริญ หรือทรัพย์สมบัติที่ผู้คนพยายามหากันให้ล้นฟ้าล้นหัวใจความคิดที่ดีงาม ...เหล่านี้เป็นต้นไม่ทำให้ผมมีความสุขได้สักอย่าง ... คุณเชื่อไหมว่าผมมีความคิดจะหนีไปอยู่ป่า อยู่เขา เงียบๆคนเดียวไม่ต้องติดสื่อสารใครๆได้ยิ่งดี ... ไม่ต้องรับรู้อะไรภายนอกอีกแล้ว .. ดาวฟังคำเล่าแล้วหลับตาพริ้ม นึกไม่ถึงว่าชายที่หญิงสาวทุกคนในเมืองนี้ถวิลหา จะมีความคิดที่ตรงกันข้ามกันกับผู้คนยุคบริโภคนิยมเช่นทุกวันนี้ อย่างตรงข้ามหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ... ฉันว่าชีวิตฉันน่าจะสลับกับชีวิตคุณ ก็น่าจะดีนะคะ... ผมรู้ ผมรู้ว่าคุณก่อนมาอยู่ที่วิกตอเรีย คุณก็ลำบากมาก ... หญิงสาวเลิกคิ้วเมื่อได้ยินว่าตนเองทำงานที่ร้านคาราโอเกะวิกตอเรีย ... คุณวินทราบว่า ...ฉัน ..เอ่อ..ฉันทำงานที่นั่น... อย่างที่ผมบอก ผมติดตามคุณดาวมานาน ... คอยแฝงตัวในมุมมืด ไม่แสดงตัวซะทีว่าผมชอบคุณ... งั้นคุณก็รู้เรื่องฉันในวัยเด็กทั้งหมดแล้วสิคะ... ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ... ผมรู้แต่ว่าคุณเป็นสาวสวยคนเดียวที่ใครๆก็ร่ำลือว่าสวยหยดย้อย เป็นหนึ่งเดียวของพนักงานในวิกตอเรีย ที่จะต้องจองคิวเป็นอาทิตย์กว่าจะได้คุยกับคุณ ที่สำคัญคุณดาวมีค่าที่สุดในวิกตอเรีย.. ขอบคุณที่คุณวินไม่พูดอะไรออกมาทั้งหมด จริง ๆ แล้วฉันมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคน ดิ้นรนเลี้ยงปากท้องด้วยวิธีที่ผิด ๆ ผู้คนในสังคมที่รู้ว่าพวกเราเป็นแบบนี้พากันรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำข้างถนนยังตั้งหน้าตั้งตาพากันเดียดฉันท์ ตีค่าต่ำเพียงดิน .. ฉันไม่ได้เป็นดาวอย่างชื่อฉันหรอกค่ะ... ดาว กระพริบตาถี่ๆจนน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง มาวินนิ่งเงียบอยากจะเข้าไปซับน้ำตาให้ใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้เพราความสัมพันธ์ยังไม่ได้พัฒนาไปไกลถึงขนาดนั้น จึงทำได้แค่เอื้อมมือหนาใหญ่ไปตะปบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ... เอาน่าถ้าคุณลำบาก ผมรับเลี้ยงตลอดชีวิตก็ยังไหวนะครับดาว.. ฉันรู้ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี อย่ามาเกลือกกลั้วสิ่งชั่ว ๆ อย่างฉันเลยค่ะคุณวิน... ผมก็ไม่ได้ดิบดีอย่างที่คุณคิดหรอกครับ ... เอาไว้ว่างๆจะเล่าชีวิตให้ฟัง แต่คืนนี้พักผ่อนให้สบาย ผมจะไปพักอีกห้อง ถ้าต้องการอะไรก็กดหมายเลข 635 ผมจะรีบมาเลย ... ค่ะ ขอบคุณคุณมาวินที่ดีกับฉัน ถ้ามีโอกาสสักครั้งในชีวิตฉันจะตอบแทนคุณให้ได้แน่นอนค่ะ... โอ๊ย...อย่าคิดไปไกลขนาดนั้นเลยครับ เอาเป็นว่าคืนนี้พักผ่อนให้สบายใจ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ผมไปล่ะ ... ถ้วยชามพวกนี้กองเอาไว้ตรงมุมครัว ตรงโน้น พรุ่งนี้แม่บ้านจะมาเก็บและทำความสะอาดไปทีเดียว ... ราตรีสวัสดิ์ครับดาว ... หญิงสาวหลบสายตาที่มองมาอย่างหวานฉ่ำใบหน้าแดงสะเทิ้น ก่อนจะเห็นว่าคนตัวสูงใหญ่ได้อมยิ้มยียวนเดินจากห้องไปด้วยท่าทางและอารมณ์ที่เป็นสุขเหลือล้น .. กว่าที่ดาวจะข่มตาลงเวลาก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่มานานแล้ว ... หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวสั่นคอนเมื่อมองเห็นความหรูหรารอบตัว ... ชีวิตคนเราเกิดมามีทุกอย่างครบเหมือนกันทั้งสมองและสองมือ แต่ไฉน ถึงต้องแตกต่างในเรื่องความเป็นอยู่หรือการดำรงชีวิตอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือได้เช่นนี้ ... ตลอดที่ได้สนทนากันดาวรับรู้อีกอย่างหนึ่งว่ามาวินได้แอบปลื้มตนอย่างแท้จริงจนยากจะถอนตัวได้ คิดแล้วเพื่อกันปัญหาที่จะตามมาทั้งหมด ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องยุ่งยากจะตามมาแบบแทนคุณ (จบตอน 2) |
สมาชิกหมายเลข 4063778
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |