ห้องชีวิต ลิขิตละคร

~*ชั่วนิจนิรันดร์*~ตอนที่ ๕




บ้านพักตากอากาศริมทะเลนอกเมือง  ๒๐.๔๕ น.

ยุกันดานั่งมองนาฬิกาที่เดินอย่างเชื่องช้าด้วยความกระวนกระวายกับการมาผิดเวลาของเขา ปรกติดิษฐ์จะไม่เคยก่ะเวลาผิด แม้ผิดก็ต้องโทรมาบอกแต่นี่เงียบไปเลย เวลาก็เลยมากมากแล้ว

‘คุณดิษฐ์มาช้าจังเป็นอะไรหรือเปล่านะนี่ก็เลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงแล้ว จะว่ารถติดก็ไม่น่าจะใช่ ยังไงเขาก็น่าจะโทรมาบอกกันบ้าง’คิดฟุ้งซ่านในใจไปเรื่อย หญิงสาวลุกไปที่โทรศัพท์ หยิบมันขึ้นมากดหาเบอร์เขาแต่ติดต่อไม่ได้เหมือนโทรศัพท์โดนปิดเครื่อง กวาดตามองหาสมุดโทรศัพท์เพื่อจะค้นเบอร์ของนายยิ่งเมื่อเจอก็กดไปทันที

ติ๊ดติ๊ด..

ติดต่อได้สัญญาณปลายสายว่าง แต่ไม่มีผู้รับสาย ‘เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ’

ติ๊ดติ๊ด..กิ๊ก..! คล้ายกับสัญญาณโดนตัด ยุกันดาเริ่มนั่งไม่ติด ลุกขึ้นเดินไปมา ใบหน้ามีแววกังวลในใจก็รุ่มร้อนอย่างช่วยไม่ได้

หวิว ...

หญิงสาวชะโงกหน้าออกไปมองด้านนอกหน้าต่างค่ำนี้ลมพัดแรงจัง เมฆดำมะเมื่อม หน้าต่างถูกลมตีเข้าเบียดกับเหล็กคล้องดังเอี๊ยดอ๊าดๆ

เพล๊ง....

ร่างบางสะดุ้งรีบหันไปมองที่มาของเสียง ก็เห็นกรอบรูปเขาที่วางไว้บนตู้เย็นใกล้กับขอบหน้าต่าง ตอนนี้ตกลงมากระจกแตกจนหล่อนต้องเดินเข้าไปเก็บและทำความสะอาดกวาดเอาทรายที่หกมากองบนพื้นนั้นด้วยที่โกยขยะ แล้วลุกเดินไปปิดหน้าต่างบานนั้นเสีย

ใบหน้าหล่อนในยามนี้มีร่องรอยความกังวลฉายชัด แหงนหน้ามองนาฬิกาอีกรอบ ขณะนี้เวลา ๒๑.๐๕ น.เท้าไวเท่าความคิด หล่อนลุกขึ้นเดินเข้าในห้องอย่างร้อนรน ในใจก็คิดไปสารพัด

‘เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะโทรไปตั้งหลายรอบก็ไม่รับสาย ถึงแม้รถจะติด แต่ก็ไม่น่าเสียเวลามากขนาดนี้หรือว่าเกิดอุบัติเหตุ? ’ รีบหลับตาลงสลัดศีรษะแรงๆเพื่อขับไล่ความคิดนั้นให้พ้นออกไป หล่อนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ใจก็คิดอยากโทรสอบถามข่าวเรื่องอุบัติเหตุแต่ไม่รู้ว่าจะโทรไปที่ไหน ครั้นจะโทรถามเมฆก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะรู้ ยุกันดาหันซ้ายหันขวานั่งและยืนไม่ติดที่แล้วเวลานี้

ติ๊งต่อง....

ร่างนั้นสะดุ้งก่อนจะถลาไปที่ประตูเปิดมันออกอย่างรีบร้อน

ผลัวะ...

ใบหน้านั้นระบายยิ้มจนแก้มแทบปริด้วยความดีใจกับภาพตรงหน้า ที่เห็นว่าเป็นใครก่อนเดินเข้าไปใกล้ หยุดมองเขาด้วยหัวใจเต้นระทึก

ในยามนี้ใบหน้าของเขาที่เหม่อมองออกไปข้างนอก ปะทะกับแสงไฟเกิดประกายระยิบระยับแสนงดงาม แต่เงียบขรึมเศร้าสร้อย เหมือนคนแสนเหงา ว้าเหว่ ก่อนเบือนมาเห็นว่าหล่อนยืนมองไม่ห่าง เขาก็หันมาทางหล่อนทั้งตัวแทน

“คุณดิษฐ์”หล่อนเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “มาช้าจังเลยนะคะรู้ไหม ฉันเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ” ทักทายด้วยเสียงละห้อยก่อนเดินเข้าไปกอดเขาไว้และเขาก็กอดตอบหล่อนเช่นกัน

“คิดถึงคุณมากรู้ไหมยุกันดา”

“ค่ะยุก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน” พูดแล้วเงยหน้ามองเขาหล่อนเห็นใบหน้าคร้ามคมนั้นซีดเผือด จึงอดถามเขาไม่ได้ “คุณเป็นอะไรไปคะทำไมหน้าซีดจังเลย ไม่สบายหรือเปล่า งั้นเข้าข้างในเถอะค่ะ” หล่อนคล้องมือลงในวงแขนของเขาที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ ก่อนออกแรงรั้งเขาเข้าบ้าน ร่างหนาไม่ขยับแต่ขืนร่างกายเอาไว้อย่างไม่อยากขยับไปไหน ยุกันดางุนงงกับท่าทีของเขา

“เหนื่อยหรือเปล่าคะ”ถามเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองสำรวจอีกครั้ง ก็เห็นความอิดโรยฉายชัดบนใบหน้าคร้ามเข้ม

“ยังไม่เข้าดีกว่าเรายืนรับลมตรงนี้กันสักครู่เถอะนะที่รัก” เขากล่าวออกมาเสียงไม่ดังนักคราวนี้หญิงสาวมองเขาอีกครั้งอย่างสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ถาม เขาก็เอ่ยชวนมาก่อน

“เราไปข้างนอกกันไหมครับยุ”เมื่อเอ่ยมาแล้ว เขาก็จ้องมองดวงตาหล่อนอย่างเหงาๆริมฝีปากเม้นเป็นเส้นตรง ใบหน้ากังวลเหมือนคอยคำตอบ

“เอ!” หล่อนยิ่งงงหนัก กับท่าทีที่แสดงออกมาของเขา

“ผมอยากพักผ่อนและอยู่กับคุณสองต่อสองเรามีบ้านพักอีกที่หนึ่ง ที่เป็นธรรมชาติกว่าที่นี่ ผมอยากพาคุณไปที่นั่นมากกว่า บ้านหลังนั้นติดกับชายเขาแถวนั้นอากาศดีไม่เหนียวตัว ผมบอกให้เขาทำความสะอาดไว้ให้แล้วเสร็จจากงานผมขอลาพักร้อนเดือนครึ่ง เพื่อจะได้ใช้วันหยุดอยู่กับคุณ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป”ชายหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตาของหล่อนหวานซึ้ง ก้มหน้าลงปิดปากหล่อนด้วยริมฝีปากเขาอย่างเร่าร้อนเรียกร้องในที

“ค่ะแล้วเราจะไปกันตอนนี้เลยหรือคะ ในเมื่อยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย” ถามด้วยความแปลกใจ

“ใช่แล้วจ้ะไม่ต้องเตรียมหรอก ที่โน่นมีเยอะแยะ” เขารีบอธิบายให้หล่อนเลิกกังวล

“แต่ว่า.ยุเตรียมอาหารและแชมเปญฉลองเอาไว้นะคะ” หล่อนท้วงเขาเบาๆ แต่เขาไม่ฟังทั้งเตรียมตัวเดินแขนหล่อนรั้งเอาไว้ ก่อนจะทอดสายตามองไปที่โต๊ะอาหาร ก่อนปลดมือออกจากแขนเขา

“เดี๋ยวนะคะขอยุเอาใส่ตู้เย็นก่อน” บอกทั้งเตรียมหมุนร่างไปทางโต๊ะอาหาร

“ยุกันดา.” เขาเรียกหล่อนด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง มือก็เอื้อมมารั้งแขนนวลเอาไว้ “ขอร้องล่ะยุ เราออกไปกันตอนนี้เลยดีกว่า ผมใจร้อน” เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะมีสีหน้าอย่างไรเมื่อรั้งร่างบางให้เดินตาม แต่หญิงสาวเห็นสีหน้าของเขาดูร้อนรนคิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเขาต้องการจะหนีอะไรสักอย่างที่หล่อนไม่รู้ว่าคืออะไร

“คุณดิษฐ์..!เดี๋ยวสิคะ ล็อคประตูก่อน” เรียกเขาไว้ และไม่พูดเปล่าเมื่อมือนั้นพยายามจะคว้าเอาพวงกุญแจไว้ แต่ก็คว้ามาไม่ได้ เมื่อเขาออกแรงดึงหล่อนออกมาจากจุดนั้นอย่างรีบร้อนพวงกุญแจตกเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนก้มเก็บ

“คุณดิษฐ์”

*****************

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ 




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2557
1 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2557 12:16:14 น.
Counter : 623 Pageviews.

 

มาเจิมให้ครับ..พลอย..
ทานข้าวยังเอ่ย

 

โดย: พันคม 31 กรกฎาคม 2557 12:28:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แพรอักษร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แพรอักษร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.