ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

ใส่ใจตัวเองนิด ชีวิตสุข




------------------------------------------------------------

เรื่อง: วชิราวดี มาลากุล


อาหารมื้อเช้า ใช่ว่าจะเป็นเพียงอาหารมื้อแรกที่ให้พลังงานในการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันเท่านั้น แต่ยังอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะอ้วน โรคเบาหวาน รวมทั้งโรคหัวใจได้อีกด้วย


นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Nottingham ในอังกฤษ สังเกตว่าคุณผู้หญิงส่วนใหญ่ที่งดกินอาหารมื้อเช้านั้น ปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวันมักจะมากกว่าผู้หญิงที่กินอาหารเช้าเป็นประจำ ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักตัวของผู้ที่งดอาหารเช้าเพิ่มขึ้นจนเกิดภาวะอ้วนได้ รวมทั้งเคยมีงานวิจัยที่พบว่า ผู้ที่กินอาหารเช้าทุกวัน จะมีโอกาสเกิดภาวะอ้วน และโรคเบาหวานน้อยกว่าผู้ที่งดอาหารเช้าถึง 35-50% ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับงานวิจัยล่าสุดที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition ที่เผยว่า การงดกินอาหารเช้านั้น นอกจากเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอ้วนและโรคเบาหวานแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย



นักวิจัยได้ทำการศึกษาในสตรีอาสาสมัคร 10 คน โดยให้อาสาสมัครกลุ่มนี้กินอาหารเช้าประเภทเมล็ดธัญพืช (cereal) กับนม ในช่วง 7.00-8.00 น. และกินอาหารมื้อกลางวัน และมื้อเย็นตามปกติ รวมทั้งกินขนมหวานระหว่างมื้อ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้อาสาสมัครกลุ่มเดิม งดกินอาหารในช่วงเช้า โดยเลื่อนเวลาอาหารพวกเมล็ดธัญพืชกับนมมาเป็นมื้อกลางวันแทน จากนั้นให้กินอาหารอีก 2 มื้อ รวมทั้งขนมหวานระหว่างมื้อเหมือนเดิม พบว่า การกินอาหารเช้านั้น จะทำให้ปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวันนั้นน้อยกว่าการงดกินอาหารเช้า ประมาณ 100 แคลอรี และยังลดปริมาณของโคเลสเตอรอล และตัวพาโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL-C) ที่นำโคเลสเตอรอลไปสะสมตามเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย


ส่วนน้ำหนักตัวของอาสาสมัครในช่วงที่กินอาหารเช้า และงดอาหารเช้านั้นจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งอาจเนื่องมาจากงานวิจัยนี้เป็นการทดลองในระยะสั้น เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้นจึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างชัดเจน แต่จากการวัดปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวัน และปริมาณโคเลสเตอรอลแล้ว ทำให้นักวิจัยเชื่อว่า การงดกินอาหารเช้าเป็นประจำ เป็นเวลานานนั้น น่าจะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มจนอาจเกิดภาวะอ้วนได้ นอกจากนั้นยังอาจเพิ่มโอกาสเกิดโรคเบาหวาน จากการที่ร่างกายลดการตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินอีกด้วย


ทีมนักวิจัยวิเคราะห์ว่า การกินอาหารเช้า สำคัญต่อการควบคุมความรู้สึกอยากอาหาร การตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมนอินซูลิน และกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยอาหารเช้านั้นจะเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเพื่อนำไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน จึงลดความรู้สึกหิวที่เป็นอาการบ่งบอกว่าพลังงานในร่างกายเริ่มลดลง และต้องการพลังงานเสริม เมื่อความหิวลดลง ก็จะทำให้กินอาหารในมื้อถัดไป หรือของหวานในปริมาณลดลง รวมทั้งอาจส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ปกติแล้วเมื่อร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น หรือรู้สึกหิวก็จะกระตุ้นการสร้างและการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มขึ้น เพื่อนำน้ำตาลเข้าเซลล์ แล้วเปลี่ยนไปใช้เป็นพลังงาน ซึ่งถ้ามีปริมาณของฮอร์โมนอินซูลินมากเกิน เป็นเวลานาน อาจทำให้การตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมนอินซูลินลดลง จนอาจเกิดโรคเบาหวานในที่สุด


ซึ่งทั้งปัจจัยจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ปริมาณโคเลสเตอรอลที่มากขึ้น และโรคเบาหวานนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด จึงเป็นไปได้ว่า การงดกินอาหารเช้าเป็นประจำจึงน่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ด้วย


เห็นเช่นนี้แล้ว หลายคนที่ไม่นิยมกินอาหารเช้า ด้วยเหตุผลไม่มีเวลา หรือต้องการลดน้ำหนัก น่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมหันมากินอาหารเช้ากันดีกว่า เพราะอาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี และห่างไกลจากโรคร้ายได้


เอกสารอ้างอิง
1.American Journal of Clinical Nutrition, February 2005; vol 81: 388-96
2.www.foxnews.com/story/0,2933,147140,00.html




ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today



ขอบคุณทุกบทความที่ปรากฏในบล็อก,
ทั้งนี้เพื่อสุขภาพเจ้าของบล็อกเองและการแบ่งปัน,
ไม่มีเจตนาเพื่อการค้าแต่อย่างใด
ติดตามสาระน่ารู้อื่นๆได้จากเว็บไซต์ทั่วไป

'ปีฆรุ้ง






 

Create Date : 31 มีนาคม 2553
0 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2553 21:38:47 น.
Counter : 734 Pageviews.


Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.