บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 ตุลาคม 2561
 
All Blogs
 
Rashtrapati Bhavan (ราชปติ ภวัน) ทำเนียบประธานาธิบดีอินเดีย



เมื่อหาข้อมูลสถานที่เที่ยวในกรุงเดลีแล้วเข้าในเว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดีอินเดีย

https://presidentofindia.nic.in/visit-to-rashtrapati-bhavan.htm ก็ได้ข้อมูลว่าทำเนียบเปิดให้เข้าชมได้ค่ะ

 มีถึง 3 กลุ่มสถานที่ด้วยกัน เมื่อหาข้อมูลให้คณะแล้ว ก็เอามาฝากเผื่อใครสนใจค่ะ จริง ๆ แล้วก็คือแปล

 สรุปความที่พอทำได้ จากเว็บไซต์ข้างต้น แต่ก็คร่าว ๆ ถ้ายาวไป หรือ ยากไป ก็ตัดออก และบล็อกนี้ ก็เป็นเฉพาะ

ข้อมูลของ Curcuit 1 ที่อยู่ในแผนการของเรา

กลุ่มสถานที่ 1 คือ The Main Buliding & Central Lawn (อาคารหลัก และ สนามส่วนกลาง) ….นำชม Forecourt

และ Reception (ลานด้านหน้า และอาคารต้อนรับ) , Navachara (ห้องนวชระ)Banquet Hall (ห้องจัดเลี้ยง),

Upper Loggia,  Lutyens Grand Stairs (บันได Lutyen) , Guest Wing (ห้องรับรองด้านตะวันตก) Ashok Hall

(โถงอโศก),  Drawing Room, Long Drawing Room, Library (ห้องสมุด) , Durbar Hall (โถงเดอร์บาร์)

Lord Buddha Statue (รูปปั้นพระพุทธเจ้า) , และ Central Lawn (สวนกลาง)


ได้เวลาไป ราชปติ ภวัน แล้วค่ะ เว็บไซต์ขึ้นข้อความว่า


WELCOME TO RASHTRAPATI BHAVAN – ยินดีต้อนรับสู่ราษฏรปติ ภวัน




Rashtrapati Bhavan เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ Sir Edwin Lutyens และ Herbert Baker สถาปนิกที่เต็มไปด้วย

จินตนาการอย่างไม่มีใครเทียบ Sir Lutyens เป็นผู้รวบรวมจินตนาการและความคิด ที่ก่อให้เกิดอาคารทรง H

ที่มีพื้นที่ 5 เอเคอร์  บนพื้นที่ 330 เอเคอร์ ทำเนียบ ฯ มีห้องทั้งหมด 340 ห้อง อยู่บนชั้นต่าง ๆ 4 ชั้น มีระเบียงรวม

กันยาว 2.5 กม. และพื้นที่สวน 190 เอเคอร์ มโหฬารกว่าทำเนียบขาว และใหญ่กว่าพระราชวังบังกิ้งแฮม


แรงงานนับพันมีส่วนร่วมในการก่อสร้างนี้  ช่างก่อสร้าง ช่างไม้ ศิลปิน ช่างแกะสลัก ฯลฯ แล้วเสร็จในปี 1929  

เดิม...สร้างเพื่อเป็นที่พำนักของอุปราชแห่งอินเดีย ที่ขณะนั้นเรียกว่า Viceroy's House (อันเป็นสัญลักษณ์ของ

อำนาจและจักรวรรดิ) แต่ปัจจุบัน คือ Rashtrapati Bhavan - ทำเนียบประธานาธิบดี (อันเป็นสัญลักษณ์ของ

ประชาธิปไตยของประเทศอินเดีย)


Sir Edwin Lutyens กล่าวในหนังสือ Life of Edwin Lutyens  ว่า "Architecture will always find her noblest

expression  in stone, Every different material will influence that expression"  (ความงามอันสูงส่งของ

สถาปัตยกรรม จะส่งผ่านไปยังแผ่นหิน  วัสดุต่างกันก็จะมีอิทธิพลต่อความงามนั้น ๆ)  โดยนัย  Rashtrapati Bhavan 

เป็นสถาปัตยกรรมมหัศจรรย์ที่เป็นประจักษ์พยานถึงคำกล่าวนี้


Lutyen เลือกหินทรายสีชมพูและสีครีม ที่เคยใช้ในสมัยโมกุลและราชภุท ซึ่งเข้ากับสภาพอากาศของเดลีได้

อย่างสวยงาม เพราะเชื่อว่าสถาปัตยกรรมต้องเป็นการสร้างสรรค์ และมีการแสดงออก ครั้งหนึ่งได้กล่าวว่า "

ภูมิอากาศเป็นสีของสถาปนิก" “Climate is the architect’s colour.”

เริ่มจาก Iron Gate (ประตูหลักของราชปติ ภวัน ด้วย
ความกว้าง 6 เมตร สูง 26  ฟุต ทำให้แลดูยิ่งใหญ่ มีความงาม
และศิลปะในตัวเอง  เหนือประตูมีสัญลักษณ์ดาวแห่งอินเดีย
ประดับอยู่  กลางประตูมี สัญลักษณ์แห่งชาติสีทองติดอยู่
ประตูหลักนี้จะเปิดใน โอกาสสำคัญ ๆ  เท่านั้น เช่น 
ประธานาธิบดีเดินทางไปรัฐสภา หรือเมื่อประธานาธิบดี
เดินทางไป Rashpath เพื่อชมขบวนพาเหรดในวันฉลอง
สาธารณรัฐ

เมื่อผ่านประตูเข้ามา ก็จะเป็นเส้นทางทอดยาว สองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ และทางน้ำ

ขนาดใหญ่ ... เส้นทางนี้นำไปสู่ Forecourt (ลานด้านหน้า) และอาคารหลักที่เป็นรูปตัว T



Forecourt (ลานด้านหน้า) ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีต้อนรับการมาเยือนของประมุขแห่งรัฐ และผู้นำของรัฐบาล และเป็นที่
ทำพิธีเปลี่ยนทหารองค์รักษ์อีกด้วย


เดือนพฤษภาคม 2014 Forecourt เป็นสถานที่จัดพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี Narendra Modi และคณะ  
มีผู้เข้าร่วมพิธีหลายพันคน รวมทั้งประมุขจากประเทศต่าง ๆ ...ภาพพิธีที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์ แลดูสวยงามตื่นตายิ่ง

อาคารราขปติ ภวัน ที่แผ่ขยายแนวราบเกือบ 640 ฟุต ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่กว่าความสูง กลางอาคาร จะเห็นธงชาติ

อินเดียเหนือโดม แสดงว่าประธานาธิบดือยู่ในทำเนียบขณะนั้น  เดิมใช้ธงประธานาธิบดี หลังปี 1971 จึงเปลี่ยนมาใช้

ธงชาติแทน



Central Dome  (โดมกลาง) ที่อยู่เหนือราษฎรปติ ภวัน มีลักษณะโดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในทำเนียบสูง 55 เมตร
จากระดับพื้น มีธงชาติอยู่สูงสุดและมีความสูง 2 เท่า ของอาคาร


มองจาก Forecourt ไปยังอาคารทำเนียบ ฯ จะเห็น Tuscan
Pillars (เสาแบบทัสคัน) 12 ต้น เรียงรายอยู่บนระเบียงด้านหน้า
ของอาคาร ...ส่วนอีก 8 ต้น อยู่ด้านหลัง   เสาทัสคันนี้ทำให้
นึกถึงความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมดอริค อิทธิพลของกรีก 
และสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ 

ตรงกลางหน้าห้องแกลลอรี่ด้านหน้า มีรูปปั้นวัว Rampurva ตั้งอยู่











 Jaipur Column (เสาชัยปุระ) สูง 145 เมตร ตั้งอยู่ที่ลานด้านหน้า ห่างจากประตูหลัก 550 ฟุต ออกแบบโดย 

Sir Edwin Lutyens โดยได้รับการสนับสนุนจาก มหาราชา Madho Singh แห่งชัยปุระ เสานี้สร้างขึ้นเพื่อฉลอง

การย้ายเมืองหลวงจากกัลกัตตามาเดลี และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภักดีของเจ้าชายแห่งชัยปุระต่อกษัตริย์อังกฤษ


เสาชัยปุระสร้างจากหินทาย บนหัวเสาประดับด้วยดอกบัว ทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 5 ตัน เหนือดอกบัว 

เป็นดาวแห่งอินเดีย รูป 6 แฉก ทำจากแก้ว ดาวดวงนี้ สร้างในปี 1930 

ทุุก ๆ วันเสาร์ พิธีการที่เป็นประเพณีดั้งเดิมของกองทัพ คือพิธีเปลียนทหารองค์รักษ์ จะมีขึ้นที่ลาน

ด้านหน้าของเสาชัยปุระนี้


เมื่อผ่านลานด้านหน้าเข้าไปในอาคาร จะเป็น Reception (อาคารต้อนรับ) ของราชปติ ภวัน จะได้รับการต้อนรับจาก

ภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบขนาดเท่าจริง ของ “บิดาของชาติมหาตมคานธี”



ผนังด้านซ้ายมีภาพถ่ายรูปตึกเหนือและใต้ของอาคารสำนักงาน 

เลขาธิการ ตรงกลางภาพ จะเห็นโดมกลางของราชปติ ภวัน


ผู้ที่เข้าชมราชปติ ภวัน จะผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียดที่แผนกต้อนรับส่วนหน้า มีการถ่ายภาพ

เพื่อผ่านชั่วคราวเข้าไปในภายใน ไม่ได้อนุญาตให้นำ กล้อง โทรศัพท์ อุปกรณ์อิเลคโทรนิค ของกิน วัตถุไวไฟ อาวุธ

และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เข้าไปภายในต้องฝากไว้ที่แผนกต้อนรับ และรับคืนเมื่อจะกลับ  


Navachara (ห้องนวชระ  Navachara หมายถึง “ความคิดใหม่” (new ideas) ) เปิด วันที่ 1 สิงหาคม 2015 เป็นห้อง

จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ ๆ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ไม่เหมือนใครในประเทศอินเดีย ได้แสวงหา และเลือก

บางโครงการ มาจัดแสดงที่ห้อง Navachara อันทรงเกียรติ นี้ 



ปี 2015 และ 2016 มีการจัดสัปดาห์ “เทศกาลแห่งนวัตกรรม” ขึ้น ณ ทำเนียบ ฯ นี้ จากคำแนะนำของประธานาธิบดี

และความช่วยเหลือของ National Innovation Foundation (มูลนิธินวัตกรรมแห่งชาติ) 

โครงการ Navachara จึงดำเนินการด้วยความร่วมมือของอินเทล ปัจจุบันมีการจัดแสดง “อุปกรณ์อัจฉริยะ” 

รายการ ของนักเรียน นักศึกษาอินเดีย จากรัฐต่าง ๆ ที่ชนะรางวัลระดับชาติ


Banquet Hall  รู้จักกันอีกชื่อว่า ห้องจัดเลี้ยงแห่งรัฐ (State Dining Room) การตกแต่งมีรายละเอียดที่สวยงามยิ่ง  

ห้องมีความยาว 104 ฟุต กว้าง 34 ฟุต และสูง 35 ฟุต  ด้านหนึ่งมองลงไปเห็นสวนโมกุล ผนังห้องประดับด้วยแผ่น

ไม้สักจากประเทศพม่า พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาว และหินสีเทาจากเมือง Kota (เมืองหนึ่งในตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐราชสถาน)




มีเสาไม้ 28 ต้น สูง 13 ฟุต ทำจากท่อนซุงไม้สักจากพม่าท่อนเดียว บนผนังเหนือเสาตกแต่งด้วยผ้าปัก แบบ Zardozi

 (แบบอิหร่าน) ปักด้วยด้ายทองและเงิน ตรงกลางห้องมีโคมไฟระย้าแชนเดอร์เลีย 4 โคม  ผนังห้องประดับด้วย

ภาพวาดสีน้ำมันของอดีตประธานาธิบดีในกรอบไม้สีทอง และภาพท่านมหาตม คานธี ... มีนาฬิการูปพิณเหนือเตาผิง

 กล่าวว่า Lutyens เป็นผู้ออกแบบด้วยตัวเอง รวมทั้งนาฬิกาเกือบทุกเรือนในทำเนียบด้วย


ห้องจัดเลี้ยงรองรับแขกพร้อมกันได้ 104 คน เป็นสถานที่ประธานาธิบดีเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงแก่แขกทางการค้า และเดิม

ใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงแก่ประมุขของรัฐบาลอื่น ๆ ด้วย แต่ได้ย้ายไปที่ Hyderabad House ในช่วงปี 1980 แล้ว


ห้องจัดเลี้ยงแห่งรัฐได้เป็นพยานถึงคำพูดอันทรงปัญญา ความเป็นพี่น้องกัน และความร่วมมือกันระหว่างผู้นำทั้งหลาย

ในโลกนี้ รวมทั้งพระราชินีอลิซาเบ็ธ ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ นายกรัฐมนตรี โจวเอินไหล และผู้นำประเทศอื่น

อีกหลายประเทศ ๆ 


Upper Loggia (เฉลียงชั้นบน) รู้จักกันในชื่อ เฉลียงสวนตะวันตก อยู่ระหว่างห้องจัดเลี้ยง และโถงอโศก (Ashoke Hall)
  ด้านหนึ่งของเฉลียงนี้ มองลงไปจะเห็นบันได Lutyens ที่ใหญ่โต สง่างาม



อีกด้านเห็นสวนโมกุล ห้องนี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นพื้นที่บริการน้ำชา หรือพักผ่อน หลังจากทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพใน 

Durbar Hall ที่ผนังมีภาพอดีตประธานาธิบดีเต็มตัวอยู่ 2 ภาพ


           
 Lutyens’ Grand Stairs (บันได Lutyens)  นำไปสู่ห้องจัดเลี้ยง (ฺBanquet Hall) บันไดทำด้วยหินทราย
 มีความยาว 111 ฟุต กว้าง 53 ฟุต .. ด้านหนึ่งของบันไดเป็นห้องจัดเลี้ยง อีกด้านเป็นโถงอโศกและห้องอื่น ๆ 
           
           
ขณะก้าวไปตามบันได จะให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในอาคารแล้ว 
   จริง ๆ บันไดนี้เปิดโล่งทั้งหมด เพื่อจะได้เห็นท้องฟ้า และโดมกลาง
   ของทำเนียบ ฯ อย่างชัดเจน ว่ากันว่า พื้นที่ตรงบันไดนี้ทำให้เห็นโดมของอาคารทั้งหลัง อย่างใกล้ชิดที่สุด
     Lutyens’ Grand stairs  “เป็นสถาปัตยกรรมหนึ่งที่น่าจดจำในอาคารทั้งหมด"  เนื่องจากความสง่างาม
  และความละเอียดของงาน
           
           
           
           
บนสุดของบันไดเป็นรูปปั้นครึ่งตัวของ Sir Edwin Lutyens, ที่ฐานสลักว่า “Architect of this house”   อีกด้าน
        ของบันได เป็นรูปยืนของท่านมหาตมคานธี หล่อด้วยทองเหลือง ซึ่งเป็นเพียงรูปเดียวในทำเนียบ ฯ เขียนคำกล่าว          
อันภูมิปัญญาของท่านไว้ “In the midst of untruth, truth perists – Mahatma Gandhi” 
(ในท่ามกลางความหลอกลวง  ความจริงยังคงยืนหยัดอยู่)   เมื่อมีงานจัดเลี้ยง หรือกิจกรรมทางการทูต ทหารรักษา
ความปลอดภัยของประธานาธิบดี ในชุดเต็มยศ จะยืนแถวไปตามบันได ทำให้พิธีการทั้งหมดดูยิ่งใหญ่มากขึ้น
 
Guest Wing  (ห้องพักแขก)  ยังหมายถึงปีกด้านตะวันตกของทำเนียบอีกด้วย มี 3 ชั้น ชั้นล่างสงวนไว้เป็นพิเศษ
สำหรับประมุขแห่งรัฐ คู่สมรส และสมาชิกอาวุโสของคณะผู้แทน  ห้องสูท Dwarka เป็นห้องพักใหญ่สุด รองลงมา
   คือ ห้องสูท Nalanda ซึ่งเป็น 2 ห้องสูทหลัก ได้เคยต้อนรับประมุขของรัฐ กษัตริย์ ราชินี และบุคคลสำคัญอื่น ๆ มาแล้ว
  ทั้ง 2 ห้อง มีระเบียงที่มองลงไปเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของสวนโมกุล
           




         
         
เดิมปีกด้านนี้เป็นที่พำนักของอุปราชแห่งอินเดียและครอบครัว แต่เมื่อ C. Rajagopalachari รับหน้าที่เป็นผู้ว่าการ
คนแรกของอินเดีย ก็เห็นว่าห้องสูทนี้หรูหราเกินไปสำหรับตนเอง จึงย้ายไปยังห้องธรรมดา ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ
 และก็ปฏิบัติกันเป็นธรรมเนียมสำหรับประธานาธิบดีคนต่อ ๆ มา
         
ห้องสูทหลักของ Guest Wing มีหน้าต่างบานใหญ่ทำจากไม้สักพม่า โคมไฟระย้าจากยุโรป และพรมจากแคชเมียร์
 เนื่องจากเป็นประเทศเขตร้อน เฟอร์นิเจอร์โบราณที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนจากยุโรป ไม่ทนทาน  Sir Lutyens 
จึงได้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับสภาพอากาศ โดยใช้ไม้สัก มีโคมไฟเท่านั้นมาจากยุโรป
         
ช่วงทศวรรษ 1980 การรับรองบุคคลสำคัญที่ Guest Wing ลดลง เนื่องจากมีการบูรณะซ่อมแซม หลังการบูรณะ 
 ได้ต้อนรับแขกพิเศษ คือ สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น Akihito และพระราชินี Michiko ที่มาเยือนอินเดียเดือน
ธันวาคม 2013 และแวะพักที่ทำเนียบ ฯ ในช่วงสั้น ๆ ทั้ง 2 พระองค์เสด็จมาเยือนอินเดียครั้งแรก ปี 1960 
 ไม่นานหลังการอภิเษกสมรส มี Dr. Rajendra Prasad เป็นเจ้าภาพรับรองที่ห้องสูท  Dwarka และ Nalanda
งานบูรณะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมกราคม 2014 และเปิดรับรองบุคคลสำคัญ หลังปิดไปเกือบ  2 ทศวรรษ
 กษัตริย์แห่งภูฏาณ Jigme Khesar Namgyel Wanchuk  และพระราชินี Jetsun Pema เป็นแขกรับเชิญ
อย่างเป็นทางการบุคคลแรก ที่พำนักที่ Guest Wing หลังจากนั้น ก็ได้รับรองผู้นำจากหลายประเทศ
Asoke Hall  (ห้องโถงอโศก) 

Asoke Hall  (ห้องโถงอโศก)  เป็นหนึ่งในห้องที่ตื่นตาตื่นใจ มีศิลปะงดงาม พื้นที่กว้างขวาง เดิมใช้เป็นห้อง 

Ballroom (ห้องเต้นรำ)  แต่ปัจจุบันใช้ในพิธีการที่สำคัญ ๆ เช่น การแนะนำตัวของทูตต่างประเทศ แนะนำแขก

สำคัญของประเทศ และการจัดงานเลี้ยงรับรองของรัฐบาล ที่มีประธานาธิดีเป็นเจ้าภาพ

ทั้งเพดานและพื้นห้องต่างมีเสน่ห์ของตัวเอง ขณะที่พื้นเป็นไม้ทั้งหมด เพดานตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมัน

   กลางเพดานมีภาพเขียนบนหนัง แสดงภาพขี่ม้าของ Fath Ali Shah ซึ่งเป็นผู้ปกครอง ลำดับที่ 2 จากทั้งหมด 
7 ลำดับของราชวงค์ Qajar ผู้ปกครองเปอร์เซีย กำลังล่าสัตว์ท่ามกลางบุตรชายทั้ง 22 คน ภาพนี้มอบให้แก่
พระเจ้าจอร์จที่ 9 ของอังกฤษโดย Fah Shah เอง ภาพขี่ม้าของ Fah Ali Shah นี้ นำมาจากห้องสมุดของ
สำนักงานอินเดียในกรุงลอนดอน
ผนังมีภาพสีบนผ้าใบขนาดใหญ่ พรรณนาถึงขบวนแห่พระราชา 

 

โคมไฟระย้าแชนเดอร์เลียร์ ทั้ง 6 จากประเทศเบลเยี่ยม จากเดิมที่เป็นห้องเต้นรำ จึงมีการออกแบบให้ห้องใต้หลังคา

 เป็นพื้นที่สำหรับวงออเคสตรา ...ปัจจุบันเป็นพื้นที่สำหรับเล่นเพลงชาติช่วงพิธีการที่สำคัญ มีซุ้มประตู 3 แห่ง 

ซึ่งขณะเดียวกันก็เป็นที่ระบายอากาศบริสุทธิ์เข้ามาในโถงด้วย และจากหน้าต่างแบบฝรั่งเศส ก็จะมองเห็นทัศนียภาพ

ของสวนโมกุลที่งดงาม


ผนังห้องและเสาค้ำทำด้วยหินอ่อนสีเทาอ่อน  มีภาพวาดของกวีเปอร์เซีย .. Nizami และ Persian lady  (สตรีเปอร์เซีย)

 ตั้งไว้ด้านหลังของประตูโค้งด้านเหนือและใต้ตามลำดับ งานศิลปะในโถงอโศกที่โดดเด่น อีกชิ้นหนึ่ง คือนาฬิกาตั้ง

ที่ทำในประเทศอังกฤษ มีเครื่องหมายของ British Clock Enfield by Cooke & Kelvey Ltd, Calcutta


พรมแบบเปอร์เซียออกแบบเฉพาะสำหรับโถงอโศกเท่านั้น มาจากการฟื้นฟูมาตรฐานการออกแบบ และเทคนิค

สมัยราชวงศ์เปอร์เซียที่ยิ่งใหญ่  มีขนาด 32 x 20 เมตร กล่าวว่ามีช่างทอถึง 500 คน ใช้เวลาทอ 2 ปี มีสีแดงเข็ม

รายละเอียดเกี่ยวกับลวดลายดอกไม้และพืชทั่วทั้งผืน ได้รับรักษาไว้อย่างดีแม้จะใช้มานานกว่า 8 ทศวรรษมาแล้ว


North DrawingRoom (NDR) เป็นหนึ่งในห้องที่ประธานาธิบดีใช้รับรองประมุขของรัฐต่างๆ อย่างเป็นทางการ

อยู่ใกล้กับ DurbarHall ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยม ด้วยแผ่นไม้สักขนาดใหญ่ของพม่าบนผนังและ

เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สวยงาม ให้บรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการประชุมประมุขแห่งรัฐ ไม้ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นไม้สัก 

ส่วนเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งเก้าอี้ใช้ไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ประดู่ พยุง วอลนัทและตะโก


ห้องนี้อาจเป็นห้องที่เห็นได้บ่อยๆ จากสื่อมวลชน ผู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมระหว่างประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นข่าวที่สำคัญ






ภาพวาดสีน้ำมันที่สำคัญที่แสดงอยู่ที่ผนังด้านหนึ่งของห้อง คือ ภาพท่านบัณฑิตยาวาหะราล เนห์รู ให้คําปฏิญาณ

ในฐานะประธานาธิบดีคนแรก และคำปฏิญาณของผู้ว่าการอินเดียคนแรก และคนสุดท้าย –

นายพล Sh. C. Rajagopalachari วาดโดย S. Thakur Singh


Long Drawing Room (LDR) เป็นห้องระหว่าง North Drawing Room และ South Drawing Room ซึ่งมีขนาดและ

เครื่องตกแต่งเหมือนกัน ..ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ประชุมโดยบุคคลสำคัญ


Long Drawing Room(LDR),ตามชื่อก็คือ เป็นห้องประชุมทรงยาว


ที่ซึ่งประธานาธิบดีใช้เป็นที่จัดประชุมประจำปีของ ผู้ว่าและรองผู้ว่าการแห่งรัฐ ..นอกจากนั้นยังใช้ในการร่วมประชุมกับกลุ่ม

หรือองค์กรบางแห่ง  ห้องนี้มีประตู 2 ด้าน ซึ่งเปิดสู่ระเบียงที่ไปยัง North Drawing Room และ South Drawing Room


การตกแต่งใช้สีเขียว turquoise (turquoise green) เป็นส่วนใหญ่ มีกระจกขนาดใหญ่ 4 บาน แขวนอยู่ทั้ง 2 ด้าน

ของประตู มีโคมไฟระย้าแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่  4 โคมแขวนที่เพดาน ที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ มีอุปกรณ์

ทันสมัย พร้อมจอ LED 4 จอ สำหรับการประชุม

ภายในห้องมีภาพ 2 ภาพ จากทั้งหมด 4 ภาพ  ที่ได้รับการมอบหมายให้วาดเป็นพิเศษขณะที่กำลังก่อสร้าง 

ภาพภายใน ห้อง LDR เป็นภาพป้อมวิลเลี่ยม มีถนน Madras ปี 1754 และแม่น้ำฮูกลี เป็นฉากหลัง วาดโดย 

Oliver Hall ส่วนอีก 2 ภาพ คือ ภาพ Invention of Printing Press วาดโดย Vivian Forbes และภาพ 

Creation of Man อยู่ที่ห้องสมุดของทำเนียบ ฯ 


Library (ห้องสมุด) อยู่มุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือ มักเรียกว่า“A circle within a square” (วงกลมภายในสี่เหลี่ยมจตุรัส) 

กล่าวว่าคล้ายกับ St. Stephen’s Walbrook โบสถ์ในกรุงลอนดอน เพราะแม้จะเป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ก็ดูเหมือน

เป็นโถงกลม เนื่องจากโดมเพดาน ค้ำยันโดยซุ้มโค้ง 8 ซุ้ม มีเสาค้ำ 12 ต้นที่ตกแต่งด้วยระฆังเล็ก ๆ บนหัวเสาด้านบน 




ห้องสมุดสร้างขึ้นเพื่อรองรับชั้นหนังสือที่สูง 64 ฟุต เข้ากับมุมห้องและผนังตามความเหมาะสม มีหนังสือ

ทั้งหมด 33,000 เล่ม รวมหนังสือหายาก 2,000 เล่ม ภาพวาดสีน้ำมัน ‘The Creation of Man’ และ

‘Invention of the Printing Press’, ตกแต่งด้วยกรอบรูปใบไม้สีทองตั้งไว้เหนือเตาผิง 2 แห่ง


พื้นห้องสมุดเป็นรูปดอกไม้ทรงกลมทำด้วยหินอ่อนสีขาว และหินสีเหลืองทองจาก Jaisalmer (เมืองหนึ่งในรัฐราชสถาน

รัฐราชสถาน -Rajasthan) ตรงกลางเป็นรูปทรงแบบเรขาคณิต จากหน้าต่างห้อง จะเห็นทัศนียภาพที่งดงามของอินเดียเกต


Durbar Hall (โถงเดอร์บาร์)


“เมื่อหลายปีก่อนเราได้นัดหมายกับโชคชะตาเอาไว้  และขณะนี้ ก็ถึงเวลาที่จะไถ่ถอนหลักประกันของเรา 

อาจไม่ใช่ทั้งหมด หรือเต็มจำนวน แต่เราจริงจังยิ่ง และในเวลาเที่ยงคืน เมื่อโลกหลับสนิท อินเดียจะตื่นขึ้น

พร้อมกับชีวิตและเสรีภาพ ... "

เป็นคำกล่าวสุนทรพจน์เตือนความทรงจำของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และจินตนาการถึงอนาคตอันสดใสของประเทศ 

อินเดีย โดยท่านบัณฑิตยาวหะราล เนรูห์ ณ ห้องโถงเดอร์บาร์ ในพิธีสาบานตนของรัฐบาลแรกของอินเดีย

ที่เป็นเอกราช


Durbar Hall (โถงเดอร์บาร์)  ได้เป็นประจักษ์พยานยืนยัน ถึงช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ของประเทศอินเดีย




ความเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ของโถงเดอร์บาร์ ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า โถงนี้เป็นห้องที่มีอำนาจที่สุดในทำเนียบ

ประธานาธิบดี เป็นห้องที่ C.Rajagopalachari กล่าวคำสาบาน ในการรับตำแหน่งผู้ว่าการทั่วไปของอินเดีย

ในปี 1948 ...ปัจจุบัน โถงเดอร์บาร์ ใช้เป็นที่จัดพิธีมอบเกียรติบัตรอันทรงเกียรติ แก่ทั้งหน่วยงานทหารและพลเรือน 

ซึ่งประธานาธิบดีจะเป็นผู้มอบ ..เป็นที่สาบานตนของรัฐบาลใหม่ รวมทั้งหัวหน้าผู้พิพากษาของอินเดีย



โถงนี้อยู่ด้านล่างของโดมกลางของทำเนียบฯ มีทางเข้า 3 ทาง ทางบันไดด้านหน้าผ่านประตูไม้สัก ที่สูง 6 ม.

และผ่านทางบันไดหินอ่อนสีเทาที่อยู่ทั้ง 2ด้านของโถง

    ผนังภายในห้องเป็นหินอ่อนสีขาวสูง 42 ฟุต โดมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 22 ม.และสูง 25 ม. ส่วนเสาเป็นเสาหินอ่อน

สีเหลืองจากเมือง Jaisalmer พื้นเป็นหินอ่อนขัดเงารูปแบบเรขาคณิต ... หินอ่อนส่วนใหญ่เป็นของในประเทศ 

ยกเว้นหินอ่อนแนวสีช๊อคโกแลตสั่งนำเข้าอิตาลีเป็นพิเศษ  โคมไฟระย้าแชนเดอเลียร์จากเบลเยี่ยม แขวนบน

เพดานที่สูง 33 ม. มีมุข 4 ด้าน 2 ด้านทางตะวันตก และอีก 2 ด้านทางตะวันออก



GAUTAM BUDDHA STATUE

พระพุทธเจ้าผู้ปกป้องคุ้มครองเมืองมถุรา ศตวรรษที่ 5 (เมื่อศาสนาพุทธรุ่งเรีืองในเมืองมถุรา)

ที่กำแพงด้านหนึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัย ศต. ที่ 5 มีพื้นหลังเป็นกำมะหยี่สีแดงเข้ม ด้านหน้า

พระพุทธรูป มีเก้าอี้ประธานาธิบดีตั้งอยู่



Central Lawn (สวนส่วนกลาง) เป็นสวนที่สำคัญแห่งหนึ่งในทำเนียบ มีรูปทรงจัตุรัส กว้างยาว 45 เมตร 
เป็นสถานที่หลักสำหรับพิธี ‘At Home’ ประจำปี ที่จัดโดยประธานาธิบดี ในวันสาธารณรัฐ และวันประกาศอิสรภาพ



เมื่อถึง Central Lawn ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการเข้าชมทำเนียบประธานาธิบดี Curcuit 1 ค่ะ 


เพื่อความสะดวกของผู้มาเยือน ราชปติ ภวันได้จัด Curio shop 
ร้านจำหน่ายสินค้าที่จัดทำเฉพาะราชปติ ภวัน เท่านั้น  เปิดในปี 2013

ดำเนินการโดยสหกรณ์ที่ดินของประธานาธิบดี มีของที่ระลึกหลายอย่าง

 เช่นนาฬิกาตั้งโต๊ะ  เครื่องเขียน เสื้อยืด แม่เหล็กติดตู้เย็น ที่คั่นหนังสือ

แก้วกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย 


การเข้าชมราชปติ ภวัน จองออนไลน์ได้ที่ https://rashtrapatisachivalaya.gov.in/rbtour/
แบ่งเป็น 3 กลุ่มสถานที่ 

Curcuit 1: The Main Building & Central Lawn: (อาคารหลัก และสนามกลาง) 

เปิดวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์

Curcuit 2: The Rashtrapati Bhavan MuseumComplex (RBMC) : (กลุ่มพิพิธภัณฑ์) ประกอบด้วย 

หอนาฬิกา คอกม้า โรงรถเปิดทุกวันเว้นวันจันทร์

Curcuit 3: The Mughal & Other Gardens: (สวนโมกุล และสวนอื่น ๆ) เปิดตั้งแต่ 

สิงหาคม –มีนาคม วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์

--     เวลาทำการ 9.00 น – 16.00 น.

-- เข้าทาง GateNo.2 (Rajpath);   Gate No.37 (ผ่าน ถนน Dalhousie-Hukmi Mai Marg);

Gate No.38 (ผ่าน Church Road-Brassy Avenue) - ชาวต่างชาติขออนุญาตเข้าชม พร้อมแนบสำเนาพาสปอร์ตใช้ฉบับจริงในวันที่เข้าชม

-- ค่าเข้าชม คนละ 50 รูปี ชำระ online ได้ (คืน – เปลียนชื่อ ไม่ได้)

- การจอง Online จะได้รับการยืนยันผ่าน Email /SMS. .

-- เพื่อความปลอดภัย สำนักเลขาฯขอสงวนสิทธิในการอนุญาตหรือไม่อนุญาต ให้เข้าชมสถานที่

-- อาจมีการยกเลิกการเยี่ยมชม ถ้ามีความจำเป็นอันใดจาก สำนักเลขา

--** ปิดวันหยุดราชการของทางการ

เมื่อวันที่ 20 ตค. 2561 เข้าไปในเว็บไซต์ เพื่อจะจองที่เข้าไปชม ราชปติ ภวัน ปรากฏว่าวันที่ตั้งใจไว้ คือ 15 พย. 2561 เต็ม เหลือรอบ 11.30 และ 13.30 รอบละ 1 คน จองล่วงหน้าตั้ง 25 วัน ....แต่ก็อด เลยไม่ได้เห็นสถานที่จริงเลย คงได้แต่ดูอาคารรอบนอกค่ะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพทั้งหมดจากเว็บไซต์ของ Rashprati Bhavan

https://rashtrapatisachivalaya.gov.in/rbtour




Create Date : 05 ตุลาคม 2561
Last Update : 26 ตุลาคม 2561 13:38:51 น. 2 comments
Counter : 1825 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณKavanich96


 
ยิ่งใหญ่ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 ตุลาคม 2561 เวลา:15:08:58 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 10 ตุลาคม 2561 เวลา:3:03:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.