บล๊อกของลุง กับป้า ที่ชอบการท่องเที่ยว
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 

จากกรุงซานเตียโก-ชิลี สู่กรุงลาปาซ-โบลีเวีย



วันนี้เป็นการเดินทางไปลาปาซโบลีเวีย กันแล้ว จากซานเตียโกสายการบิน Lan จะพาเราไปแวะที่เมือง Arica - Chacalluta Airportก่อน ระยะทาง 2,047 กม.   แล้วย้อนไป IquiqueDiego Aracena International Airport ที่อยู่ทางใต้ของ Arica 309 กม. แล้วค่อยไปลาปาซ - El Alto International Airport เมืองหลวงของโบลีเวีย ที่อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของชิลี 484 กม. หลายเที่ยวดี.....แต่ก็คงดีกว่านั่งรถยาวจากซานเตียโกมาอริกา 26 ชม.แน่ ๆ เลย   ..... ประมาณว่าจากกรุงเทพไปเชียงราย ย้อนกลับมาเชียงใหม่ แล้วจึงต่อไปพม่า  เข้าใจว่าเพราะ สนามบินที่ Iquique เป็นสนามบินนานาชาติค่ะ


ถึงสนามบินซานเตียโก (Areturo Merino Benitez International Airport)  แม้จะไปลาปาส แต่ไปเอา boarding pass ที่ช่องเดินทางภายในประเทศ แล้วก็ยังไม่ผ่าน ตม.  ..ตอนที่ถึงอริกา มีเวลาต่อเครื่องที่จะไป Iquique ครึ่งชั่วโมง  .... สงสัยว่าจะทันไหม กว่าจะลง-กว่าจะขึ้นอีก  เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นการเดินทางภายในประเทศ  ครึ่งชั่วโมงคงทัน ทันก็ทันค่ะ......  ไม่รู้ต้องวิ่งหอบแฮก ๆ กันอีกหรือเปล่า...


จากซานเตียโกไปอริกาใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงกว่า  ก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ  .... เครื่องไม่ได้บินสูงมาก บินเลียบทะเล เป็นทะเลทราย และน้ำเป็นส่วนใหญ่เห็นวิวชัดเจนพอควร 





เมื่อถึง Arica ตอนรอออกจากเครื่อง พูดเล่น ๆ กับลุงว่า สงสัยเป็นเครื่องบินลำนี้แหละ บินกลับไป Iquique แน่ ๆ เลย ...พอออกมาได้ก็รีบจ้ำเลย กลัวไม่ทัน แล้วก็เข้าห้องผู้โดยสารขาเข้า - ออก  เห็นผู้โดยสารยืนรอกันเป็นแถวที่ gate เดียวกันนี้  ก็เลยถามคนที่ยืนรอว่า "Iquique??" ??"  เขาก็พยักหน้าแล้วชี้ไปลำที่เราเพิ่งเดินออกมา..... นั่น....ว่าแล้วเชียว



รู้ว่าทันแน่ ๆ แล้ว เข้ารีบไปต่อแถวกับคนอื่นเลย  ยังไม่เรียกขึ้นเครื่อง มีเวลาพอให้ถ่ายรูปได้อีก  แล้วก็ขึ้นลำเก่าย้อนกลับไป Iquique ค่ะ  พนักงานต้อนรับก็คนเก่า จำ สว. หน้าแปลกนี้ได้  ยิ้มให้อย่างเบิกบาน


เหมือนเดิม นั่งถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เห็นถนนยาวตามแนวชายฝั่งทะเล น้ำทะเลและทะเลทราย  

บางแห่งเหมือนมีการก่อสร้าง  นั่งคิด ๆ ว่า ถ้าเรานั่งรถยาว 26 ชม. ระยะทางครึ่งหนึ่งต้องเป็นอย่างนี้แน่ ๆ เลย 

ส่วนอีกครึ่งก็แวะรับ - ส่งผู้โดยสารตามเมืองต่าง ๆ ธรรมชาติแบบทะเลทรายสุด ๆ  








ได้รูปจาก internet ก็เป็นไปตามที่คาดค่ะ เป็นทะเลทราย Atacama (Desierto de Atacama) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเปรู ไปถึงตอนเหนือของประเทศชิลี  เป็นระยะทางกว่า 960 กม.  สูงโดยเฉลี่ย 610 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล  มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีเพียง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น และบางพื้นที่ก็ไม่เคยมีฝนตกลงมาเลย ทำให้ทะเลทรายนี้ขึ้นชื่อว่าแห้งแล้ง และร้อนระอุที่สุดของโลก



เห็นเทือกเขาแอนดิสอยู่ไกลโพ้น






สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบสูงลาดชันขนานไปกับแนวเทือกเขาแอนดีส ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงตระหง่าน  ที่ทอดยาวไปตามไหล่ทวีปอเมริกาใต้ ส่วนด้านตะวันออกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิค  มีพื้นที่ทั้งหมด 180,000 ตร.กม. (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย และภาพจาก internet)


อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา  ก็ถึงสนามบิน Diego Aracena International Airport - Iquique, ชิลี




ที่สนามบินที่ Iquique นี้ พอออกจากเครื่องเดินเข้าไปในอาคาร ก็เป็นห้องโล่ง  งง ๆ ว่าจะไปผ่าน  Immigration ตอนไหน แต่ที่นี่สะดวกมาก เพราะ Policia Internacional มาบริการตรวจผู้โดยสารขาออกที่อาคารนี้เลย ไม่ต้องเดินไปไหนไกล เมื่อ Policia ประทับตราพาสปอร์ตแล้ว ก็ผ่านราวกั้นเข้ามา  เป็นห้องผู้โดยสารขาออก  ก็รอกันในนี้เลย ห้ามออกไปไหนแล้ว




ลาปาซอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณถึง 3,650  เมตร (11,975 ฟิต)  และที่สนามบิน ElAlto International Airport - ลาปาส มีความสูงกว่า 4,000 เมตร   ได้ข้อมูลมาว่า ถ้าบินหรือมาโดยบัสจากพื้นที่ที่มีความสูงน้อยกว่า อาจเกิดอาการ attitude sickness หรือที่เรียกว่า Soroche ก็ได้  คือ ปวดหัว คลื่นใส้ อาเจียร มึนงง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร  .....ดั้งนั้น จึงมีคำแนะนำให้  1.  - พักผ่อนวันแรก ๆ  ไม่หักโหม  กินน้ำมาก ๆ ไม่กินยานอนหลับ,   2. -  กินอาหารประเภทแป้งมากๆ  ขนมปัง มันฝรั่ง พาสต้า,  3.  -  ดื่มชา Coca ระหว่างที่อยู่ในพื้นที่สูงนั้น   4. -  กินยา Diamox (Acetazolamide) ที่ช่วยลดอาการแพ้


ที่เตรียมตัวกันก่อนไปก็คือ ออกกำลังกาย  และซื้อยา Diamox มา 50เม็ด ติดตัวไปค่ะ  ซื้อที่กรุงเทพเขาแนะนำให้กิน 2 ชม.  ก่อนถึงพื้นที่สูง และกินหลังอาหารวันละ 3 ครั้ง  ครั้งละ 2 เม็ด   ... แต่เพื่อให้แน่ใจอีกที ก็ไปถามร้านยาใกล้บ้าน  น้องเภสัชไม่แน่ใจว่าเราจะเอาไปแก้อะไร  ก็บอกว่าสำหรับ attitude sickness น่ะ น้องก็บอกว่า   ..."ผมไม่เคยได้ยินเลยนะ ว่ากินยานี้แล้ว จะหายกลัวความสูง" ....


อ้าว .."ไม่ใช่ ๆ" ..."ไม่ใช่โรคกลัวความสูง" "แต่เป็นอาการเนื่องจากอยู่บนที่สูงมากๆ  น่าจะเกี่ยวกับควบคุมการเต้นของหัวใจนะ"  น้องก็ดีมาก ๆ เปิด internet หาข้อมูลให้ แล้วก็อธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีกิน และขนาดของยาที่มีถึง 3 ขนาด...แล้วดูว่ายาของเราขนาดไหน  เกิดกินเยอะแล้วแพ้ก็แย่เลย  เพราะมีข้อมูลว่าอาจเกิดอาการแพ้ ..ไปลองกินก่อนดีไหม ....เภสัชกรแนะนำมาซะอย่างนี้ ก็ต้องทำตามใช่ไหมค่ะ  .... กินไปคนละ เม็ด  ตกลงแพ้ยานี้ทั้ง 2 สว. เลย มีอาการมึนหัว  มือชานิด ๆ  ที่หน้ารู้สึกเหมือนมีผื่นขึ้น ทั้งวันเลย


ณ สนามบิน Iquique ถ้าให้กินยาก่อน 2 ชม. ก็ได้เวลาที่ต้องกินยากันแล้ว ก็กินไป 1/2 เม็ด ไม่กล้ากิน 1 เม็ดแล้ว ลุงเขาไม่กิน บอกว่าถ้าไปถึงแล้วมีอาการแพ้ ค่อยกินก็แล้วกัน ......


ระหว่างทางไปลาปาซ ไม่ได้มีแต่ทะเลทราย และทะเลแล้ว


แล้วก็ถึงสนามบิน El International Airport - La Paz (โบลิเวีย) 






เห็นเทือกเขาแอนดิสอยู่ลิบ ๆ ปกคลุมด้วยหิมะ




ตื่นเต้นมากที่มาถึงลาปาซ ณ สนามบิน El Alto International Airport ซึ่งเป็นสนามบินที่สูงที่สุดในโลก (4,058 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเล  ...และแล้วอาการแพ้ยาก็กำเริบ รู้สึกมึนหัว  หน้าร้อนวูบวาบ มือชา  .. แต่คนไม่กินยาไม่เป็นอะไรเลย...ตกลง.... มีแต่แพ้ยา  ไม่แพ้ความสูง


ออกจากสนามบิน ข้ามถนนไปทางขวา จะมีที่จอดมินิแวนเข้าเมือง รถจะวิ่งลง ลงตลอด 400 เมตร ในเวลาครึ่งชั่วโมง  จอดให้ลงที่ Plaza San Francisco  จากที่นี่เดินไปประมาณ 100 เมตร  ก็จะถึงที่พัก Hotel Fuentes เป็นทางขึ้นเนิน ... ..  ลุงลากกระเป๋านำหน้าไป (ปกติเขาจะเป็นคนเดินช้า ไปเรื่อย ๆ และเดินตามหลังมากกว่า)   ตอนนั้นเอง ที่รู้สึกว่าเหนื่อยมาก ๆ  เดินไป 4 - 5 ก้าว ก็ต้องหยุดพัก   เหมือนไปวิ่งที่ไหนมา.. หายใจไม่ทัน เดินหยุด เดินหยุดจนถึงโรงแรม



ทางเข้าโรงแรม




หลังจากเช็คอินแล้ว เจ้าของโรงแรมก็ถามว่า "จะเอาห้องชั้น 2 หรือ ชั้น 4 ".."ทำไมล่ะ" "ชั้น ธรรมดา  ถ้าชั้น 4 ก็จะเห็นวิวดี ... goodview ซิ"  สว. ทั้ง 2 ลืมไปหมดเลยไอ้ที่จะตายเมื่อตะกี่นี้  "โอเคชั้น 4 ...good view เลย"  แล้วก็มีคนมาช่วยยกกระเป๋า  เดินขึ้นไปชั้น แล้วก็ชั้น 3  แล้วก็ชั้น 4 ..ยังไม่ถึง ต้องอีก 1 ชั้น ..นี่มันชั้น 5 ต่างหาก  เขาไม่ได้นับชั้นแบบบ้านเราค่ะ เพราะมี ground floor ด้วย ..

ถ้าบอกว่าชั้น 5 ตั้งแต่แรก ก็ไม่รู้ว่าจะตะกายขึ้นไปหรือเปล่า  ทั้งชั้นมี 6 ห้อง แต่มีคนพักห้องเราห้องเดียว  พวกฝรั่งอยู่กันชั้นล่าง ๆ กันหมด




ห้องกว้างขวางมากเพราะเจ้าของโรงแรมใจดี เพิ่มมาให้อีก 2 เตียง เป็น เตียง ห้องน้ำรวม  แต่ก็ติดกับห้องพัก  แล้วตลอด วัน ก็ไม่มีใครมาใช้เลย นอกจากเรา 2 คน






บนชั้น 5 นี่ วิวดีจริง ๆ  แล้วค่อยดูวิวตอนกลางวันอีกทีค่ะ




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2558
1 comments
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2562 11:32:46 น.
Counter : 1211 Pageviews.

 

ดูวิวจากบนเครื่องบินซะเพลินเลย

 

โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ 7 มิถุนายน 2558 13:33:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1920579's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.