ลาปาซ 1 - บ้านเรือนและผู้คน
ประเทศโบลีเวีย - มีชื่อทางการว่า "รัฐพหุชนชาติแห่งโบลีเวีย" ภาษาสเปน คือ Estado Plurinacional de Bolivia .. หรืออีกชื่อว่า La Ciudad de Nuestra Senora de la Paz (The City of our Lady of the Peace - เมืองของพระแม่แห่งสันติภาพ) ตั้งอยู่ใจกลางทวีปอเมริกาใต้ ไม่มีทางออกสู่่ทะเล เพราะถูกล้อมรอบด้วยประเทศอื่น... คือ ....ทิศเหนือจรดประเทศบราซิล ตะวันออก - ประเทศปรากวัย ทิศใต้ - ประเทศอาร์เจนตินา ทิศเหนือและทิศตะวันตก -ประเทศชิลีและเปรู
โบลีเวียมีเมืองหลวง 2 แห่ง เมืองหลวงอย่างเป็นทางการ คือ Sucre เป็นที่ตั้งของหน่วยงานยุติธรรม ส่วนกรุงลาปาซ มีหน่วยงานรัฐบาลมากกว่า.. ดังนั้น โดยพฤตินัยจึงเป็นเมืองหลวงของประเทศ ลาปาซใหญ่เป็นอันดับ 2 ในแง่ของประชากร รองจาก Santa Cruz de la Sierra และ ณ ความสูงประมาณ 3,577 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลาปาสจึงเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ ที่สูงที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
......ถ้าโดยสารเครื่องบินมายังกรุงลาปาซ ทิวทัศน์จะงามจับตาอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเครื่องบินทะยานข้ามเทือกเขาที่สูงที่สุดในโบลีเวีย และมุ่งตรงไปยังตัวเมือง ....สิ่งแรกที่เห็นทางตะวันตกของที่ราบสูง altiplano คือ บ้านที่แผ่กระจายทั่ว ๆ ไป ของผู้อยู่อาศัยที่เมือง El Alto ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบิน El Alto
เมือง El Alto ก่อนที่เครื่องบินจะลง
และค่อย ๆ เผยให้เห็นตัวเมืองลาปาซ ที่ตัดลงไปในหุบเขา มีเทือกเขา Illimai ซึ่งสูงกว่า 6,000 เมตร ที่ยอดเขาปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ตั้งตระหง่านเหนือเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ .... ส่วนอีกด้านหนึ่งของหุบเขา เป็นบ้านที่ทรุดโทรมของชาวบ้านที่ยากจน บ้านที่ดูเหมือนแขวนอยู่อย่างไม่มั่นคง และอาจหล่นลงมาเมื่อไรก็ได้
กรุงลาปาซ เมืองหลวงของโบลีเวีย ณ ที่ราบสูง altiplano (ภาพจาก //www. Mthai)
เทือกเขา Illimani ณ เส้นขอบฟ้าของเมือง จากชั้น 5 ของ Hotel Fuentes - La Paz
ลาปาซตั้งอยู่ในหุบเขา ที่เกิดจากแม่น้ำ Choqueyapu ซึ่งไหลมาจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไปยังตะวันออกเฉียงใต้ ..... ตัวเมืองตั้งอยู่ด้านล่าง คล้ายอยู่ในชามอ่าง ล้อมรอบด้วยภูเขา และที่ราบสูง altiplano ... กล่าวว่ามีเพียงไม่กี่เมืองในโลกนี้ ที่มีที่ตั้งที่น่าตื่นเต้นเหมือนอย่าง "ลาปาส" ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงกว่า 3,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตัวเมืองตั้งอยู่บนไหล่เขาแคบ ๆ ตามเทือกเขาสูง โบสถ์และตึกสำนักงาน ร้านค้า รวมตัวกันอยู่ใจกลางเมือง ที่ดูเหมือนเล็กลงไปในหุบเขา
ด้วยที่ตั้งอันตระการเช่นนี้ กรุงลาปาซในแวบแรกที่เห็นจึงดูคล้ายภาพราง ๆ ของกองอิฐสีส้มกับหลังคาเหล็ก ....แต่เมื่อดูใกล้ ๆ ที่นี่นับเป็นเมืองที่แปลก และมีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกาใต้ (ข้อมูลจาก //www.wikitravel, หนังสือหน้าต่างสู่โลกกว้าง ฉบับทวีปอเมริกาใต้)
ภาพจากชั้น 5 ของ Hotel Fuentes ค่ะ คุ้มค่าเหนื่อยจริง ๆ
บ้านนี้แม้จะอยู่ในเมือง ก็น่ากลัวว่าจะหลุดลงมาเหมือนกัน
ตามสภาพภูมิศาสตร์ของลาปาซ โดยเฉพาะเรื่องความสูง ได้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคม คือ ..พื้นที่ระดับต่ำกว่าจะเป็นพื้นที่ของผู้มีฐานะดีกว่า ส่วนชนชั้นกลางจะอาศัยอยู่ในคอนโดสูงใกล้เมือง บ้านที่มีฐานะดีจะอยู่ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของถนน Prado
อาคารทันสมัยย่าน Prado (ภาพจาก //www.alamy.com)
โบลีเวีย เป็นประเทศที่รวบรวมทุกอย่าง ที่บุคคลภายนอกเห็นว่าแปลก และลึกลับเกี่ยวกับทวีปอเมริกาใต้ไว้ .....ด้วยความที่มีพื้นที่ที่แผ่กว้างจากยอดเขาน้ำแข็งอันงดงาม ถึงทะเลทรายบนเทือกเขาสูงแอนดิสที่อ้างว้าง ไปจนถึงป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์ และทุ่งหญ้า savanna ที่กว้างใหญ่แห่งลุ่มน้ำอเมซอน ....ประเทศนี้จึงรวบรวมเอาไว้ทั้งสภาพภูมิประเทศ และสภาพอากาศที่น่าอัศจรรย์
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลากหลายนี้ สอดประสานกับวัฒนธรรมและเชื้อชาติที่แตกต่างกันไปของประชากรของประเทศ ชาวโบลีเวียส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชนพื้นเมือง ซึ่งทำให้วัฒนธรรมแบบดั้งเดิมยังคงแข็งแกร่ง ประเทศโบลีเวียมีความภาคภูมิใจ ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมนี้ได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในทวิีป และอาจจะมากกว่าที่ใด ๆ ในลาตินอเมริกา
Aymara "Aymara " คือชนพื้นเมืองส่วนใหญ่ของดินแดนแถบนี้ มีทั้งหมดประมาณ 2 ล้านคน ในโบลีเวีย เปรู และ ชิลี อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาแอนดีส และที่ราบสูงในอเมริกาใต้ .... เป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่มากในลาปาซ - เมืองหลวง และบริเวณที่ราบสูงอันแห้งแล้งของโบลีเวีย ที่เรียกว่า "Altiplano"
บรรพบุรุษของพวกเขา อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้มาหลายศตวรรษ ก่อนที่ผู้คนจะกล่าวถึงคนพื้นเมือง "อินคา" ปลาย ศต.ที่ 15 .....หรือชาวสเปนใน ศต. ที่ 16 .....ชนพื้นเมือง Aymara เป็นที่รู้จักกันดีว่าเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของที่ราบสูง งานศิลปหัตถกรรมที่มีสีสันสดสวย และการแต่งกายแบบดั้งเดิม..
...สตรี Aymara Indian หรือ"cholitas " (cholitas แปลว่า สตรีที่ทำงานอย่างยากลำบาก) มักจะสวมชุดตามวัฒนธรรมของตนเอง เครื่องแต่งกายที่ครั้งหนึ่งเคยหมายถึงสมาชิกที่อยู่ชายขอบ และถูกเอาเปรียบในสังคมโบลีเวีย .... แต่ปัจจุบันกลับสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจ บทบาท และพลังที่เพิ่มมากขึ้น ในสังคมชั้นกลางพื้นเมืองของประเทศ ....เธอยังคงรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น
วัฒนธรรมดั้งเดิมที่โดดเด่น เห็นได้ทั่วไปในกรุงลาปาส คือ ชุดที่สตรี Aymara สวมใส่ .... ซี่งเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ และดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทุกคน เป็นชุดแบบดั้งเดิม มีหมวกทรงสูง -bowler hats เล็ก ๆ บนศรีษะ กระโปรง - polleras สีสันสดใส ตัวใหญ่หลายชั้น รองเท้าที่มีลวดลายเล็ก ๆ ตามแบบฉบับของนักสู้วัวกระทิง รวมทั้งผ้าคลุมไหล่ที่ปักอย่างสวยงาม
.. และโดยทั่วไปก็จะมีผ้าห่มที่ทอด้วยมือคล้องไว้บนบ่า..ไว้โอบอุ้มลูกน้อย หรือใส่สิ่งของอื่น ๆ
Bowler hat หรือในชื่ออื่น ๆ ว่า bob hat, billycock หรือ bombin เป็นหมวกแข็ง ทรงกลม สร้างขึ้นในปี 1849 สำหรับทหารอังกฤษ และนักการเมืองอังกฤษคนหนึ่ง เป็นที่นิยมกันในหมู่แรงงานสมัยควีนวิคตอเรีย ต่อมาเริ่มใช้กันในชนชั้นกลาง ชั้นสูง และขยายไปถึงอเมริกาตะวันออก
ในโบลีเวีย สตรีชาว Quechua เริ่มสวมใส bowler hats ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920 เมื่อ bowler hats ที่ส่งไปโบลีเวีย ให้คนงานรถไฟชาวอังกฤษ มีขนาดเล็กเกินไป แล้วก็แทนที่จะโยนทื้ง ก็นำไปให้สตรีในโบลีเวีย และก็ได้เกิด "ตำนาน" ว่า ผู้ที่ใส่หมวกนี้ จะไม่ประสบปัญหาในการเพาะปลูก ... bowler hats จึงเริ่มแพร่หลายไปทั่ว โดยเฉพาะสตรี Aymara.
ตามท้องถนนในลาปาซ จะเห็น cholitas แต่งกายอย่างมีสีสันสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง ... สตรี Aymara แม้ส่วนใหญ่จะมีรูปร่างท้วมหรืออ้วน แต่ยังสวมกระโปรงหลาย ๆ ชั้น เพื่อให้สะโพกดูใหญ่ขึ้น เพราะตามวัฒนธรรม เชื่อว่าสะโพกที่ใหญ่หมายถึง ความสวยงามและความมั่งคั่ง ... นอกจากนั้น ก็มักจะไว้ผมยาว ถักเป็นเปีย และมีเครื่องประดับตกแต่งตรงปลาย .
...แล้วก็เหมือนขนบธรรมเนียมประเพณีทั่่วไปค่ะ ที่คนรุ่นใหม่มักไม่ค่อยยอมรับเสื้อผ้า และ bowler hats ... แต่ไม่นานมานี้ ได้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เมื่อ Juan Evo Morales Ayma หรือ Evo นักการเมือง และนักกิจกรรม ได้รับเลือกเป็นประธานาธิดีของประเทศ ตั้งแต่ ปี 2006 เป็นครั้งแรกที่ ประธานาธิบดีมาจากชนพื้นเมือง ที่เกิดในครอบครัว Aymara ที่เป็นเกษตรกรแบบพอเพียง ......งานหนึ่งของเขา คือ ต่อสู้เพี่อสิทธิของชนพื้นเมือง .. ...การเปลีี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Cholitas ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะด้านเศรษฐกิจเท่านัั้น แต่ยังรวมถึงทัศนคติทางสังคมด้วย ทุกวันนี้จะเห็น Cholitas ศึกษาในมหาวิทยาลัย ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล ธนาคาร สำนักงานกฏหมาย พิธีกรวิทยุโทรทัศน์ และอื่น ๆ สตรี Aymara เป็นศูนย์กลางของครอบครัวในโบลีเวีย นอกจากงานในบ้านแล้ว งานค้าขายนอกบ้านก็เป็นหน้าที่ของเธอด้วยเช่นกัน เห็นได้ทั่วไปที่ ลาปาส ตามท้องถนน ตลาด หรือแม้กระทั่งแลกเงิน จะเป็นสตรี Aymara เป็นส่วนใหญ่
แม้โบลีเวียเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในทวีอเมริกาใต้ แต่เศรษฐกิจก็เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากการที่แร่ธาตุ และน้ำมันมีราคาสูงขึ้น รวมทั้งนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ความเติบโตทางเศรษฐกิจนี้ ได้ช่วยให้การค้าขายในกรุงลาปาซ และเมืองใกล้เคียง เช่น El Alto ที่ชนพื้นเมือง Aymara และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญ ช่วยให้เธอมีผลกำไรเพิ่มขึ้น
แด่ "Cholitas" สตรี Aymara ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมของตนเองไว้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และยังเป็นกำลังสำคัญทั้งในบ้านและนอกบ้านอีกด้วย
| Create Date : 08 มิถุนายน 2558 |
| Last Update : 21 มิถุนายน 2558 20:01:37 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 2491 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
วันหลังเชิญแวะไปอีกนะค๊ะ