บางคนกำลังจากบัลปารีโซ แต่บางคนก็เพิ่งมาถึง ชีวิตคือการเดินทาง
ค่ารถจากบัลปารีโซไปซานเตียโก เที่ยวเดียว CPL3,500 ประมาณ 200.- บาท แต่ถ้าซื้อตั๋วไป - กลับจะได้ราคา CPL6,500 ลดให้ CPL500 ค่ะ แล้วรถก็พาเราไปซานเตียโก
บนรถจะมีตัววิ่งด้านหน้ารถ บอกความเร็วรถ ขณะนั้น ๆ 77 กม. ต่อชั่วโมง 70 กม. ต่อชั่วโมง ไม่ใช่ 100 - 120 กม. แบบบ้านเรา
ระหว่างทางจากบัลปารีโซไปซานเตียโก รถวิ่งไปตามดอยคล้ายเส้นเชียงใหม่- ลำปางเลยล่ะ
กรุงซานเตียโก เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐชิลี (Rebublica de Chile) ชื่อทางการ ..... ชิลีเป็นแผ่นดินกึ่งกลางเทือกเขาแอนดิส ก้บมหาสมุทรแปซิฟิค จากทางทิศเหนือที่จรดประเทศเปรู และโบลีเวีย จนจรดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคทางตะวันตกของประเทศ มีความยาว 6,435 กม. เป็นประเทศที่มีความยาวมากที่สุดในโลก แต่มีความกว้างเฉลี่ยประมาณ 177 กม. มีช่วงกว้างที่สุด 362 กม. (ข้อมูลจากวิกิพิเดีย)
มีคำกล่าวติดตลกว่า "ชิลีเป็นกลไกของพระเจ้า เพื่อกั้นอาร์เจนตินาจากมหาสมุทรแปซิฟิค" ..... และ อีกคำพูด คือ "คนชิเลียนต้องนอนตามยาวของประเทศ เพื่อกันไม่ให้เท้าเปียก" แต่เพราะความยาวของประเทศนี้เอง ที่ทำให้ชิลีเป็นประเทศหนึ่งที่มีทัศนียภาพอันน่าทึ่ง และมีความหลากหลายมากที่สุดในโลก ....จากภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ถึงอ่าวเล็ก แคบ และลึก ....จากภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุ ถึงทะเลทรายที่ดอกไม้แห่งทะเลทรายเบ่งบาน ...จากป่าดิบทึบ ถึงทะลสาบที่ใสดั่งแก้วเจรนัย.. จากสุดขั้วทะเลทรายทางเหนือ มาถึงบรรยากาศเมดิเรเนียนทางตอนกลาง และสภาพแบบดั้งเดิมของแผ่นดินทางใต้ที่ดูจะแปลกแยก และโดดเดี่ยว
ส่วนกรุงซานเตียโกเมืองหลวงของประเทศ ได้ชื่อว่า "นครในอ้อมกอดของขุนเขา" ... ถ้าบินมายังซานเตียโก ก็จะเห็นทุ่งหญ้ากว้างไกลไม่มีสิ้นสุดของอาร์เจนตินาทางตะวันออก มหาสมุทรแปซิฟิคทางตะวันตก - และเทือกเขาแอนดิสที่ตั้งตระหง่านจากเหนือจรดใต้ โดดเด่นด้วยยอดเขาที่สูงที่สุดของทวีป คือ Aconcagua (6,962 m./ 23,206 ft.) (ภาพจาก google) ตอนมาซานเตียโก จากอาร์เจนตินา ได้ที่นั่งตรงกลาง เลยไม่ได้รูปอะไรเลยค่ะ
แล้วก็มาถึงซานเตียโก พักที่ Hotel Olicar San Pablo จองผ่านเว๊บของโรงแรมเอง ได้ราคาประหยัดกว่าตัวแทนอีกหน่อย โรงแรมนี้อยู่ใกล้ Central Mercado เดินไปไหนไม่ไกล สะดวกดีมาก ๆ อยู่ในอาคารเก่าภายในดูอลังการแบบเก่า ๆ
จองห้องพัก 2 เตียง ได้เพิ่มมาอีก 2 เตียง เป็น 4 เตียง ห้องกว้างขวางสำหรับ backpackers บรรยากาศภายในโรงแรมดูดีทีเดียว ปูพรมแดงด้วยค่ะ
โรงแรมพื้นไม้ จำได้ว่า เวลาเดินเสียงดังตลอด คงเก่าจริง ๆ ...ประตูสูงแบบอาคารโบราณ
BIP Card ซื้อได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่ง ค่าบัตร CPL1,400 .....ธนบัตรและเหรียญ สูงสุดใบละ 10,000 ส่วนเหรียญ มี 1,000 .. 500 และ 100
จากนั้นก็เที่ยวต่อได้เลย ไม่พลาดแน่ ๆ Mercado Central de Santiago ใกล้ที่พักค่ะ
Mercado Central de Santiago เปิดเมื่อเดือนกันยายน 1872 โดยประธานาธิบดี Federico Errazuriz Aanartu เริ่มแรกเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลป การก่อสร้างใช้เวลานานถึง 10 ปี งานที่เป็นโลหะทำในประเทศอังกฤษ และส่งมาชิลีทางเรือ
Mercado Central มีโครงสร้างหลัก คือ หลังคา และโครงสร้างค้ำตัวอาคารเป็นเหล็ก ได้รับออกแบบให้สวยงามโดยบริษัทของชาวสก๊อต คือ R Laidlaw & Son. Glasgow ส่วน Edward Woods และ Charles Henry Driver ออกแบบส่วนที่เป็นโครงสร้าง .... ตลาดนี้มีเพดานโค้ง หลังคาแบบหลายชั้นทรงปิรามิด ตรงกลางเป็นหอทรงโดม ล้อมรอบด้วยหลังคาเล็ก ๆ อีก 8 หลัง เป็นหลังคาแบบ 2 ชั้น
หลังจากเปิดนิทรรศการศิลปไม่นาน อาคารนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นตลาดกลางของซานเตียโก เริ่มแรกเป็นเพียงตลาดปลา ปัจจุบัน ตรงกลางเป็นภัตตาคารอาหารทะเล ส่วนรอบๆ เป็นตลาดปลา และก็มีร้านอาหารทะเลราคาประหยัดอีก 30 กว่าร้าน ผัก ผลไม้ และไวน์ของชิลี ก็มีจำหน่ายด้วยค่ะ
ในปี 1984 Mercado Central de Santiago ได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติค่ะ
จาก Mercado Central เดินต่อขึ้นไปทางเหนือ ผ่านแม่น้ำ Mapocho
เป็นตลาด La Vega ตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในซานเตียโก สว. นี่ไป
ไหน มาไหน ขอแวะตลาดก่อนเถอะ ซื้อผลไม้ติดไม้ติดมือ แล้วค่อย
ไปที่อื่นต่อกันนะคะ
บ้านเรา ไม่ใช่แค่ 100 -120 ปาเข้าไป 140 ยังมี
ที่มอเตอร์เวย์เป็นต้น
มีป้ายติดไว้ตลอดทางว่า 90 กม. ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
ไม่ให้ขับเกิน 90 หรือว่า ไม่ให้ต่ำกว่า 90 กันแน่ 555
ชอบตรงตลาดผลไม้นี่แหล่ะ
ดูน่ากินไปหมดเลย