*'^'~*-.,_,.-* Keep my Memories in my Mind *-.,_,.-*~'^'*
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2556
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 

[SF] HwaRi ; เมื่อถึงวันนั้น ~ Life, it goes on : บทสาม - สิ่งที่อยู่ข้างใน


“ฮวา โกรธ พวกเค้า เรื่องทวิตเตอร์เหรอ?” คิวริ เช็ดน้ำตา พยายามถามด้วยน้ำเสียงปกติ


“แล้วพี่ว่าฉันควรโกรธมั้ยคะ ถึงข้อความไม่ได้เอ่ยชื่อตรงๆ แต่ฉันก็รู้ว่าพวกเค้ากำลังรุมว่าฉันอยู่ ถ้าจะรุมว่าฉัน ไม่ต้องประกาศให้โลกรับรู้ก็ได้ ไหนๆ เราทุกคนก็นั่งกันอยู่บนรถแล้วนี่ มาด่ามาว่าฉันซึ่งๆ หน้าเลย ไม่ต้องมาทวีตแดกดันหรอก”
ฮวายองเริ่มของขึ้น เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งคือหลังจากเสร็จสิ้นการแสดงคอนเสิร์ตวันแรกที่สนามบูโดกัน ประเทศญี่ปุ่น และจะต้องแสดงคอนเสิร์ตอีกวันเป็นวันสุดท้ายในวันรุ่งขึ้น



“ถึงพี่ไม่ได้ทวีตแดกดันฉัน แต่พี่ก็ทวีตบางอย่าง จนฉันอดคิดไม่ได้ว่า จริงๆ พี่ก็เป็นเหมือนพวกนั้นหรือเปล่า” ฮวายองพูดด้วยน้ำเสียงขัดเคืองปนน้อยใจ

“พี่ทวีตว่าอะไรคะ? พี่จำไม่ได้” คิวริ พยายามทบทวนความจำกับสิ่งที่ตัวเองเคยโพสในทวิตเตอร์

“ฉันจำไม่ได้หมดหรอกนะ มันประมาณ พี่แต่งเนื้อเพลง...เนื้อหาประมาณ ...’ทำไปก็เสียเวลาเปล่า แต่งหน้าแล้วเหงื่อก็ไหลออกมา’ พี่จำได้หรือยังคะ?” ฮวายอง พูดให้คิวรินึกทบทวน

“เอ่อ พอจะจำได้แล้วค่ะ” คิวริ ทำหน้าครุ่นคิด พยายามนึกทบทวนข้อความที่ตนเองเคยทวีต

“อืม นั่นแหละค่ะที่ฉันอยากถาม พี่ทวีตประชดฉันรึป่าว?” ฮวายองถามคาดคั้นอยากรู้ความจริง ที่ตัวเองเก็บความสงสัยมานาน

“เอ่อ...พี่.....” คิวริไม่กล้าตอบฟันธง เพราะก็จำอารมณ์ตัวเอง ณ ขณะนั้นไม่ได้ ว่าอยากบ่นขำๆ เพราะอากาศมันร้อนจริงๆ หรืออยากประชดคนที่แต่งตัวแต่งหน้าแล้ว แต่ร่วมแสดงได้แค่ไม่กี่เพลง!!

“หึ...พี่จำไม่ได้ล่ะสิคะ เอาเหอะ ยังไงมันก็ผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว....ฉันจะคิดว่าพี่ ไม่ได้ทวีตประชดแดกดันฉันล่ะกัน” ฮวายองพูดตัดบท เพื่อตัดใจจากความอยากรู้ของตัวเอง

“ฮวา ไม่โกรธพี่ใช่มั้ยคะ?” คิวริ ถามเสียงอ่อย

“ตอนนี้ไม่โกรธ แต่ตอนนั้นโกรธค่ะ” ฮวายองพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“เวลานั้นฉันอยากมีคนเข้าใจฉัน มีคนอยู่ข้างฉัน ซึ่งฉันก็หวังว่าจะเป็นพี่ แต่ฉันก็ต้องผิดหวัง...ตอนฉันข้อเท้าแพลง แล้วต้องเดินทางไปคอนเสิร์ต พี่ไม่เคยเหลียวแลฉันเลย....พี่รู้มั้ยคะ ฉันทั้งปวดขา ทั้งปวดใจแค่ไหน ที่พี่เป็นแบบนี้....”
ฮวายองพรั่งพรูความในใจที่อัดอั้น ราวกับทำนบเขื่อนที่แตกออกมา ในขณะที่คิวริ นั่งฟังนิ่ง สีหน้าเคร่งเครียด น้ำตาคลอเบ้า

“พี่คิดว่าฉันไม่ยอมทุ่มเทให้คอนเสิร์ตใช่มั้ยคะ?....คิดว่าฉันสำออย เรียกร้องความสนใจ อย่างที่พวกเค้าคิดใช่มั้ยคะ?" ฮวายองพูดกระแทกเสียง ทิ้งช่วงเล็กน้อย ก่อนพูดต่อ

“พี่จะให้ฉันทำยังไงคะ ถึงเรียกว่าทุ่มเท ที่ผ่านมาฉันพยายามทำทุกอย่างเต็มที่ ทั้งร้อง ทั้งเต้น บางครั้งพวกพี่กลับบ้านไปแล้ว ฉันก็ยังอยู่ซ้อมต่อ...แต่มันก็ไม่ดีพอในสายตาพี่ ในสายตาพวกเค้า” ฮวายองพูดเสียงสั่นเครือ ด้วยความน้อยใจ

“พี่...พี่รู้ว่าพี่ผิด...พี่รู้ว่าพี่ทำให้ฮวาเสียใจ...แต่จะให้พี่ทำยังไงคะ...พี่จำเป็นต้องเลือก.....” คิวริ เสียงหายกับท่อนสุดท้ายของประโยค

“ค่ะ ฉันรู้ ..รู้ว่าพี่ต้องเลือกฝั่งไหนกับสถานการณ์อย่างนั้น รู้ว่าพี่เลือกที่จะนิ่งเงียบในบางครั้ง...เพราะมันจะส่งผลกับงานของพี่” ฮวายองพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มผ่อนคลายลงบ้าง

“จะว่าไป ฉันก็มีส่วนผิด...เพราะฉันเข้ามาทีหลังและอยากให้ทุกคนยอมรับความสามารถในตัวฉัน...บางครั้งเลยเหมือนฉันพยายามทำตัวเด่น...ทำตัวเกรียน ดื้อรั้น....พวกพี่ๆ ก็คงไม่พอใจฉันด้วยล่ะ...แต่ครั้งนี้...มันถึงที่สุดของความอดทนแล้ว.....เหมือนแก้วที่มันร้าว....พอเจอความร้อนที่สุมเข้าไปมากๆ มันก็แตกออก....ไม่วันใดก็วันหนึ่ง” ฮวายองพูดปลงๆ อย่างคนที่ยอมรับสภาพ


ฝ่ายคิวริ ที่นั่งนิ่ง นึกย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครั้งฮวายอง เข้ามาเป็นเด็กใหม่ในวง ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ที่ท่านประธานบริษัทเอาเด็กใหม่มาเพิ่มทำไมให้ยุ่งยาก ตอนนี้สมาชิกทุกคนในวงก็โอเคกันดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องงานเพลงที่กำลังไปได้ดี ทั้งความสนิทสนมกันภายในวง

นอกจากจะแอบไม่พอใจการกระทำของท่านประธานแล้ว ยังไม่ค่อยชอบเด็กใหม่คนนี้เท่าไหร่ อาจเป็นเพราะอคติตั้งแง่ไว้ก่อนว่า เด็กคนนี้จะร้อง จะเต้นได้หรือเปล่า จะไล่ตามสมาชิกคนอื่นๆ ทันหรือเปล่า แต่แล้วเธอก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะความขยัน มุ่งมั่น ร่าเริง สดใส น่ารัก ของเด็กคนนี้ ที่ทำให้เวลาเธอพูดคุย หรืออยู่ด้วยแล้วมีความสุข ทำให้เธอต้องหัวเราะไปกับความตลก ติ๊งต๊อง เอ๋อๆ ของเด็กคนนี้ จึงทำให้เธอเปลี่ยนจาก “ความอคติ” เป็น “ความเอ็นดู” คอยห่วงใยตลอดเวลา แต่เพราะเธอ เป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มเข้าไปคุย หรือทำอย่างไรดี ให้เด็กคนนี้คลายทุกข์ หายโศกเศร้า เวลาเครียดกับเรื่องงาน หรือแรงกดดันภายในวง



“พี่...ผิดเองค่ะฮวา...พี่ขอโทษๆๆ” คิวริพูดคำเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาด้วยเสียงสั่นเครือ ตัวสั่นสะอึกสะอื้น พร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุดจากดวงตาคู่สวย



ฮวายองได้แต่นั่งมองพี่สาวคนที่เธอเคยสนิทสนมที่สุดในวง นั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้า ขณะที่ตัวเอง น้ำตาก็ค่อยๆ ไหลซึมออกมาเช่นกัน พลันก็เอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นไปลูบใบหน้า และเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเปื้อนแก้มเนียนทั้งสองข้างของพี่สาวคนสวย จากนั้นก็ค่อยๆ ประคองใบหน้าเรียวงามขึ้นมา บรรจงจูบอย่างแผ่วเบาที่เปลือกตา ไล่ลงมาตามแก้มเนียนสวย และหยุดตรงที่สุดท้าย....ที่เรียวปากได้รูปของคิวริ

คิวริตกใจกับการกระทำของสาวน้อยตรงหน้าเธอ แต่ก็จูบตอบกลับปากอวบอิ่มแดงระเรื่อของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบาและโหยหา....ทั้งสองแลกจูบกันอย่างนุ่มนวล ต่างรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นชุ่มชื้นของริมฝีปากอีกฝ่าย....ทั้งสองบรรจงจูบกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ผละ ถอนจูบออกมาอย่างช้าๆ......ต่างฝ่ายต่างจ้องมองใบหน้าของกันและกัน ด้วยแววตาที่คิดถึงคนึงหา



“ถึงที่ผ่านมา จะมีเรื่องที่ทำให้ฉันเสียใจ....แต่มีอย่างหนึ่ง...ที่มีความหมายกับฉันมาก...พี่รู้แล้วใช่มั้ยคะ...ว่าคืออะไร...” ฮวายองพูดด้วยเสียงนุ่มนวล มองพี่สาวร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้า ด้วยแววตาที่อ่อนโยน ~~♥




To be Continue ..........





 

Create Date : 16 สิงหาคม 2556
10 comments
Last Update : 29 ตุลาคม 2556 20:16:19 น.
Counter : 836 Pageviews.

 

ขัดใจชะมัดเลย ทำไมจบตอนแบบนี้ล่ะ

 

โดย: AuMiEzzz IP: 27.130.64.191 16 สิงหาคม 2556 22:59:33 น.  

 

ลอง logout มา test ช่อง เม้นท์

อ่านแล้วเม้นท์กันได้ ไม่ใช่สมาชิกก็เม้นท์ได้นะคะ ^^

 

โดย: คนแต่ง IP: 58.9.196.37 16 สิงหาคม 2556 23:01:23 น.  

 

อ่านแล้วมันจี๊ด....คิดเลยอ่ะว่าถ้ามันเป็นเรื่องจริงฮวายองจะเจ็บปวดขนาดไหน

 

โดย: AuMiEzzz IP: 27.130.64.191 16 สิงหาคม 2556 23:07:41 น.  

 

ฮวาดูโปรน่าดูเลยนะคะ เหมือนอยากทำแบบนี้กับพี่ริมาตั้งแต่เมื่อก่อน(หรือคนอ่านคิดไปเอง)
เดาว่าตอนหน้าอาจจะหวาน(รึเปล่า) ช่วงบรรยายความรู้สึกขอจิกกัดหมอนอีกนิดได้มั้ยคะเค้าอยากฟิน

 

โดย: เค้าเองนะ มารอบที่3 IP: 118.172.160.236 16 สิงหาคม 2556 23:10:47 น.  

 

คิคิ ขอบคุณ คุณ AuMiEzzz + น้องที่มารอบที่ 3
ที่แวะมาเม้นท์ นะคะ

ขอบคุณคำแนะนำจาก น้องที่มารอบที่ 3 ด้วยค่ะ

แบบว่า เพิ่งหัดเขียนฟิคครั้งแรกค่ะ เลยไม่รู้จะบรรยายยังไงดี
แบบฉาก "จิกกัดหมอน"

เดี๋ยวจะลองไปเรียนรู้เพิ่มเติม จากไรท์เตอร์บางคนค่ะ...

 

โดย: Patparatcha 16 สิงหาคม 2556 23:16:46 น.  

 

แนะนำให้ไรเตอร์ไปเรียนกับ น้องที่มารอบที่ 3 เลยค่ะ น้องเค้าเชี่ยวชาญในการสร้างฟิวส์ติกกัดหมอนมากกกกกกกกก

 

โดย: AuMiEzzz IP: 14.207.127.65 17 สิงหาคม 2556 0:29:08 น.  

 

เรื่องมันเศร้า...เล่าไปก็เจ็บ!!!!!!! #พ่นไฟ แต่ก็ดีใจที่พี่ริเข้าใจเด็กและเด็กก็เข้าใจพี่ริ ฮืออออออออ อิเด็ดโรแมนติกอ่า มีคิสพี่ริด้วย จะเขินหรืออิจฉาดี?

 

โดย: Ticha92 IP: 115.67.70.118 17 สิงหาคม 2556 1:15:47 น.  

 

ขอบคุณน้อง Ticha92 ที่แวะมาเม้นท์ทุกตอนนะคะ

เออ...จริงฉากคิส นี่ คนเขียนน่าจะเขินเองนะ

เพราะเพิ่งเคยเขียนค่ะ แต่ก็แอบอิจฉานะ
ไม่รู้จะอิจฉาพี่ริ หรือ อิจฉาฮวา ดี

 

โดย: Patparatcha 17 สิงหาคม 2556 10:48:34 น.  

 

ตอบคุณน้อง : AuMiEzzz

ตอนนี้ก็พยายามเรียนรู้ จากไรท์เตอร์ "น้องที่มารอบที่ 3" กับคุณน้อง นั่นแหละ

คิดไปคิดมา ท่าทางฉาก "จิกหมอน" คนเขียนคนนี้คงไม่รุ่ง รออ่านของพวกคุณ 2 คนดีกว่า

 

โดย: Patparatcha 17 สิงหาคม 2556 10:50:44 น.  

 

พบ๊าาาาาาาาาาาาา
เค้าสร้างฟิวล์จิกกัดหมอนไม่เป็นหรอกนะ .....ใสๆ

 

โดย: มาอีกรอบ IP: 118.172.160.236 17 สิงหาคม 2556 10:58:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Patparatcha
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Patparatcha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.