ไกด์ซึ่งหันมาเห็น ก็เข้ามาพูดกับตม.คนนี้ เค้าก็โบกมือเหมือนบอกว่า อย่ามายุ่ง พอเราเดินเข้าไปในห้องนั้น หันหลังกลับมา อ้าว..เฮ้ย..น้องตรู..ก็โดนเหมือนกันเหรอเนี่ย เสร็จแล้วพนักงานผู้ชายเค้าก็เรียกเราสองคนไปนั่งคุย โดยเค้าขอดูเอกสารพาสปอร์ตและใบรับรองการทำงาน แล้วเค้าก็ถามเราว่า Why do you come here? อ้าว จะให้มาทำอะไรล่ะ ก็มาเที่ยวน่ะสิ เราก็เลยตอบไปว่า I come here for travel with tour group, I like Korean series, I like Dae Jang Geum เอ้า จะตอบอย่างเงี้ย ก็ตามความจริงนี่นา หนอย..หนอย ดันมามองหน้าเราอีก..ไม่ได้กวนนะเฟ้ย
เสร็จแล้วเค้าก็ดูเอกสารรับรองการทำงาน เราก็บอกไปว่า its my work certificated document, Im a government officer และเค้าก็ดูเอกสารของน้อง ซึ่งทำงานในมหาวิทยาลัยในตำแหน่งผู้จัดการโครงการวิจัย อีตาพนักงานคนนี้ ก็ดันถามว่า License? อ้าวแน่ะ.. จะมาถามหาใบอนุญาตทำบ้าอะไรฟระ ไม่ได้เป็นเจ้าของโครงการซะหน่อย (ตอนนั้นคิดในใจ สงสัยมันจะกลัวเรา make เรื่องขึ้นมาเหรอ) ซึ่งน้องก็ตอบไปว่า ไม่มี มีแต่นามบัตร ซึ่งเค้าก็ขอดู แต่ที่ไหนได้ แทนที่จะพอแค่นี้ ดันให้เรา 2 คนเดินตามเค้าไปอีกห้อง ซึ่งอยู่ถัดเข้าไปในอาคารอีกด้านหนึ่ง ทำให้พวกคุณไกด์ แม่ และน้า มองไม่เห็น หาเรา 2 คนไม่เจอ แต่ในใจเรานี่สิ เฮ้ย ไรวะเนี่ย อ่านในเว็บพันทิปมา ดันเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ กะว่าจะมา ถ่ายท้องรดสนามบินอินชอนซะหน่อย อดเลย เซ็งจริงโว้ยยยยยยย
สักพักเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินมาเรียกเราสองคนออกไปคุยข้างนอก พอนั่งเค้าก็กึ่งพยักหน้าให้เราพูด เราก็พูดว่า I come here for travel with tour group, family group, Im a government officer แล้วรู้สึกตาเจ้าหน้าที่คนนี้จะเข้าใจไม่เคลียร์แฮะ เค้าถามเราว่า จะมาหาครอบครัวที่นี่เหรอ? เราก็บอกว่า No, I come here with my mom, uncle and aunt. They are waiting outdoor. แล้วเค้าก็ถามเราว่าเราทำงานที่ไหน เราก็ตอบว่า Im a government officer at Ministry of Education (พร้อมยื่นเอกสารให้ดู), I will stay here for 2 nights and 3 days, and I will go back on Monday แล้วก็เอาตารางข้อมูลการเดินทางที่ไกด์เค้าแจกให้ลูกทัวร์แต่ละคน มาให้เจ้าหน้าที่คนนี้เค้าดู ซึ่งเราก็บอกว่าจะกลับเที่ยวไหน เวลาไหน กรุ๊ปทัวร์มากันกี่คน แล้วเราก็พูดประโยคทิ้งท้ายว่า I understand, maybe you think I will escape, No. I come here with my family. (เนี่ยแหละ รู้สึกจะพูดประมาณนี้ด้วยอารมณ์ผสมตื่นเต้น ไวยกรณ์ตอนนั้นคงไม่ถูกหรอก)