มิถุนายน 2551

1
2
3
4
5
6
7
8
10
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
 
 
9 มิถุนายน 2551
All Blog
ดนตรีบริสุทธิ์
เมื่อ ศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2551 ได้ไปชมคอนเสิร์ต มาค่ะ เป็น Mini Concert เปิดโลกเย็น โดย จีวันBand คอนเสิร์ตเริ่มทุ่มครึ่ง จบเกือบ 5 ทุ่มครึ่ง นั่งจนเมื่อยแล้วเมื่อยอีก หิวด้วย Mini ตรงไหนกันเนี่ย แต่ก็สนุกค่ะชมจนจบด้วยความอิ่มเอมใจ ตอนแรกที่น้องมาชวนดู ก็อืมม์ไปก็ได้ จะเป็นไงเนี่ยคอนเสิร์ตเพลงธรรมะ แต่พอไปดูแล้วประทับใจมากๆ ก็เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันบ้าง

โดยจะนำเพลงมาแบ่งกันฟังซึ่งก็มาจากหลายๆ ที่ตามแต่จะหาได้ ทั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะละเมิดลิขสิทธิ์ใดๆ หากท่านใดต้องการเพลงกรุณาอุดหนุนเจ้าของเพลงนะคะ หากท่านใดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แล้วไม่ต้องการให้เปิดฟังในบล๊อกนี้ กรุณาแจ้งที่ comment หรือทาง E-mail จะลบเพลงออกทันทีที่ได้รับแจ้งนะคะ

---------------
วงจีวัน มีโครงการนำเพลงธรรมะสู่เยาวชน ซึ่งเป็นภาระกิจหนึ่งของการสืบทอดศาสนาด้วยบทเพลง โดยการนำซีดี เพลงพุทธทาส-เปิดดวงตา ไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นภาระกิจที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเผยแผ่หลักธรรม หลักคิดของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ

จากบทสัมภาษณ์ คุณณพา จีวัน นักร้องนำวงจีวัน กล่าวถึงการฟังเพลงธรรมะว่า
“เพลงธรรมะก็เหมือนกับเพลงทั่วไป อยู่ที่ว่าจะสะท้อนความเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมของชนชาตินั้นอย่างไร เพียงใด เพลงะธรรมะไม่ได้เน้นแบ่งแยก หากแต่มีหลักคิดที่มุ่งเน้นความสันติ ซึ่งเป็นแนวคำสอนสำคัญของท่านพุทธทาสภิกขุ คนฟังเพลงธรรมะเริ่มต้นจะต้องเปิดใจก่อน และพยายามใช้ใจสัมผัสและรับรสแห่งท่วงทำนองและบทเพลง เราร้องเพลงไปเราไม่รู้หรอกว่าคนฟังเขาได้อะไร คืออยู่ที่ใจของแต่ละคนว่าใช้ใจฟังแค่ไหน แต่เรารู้ว่าอย่างน้อยเราร้องเราได้ คือความสงบ สมาธิ เราได้ย้ำเตือนตนเองบ่อยๆ เหมือนฝึกตนเอง เช่นเดียวกันกับเพลงแม่เมื่อฟังบ่อยๆ เราก็รู้สึกรักแม่มากขึ้น เพลงธรรมะก็เหมือนกัน เพราะเพลงมีอิทธิพลต่อคน แล้วทำไมเราทั้งหลายจึงไม่มาร่วมกันสร้างสรรค์เพลงธรรมะกันมากๆ เพื่อให้สังคมของเรามีศีลธรรมมากขึ้น จิตใจของคนถูกยกระดับให้สูงขึ้น”


----------------
ในครั้งพุทธกาล มีพระภิกษุหลายรูปเดินผ่านสระบัวพร้อมกับได้ยินกุลสตรีคนหนึ่งร้องเพลงมีเนื้อหาประกอบด้วยธรรมะ ท่านเหล่านั้นส่งกระแสจิตมุ่งตรงต่อเสียงเพลงที่มีเนื้อหาสาระทางธรรมผสมอยู่ พอจบเพลงก็พลันได้บรรลุสัจธรรม ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นนักแต่งเพลง เดินผ่านพุทธสำนัก ทรงขอให้เธอร้องเพลงให้ฟัง จากนั้นทรงสรุปว่า เพลงที่แต่งยังไม่ลึกซึ้งนัก จึงทรงแต่งเพลงให้ใหม่ เมื่อชายหนุ่มคนนั้นหัดร้องเพลงที่ทรงแต่งให้จบแล้ว ก็ได้บรรลุสัจธรรม ฯลฯ
ว.วชิรเมธี

------------------
พุทธทาสลิขิต

ดนตรีบริสุทธิ์ ในลักษณะวัฒนธรรมของมนุษย์นั้น อาจใช้เป็นสิ่งประกอบการฝึกฝนทางจิตได้ ในลักษณะที่ไม่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ หรือผิดศีลแปด ด้วยเหตุผล ดังนี้
- ดนตรีไม่มีเนื้อร้อง มีทำนองไม่เร้ากิเลส ผู้เล่น ต้องมีสัญญา-สติ-สมาธิ-สามัคคี-อย่างลึกซึ้ง ตลอดเวลา ส่งเสริมการฝึกจิต บังคับจิต ผู้ฟังก็สามารถมีสมาธิด้วยการส่งจิตไปตาม และมีสมาธิได้อีกแบบหนึ่ง แบบดนตรีเซ็น
- ไม่ควรมีเนื้อร้องที่มีความหมายเร้าใจ ในทางปลุก แต่มีได้ในทางชวนให้สงบ เหมือนการสวดมนต์ เป็นเนื้อร้องที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะ

วิทยุเต็มไปด้วยเพลงโลเล และจิตทรามมากเกินไป เพลงให้เข้มแข็งและจิตสูงหายาก เด็กๆ ของเรามีความโลเล อ่อนแอและใฝ่ต่ำ

ดนตรีมีอิทธิพล
ดนตรี บางชนิด
- ดนตรี ทำให้ชีวิต ยักไปยักมา
- ดนตรี ทำให้ชีวิต ท้วมไปท้วมมา
- ดนตรี ทำให้ชีวิต เหมือนลิงกำลังบ้า

- ดนตรี ที่แท้จริง ทำให้หยุดวิ่งไปวิ่งมา
- ดนตรี ธรรมะ จะสงบเย็น ทันตา.

เพลงเวลาปลุกใจให้กล้าหาญ
เวลาสวดมนต์ (ฮินดู)
เวลาทำสมาธิ (อย่างเซ็น)
เวลางานศพ (ศพฝรั่ง)
เวลาพิธีมงคล
เวลารื่นเริง หรือสโมสรสันนิบาต
เวลาสดุดี & สรรเสริญ
เวลาร้องเล่นสบายใจในศิลป์
เวลายั่วยุกำลังใจในการทำงาน

เพลงทำวัยรุ่นมีจิตทราม
สร้างนิสัยโลเล
ยั่วกามารมณ์ (โดยตรง)

12 ชนิด แต่บัดนี้บรรยากาศเต็มอยู่ด้วย 3 ชนิดหลัง


ดนตรี = อิทธิพลเสียงต่อระบบประสาท ทั้งของคน-สัตว์-พฤกชาติ
2 อย่าง = 1. กด ให้หยุด-ระงับ 2. กระตุ้น ให้ลุก-เคลื่อน
ระวัง = อย่าให้มัน “เชิด” วิญญาณของเราเลย จะนั่งไม่ลง
มันคือ = สื่อของปีศาจ ที่จะทำให้เราสูญเสียมนุษยธรรมได้, ไม่มีสันติแห่งวิญญาณ อาจเป็นยาเสพติดของวิญญาณ, ขนาดเป็นบ้า ชนิดอจินไตย

ประโยชน์ : สมัยแรกใช้ทางศาสนา สมัยนี้ใช้ส่งเสริมกิเลสอย่างแนบเนียน

ดนตรีตะวันตก กระตุ้นให้สั่นระรัวได้ แม้แต่ สุนัข และม้าซึ่งเป็นสัตว์เชื่องที่สุด

ดนตรีไทย ทำให้สงบลง เป็นความเยือกเย็น อย่างจะมีการกระตุ้นได้ก็เพียง ต้นข้าวให้ออกรวง อย่างนิ่มนวล

สิ่งที่เรียกว่าดนตรี ซึ่งเป็นของสำหรับใช้สรรเสริญ “พระเจ้า” ก็มากลายเป็นเครื่องสังเวยกิเลส ตัณหา ที่เคยมีไว้เพื่อสงบอารมณ์ยามวุ่นวาย ก็มากลายเป็นสิ่งยั่วยุให้ยิ่งขึ้น จนหาเวลาสงบมิได้เลย โดยเปลี่ยนความมุ่งหมายเสียโดยสิ้นเชิง

ถ้าเราจะย้อนกลับไป มีดนตรีอย่างโดยสมบูรณ์ เราจะมีความประเสริฐกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้ อย่างไม่มีปัญหา

เพลงจากน้ำตาบ้า กลับมาครวญอยู่ตามสถานีวิทยุ แม้ของรัฐบาล ความทุกข์เพราะรัก ที่คร่ำครวญกันตลอดเวลา เป็นน้ำตาของความบ้า ที่ไม่ควรจะมี
กลับมาปรากฏเป็นบทเพลงมากมาย มาหนวกหู อยู่ตามสถานีวิทยุ แม้สถานีประเทศไทยก็ยังมี เสียงครวญของผีแบบนี้

ดนตรีใหม่ๆ เกิดขึ้นเพราะต้องการจะหาโอกาสแทรกคำหยาบโลน โสกโดกและทำนองความเร่งเร้า รุนแรง รวดเร็วของปีศาจแห่งความสุขทางเนื้อหนังลงไป มันจึงเกิดระบบใหม่นี้ขึ้นมา เป็นเพลงชนิดที่เปิดโอกาสให้ใส่คำโสกโดก ดนตรีเร่าร้อน เป็นเหยื่อแห่งกิเลสลงไป

คนเป็นปุถุชนมากขึ้นทุกที เห็นดี เห็นชอบ เห็นงามตามไปทั้งโลก จึงเกิดดนตรี หรือเพลงแบบนี้ขึ้น วัดความพอใจในเรื่องนี้ได้ตรงที่ สถานีวิทยุกี่สิบแห่งก็ตาม ส่งเพลงพวกนี้มากที่สุด บรรดาเพลงพวกที่ส่งไปนั้น 80% เป็นสำนวนที่เหมาะที่สุด สำหรับหญิงโสเภณีใช้ปะเหลาะผู้ชาย หรือผู้ชายปะเหลาะหญิงโสเภณีก็ได้ ไม่มีความหมายอะไรมากกว่านั้น มันเป็นอย่างไร ในเมื่อบรรยากาศของเมืองไทย กลุ้มไปด้วยเพลงเหล่านี้ เราจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ในการที่จะมีหน้าที่ต่อต้านการพังทลาย หรือรวนเรของจริยธรรม

-----------



Create Date : 09 มิถุนายน 2551
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2551 13:26:12 น.
Counter : 1864 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

patnaja
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




Puangpeth Jang

สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง