เว็บไซต์ของลอสแอนเจลิสไทม์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมารายงานว่า

ก่อนหน้านี้มีผลการศึกษาเป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้วว่า พลาสติกไม่เพียงแต่มีผลโดยทั่วไปกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีผลต่อร่างกายคนเราด้วย โดยพบอยู่ในร่างกายคนอเมริกันเกือบทั้งหมด งานวิจัยส่วนใหญ่มีหลักฐานชี้อย่างหนักแน่นว่าสารเคมี ในพลาสติกจะมีผลกระทบกับระบบสืบพันธุ์ แม้ว่าจะเป็นเพียงผลการศึกษาขั้นต้นแต่นั่นก็ได้ ทำให้ผู้บริโภคตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของพลาสติกขึ้นมาได้แล้ว

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า

สารฟะทาเลต (phthalate) และสารเคมีอื่นที่ใช้ในพลาสติกให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีลักษณะนิ่ม เป็นสารที่แสดงว่าทำให้เกิดพิษกับสัตว์และคน แต่ข้อมูลนี้ก็ยังไม่ถึงกับถือเป็นข้อสรุปได้

งานวิจัยล่าสุดของโรงเรียนแพทย์และทันตแพทย์มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ ในนิวยอร์ก พบจากการศึกษาระดับชาติในกลุ่มผู้ชาย พบว่า

รอบเอวของชายที่มีสารเคมีฟะทาเลตนั้นหนากว่า 1 นิ้วครึ่ง-3 นิ้ว เมื่อเทียบกับคนที่มีสารเคมีเดียวกันนี้ในระดับต่ำกว่า และเมื่อวัดระดับต้านทานอินซูลิน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดโดยทั่วไปเกี่ยวกับเบาหวาน ก็พบว่ามีระดับสูงในกลุ่มคนที่มีระดับฟะทาเลตในระดับสูงสุด

รายงานข่าวแจ้งว่า

การที่ผู้บริโภคแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อสารเคมีเป็นพิษในผลิตภัณฑ์พลาสติก ส่งผลให้สภาแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียออกกฎหมายห้ามใช้สารฟะทาเลต ในการผลิตพลาสติกที่จะนำไปเป็นผลิตภัณฑ์กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว.