Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เอ้าๆ…รักแห่งสยาม…ได้อีกๆ



ได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนบลอกครั้งนี้ จากการไปตั้งกระทู้นี้มาค่ะ
+ผู้ชายเค้าไม่ดู “รักแห่งสยาม” กันเหรอคะ+


ตอนที่หนังเรื่องนี้เข้าโรงใหม่ๆเราไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย แต่ได้รับยินข่าวจากเพื่อนสนิทที่เป็นเกย์อยู่เนืองๆว่า “รักแห่งสยาม” เป็นหนังที่โดนมากๆ โดยไม่มีคำอธิบายใดๆทั้งสิ้นว่าเพราะอะไร ยังไง

พอเรากลับมาเมืองไทย เราเองไม่ได้กระตือรือร้นที่จะอยากดูอะไรนักหนา เพราะเข้่าใจจากใบปิดหนัง/หน้าปก dvd และ Trailer (ที่ได้ดูก่อนหนังเข้า)ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก เป็นหนังแนวเกย์ที่ทำตามกระแส เป็นหนังที่มีดาราหล่อๆสวยๆเล่น

บอกตามตรงว่าถ้าเราอยากจะดูหนังเรื่องนี้ก็แค่อยากเห็นตอนเด็ดตามกระแสที่ได้ยินมาก็เท่านั้นเอง

วันนึงในขณะที่เราไปซื้อของที่ซุปเปอร์ เดินผ่านร้านขาย CD/DVD ไม่รู้้คิดไง เบื่อูเลยไปซื้อ DVD เรื่องนี้ที่เป็น Director Cut มา… เวลาผ่านไป 3 เดือน พลาสติกที่หุ้มกล่องก็ยังปิดสนิทแนบชิดอยู่อย่างนั้น

จนกระทั่งวันนึงที่เราพร้อม เราเอาหนังเรื่องนี้มาดู

ช่วงแรกของหนัง เราดูอย่าง “เรื่อยๆ” และด้วยธรรมชาติของ DVD ที่ทำให้เราหยุดแล้วไปทำอย่างอื่นได้ เราก็ดูไปหยุดไปแบบไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดมากนัก--ทั้งนี้เราก็เก็บเรื่องได้ประมาณว่า โต้ง กับ มิว เป็นเพื่อนรักกันตอนเด็กๆ ครอบครัวโต้งต้องสูญเสียพี่สาวไป ต่อมาโต้งและมิวต่างแยกกันไปโต ครอบครัวโต้งดูเศร้าอึมครึม ทุกข์ระทมกับการจากไปของพี่สาว มิวเป็นนักดนตรี แล้วทั้งสองก็โคจรไปเจอกันอีกทีที่สยาม และ มีพลอย เฌอมาลย์ ที่โผล่เข้ามาเป็นปริศนาของเรื่อง

ทุกอย่างก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็ถึงจุดที่ทำให้เราตั้งใจดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมาซะที

“…แต่พอโตขึ้นความเหงามันเหี้-กว่านั้นมากเลย…

….เราก็เลยตั้งคำถามขึ้นว่า ถ้าเรารักใครมากๆอ่ะ เราจะทนได้เหรอ ถ้าวันนึงเราต้องเสียเค้าไป และไอ้การจากลาอ่ะ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โต้งก็รู้ดี มันจะเป็นไปได้หรือโต้ง ถ้าเราจะรักใครแล้วไม่กลัวการสูญเสีย

…แต่อีกใจนึงก็คิดว่า…ว่ามันจะเป็นไปได้เหรอที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย นี่แหละ ความเหงา”



ภาพหน้าเศร้าๆของโต้ง (ที่น่าจะนึกถึงพี่สาว) ภาพการตายของอาม่า รวมไปถึงภาพของสินจัยที่ขับรถตามหาลูกชายด้วยความกังวล เข้ามาได้พอเหมาะพอเจาะกับ Main Idea ของประโยคข้่างต้น

…เออ. หนังเกย์เรื่องนี้ มันแน่…เราคิดอย่างนั้น

เราเริ่มหันมาดูแบบตั้งใจ เริ่มเห็นว่าหนังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยที่น่าสนใจ แทรกมาตามบทพูด คาแรคเตอร์ของตัวละครที่ช่วยให้เรื่องเดินอย่างน่าสนใจ จนกระทั่งหนังดำเนินไปจนมาถึงอีกจุดที่เรา (และหลายๆคน) อึ้ง “ฉากม้าหิน”



ไม่ว่าใครจะอึ้งด้วยเหตุผลที่ลึกหรือตื้นยังไงก็ตาม…สำหรับเรา เราอึ้งในอารมณ์ของคนเป็นแม่กับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะถ้าเป็นแค่การจับมือ นั่งชิดๆ เราคงคิดเข้าข้างตัวเองว่า “ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนกัน”

ถ้าหนังไม่มี ”ฉากจำเป็น” ในตอนนี้ เราคงไม่ได้อารมณ์ของแม่…แม่ที่ไม่คิดไม่ฝัน ไม่เข้าใจ และ ไม่แน่ใจ..ว่า…ฉันทำอะไรผิดพลาดไปรึเปล่า? และเนี่ยแหละน่าจะเป็นจุดที่ทำให้หนังเดินเรื่องต่อไป

หนังสานต่ออารมณ์อึ้งๆของเรา ด้วยคำพูดที่สินจัยเข้าไปพูดกับมิวว่า

“…โต้งคือสิ่งเดียวที่น้าเหลืออยู่นะ และน้าก็ไม่อยากเห็นเค้าเดินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ในอนาคตเมื่อโต้งเรียนจบ เค้าจะต้องหางานทำ มีเงินเก็บ แล้วก็หาผู้หญิงดีๆ แต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่ดูแลกันไปจนแก่จนเฒ่า นี่มันคือชีวิตนะมิว น้าเลี้ยงดูเค้ามาเพื่อให้เค้าเติบโต ไปในทิศทางนั้น”




แรง…เราไม่เห็นด้วย แต่เราเข้าใจ

เราไม่รู้ว่าลึกๆแล้วแม่ของโต้งรู้สีกยังไง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับเรา เราไม่คิดว่าถ้าลูกเป็นเกย์แล้วจะรับไม่ได้ ถ้าลูกรักจะเป็นในส่ิงที่ลูกเป็นแล้วมีความสุขเรารับได้เสมอ แต่มันเป็นเพราะ…สังคม…ต่างหากที่จะไม่ยอมรับลูกเรา คนที่เป็นแม่ (พ่อ) คงเข้าใจดีว่าถ้าลูกต้องเจ็บปวด พ่อแม่มันเจ็บยิ่งกว่า

แต่เจ็บยังไงเราก็ยังไม่เสียน้ำตาให้ไปกับหนังซะที…จนกระทั่งฉากนี้

มิว : “…เพลงจีนนี่มันก็ความหมายดีๆทั้งนั้นเลยนะ เพลงนี้แปลว่าอะไรอ่ะ”
หญิง : “…มันแปลว่า…ถ้าหากมีความรักก็ย่อมมีความหวัง”
มิว : “แล้วหญิงยังจะหวังอีกหรือเปล่า”
หญิง : “แล้วเราควรจะหวังอยู่มั้ย” ….
มิว : “หญิงเป็นเพื่อนที่ดีของเรานะ”

เรา : ไหนบอกว่า “ตราบใดยังมีรัก ย่อมมีหวัง” ไง ….



ความสะเทือนใจ build ต่อไป จนถึงตอนที่ โต้ง กับ มิว เดินสวนกันที่สยามแบบหมดอาลัยตายซาก แอบชะเง้อมองดู…คนเคยอกหักคงจะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี

หนังช่วยเบรคอารมณ์หนักๆไว้แป๊บนึง ด้วยฉากที่เอ๊กซ์มาขอโทษมิว ฉากนี้ทำให้เรานึกถึงเพื่อนๆเราสมัยอยู่โรงเรียน ที่ในกลุ่มจะมีชายไม่แท้รวมกลุ่มอยด้วยู่ แต่เพื่อนๆผู้ชายคนอื่นก็ไม่ได้รังเกียจเค้า แต่ก็ล้อกันเหมือนล้อชื่อพ่อชื่อแม่่ ซึ่งก็ไม่มีใครโกรธใคร และพวกชายแท้ก็แคร์เค้าในฐานะ “เพื่อน” คนนึง

และจุดที่่สุดของหนัง (สำหรับเรา) ก็มาถึง --เลือกตุ๊กตา (นาทีที่ 1.14)



ตีความกันว่าไงบ้าง?

ซึ่งหลังจากฉากนี้ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องกับ “การเลือก” ของโต้ง

ภาพของโต้งและโดนัทยืนอยู่ด้วยกันที่สยาม และมีภาพและดนตรีของเพลงนี้แทรกเข้ามา

ถ้าบอกว่าเพลงนี้ แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม
มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป

อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้
แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่าย...ดาย

“โดนัท…เราคงไป…กับโดนัทไม่ได้”
“ถ้าไปไม่ได้ก็บอกสิ จะได้ไปกับคนอื่น”



และต่อจากนี้ เราขี้เกียจเขียนแล้ว คำพูดของพลอยก็คือ ที่สุดและคำจำกัดความ ของอะไรหลายๆอย่าง ดูเอาเอง



แต่…การกระทำที่เป็นที่สุดก็คือฉากใกล้ๆจบ “การเสียสละ” ของคนทั้งสองเพื่อคนที่ตัวเองรัก

“รักแห่งสยาม” เป็นหนึ่งในหนังดราม่าดีๆ ในแบบที่เราไม่ได้ดูมานานมากแล้ว จุดที่ทำให้เรารักหนังเรื่องนี้ คือ บทภาพยนต์ คำพูด การแสดง และ ความรู้สึกอึ้งๆหลังจากหนังจบ ทั้งหมดทำให้เราลบข้อเสียบางจุดของหนังออกไป โดยเฉพาะมุก “รักจัง” ที่ใช้เยอะเหลือเกิน

เรารู้สึก “ขอโทษ” คนสร้างหนังอย่างแรงที่เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้…เป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก เป็นหนังแนวเกย์ที่ทำตามกระแส เป็นหนังที่มีดาราหล่อๆสวยๆเล่น

และ เราขอ “โทษตัวเอง” ที่หาว่าหน้าปก DVD และ Trailer ทำออกมาดูไม่สื่อพอ เพราะจริงๆแล้ว สิ่งที่หนังต้องการสื่อก็คือ ความรักในหลายรูปแบบ อย่างที่ Trailer ทำออกมานั่นแหละ

แต่อย่างว่าแหละนะ หลายๆอย่างในโลกคือการตีความ ตื้นลึกหนาบางน่าจะอยู่ที่หลายๆปัจจัย บางคนอาจจะดูหนังเพื่อหาความบันเทิง บางคนอาจจะดูหนังเพื่อชื่นชมศิลปะ ความคาดหวังในหนังเรื่องนี้จึงมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน

สุดท้ายเราขอชื่นชมทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำหนังครั้งนี้ และ ในฐานะที่เราเรียนและเคยทำงานในวงการโฆษณามาก่อน เราตั้งใจแล้วว่าจะต้องเผยแพร่หนังเรื่องนี้ให้กับคนอื่นๆที่ยังไม่มีโอกาสได้ดู เช่นแม่สามีที่ชอบหนังแนว arthouse เป็นต้น และคงไม่นำเสนอหนังเรื่องนี้ให้กับ Michael และ Sarah เพื่อนหนุ่มสาวที่สนใจหนังเบาๆและ action เป็นแน่

ส่วนผลลัพธ์จะเป็นยังไง แม่สามีจะชอบมั้ย วัฒนธรรมที่แตกต่างจะขวางกั้นสิ่งที่สื่อออกมาในหนังเรื่องนี้หรือเปล่า ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังนะ











Create Date : 29 กันยายน 2551
Last Update : 29 กันยายน 2551 9:52:47 น. 10 comments
Counter : 819 Pageviews.

 
หนังไทยดีๆนอกจากรักแห่งสยาม ก็ยังมีอีกหลายเรื่อง รอให้คุณค้นหานะครับ หวังว่าคุณแม่สามีคงจะถูกใจกับหนังนะครับ



โดย: joblovenuk วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:14:02:58 น.  

 
ไปเจอมาที่พันทิป เอามาแปะหน่อยนะคะ
"พออ่าน blogความเห็นของ จขกท.
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nzmum&month=29-09-2008&group=5&gblog=30

เลยเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงที่ไม่Yส่วนหนึ่งถึงชอบเรื่องนี้

เพราะเรื่องนี้มีบทของเพศหญิงที่เด่นเหมือนกัน ทั้งบทของสินจัยกับหญิง
บางฉากที่มันโดนใจผู้หญิงก็เลยชอบกัน
เช่นฉาก"เพลงจีน" ที่ จขกท. เล่า ผมดูแล้วรู้สึกเฉยมากๆๆ แต่ จขกท. กลับร้องไห้ได้

ในขณะที่เพศชายแท้ๆในเรื่องกลับไม่มีอะไรเลย ออกแย่ๆด้วยซ้ำ
ผู้ชายส่วนใหญ่เลยไม่ชอบกัน

เพราะงั้นจะบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังสำหรับทุกคนไม่ได้
และไม่ใช่หนังรักทุกรูปแบบด้วย เพราะมันขาด ช-ญ และความรักแบบร่วมโลก


และไม่ใช่ว่าคนที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้จะเกลียดเกย์ด้วย เข้าใจซะใหม่


ผกก. ตีโจทย์เพศหญิงกับเกย์ได้แตก แต่กลับตีโจทย์เพศชายไม่แตก"ฃฃ



โดย: จากคุณ S (nzmum ) วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:14:17:09 น.  

 
แวะมาอ่าน


โดย: Yeonsan IP: 58.10.167.35 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:16:03:48 น.  

 
อวน หวัดดี..

ไม่น่าเผลอเข้ามาอ่านก่อนเลย ยังไม่ได้ดู... แต่พออ่านเสร็จ ไปหยิบแผ่นมาดูอีกที มันดันเป็น Seasons chance อ่ะ -_-"

สงสัยต้องยืมอวนซะละ


โดย: Belle IP: 58.9.54.150 วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:1:17:24 น.  

 
เราเองไม่ชอบดูหนังแบบเกาะตามกระแส .. หรือว่าไม่ก็เป็นช่วงที่
คนคุยกันมากๆ .. เราว่ามันเหมือนกับการไซโคอ่ะคะ


แต่เรื่องนี้ น้องชายบอกว่าหนังดราม่า ดีด้วย ไม่เกย์หรอก
หลายๆ คนดูได้ แล้วก็แล้วแต่ว่าจะชอบไม๊ แต่เค้าชอบเค้าเลย
เอามาให้เราดู ...


.........


ต้องยอมรับว่าดราม่าเมืองไทยเราดูน้อยคะ ... แต่ว่าที่ได้ดูมา
ก็ต้องบอกอีกว่า ..ไม่ผิดหวังที่ดู และเรื่องนี้ก็เป็นอีก 1 เรื่องที่เกิดชอบค่ะ
อาจจะไม่สุดๆ แต่ว่าเราก็ชอบในบทและการแสดงของหลายๆ คน
คุณสินจัย ต้องเป็นคนหนึ่งล่ะค่ะที่ต้องบอกว่าสื่ออารมณ์
ได้ชัดมาก หน้าตาเธอแบบว่าเราเข้าใจนะค่ะหัวอก
คนเป็นแม่ ... ถึงแม้ว่าจะมีบ้างที่ไม่เห็นด้วยแต่ก็
ยอมรับตรงความรักของแม่และการคาดหวังมันมีอิทธิพล
กับลูกจริงๆ ค่ะ ..

...............


ฉากม้าหิน ... เราไม่ได้นึกอะไรมากไปกว่า .. "รู้สึกอิน" ค่ะ
เพราะเห็นแล้วเราวามันให้ความรู้สึกหนักไปทาง "อารมณ์รัก"
ไม่ได้ดูแล้วคิดเป็นเรื่องไม่ดีอย่างอื่นเลยอ่ะคะ ...


โดย: JewNid วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:3:10:08 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ เรายังไม่เคยดูเลยรักแห่งสยาม ได้รางวัลเยอะๆหนังต้องดีแน่ๆเลย

คิดถึงน๊า ฝากจุ๊ฟฟฟสองหนุ่มด้วย


โดย: bagarbu วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:8:39:43 น.  

 
คุณอวนสบายดีน่ะ จะมานิวซี่แลนด์ต้นปีเหรอค่ะ เย้ๆใก้ลจะมาแล้ว เราคงอาจจะอยู่ถึง ตอนนี้ยังไม่แน่นอนว่าจะยังงัย ฮ่าๆ

คิดถึงเสมอๆน่ะอย่าลืมจุ๊ฟฟฟสองหนุ่มด้วย


โดย: bagarbu วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:16:45:30 น.  

 
ผกก. ตีโจทย์ให้ผู้ชายไม่แตก

งั้นถ้าคุณเอส เป็น ผกก จะแก้ปัญหานี้ยังไงครับ?

_____
เป็นอีกรีวิว ที่ผมชอบครับ เจ้าของบล้อก^^


โดย: โยชูวาแห่งอัสซีซี IP: 58.136.94.166 วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:11:11:21 น.  

 
ไม่ได้ดูหนังแบบเป็นเรื่องเป็นราวมาตั้งแต่เอื้อเกิด ด้วยเงื่อนของเวลา และโอกาส แต่ก็ชอบอ่านบทวิเคราะห์ วิจารณ์ของบรรดาคอหนังทั้งหลาย แบบว่าไม่ได้ดูก็ขออ่านก็ยังดี ว่างั้นเถอะ


โดย: แม่เด็กชายเอื้อ (viji ) วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:15:36:36 น.  

 
ผู้ชายอย่างผม ดูครับ เรื่องนี้
ชอบมากด้วย


โดย: คนขับช้า วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:4:07:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nzmum
Location :
กรุงเทพ New Zealand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บันทึก...แม่บ้า(น)ตัวอย่าง
ชีิวิตเก่าๆของแม่ลูกสอง ทั้งในและนอกประเทศไทย
หวังว่าวันนึงคงได้กลับมาอยู่บ้านเราอย่างถาวร



+KL and that second (3)+
+KL hours later(2)+
+KL in 24 HRS (1)+
+HBD CALEB 3 YRS OLD+
+ไม่ใช่ตุ๊กตา+
+ของขวัญจากโรงเรียน+
+วีคแรกที่ Kindy+
+Bye Bye Nappy+
+โรงเรียนของเคหลิบ+
+เกมแก้เซ็ง+
+ด้วยเกียรติของแม่บ้า(น)+
+ถึงคราวมีเจ๊ดัน+
+Headline Blog+
+Smile Upon The Sky+
+Caleb’s Language Milestone+
+Snap Shots ริมเจ้าพระยา+
+กลับ!+
+AF5: Me, My Dream & My Producer+
+วีรกรรมทำแสบ+
+Fuji Five Lakes+



+My Book+





Friends' blogs
[Add nzmum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.