Bloggang.com : nzmum : หนังสือของฉัน และ บทที่หายไป...บทที่ 6 The Everest ฝันให้ไกล แล้วก็ไปให้ถึง

หนังสือของฉัน และ บทที่หายไป...บทที่ 6 The Everest ฝันให้ไกล แล้วก็ไปให้ถึง

6
The Everest ฝันให้ไกล แล้วก็ไปให้ถึง

จากแพคเกจทัวร์ที่เราจองมา พวกเราจะต้องอยู่ที่ Pokara กันอีกหนึ่งคืน ก่อนจะนั่งเครื่องบินกลับ Kathmandu ในวันรุ่งขึ้น แล้วทริปนี้ก็จะจบลงตามแผนการที่ถูกกำหนดมา “ไหนๆ มาถึงที่นี่แล้ว อย่าเสีย
เที่ยวเลย เราไปดูเอเวอร์เรสกันเถอะ” แมทเกริ่นขึ้นมา แล้วจะไปดูยังไง ฉันสงสัย สามีเลยแจงว่าเราจะต้อง
ไปจองทริป Mountain Flight ที่ Kathmandu กันคืนนี้ เพื่อที่ว่าจะได้บินไปดูยอดเขาเอเวอร์เรสกันในวัน
รุ่งขึ้น

ฉันคาดว่าแมทคงแอบไปหาข้อมูล ตอนลงไปเช็กอีเมลตามร้านอินเตอร์เนตบริเวณหน้าทะเลสาบ
อินเตอร์เนตที่เนปาลหาไม่ยาก มีให้บริการตามแหล่งที่พักต่างๆ แต่ราคาออกจะแพงไปสักหน่อย เพื่อไม่ให้
การหาข้อมูลของสามีเสียเปล่า ฉันจึงตอบตกลงแบบไม่ต้องคิด พวกเรายอมทิ้งตั๋วเครื่องบิน แล้วจ้าง taxi เพื่อกลับมาให้ทันจองตั๋ว Mountain Flight กันในคืนวันนั้น

การเดินทางโดยรถยนต์นั้นต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมง แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง ระหว่างที่เรามาถึง
ได้ครึ่งทาง การจราจรบนถนนก็เกิดหยุดนิ่งไปซะเฉยๆ โดยมียานพาหนะหลายชนิดจอดเคียงข้างกัน
พวกเราสังเกตเห็นว่าผู้โดยสารในรถแต่ละคันต้องเดินลงจากรถ แล้วเดินเรียงกันเป็นแถว เพื่อผ่านด่าน
อะไรซักอย่าง คนขับรถหันมาบอกพวกเราว่าไม่ต้องลงเพราะเป็นนักท่องเที่ยว

รถพวกเรากระดึ๊บๆ จนมาถึงด่าน มีทหาร 5 คนเดินมาที่รถ บอกให้เราหมุนกระจกลง ทหารกับ
คนขับรถส่งภาษาที่เข้าใจกันสองคน พร้อมๆ กับหันหน้ามาทางฉัน เจรจากันอยู่นาน คนขับรถบอกว่าทหาร
จะให้ฉันลงเดิน เพราะเข้าใจว่าฉันเป็นคนเนปาล ให้มันได้ยังงี้สิ เมื่อวันก่อนไกด์ว่าให้ฉันเป็นกุมารี วันนี้
ทหารให้ฉันเป็นชาวพื้นเมือง เมื่อเห็นท่าไม่ดี แมทจึงรีบค้นพาสปอร์ตของฉันให้พวกทหารดู กว่าจะหลุด
ด่านออกมาได้เล่นเอาใจสั่นขวัญแขวน ที่เขาต้องเข้มงวดกับคนเข้าเมืองก็เนื่องจากต้องปกป้องเหตุการณ์
ไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นจากคณะปฎิวัติ
ในที่สุดพวกเราก็มาถึง Kathmandu กันประมาณสองทุ่ม หลังจากเช็กอิน เราก็รีบบึ่งไปจอง
ทริป Mountain Flight จากบริษัททัวร์ใน Thamel ทันที เพื่อที่ว่าราจะได้ไปดูยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
The Everest ในวันรุ่งขึ้น

การไป Everest ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการไปปีนเขา ถ้าไปลูกฉันอาจเป็นกีวี่คนที่สองที่พิชิตยอดเขานี้
ด้วยอายุที่น้อยที่สุด ตามรอยท่านเซอร์ Edmund Hillary กีวี่ที่เหยียบ Everest เป็นคนแรกของโลก

Mountain Flight จึงเป็นทางเลือกที่พบกันครึ่งทางระหว่างความท้าทายและความปลอดภัย ทริปนี้สามารถจองได้ง่ายๆ ผ่านเอเจนซี่ในเนปาล สายการบินที่นักท่องเที่ยวนิยมไปก็คือ Buddha Air แค่ชื่อก็มั่นใจได้เกินร้อยว่าไปได้สูงสุดแน่

เราออกบินกันตอน 6.30 น. เครื่องบินมีขนาดกระทัดรัด ที่นั่งแบ่งเป็นสองฝั่ง แต่ละฝั่งจะมีแค่ที่นั่ง
เดียวเท่านั้น เราสองคนออกจะวิตกจริตกันมาก เราแยกกันนั่งคนละฝั่งเพราะไม่รู้ว่าจะเห็นยอดเขาจาก
ทางด้านซ้ายหรือขวา แล้วก็กะว่าจะเก็บวิวไว้ทั้งขาไปและขากลับ คนนึงคุมกล้อง อีกคนคุมวิดีโอ เอาให้
ไม่พลาด พวกเราบินกันไปประมาณ 20 นาที แอร์โฮสเตสเริ่มชี้ให้ดูยอดเขาต่างๆ ของเทือกเขาหิมาลัย หลังจากบินว่อนได้ซักพัก ในที่สุดเครื่องบินก็บินมาถึง The Everest ยอดเขาอันสูงใหญ่ ตั้งตระหง่าน
แหวกหมู่เมฆขาวๆ บนท้องฟ้า
ภาพที่ออกมาอาจดูไม่อลังการเท่าไหร่ คงเป็นเพราะว่าตอนที่ไปนั้นหิมะไม่ได้ปกคลุมหนา แต่ความยิ่งใหญ่ของมันที่เราได้เห็นกับตา ทำให้เราไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เราเคยคิดไว้ว่ายากที่จะมาถึง มันได้มาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เราได้มาจนถึงจุดที่สูงที่สุดในโลก…มาเห็นจริงๆ ตรงนี้ เดี๋ยวนี้

เครื่องบินได้ย้อนกลับมาที่สนามบิน Kathmandu อีกครั้ง ก่อนจะลงจากเครื่องแอร์โฮสเตสได้
แจกประกาศนียบัตรให้พวกเราคนละใบ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราได้เห็น The Everest เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันรุ่งขึ้นพวกเราออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมรับความวุ่นวายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นก่อน
กลับกรุงเทพ สูตรการคำนวณของเราช่างแม่นยำ กว่าจะได้เช็กอิน เราต้องรอต่อคิวนานมาก เนื่องจาก
พนักงานไม่สามารถแก้ไขปัญหาของผู้โดยสารที่เกิดขึ้นได้
ก่อนจะขึ้นเครื่อง เราต้องแยกแถวตรวจอาวุธและกระเป๋าอีก คราวนี้ฉันไม่ถืออะไรขึ้นเครื่องเลย จึงผ่านด่านมาอย่างง่ายดาย แต่แมทโดนตรวจเป้อย่างละเอียด สมบัติที่นายตรวจข้องใจก็คือ ลิปสติก
รุ่นจิ้มจุ่มของฉัน และเหรียญดอลลาร์นิวซีแลนด์ สามีเลยรู้ใจยกเหรียญให้เป็นที่ระลึก ในที่สุดเราก็ผ่าน
ออกมาได้

เราได้กลับมาเหยียบพื้นดินบ้านเกิดเมืองนอนโดยสวัสดิภาพ ประสบการณ์เที่ยวเนปาลครั้งนี้ออก
จะทุลักทุเลไปบ้าง แต่มันเปิดโลกทัศน์ของเราในหลายด้าน ไปถึงที่ที่ใฝ่ฝัน เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ทำในสิ่งที่
ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ทำให้เราเชื่อในพลังของใจว่า ถ้าเรามุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนั้นจริงเราจะไม่พลาดเป้าหมาย
เด็ดขาด ถ้ามีโอกาสฉันว่าเนปาล น่าจะเป็นที่ที่น่าไปเที่ยวกันซักครั้งในชีวิต

หลังจากทริปนี้ได้ไม่กี่วัน สงครามกลางเมืองก็ได้เกิดขึ้นใน Kathmandu ส่วนฉันก็เก็บตัวอยู่บ้าน
ตลอด เนื่องจากความอุ้ยอ้ายชนิดฮิปโปเรียกแม่ ขยับไปไหนก็ลำบาก เมื่อย่างเข้าเดือนที่แปด ลูกชายของ
ฉันก็ออกมาดูโลก…ใครๆ ต่างบอกว่า เพราะแม่ไม่พาออกไปตะลอน เลยขอออกมาเอง…ให้มันได้ยังงี้สิ

Mummy’s Tips
- หลังจากสัปดาห์ที่ 28 ควรงดเดินทางไกล และควรปรึกษาหมอที่ฝากครรภ์ทุกครั้งหากจำเป็นต้องเดินทางไกล

ข้อมูลท่องเที่ยว
* Mountain Flight
เดินทางด้วย Buddha Air ออกเดินทางวันละ 2 รอบคือ 6.30 น. และ 7.45 น.
ค่าใช้จ่าย $US 132
ช่วงเวลาที่น่าเที่ยว เดือน ก.พ. มี.ค. เม.ย. ต.ค. และ พ.ย.

Create Date : 07 กันยายน 2551

Last Update : 7 กันยายน 2551 23:04:01 น.

0 comments

Counter : 489 Pageviews.