|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
++ความทรงจำครั้งเหยียบรัง"หงส์แดง" Anfield Liverpool, U.K.++
เคยเป็นมั่งมั้ยเวลาไม่ได้โทรหาใครนานๆแล้วไม่รู้จะเริ่มยังไง ทั้งๆที่เป็นคนที่สนิทร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากมายก่ายกอง เรารู้ว่าพี่เค้ายุ่งมากๆด้วยหน้าที่การงาน แล้วเราก็ยุ่งมากๆไม่แพ้กัน แต่เมื่อคืนก็นึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้เป็นวันเกิดของพี่ เลยโทรไปจ๊ะเอ๋ซะเลย
ด้วยระยะเวลาที่ผ่านไปหลายปี (ที่เราเองก็จำไม่ได้ว่ากี่ปี) ข่าวอัพเดทของแต่ละฝ่ายก็ทำให้เสียงพูดคุยมีแต่คำว่า จริงเหรอ(วะ) อย่างแกเนี่ยนะ โหย เว้ย เฮ้ย อื้ม..มากันเป็นชุด
จากพี่ชายที่เคยวิ่งตามรถเมล์กันตับแทบหลุดสมัยอยู่ต่างแดน เดี๋ยวนี้พี่กลายเป็นบ.ก.ฝ่ายกีฬาของน.ส.พ.ผู้จัดการ และมีพอคเกตบุคอีก 3 เล่ม ความฝันระยะไกลที่พี่เคยตั้งใจอยากทำให้เป็นจริง เมื่อตอนที่เราเพิ่งรู้จักกัน
“พี่เดื่อ” เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เรารู้จักผ่านคนใกล้ตัวในสมัยนั้น ช่วงที่รู้จักกันใหม่ๆ เรามีความฝันระยะใกล้เดียวกันคือ ยังไงก่อนกลับเมืองไทยเราต้องเหยียบดงหงส์ให้จงได้ ดังนั้นในปี 1999 จึงเป็นปีที่พวกเราต่างเดินทางทั้งใกล้และไกลมารวมตัวกันที่สถานีรถไฟลิเวอร์พูล
ในช่วงเวลานั้น สตีฟ แมคมานามาน คือขวัญใจจอมพริ้วผู้ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เราติดตามหงส์แดง และทริปบุกแอนฟิลด์ครั้งนั้นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ “แมคก้า” สั่งลาความเป็น The Kop นับว่าทริปนี้เป็นการไปเยือนเหย้าแบบคุ้มที่สุด
จริงๆความทรงจำของเรากับการเดินทางครั้งนั้นก็เกือบๆจะหายไปแล้ว ถ้าพี่เดื่อไม่บอกเราตอนคุยโทรศัพท์ว่า “พี่เอาชื่อพวกแกใส่ไว้ในคำนำหนังสือด้วยนะ” จริงดิ…เราไม่รอช้ารีบไปซื้อมาดูทันที
“ค.ศ. 1999 ผมกับโย เพื่อนนักบินจากการบินไทย และรุ่นน้องอีก 3 ชีวิต คือ เล็ก อวน โป๊ะ ดั้นด้นเดินทางไปตามหาความฝัน พลพรรคลูกหนังชาว “เดอะ ค็อป” อย่างพวกเรา เดินทางไปถึงสนามแอนฟิลด์ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เพื่อเยี่ยมรังลูกหนังซึ่งเคยมีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นที่นั่นมากมาย
ความทรงจำยังแจ่มชัดเหมือนเพิ่งเกิดขี้นเมื่อวานนี้ ผมยังจำบรรยากาศทึมๆ แต่มีเสน่ห์ของเมืองลิเวอร์พูลได้ดี ทริปลูกหนังครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อการจองตั่วล่วงหน้าผ่านทางโทรศัพท์กับทิคเก็ตออฟฟิศสโมสรลิเวอร์พูลลุล่่วง เราจึงเริ่มมั่นใจว่า จะได้ดูลิเวอร์พูลลงหวดกับวิมเบิลดัน หรือ “เดอะ เครซี่ แก๊ง” ซึ่งยุคนั้นยังอยู่ในพรีมีลีก
แผนการกรีฑาทัพสุ่แอนฟิลด์เริ่มต้นขึ้น น้องๆ บางส่วนทุบกระปุกเก็บซื้อตั๋วเครื่องบินจากไทยลัดฟ้าไปสมทบผมกับโยที่รออยู่ในลอนดอน เรา 5 ชีวิตจับรถไฟเดินทางขึ้นเหนือไยังสถานี่ไลม์สตรีท
การไปดูบอลครั้งนั้นได้ประสบการณ์โหด มัน ฮา หลายอย่าง เล่าได้บ้างไม่ได้บ้าง ผมยังจำได้ว่าตัวเองไปนั่งมีนอยู่หน้าสนามแอนฟิลด์เพราะฤทธิ๋เบียร์ที่รีบกระดกไปคืนก่อนหน้า เหตุเพราะผับอังกฤษอย่างที่รู้ๆกัน เขาปิดแค่ห้าทุ่ม พอสี่ทุ่มสี่สิบห้าก็จะมีเสียงระฆังดังเตือนเพื่อให้ลูกค้ารีบสั่งออรืเดอร์สุดท้าย พวกผมรีบซดรีบสั่งกันเสียเต็มคราบกลัวไม่หนำใจ สุดท้ายก็เลยต้องมาระทมแฮงค์ต่อในวันรุ่งขึ้น
ผมนั่นสะลืมสะลือมองสตาฟโคชลิเวอร์พูลในยุคนั้นอย่าง ฟิล ธอมป์สัน แซมมี่ ลี เดินผ่านหน้าไปทีละคน รวมทั้งนักเตะดาวรุ่งอย่าง เดวิด ธอมป์สัน และ โดมินิค มัตเตโอ กว่าจะรู้สึกค่อยยังชั่วก็เมื่อได้คายของเก่าออกมาบริวณถังขยะหน้าร้านแมคโดนัลด์
วันต่อมาเราได้ดูแมตช์ “หงส์แดง” ลงเตะกับวิมเบิลดันสมใจ โดยไฮไลท์ของเกมอยู่ที่การอำลา “เดอะ คอป” ของสตีฟ แมคมานามาน และ การยืนให้เกียรติ หรือ “Stand Ovation” ให้แก่แมคก้า ช่วงที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เหมือนแฟนหงส์จะยอมให้อภัย แม้เขาจะตัดสินใจเดินออกจากสโมสรไปอยู่รีล มาดริด แบบไม่มีค่าตัว
จบการแข่งขันคณะเรายังได้นั่งรถเมล์ชมบรรยากาศรอบเมืองไปดูแม่น้ำเมอร์ซี่อันเลื่องชื่อ รวมทั้งได้ทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารสเปนอันเอร็ดอร่อย…..” (คำนำ จาก หนังสือ แบกเป้ไปดูบอลที่อังกฤษด้วยงบห้าหมื่นบาท)
ข้อความที่พี่เดื่อเขียนไว้ ทำให้ภาพเก่าๆไกลๆประมาณเลยครึ่งสนามถูกยิงกลับเข้าสมองและจิตใจเราแบบจังๆ ความตั้งใจแรกที่อยากจะระลึกความทรงจำนี้ด้วยตัวเองจึงหมดไป เพราะสิ่งที่พี่เดื่อเขียนนั้น มันใช่่ซะยิ่งกว่าใช…่
นอกจากนี้การสนทนาในวันนั้นก็เป็นไปอย่างเฮฮา และเราก็ไม่ลืมที่จะแชร์ความฝันที่เราเพิ่งไปถึงให้พี่เดื่อฟังเช่นกัน หลังจากคุยกัน เราก็ได้แรงบันดาลใจจากพี่ชายคนนี้อีกครั้ง เพื่อนำไปต่อยอดความฝันที่เพิ่งเริ่มต้นให้แผ่กิ่งก้านสาขางอกงามต่อไป
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เราจะกลายเป็นแม่ลูกสอง (สภาพที่พี่เดื่อยังนึกไม่ค่อยออก) ไม่ได้เป็นแฟนเดอะ คอป และ คนๆนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่ความสัมพันธ์ดีๆของเรากับเพื่อนเก่าคนนี้มันยังคงชัดเจน คงเส้นคงวา ต่อได้ติดไม่ผิดเพียน
พี่เดื่อทำให้เรารู้อีกว่าบางทีการที่เรามีเพื่อนที่อายุมากกว่า ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือเลวร้าย บางครั้งเราก็กำลังเดินซ้ำรอยที่เค้าเดินมาก่อนอย่างไม่ตั้งใจ ประสบการณ์ชีวิตของเค้าทำให้เราได้เรียนรู้ มองย้อนกลับมาดูตัวเอง และรู้ว่าเราไม่ได้แบกโลกทั้งใบไว้ตามลำพัง เพราะเค้าเองก็เคยแบกและโยนทิ้งบ้าง แบกใหม่บ้างมาก่อนและยังคงมีชีวิตที่สดใสอยู่ถึงทุกวันนี้...You'll never walk alone!
ถ้าใครมีเพื่อนเก่าดีๆ และ ไม่ได้คุยกันมานาน ลองโทรหาเค้าดู บางทีอาจจะมีอะไรๆที่ทำให้คุณยิ้มได้บ้างก็ได้นะ
ป.ล. “เหตุการณ์เล่าได้บ้างไม่ได้บ้าง” ของพี่เดื่อที่เราจำได้ก็คือ พี่เดื่อกดตู้เพลงเลือกเพลงๆนี้อยู่หลายรอบได้ เอ้า จัดให้ 555
Boomp3.com
Create Date : 21 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 0:30:06 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1197 Pageviews. |
|
|
|
โดย: MoneyPenny วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:4:54:11 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:17:06:02 น. |
|
|
|
โดย: โตเดี่ยว (doggieyanky ) วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:15:17:36 น. |
|
|
|
|
|
|
|
หายไปนาน พอจะเริ่มคุยกับใครก็รู้สึกไม่รู้จะเริ่มไงดีเหมือนกันค่ะ ตกลงเป็นคุณแม่ลูกสองไปแล้วเหรอนี่ พี่ตกข่าวมาก ๆ อวนสบายดีนะคะ