มันยากเนอะ ขอให้คิดออกเร็วๆ แบบมีความสุขทั้งบ้าน ใครๆ ก็ว่าเด็กๆ ปรับตัวเร็ว ถ้าจำเป็นต้องย้ายก็คงต้องย้าย

ตอนนี้พริมไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว เพราะจะกลับบ้่านในอีกไม่นาน บวกกับโรงเรียนคุณนายแพง ไม่อยากย้ายไปที่อื่น เพราะกลัวไม่ดีเท่า ลูกไม่ชอบเท่า (คิดไปเองมั้ง)

ตอนนี้วันๆ ชีวิตคล้ายๆ ที่มี๊เกดว่า หาโปรแจคโน่นนี่ทำไปเรื่อย มีความสุขมากๆๆๆ คิดเหมือนกันว่า เดี๋ยวกลับไปอยู่ในโลกความเป็นจริง แล้วจะเป็นยังงัย

โหโจทย์ยากอ่ะข้อนี้

เราก็ลังเลๆ เพราะมีโรงเรียนในอุดมคติ แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินทาง 15-20 นาที

กะโรงเรียนที่เรียนอยู่ปัจจุบันซึ่งเรียกว่าเป็นโรงเรียนกระแสหลัก เรื่องการเรียนการสอนระบบไม่ต้องพูดถึง แจ่มมาก


ความเอาใจใส่ของครูในระดับปฎิบัติงานที่คลุกคลีกับเด็กก็มี ปสก. น่ารักใจดี เด็กโรงเรียนนี้รักครูกันมากๆอ่ะ แบบอบอุ่นกันสุดๆสำหรับ
ชั้นเตรียมอนุบาล (มาเรียนด้วยกันมะ 5555+)

แต่สิ่งที่โดนใจที่สุดคือใกล้บ้าน ใกล้ออฟฟิศ ใช้เวลาไปรับไม่เกิน 5 นาที เดินก็ได้ จุดนี้แหละที่แฮปปี้ที่สุด


สรุปเม้นท์ยาวเยียดแต่ไม่ได้ช่วยคิดเลย ซะงั้น 555+

ยังไงขอให้ได้ทางเลือกที่ Happy กันทั้งครอบครัว เอาความสุขของมิวมิวเป็นหลัก
เชื่อว่าเกดจะเห็นคำตอบเอง จุ๊บๆๆๆ

ดีจังเลยค่ะที่น้องชอบรร.

สวัสดีค่ะ มี๊กุ๊ด
เราเป็นคนหนึ่งที่ตามอ่านบล๊อกมี๊กุ๊ดกะมี๊จีนมานานแล้ว
ส่วนตัวเราก็มีลูกชายคนนึง อายุ 3 ขวบ วัยไล่ๆกับของมี๊กุ๊ดล่ะ ก็ขอแสดงความคิดเห็นนิดหนึ่งนะคะ คือเราก็ไม่รู้ว่าลึกๆโรงเรียนทั้งสองแตกต่างกันอย่างไร
-จะดูเทพ
-หรือเริ่ดๆ
-อุดมคติม๊ากมากกกก ขนาดไหน

แต่เรารู้สึกว่า...สำหรับเด็กเล็กๆแล้ว....
1. ควรจะอยู่โรงเรียนที่ใกล้บ้าน
2.ใช้ระยะเวลาในการเดินทางน้อย
3.เด็กไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้า
4.มีเวลาเล่น(กะพ่อแม่)เยอะๆ
5.สำคัญต้องนอนอิ่มเต็มตาทุกวัน อันนี้สำคัญมาก เราว่าเด็กที่กินครบ นอนอิ่ม พัฒนาการการเรียนรู้ก็จะดีด้วย

ส่วนเรื่องโรงเรียนจะเรียนที่ไหนดีหรือไม่ดี ไว้ค่อยคิดซักตอน อ.3 เราว่าก็ทันค่ะ อย่าลืมนะคะ น้องมิวยังจะต้องอยู่ในระบบการศึกษาอีกเป็น 20ปีเลยนะ อย่าต้องให้เค้ารู้สึกเบื่อกับการไปโรงเรียนตั้งแต่เล็กๆเลยค่ะ (อันนี้เจอเองโดยตรงเลย จำได้ว่าตอนเด็กๆอนุบาลแม่ส่งไปอยู่ร.ร.ดังๆ แต่ไกลบ้านมาก ร้องไห้ทุกวัน ไม่ชอบไปร.ร.สุดท้ายก็ต้องย้ายกลับมาเรียนใกล้บ้าน เพราะไม่ไหวทั้งแม่ทั้งลูก...เกินตัวเกินไป)

แล้วถ้าคิดจะโฮมสคูลด้วย ก็โรงเรียนใกล้บ้านเหอะ เพราะเวลาไปโรงเรียนพ่อแม่จะได้ไปทำงานได้ อย่างน้อยก็เอาเวลาที่จะต้องนั่งรถนานๆมาวาดรูป ขีดๆ เขียนๆ กะลูกดีกว่า เรื่องใครจะไปรับลูกนี้อาจจะเป็นปัญหาเล็กน้อยเลยก็ได้

ใจเย็นๆ ค่อยๆคิดๆ เราเชื่อนะ ว่ามี๊กุ๊ดก็มีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วล่ะ แต่แค่ยังรักพี่เสียดายน้องอยู่นั่นเอง สู้ๆๆนะคะ

บุญรักษาค่ะ

อ่านแล้วก็ปวดหัวแทนเลยค่ะ


ลองคิดตาม นึกภาพตาม ย้ายตัวเองกลับไปตอนเป็นเด็ก
ส้มก็คงอยากเรียนโรงเรียนที่ตัวเองชอบ

จำได้ว่า แม่เคยพาไปเข้าโรงเรียนอนุบาล ที่ดีแห่งหนึ่ง
ไปถึงวันแรก ฉี่รดกางเกง เพราะไม่รู้จะบอกใคร ถามใครว่า ฉี่ที่ไหน

หลังจากนั้นก็ร้องไห้ไม่ไปโรงเรียนนี้อีกเลย จนแม่ต้องพาย้ายโรงเรียน

ส้มว่า พัฒนาการที่ดีจะเกิดขึ้นได้ เด็กก็ต้องมีความเต็มใจด้วยส่วนหนึ่งนะคะ

อวยพรให้เจอทางออกที่ดีนะคะ

ขอบคุณทุกคนนะคะ....

จริงๆ มีอีกหลายประเด็น รวมไปถึงเรื่องงานด้วย เรื่องคนที่บ้านด้วย ที่จะต้องไปรับให้ มีปัจจัยต่อการตัดสินใจเลือกทั้ง 2 โรงเรียน เรื่องสอนดี สอนไม่ดี นี่ปัญหาขี้เล็บไปเลยอะ

เถียงกัน มาเป็นอาทิตย์แระ ยังหาบทสรุปไม่ได้ เพราะ เรื่องของความสะดวก และคุณภาพชีวิตนี่แหละ มีดี และเสีย แทบจะพอๆ กัน จนเลือกได้ยากม๊ากกกก

คุณยายรับกลับมาบ้านให้เร็ว บางทีเค้าก็ปล่อยไว้หน้าทีวี โดนยุงกัดตัวลายเลยทีเดียว จะให้เรามารับมิวเอง ก็ได้อยู่ แต่ จากสะพานควาย มาบ้าน ก็ต้องออกมารับได้แต่บ่าย 3 ให้วกกลับไปทำงานอีก ก็คงขี้เกียจละ

บวฝ เราไปรับเอง วนกลับมาที่ออฟฟิสก็ใช่ว่าจะดีอีกเช่นกัน รถติด เสียเวลานั่งรถ และมาที่ออฟฟิส มิวมิวก็ป่วน กลับบ้านดึกบ้างไรบ้าง แทนที่จะได้พักผ่อนอยู่บ้าน ก็เพลียๆ วันรุ่งขึ้นก็ไม่อยากจะตื่นไปโรงเรียน

สารพัดเรื่องจุกจิก ที่ เป็นปัญหามากกว่า core จริงๆ ของปัญหาอีก...555555

สุดท้ายแล้ว ต้องลองเสี่ยงน่ะแหละ ปวดกะบาลจริงจัง