จงอย่าทิ้งความฝัน ตราบใดที่ยังมีคำว่าพรุ่งนี้ .....
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
10 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 

เคล็ดลับ...เตรียมรับมือกับอาการเมาค้าง






เรื่องง่าย ๆ กับเคล็ดลับ...เตรียมรับมืออาการเมาค้าง


วาเลนไทน์นี้อาจจะมีคนไปเลี้ยงฉลองจนเมาก็ได้นะคะ นุ่นก็เลยมีเคล็ดลับเตรียมรับมือกับอาการเมาค้างมาฝากค่ะ

ถ้ามีอาการกรึ่มหนักจากงานปาร์ตี้ แต่ต้องรีบตื่นไปทำงานหลังเทศกาลเฉลิมฉลองในตอนเช้าแล้วล่ะก็ คงจะส่งผลให้เกิดอาการเมาค้างหรือแฮงค์ในเช้าวันรุ่งขึ้นได้แน่ ๆ เพื่อกำจัดอาการไม่พึงประสงค์ที่เป็นผลจากการดื่มหนักแล้วล่ะก็ เรามีหลักง่ายๆ 2 ข้อที่คุณควรจำ คือ ป้องกัน และรับมือให้เป็น ง่าย ๆ แค่นี้เองค่ะ

อาการเมาค้างไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบร่วมอีกด้วย เช่น ท้องว่างและการอดนอน นอกจากนี้ ระดับความรุนแรงของอาการยังขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณดื่มเข้าไปอีกด้วย ยิ่งดื่มมากในเวลาสั้น ๆ ยิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการเมาค้าง และผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยมีโอกาสเมาค้างได้มากกว่า นอกจากนี้ คนที่อายุมาก ก็จะยิ่งเสี่ยงต่ออาการเมาค้างมากขึ้น และโดยเฉพาะผู้หญิงนั้นมีระดับความทนทานแอลกอฮอล์ได้น้อยกว่าผู้ชาย สิ่งสำคัญคือกันไว้ดีกว่าแก้ หากไม่ต้องการทรมานอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้น คุณควรมีการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกไปงานเลี้ยงสังสรรค์ โดยหาอะไรกินรองท้องก่อน ( แนะนำว่าควรเป็นอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลและไขมัน โดยเฉพาะขนมประเภทเบเกอรี่ ) จะช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ไม่ให้แอลกอฮอล์ซึมเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง เป็นการลดระดับความรุนแรงของแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ อย่าลืมดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อป้องกันสภาวะขาดน้ำภายหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

สิ่งที่ควรจำ คือ ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สลับกับเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยให้ร่างกายไม่ตกอยู่ในภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะน้ำผลไม้ และควรจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ โดยดื่มไม่เกิน 1 แก้วต่อ 1 ชั่วโมง เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการเมาค้างได้

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ให้เข้าห้องน้ำปัสสาวะก่อนที่คุณจะล้มตัวลงนอน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องลุกขึ้นอีกรอบและอาจไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะกลับไปที่เตียง จากนั้น ดื่มน้ำเปล่าแก้วใหญ่ ๆ สัก 2 แก้ว หรือน้ำผลไม้อย่างน้ำแอปเปิ้ล และเครื่องดื่มเกลือแร่อย่าง Gatorade ก็จะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ( เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ) ควรหลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างน้ำส้มคั้นหากว่าคุณรู้สึกปั่นป่วนในท้อง

นอกจากนี้ ไม่ควรกินยาแก้ปวด หลายคนมักจะกินยาแก้ปวดหัวกันไว้ก่อน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพราะแอสไพรินจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองและทำให้อาการเมาค้างแย่ลง โดยเฉพาะยาแก้ปวดไทลินอล ซึ่งเมื่อกินขณะที่ร่างกายมีแอลกอฮอล์อยู่จะมีผลทำลายตับอย่างรุนแรง ผลการศึกษาทางการแพทย์พบว่า ทั้งแอลกอฮอล์และยาระงับอาการปวดจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงในการตกเลือดได้

หลายคนเชื่อว่า การดื่มกาแฟ ( โดยเฉพาะกาแฟดำ ) หลังตื่นจะช่วยแก้อาการเมาค้างได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ซึ่งกาแฟอาจช่วยลดอาการปวดหัวลงได้ แต่จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากยิ่งขึ้น คุณควรหันมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้สดจะดีกว่า เพราะเป็นแหล่งของน้ำตาลฟรุคโตส ที่ช่วยกำจัดแอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในกระเพาะอาหารของคุณ หรือเลือกรับประทานอาหารเบา ๆ และมีประโยชน์อย่างกล้วยและโยเกิร์ตแทนก็ได้ และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทมัน ๆ ด้วย

เคล็ดไม่ลับขจัดอาการเมาค้าง

• ดื่มนมอุ่นรวดเดียวให้หมดแก้ว
• ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
• ดื่มค็อกเทล Bloody Mary 1 แก้ว
• ดื่มน้ำผลไม้หรือกินผลไม้สดแช่เย็น
• เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย เพราะจะได้ไม่ไปรบกวนการทำงานของกระเพาะและลำไส้ และไม่ไปกระตุ้นให้รู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้นด้วย
• ดื่มน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด เช่น น้ำส้มหรือน้ำมะนาว เมื่อรู้สึกอยากอาเจียน
• ลุกออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เพราะออกซิเจนจะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดลดน้อยลง
• กินปลาทูน่าผสมน้ำมะนาว มะเขือเทศ กระเทียม พริก แตงกวา หรือซุบไก่ผสมหอมใหญ่ แครอท แป้งข้าวโพด เกลือ กระเทียม ( ทั้งสองเป็นสูตรจากต่างประเทศที่เชื่อว่าสามารถดับอาการเมาค้างได้ )
• หากอาการยังไม่ดีขึ้น ลองดื่มยาหอมผสมน้ำอุ่น และหากรู้สึกทรมานมาก ให้คนพาไปพบแพทย์ เพื่อขอยาแก้อาการเมาค้าง

ทีนี้ก็เตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนออกไปสนุกนะคะ ที่สำคัญอย่าลืมนะคะ "เมาไม่ขับ" ไม่งั้นเดี๋ยวถูกจับ และโดนขังโดยไม่รอลงอาญา ไม่รู้ด้วยนะคะ










ที่มา : //www.hunsa.com




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2549
3 comments
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2549 17:05:01 น.
Counter : 425 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ จะจำไว้ไปบอกคนที่เราเป็นห่วงละกันนะ

 

โดย: mini mini 10 กุมภาพันธ์ 2549 17:00:35 น.  

 

ขอบคุณคับ

Blog น่ารักดี

 

โดย: เชสเตอร์ 10 กุมภาพันธ์ 2549 17:33:27 น.  

 

ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับดีๆนะค่ะ

 

โดย: yayo IP: 202.176.118.79 21 มิถุนายน 2552 14:25:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


noonnyjung
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่แวะมาทักทาย ต้องขอโทษที่หายไปนานแต่จะกลับมาแล้วนะ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมกันอีกนะคะ ^-^



อยากให้ทุกคนแวะมาเยี่ยมบ่อย ๆ จะได้มาแนะนำ ติชมกันนะคะ ขอบคุณนะคะที่แวะมา


Friends' blogs
[Add noonnyjung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.