<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
22 กุมภาพันธ์ 2549
 
 
ยังไม่สิ้นพระสุรเสียง

"เศรษฐกิจพอเพียง คือทำให้พอเพียง ถ้าไม่พอเพียง ไปไม่ได้ แต่ถ้าทำพอเพียง สามารถที่จะนำพาประเทศให้ดี ไปได้ดี ก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ในความสำเร็จพอเพียง และเพื่อให้บ้านเมือง บรรลุความสำเร็จที่แท้จริง ก็ไม่รู้ล่ะ คนที่รับพรก็รับไป คนที่ไม่รับพรก็คิดในใจ ขอบใจที่ท่านทั้งหลายมาให้พร เรารับพรของท่าน"


ความในพระราชดำรัสตอนท้ายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงกล่าวต่อพสกนิกร เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 78 พรรษา 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังดังก้อง ในหัวใจ

ถัดจากนั้นเพียงไม่กี่วัน เราคงได้ยินพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานการประชุมเรื่อง Thailand: Partnership for Development และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองแก่คณะทูตานุทูตรัฐบาลไทยได้ตระหนักว่าไทยไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่ได้ โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไทยจึงอยู่เฉยไม่ได้ ท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ประเทศไทยจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับโลกโลกาภิวัตน์ ไทยจำเป็น ต้องพัฒนาระบบความต้านทานที่จะช่วยให้ไทยทนต่อแรงกดดันของโลกาภิวัตน์ อีกทั้งจะต้องสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรีได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังด้วยนโยบายที่จะปรับโครงสร้างทาง เศรษฐกิจและสังคมการพัฒนาของไทยไปสู่สังคมเศรษฐกิจฐาน ความรู้ ที่ทันสมัยและแข่งขันได้ คือแรงกำลังของรัฐบาลในความพยายามที่จะปรับโครงสร้าง

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน ทุกประเทศ ต่างมีสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนและก่อให้เกิดประโยชน์ระหว่างกันได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงหวังที่จะดึงดูดและใช้ความรู้แขนงต่างๆ ทักษะและเทคโนโลยีที่มีอยู่ในโลกเพื่อกระตุ้นการพัฒนาประเทศไทยในอดีต หลายประเทศมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แต่แนวทางเช่นนี้ไม่พอเพียง จะต้องพัฒนาไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและสง่างาม

ประเทศไทยได้ดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขัน อย่างมีประสิทธิภาพกับประเทศต่างๆบนพื้นฐานที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ สาธารณูปโภคทางกายภาพ การจัดการ หรือทรัพยากรมนุษย์ ทั้งนี้ ไทยจะไม่ผูกติด เฉพาะความรู้และเทคโนโลยีที่มีอยู่ แต่ในฐานะที่เป็นรัฐบาลที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง รัฐบาลจะใช้และเลือกสิ่งที่เหมาะกับประเทศไทยมากที่สุด โดยตระหนักถึงประโยชน์ของประชาชน ความคุ้มค่าของการลงทุน และความเหมาะสมของเทคโนโลยีต่อ เศรษฐกิจของไทย หัวใจสำคัญของการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะ สามารถเข้าสู่ความมั่งคั่งทางทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มีอยู่ทั่วโลก และใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เพื่อการพัฒนาประเทศ ในการนี้ รัฐบาลได้เปิดตัวนวัตกรรมกระบวนการการประมูลใหม่ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง แบบ win-win

ดังนั้น รัฐบาลเสนอให้คณะทูตและองค์กรระหว่างประเทศได้คิดถึงว่า ประเทศและองค์กรของท่านจะมีบทบาทสำคัญอย่างไรในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา และขอให้กระจายข้อมูลไปสู่สำนักงานใหญ่และภาคเอกชนของประเทศต่างๆด้วย ทั้งนี้อาจไม่ใช่แนวทางความร่วมมือที่เคยปฏิบัติกันมา แต่ไทยต้องการความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในฐานะหุ้นส่วน ( Third-Party) ในฐานะบุคคลภายนอกที่มองประเทศไทยที่ ความพยายามที่จะพัฒนา และต้องการข้อเสนอทางธุรกิจที่ใช้การได้และมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมให้ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและ know-how ของภาคเอกชนเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ ทั้งหมดนี้ แสดงถึงกระบวนการประมูลแข่งขันที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้อง และความเป็นไปได้นั้นไม่มีจำกัด ซึ่งข้อเสนออาจมาจากภาคเอกชนหรือ อาจร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือจากบริษัทเดียว หรือร่วมกันหลายๆบริษัทจากประเทศเดียวกัน หรือจากหลายๆกลุ่มจากหลายประเทศ

รัฐบาลจะพิจารณาข้อเสนอโดยเน้นความโปร่งใสและเปิดเผย และจะมีคณะกรรมการระดับชาติพิจารณา ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะดูแลกำกับด้วยตนเอง อีกทั้งจะมีกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาอีกด้วย นอกจากนี้ จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีว่าเหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์หรือไม่ และจะตรวจสอบ ว่าข้อเสนอนั้นมีการถ่ายโอนเทคโนโลยีและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยไปพร้อมกัน รวมถึงข้อเสนอแนวทางในด้านการจัดการด้านความรู้ เทคโนโลยีที่เหมาะสมและการเงิน

รัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค และรักษาระดับ อัตราหนี้ต่างประเทศให้ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของGDP ดังนั้น จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงมูลค่าการลงทุนของโครงการ ควบคู่ไปกับเงื่อนไขทางการเงิน และรัฐบาล ให้ความสนใจต่อข้อเสนอทางการเงินแบบการแลกเปลี่ยนสินค้า ( Barter Trade) ซึ่งจะช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีกับสินค้าคุณภาพของไทย รัฐบาลต้องการข้อเสนอที่มีเทคโนโลยีระดับโลก และการใช้งานที่เหมาะสมและทันสมัย ข้อเสนอราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าในเงื่อนไขทางการเงินที่น่าพอใจ รวมถึงโครงการที่ใช้การได้ มีประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จในกรอบเวลาอันสั้น และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทย

สิ่งที่ประเทศไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการพัฒนา แต่ไม่ได้หมายความว่า ข้อเสนอของผู้ที่สนใจ จะถูกจำกัดในสาขานี้เท่านั้น สิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ คือ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านโครงสร้างสาธารณูปโภค หรือ Mega Project เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกแห่งโลกาภิวัตน์ในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วสูงพร้อมกับรับมือกับอัตราเร่งทางเศรษฐกิจโดยโครงการเพื่อพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว จะเน้นการพัฒนาอย่างเป็นระบบเชื่อมโยงทั้งการคมนาคมของคน รวมทั้งการขนส่ง สินค้าและบริการให้เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในแง่ของระบบการขนส่งสินค้าและบริการ (logistic) ไทยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาระบบแห่งการบูรณาการที่ ครอบคลุมการคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อถึงกันหมด ระบบแห่ง
การบูรณาการที่รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะเดียวที่ช่วยปรับ ปรุงคุณภาพชีวิตของคนในชนบทให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยทั้งในภาคการผลิตและการ บริการ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานของประเทศอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งในภูมิภาคนี้

.............

โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว-ไทยอยู่เฉยไม่ได้-อัตราเร่งทาง เศรษฐกิจ-การแข่งขัน-เมกะโปรเจกต์-โลกาภิวัตน์ ฯลฯ เมื่ออ่านสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีจบลง พลันพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็กลับมากึก
ก้องอยู่ในหัวใจของผมอีกครั้ง

"เศรษฐกิจพอเพียง คือทำให้พอเพียง ถ้าไม่พอเพียงไปไม่ได้ แต่ถ้าทำพอเพียง สามารถที่จะนำพาประเทศให้ดี ไปได้ดี ก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ในความสำเร็จพอเพียง และเพื่อให้บ้านเมืองบรรลุความสำเร็จที่แท้จริง ก็ไม่รู้ล่ะ คนที่รับพรก็รับไป คนที่ไม่รับพร ก็คิดในใจ ขอบใจที่ท่านทั้งหลายมาให้พร เรารับพรของท่าน"



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2549 18:32:04 น. 1 comments
Counter : 733 Pageviews.

 
..
เป็นบุญของประเทศไทย
ที่มีในหลวง
..
ซาบซึ้งยังไงก็ไม่ทราบค่ะ
ยิ่งเหตุการณ์ตอนนี้ด้วย
ยิ่งทำให้รักในหลวงมากขึ้นๆทุกวัน
..


โดย: ระเบียงดอกไม้ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:43:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

หนูวี้ดว้าย
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add หนูวี้ดว้าย's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com