เอาใจลูกด้วยการดูแลลูกแต่กล้าพูดว่า "ไม่ได้"
น้องตุ่นอายุสามขวบยืนอยู่หน้าตู้ของเล่นเด็กและร้องเรียกคุณแม่ "จะเอาอะไรหรือลูก" "หนูจะเอาโน่น" น้องตุ่นชี้ไปที่หีบเพลงเด็กเล่นและพยายามเอื้อมไปหยิบ "อย่าเอาเลยลูก เสียงมันดังหนวกหู แม่จะซื้อรถยนต์สวย ๆ ให้" พ่อหนูเริ่มร้องไห้ "หนูไม่อยากได้รถยนต์ หนูอยากได้อ้ายนั่น"
คุณแม่พยายามไม่สนใจลูก เลือกดูของที่เธอต้องการซื้อที่ตู้ตรงข้าม น้องตุ่นกอดขาคุณแม่แล้วร้อง "หนูจะเอา หนูจะเอา หนูจะเอา" "โธ่เอ๋ยลูก เอ้า เดี๋ยวแม่ซื้อให้" เมื่อคนขายยื่นห่อของให้คุณแม่ ตุ่นยื่นมือมาจะเอา "เอาไว้ถึงบ้านก่อนมันหวกหูมากถ้าเล่นที่ร้านนี่" น้องตุ่นส่งเสียงร้องไห้ "เอาเดี๋ยวนี้ เอาเดี๋ยวนี้" "เอ้า หนูถือไว้ได้ แต่ห้ามแกะออกจากกล่องนะ" ต้องตุ่นฉีกกระดาษห่อทันที คุณแม่มองดูอย่างท้อแท้ ลูกชักหีบเพลงเข้า ๆ ออก ๆ เสียงดังแหลมแสบแก้วหู
"เอาละน้องตุ่น ลูกรู้แล้วว่าเสียงมันเป็นอย่างไร คอยให้ถึงบ้านก่อน ไม่งั้นแม่จะเก็บมัน" ลูกก็ยังคงชักหีบเพลง คุณแม่ดึงมาเก็บ ลูกส่งเสียงร้องไห้ คุณแม่ต้องคืนให้ลูก ลูกชักหีบเพลงอีก คุณแม่โกรธตวาดเสียงดัง "ทำไมลูกจะคอยจนกว่าจะออกมานอกร้านไม่ได้หรือ" น้องตุ่นคงไม่สนใจ ในที่สุดคุณแม่ลากตัวลูกออกมานอกร้าน "ลูกทำให้แม่โกรธมาก ทำไมจะคอยจนกว่าจะออกมานอกร้านเท่านั้นไม่ได้หรือ"
คุณแม่ขาดความกล้าหาญเพียงจะพูดว่า "ไม่ได้" ไม่กล้าแม้จะเผชิญกับความไม่พอใจของลูก ไม่ว่ากรณีใด ๆ ลูกต้องได้รับการตามอกตามใจ ต้องได้รับความพอใจ น้องตุ่นมีคุณแม่อยู่ภายใต้อุ้งมือ
ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่เราต้องซื้อของเล่นทุกอย่างที่ลูกเห็นและคิดว่าเขาอยากได้ และไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่ต้องซื้ออะไรให้ลูกทุกครั้งที่ลูกไปซื้อของกับเรา การกระทำเช่นนั้นเป็นการตามใจลูกในทางที่ผิด ทำให้เขาคิดว่าการซื้อของเหล่นี้เป็นสิทธิ์ของเขา จะคิดว่า "ถ้าคุณแม่ไม่ซื้ออะไรให้ฉัน คุณแม่ไม่รักฉันอีกแล้ว"
เด็ก ๆ ไม่ได้สนใจกับเครื่องเล่นเท่ากับจะพิสูจน์ว่าคุณแม่ต้องให้เขาทุกอย่าง ของเล่นนั้นมีค่าน้อยมาก ไม่ช้าเด็กก็จะโยนทิ้ง การบังคับให้คุณแม่ "ให้" มีความสำคัญที่สุด
ของเล่นนั้นมีความุ่งหมายที่เป็นประโยชน์หรือควรมีตามความจำเป็น เราควรจะให้ในวันที่เด็กเขามุ่งหวังว่าจะได้ หรือเมื่อถึงฤดูกาล เช่น ให้เครื่องเล่นในน้ำ เมื่อถึงฤดูร้อน ให้เครื่องเล่นในบ้าน เมื่อถึงฤดูหนาว หรือฤดูฝน
การไปซื้อของควรมีความมุ่งหมายที่สมควร ลูกจะเกิดความคิดความเข้าใจ เรื่องการใช้เงินเมื่อเขาไปซื้อของกับเรา ถ้าหากไม่มีขอบเขตว่าเขาจะเอาอะไรก็ต้องได้ ลูกจะไปสรุปว่าเงินนั้นไร้ค่า จะใช้จ่ายอย่างไรก็ได้ไม่มีขอบเขตและความรู้สึกทางคุณค่าวัตถุนิยมของลูกจะบิดเบือนไป
คุณแม่ของน้องตุ่นจะแสดงความรักลูก และความห่วงใยในสวัสดิภาพของลูกมากกว่า ถ้าหากเธอมีความระมัดระวังในเรื่องเอาอกเอาใจลูก และยืนกรานคำว่า "ไม่ได้" แก่ลูกในการซื้อของเล่นตามเรื่องตามราว เท่าที่เป็นอยู่นี้ คุณแม่ไม่สามารถจะสร้างระเบียบอะไรได้เลย เพราะเธอขาดความกล้าหาญ เธอกลัวลูกจะตอบโต้ ดังนั้น จึงไม่สามารถพูดคำว่า "ไม่ได้" และไม่มีความมั่นคง
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยากจะเอาใจลูก มันเป็นความสุขอย่างล้นเหลือที่ทำให้ลุกได้สิ่งที่เขาอยากได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราไปถึงจุดหนึ่ง คือเราพยายามเอาใจลูกจนกระทั่งยอมเสียระเบียบ หรือยอมตามใจลูกในสิ่งที่ไม่ควรเพราะเรากลัวลูก
เมื่อถึงจุดนี้เราต้องระมัดระวังอันตรายจากการกระทำต่อไปของเรา เราไม่จำเป็นต้องปฏิเสธในสิ่งที่ลูกต้องการอย่างจงใจ แต่ขณะใดที่ลูกอยากได้หรือขอในสิ่งทีขัดต่อระเบียบ หรือสิ่งนั้นขัดต่อความจำเป็นของสถานการณ์ นั่นแหละเป็นเวลาที่เราต้องกล้าหาญที่จะยืนกรานว่า "ไม่ได้" ซึ่งแสดงให้เห็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเรา
ที่มา : หนังสือ เมื่อลูกท้าทายคุณ เล่ม 2
Create Date : 18 พฤษภาคม 2550 |
|
7 comments |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2550 10:21:47 น. |
Counter : 1294 Pageviews. |
|
|
|
ชอบจัง เอามาลงเรื่อยๆ นะ