Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

***♣คำเตือนจากชมรมศาสนาและการกุศล♣***


>> >>>ระวัง 11-29 ตุลาคม 48
>> >>>
>> >>>ในเดือนหน้า ช่วง 11 – 29 ตุลา 48
>>อาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทย
>> >>>ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ นักวิทยาศาสตร์
>> >>>ผู้ที่ผันตัวมาฝักใฝ่สนใจในการปฏิบัติ
>> >>>ธรรมมากผู้หนึ่ง ปัจจุบันเป็นประธานชมรมวิถีธรรม – วิถีไท
>> >>>แถวเขตคันนายาว
>>ในสายหลวงปู่ทวด
>> >>>ได้นำข่าวสารมาแจ้งในที่ประชุมสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทยให้ได้ทราบเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่
>> >>>24 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา และเนื่องจากผู้เขียนนั่งติดกับ
>> >>>ผศ.ดร.พรชัย พัชรินทร์ตนะกุล อดีต
>> >>>ประธานสภาคณาจารย์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
>>ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์
>> >>>แต่มีความสนใจในเรื่อง
>> >>>วิทยาศาสตร์ทางจิตมากผู้หนึ่ง
>> >>>และเป็นสมาชิกตลอดชีพของสมาคมค้นคว้าทางจิตฯ เหมือนผู้เขียน ขอ
>> >>>ให้ผู้เขียนช่วยสรุป และเผยแพร่เรื่องนี้ให้แก่ผู้สนใจได้ทราบด้วย
>> >>>ผู้เขียนได้รับปากว่าจะรีบสรุป และ
>> >>>เขียนสิ่งที่ได้รับฟังมา และรีบ Mail
>> >>>ให้สมาชิกชมรมศาสนาและการกุศลทุกคนได้รับทราบโดยเร็วต่อ
>> >>>ไป บทความนี้จึงได้ผลิตออกมาเผยแพร่ในทันที
>> >>>
>> >>>หากช่วง 11 – 29 ตุลา 48 มีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
>> >>>ดร.กัญจีราฯ
>>ก็มีชื่อเสียงดังระเบิดเถิดเทิงกันแน่ในคราครั้งนี้
>> >>>ซึ่งท่านผู้อ่านทุกท่าน ก็จะได้ทราบผล
>> >>>กันในเร็ววันนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือมั่วนิ่ม
>> >>>
>> >>>ดร. กัญจีราฯ เล่าให้ฟังว่า ขอให้ติดตามดูสถานการณ์
>>ตั้งแต่วันที่
>> >>>11 ตุลา 48 เป็นต้นไป
>> >>>ท่านว่าจะมีภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเกิดขึ้นในเมืองไทย
>> >>>
>> >>>11 ตุลา 48 จะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย
>> >>>13 – 14 ตุลา 48 จะเกิดคลื่นสึนามิอีกครั้ง
>> >>>18 ตุลา 48 จะมีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือน และมีน้ำท่วมขัง 2
>>สัปดาห์
>> >>>21 – 23 ตุลา 48 จะมีแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ จะมีรถติดวินาศสันตะโร
>> >>>ให้ระวังเขตอันตรายย่าน
>> >>>หัวลำโพง ปทุมวัน มาบุญครอง เขตดินแดง และแถวรัชโยธิน
>> >>>จะมีเรื่องร้ายแรงเสียหายเกิดขึ้นที่เกิดจากแผ่นดินยุบหรือไหวตัว
>> >>>29 ตุลา 48
>>อาจมีพายุทอนาโดเข้ามาทางอ่าวไทย
>> >>>
>> >>>ดร.กัญจีราฯ ท่านบอกว่า ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 ไม่ว่าภาคใต้
>> >>>ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ล้วนมีผลกระทบทั้งประเทศ
>> >>>จังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากและน้อยที่ต้องเตรียมรับมือมากหน่อยมีดังนี้.-
>> >>>
>> >>>1) ภาคใต้ นครศรีธรรมราช (หนักสุด) รองๆ ลงมาคือ สุราษฎร์ พังงา
>> >>>และชุมพร
>> >>>2) ภาคตะวันตก ราชบุรี (หนักสุด) รองๆ ลงมาคือ กาญจนบุรี
>>สุพรรณบุรี
>> >>>และสมุทรสาคร
>> >>>3) ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (หนักสุด) รองๆ ลงมาคือ ปทุมธานี นครปฐม
>> >>>ชัยนาท และพิษณุโลก
>> >>>4) ภาคอีสาน หนองคาย (หนักสุด) รองๆ ลงมาคือ ขอนแก่น อุบลราชธานี
>> >>>และร้อยเอ็ด
>> >>>5) ภาคเหนือ เชียงราย (หนักสุด) รองๆลงมาคือ ลำพูน ลำปาง
>>เชียงใหม่
>> >>>และตาก
>> >>>
>> >>>ดร.กัญจีราฯ เล่าว่า
>>อุทกภัยครั้งนี้ จะมีความรุนแรงมากกว่าช่วง 500
>> >>>ปี ที่ผ่านมาก็แปลว่า
>> >>>ครั้งนี้จะต้องหนักมากกว่าทุกครั้งที่ท่านเคยเห็นเคยพบในช่วงชีวิตของท่าน
>> >>>แต่ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าจะถึงระดับเช่นว่าคงต้องติดตามดูครับ
>> >>>
>> >>>ในช่วงปลายตุลา ถึงต้น พฤศจิกา 48 ต้องงดไปลอสแองเจลลิส
>>และนิวยอร์ก
>> >>>เพราะสหรัฐอเมริกาจะโดนพายุใหญ่ 2 ลูกถล่มที่ 2 เมืองนี้นั่นเอง
>> >>>
>> >>>เนื้อหาสาระที่รับฟังมา แม้จะมิได้บันทึกเทปไว้
>> >>>แต่คิดว่าจำมาได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 หากคลาดเคลื่อน
>> >>>ท่านที่ฟังมาพร้อมกัน
>>ช่วยบอกเพิ่มให้ผู้เขียนทราบด้วยจักขอบคุณมาก
>> >>>ถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
>>ต้องยกประโยชน์และปรบมือขอบคุณ
>> >>>แก่ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ
>>โดยผู้เขียนจะได้ติดตามข่าวสารจากท่านผู้นี้
>> >>>มานำเสนอท่านผู้อ่านเป็นระยะๆ ต่อไป แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงใดๆ
>>
>> >>>เกิดขึ้นในช่วง 11 – 29 ตุลา 48
>> >>>ก็ต้องกล่าวโทษ ดร.กัญจีราฯ
>> >>>และก็คงไม่มีข่าวสารจากท่านผู้นี้อีกต่อไป
>> >>>เว้นแต่มีคำอธิบายที่น่าเชื่อถือ
>> >>>และมีเหตุปัจจัยสนับสนุนที่มากเพียงพอ แต่ทั้งนี้
>> >>>และทั้งนั้นจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม
>> >>>ก็ให้ถือเป็นเรื่องการซ้อมรับมือเหตุร้ายแรงดังกล่าว
>> >>>ซึ่งในระบบป้องกันความปลอดภัย
>> >>>หรือแม้แต่ระบบป้องกันอัคคีภัย
>> >>>ก็ยังมีการซ้อมดับไฟก่อนเกิดไฟไหม้จริง
>> >>>ก็ขอให้ท่านผู้มีโอกาสอ่านบทความชิ้นนี้ทาง Mail ทุกท่าน
>> >>>โปรดใช้เป็นโจทย์การบ้านว่า
>> >>>“ถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่พักอาศัยของท่านใน
>>1
>> >>>– 2 สัปดาห์ข้างหน้า
>> >>>ท่านจะป้องกันความเสียหายได้อย่างไรบ้าง
>> >>>หรือให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด”
>> >>>อย่างไรก็ตาม เหตุร้ายแรงที่
>>ดร.กัญจีราฯ บอกกล่าวนี้
>> >>>ยังไม่ถึงระดับมหันตภัยที่แท้จริง
>> >>>หากมีเกิดขึ้น ก็เป็นเพียงเหตุร้ายแรงระดับเล็ก
>> >>>ถ้าจะเทียบกับเหตุการณ์ในปี 2551
>> >>> ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้ยอมรับ และมิได้ปฏิเสธว่า ช่วง 11 – 29
>>ตุลา
>> >>>48 จะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรือ
>> >>>ไม่ช่วงนี้เขียนตามที่ฟังมาจากดร.กัญจีราฯ แล้วนำมาเล่าต่อ
>> >>>บอกต่อก่อนนะครับ
>> >>>
>> >>>สำหรับข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากผู้เขียน:
>> >>>ถ้าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นจริง
>> >>>
>> >>>1. กรุณาช่วยตรวจความมั่นคงแข็งแรงของตัวบ้าน ประตู หน้าต่าง
>>หลังคา
>> >>>ต้นไม้ใหญ่ สายไฟ สายโทรศัพท์ ป้ายโฆษณา ฯลฯ ซึ่งอาจหลุด
>> >>>อาจตกหล่นอาจล้มทับที่อยู่อาศัยของท่านหรือ
>> >>>สถานที่ท่านพักอาศัยเพราะลมพายุพัดใส่
>>
>> >>>ท่านต้องตรวจตราดูแลกันสักหน่อยนะครับ
>> >>>หากไม่มั่นคงต้องซ่อมด่วน ต้องป้องกันก่อนครับ
>> >>>
>> >>>2. ฝาท่อระบายน้ำหน้าบ้าน หลังบ้าน ในซอย
>> >>>และบริเวณถนนหน้าบ้าน/หลังบ้าน อุดตันเพราะฝุ่นผง และขยะ หรือไม่
>> >>>หากมีการทำท่อระบายน้ำใหม่ กรุณาอย่าประมาท เพราะอาจทำฉาบฉวย
>> >>>มีรางบนถนน
>> >>>แต่มิได้เชื่อมกับตัวท่อระบายน้ำ และถังพักน้ำจริง โปรดตรวจตรา
>> >>>หาไม้แยงดู
>> >>>หากติดตัน แจ้งสำนักงานระบายน้ำ หรือสำนักผู้ว่า กทม.
>> >>>หรือสำนักงานเขตจัดการลอกขยะออกโดยเร็วต่อไป
>> >>>
>> >>>3. ถ้าน้ำท่วมมากจนรถนำออกจากบ้านไม่ได้
>> >>>ท่านมีแม่แรงไว้ยกรถหรือยังมีอิฐบล็อคหรือขอนไม้ใหญ่
>> >>>หรือเหล็กค้ำยันไว้รองดันให้รถลอยสูงหนีน้ำหรือยัง
>> >>>ถ้าสมมุติน้ำจะท่วมสูง 1 เมตร เข้ามาในบ้านท่าน
>> >>>คิดเผื่อกันเหนียวหน่อยจะดีไหม
>>? สิ่งของที่วางอยู่บนพื้น
>> >>>หากน้ำท่วมถึงจะเสียหายได้หาทางเคลื่อนย้ายไปไว้ชั้นบนบ้านหรือเก็บไว้ในที่สูงเกิน
>> >>>1 เมตรจะดีไหม (ของใครของมัน ตัดสินใจกันเอาเอง ของใช้ของใคร
>> >>>ก็ต้องดูแลกันเอาเองครับ)
>> >>>
>> >>>4. จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ตั้งสติกันให้มากหน่อย
>> >>>ถ้าจะไม่อยู่ในกรุงเทพฯชั่วคราว ครอบครัวของท่านจะไปไหนกัน
>> >>>ปรึกษาหารือพูดคุยกันก่อนถึง 11 ตุลา 48 จะดีไหมครับ
>> >>>
>> >>>5. ถ้าช่วง 11 – 29 ตุลา 48 หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง
>> >>>แต่ละคนในครอบครัว ไม่ควรนัดรวมพลพร้อมกันที่บ้านเก่า มิฉะนั้น
>> >>>อาจต้องกลับบ้านเก่า (บ้านเก่า เป็นคำสะแลง หมายถึง ตาย)
>> >>>และต้องระวังวิกฤติจราจร แม้มีน้ำมันเต็มถัง แต่วิ่งได้เพียง 4 –
>>5
>> >>>กิโลเมตร น้ำมันอาจหมดถังได้ เพราะรถมัน
>> >>>ไม่เคลื่อนที่ รถอาจติดกันเหมือนแตงเมก็ได้ ถ้าใช้เวลา 1 ชั่วโมง
>>
>> >>>วิ่งได้ระยะทางเพียง 100 เมตร มิใช่ 100 กิโลเมตร
>>แล้วผลเป็นเช่นไร
>> >>>ท่านคงคาดเดาได้ หากรถคันข้างหน้าเรา เขาตัดสินใจ
>> >>>ทิ้งรถแล้วออกเดิน รถเขาจึงจอดขวางทางคนขับรถคันอื่นก็ทำตาม
>> >>>หากเราอยู่คันหลังๆ จะแซงได้อย่างไร
>> >>>เพราะบนท้องถนนไม่มีที่ว่างเปล่ามีรถจอดติดทุกช่องทางจราจร
>> >>>และรถอีกส่วนหนึ่งก็ปฏิบัติฝ่าฝืนกฎจราจร
>> >>>โดยมีปรากฏให้เห็นในถนนทุกสาย ถนนที่ให้รถวิ่งทางเดียวจะมีรถ
>> >>>วิ่งสวนทางย้อนศร ถนนที่กำหนดให้วิ่ง 2
>>ทางจราจรจะมีรถเบียดแซงเป็น 3
>> >>>– 4 ช่องทางจราจร
>> >>>ในบางแยกจึงมีการจอดประจันหน้ากัน เดินหน้าไม่ได้ถอยหลังก็ไม่ได้
>> >>>รถย่อมเคลื่อนที่ไม่ได้ กรุณาจินตนาการดูครับ
>> >>>อย่าคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้น คิดเป็นการบ้านเผื่อไว้ก่อน
>> >>>(วันนี้ท่านอาจด่าว่าผู้เขียนว่า ไอ้บ้า
>> >>>เขียนข่มขู่ผู้คนให้ตื่นตระหนกกลัวอีกแล้วความจริงเป็นภาพที่ผู้ยืนยันว่าเห็นชัดในปี
>>
>> >>>2551 แต่จะซ้อมคิดในปีนี้ก็ไม่น่าจะเสียหาย
>> >>>และต่อไปท่านอาจจะตระหนักได้ว่าไม่น่าที่จะไป
>> >>>ด่าเขาเลย อย่างน้อยก็มีประโยชน์ที่เขาแนะนำสิ่งที่ดีๆ ให้ก่อน)
>> >>>
>> >>>6. ในวันนี้กรุณาทำการสำรวจทรัพย์สินที่มีค่าของท่าน
>> >>>ของรักของหวงของท่านคืออะไร อยู่ที่ไหน จัดทำรายการบัญชีไว้
>>จะดีไหม
>> >>>จะนำไปด้วย หรือทิ้งไว้ก่อน ของชิ้นเล็กของที่มีน้ำหนักน้อย
>> >>>ของที่มีค่ามาก ควรนำติดตัวไป ของใหญ่ของหนัก ของที่มีภาระมาก
>> >>>จำต้องทิ้งไว้ก่อน มิฉะนั้น ท่านอาจะต้องนำไปทิ้งระหว่างทาง
>> >>>หรือถูกชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ระหว่างเดินทางก็ได้คิดเผื่อไว้
>> >>>สักนิดจะดีไหม
>> >>>
>> >>>7. ความจริงไม่อยากแนะนำให้เอาอาวุธติดตัวไปด้วย
>> >>>เพราะไม่อยากให้เกิดการฆ่าฟันกัน
>> >>>แต่ช่วงวิกฤติดังกล่าวจะมีสมุนพญามารและสมุนซาตานออกอาละวาดจะเป็นช่วงที่มีการลัก
>>
>> >>>– วิ่ง – ชิง - ปล้น กันหนัก (ลัก คือ ลักทรัพย์, วิ่ง คือ
>> >>>วิ่งราวทรัพย์, ชิง คือ ชิงทรัพย์, ปล้น คือ ปล้นทรัพย์)
>>นอกจากนั้น
>> >>>ก็จะมีการข่มขืนและฆ่า ในช่วงวิกฤติติดตามมา
>> >>>จึงจำใจต้องแนะนำ“ให้หาอาวุธไว้ป้องกันตนเองและครอบครัว” ขอย้ำว่า
>> >>>“ให้หาอาวุธไว้ป้องกันตนเองและครอบครัว มิใช่หาอาวุธ
>> >>>ให้ไปชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ผู้ใด”
>> >>>
>> >>> ผู้ที่มีอาวุธปืน หากไม่เคยยิงเลย ระวังกระสุนด้าน
>>ปืนอาจขัดลำกล้อง
>> >>>ในเวลาจำเป็นต้องใช้ก็อาจเป็นได้ ให้ไปทดลองฝึกยิงดูสักหน่อย
>> >>>เปลี่ยนกระสุนใหม่สักนิด
>> >>>
>> >>> ผู้ที่ไม่กล้าใช้ปืน จะหามีด หาไม้
>> >>>เอาไว้ใกล้มือที่จะหยิบฉวยมาป้องกันตนเอง และครอบครัวได้
>> >>>ก็ควรมีไว้ในช่วงวิกฤติ หากประมาทแล้วจะเสียใจ
>> >>>จะหาว่าไม่บอกกล่าวเล่าเตือนไม่ได้นะครับ (จะอย่างไรก็ตาม
>>
>> >>>เหตุการณ์ช่วง 11 – 29 ตุลา 48
>> >>>ยังมิใช่เหตุร้ายแรงระดับมหันตภัยในระดับน่ากลัวมากนัก
>> >>>หากเกิดมีขึ้นจริงตามที่ ดร.กัญจีราฯ
>> >>>เล่าให้ฟังก็ถือว่าเป็นการซ้อมรับมือปี 2551
>> >>>ก็ไม่น่าจะเสียหายมากนัก)
>> >>>
>> >>>8. ปัจจัย 5 หาเตรียมไว้บ้าง ก็น่าจะดี ปัจจัย 4
>> >>>เป็นที่ทราบอยู่แล้วคือ อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ที่อยู่อาศัย
>> >>>และยารักษาโรค สำหรับปัจจัยที่ 5 คือ น้ำมัน
>> >>>หรือพาหนะที่จะใช้เดินทางเคลื่อนที่
>> >>>
>> >>>9. ปัจจัยแรก อาหาร หมายรวมถึง น้ำดื่มด้วย และหมายรวมถึงอุปกรณ์
>> >>>นอกจากอาหารสด อาหารแห้งแล้ว เครื่องครัว ข้าวสาร อาหารแห้ง
>> >>>และแก๊สหุงต้มด้วย ระวังมีแต่ถัง แต่แก๊สหมด
>> >>>อาจเกิดขึ้นได้ ตรวจดูหน่อยจะเป็นไร ฯลฯ
>> >>>
>> >>>10. ปัจจัยที่สอง เครื่องนุ่งห่ม นอกจากเสื้อผ้าแล้ว
>>
>> >>>รวมถึงเครื่องนอนด้วย ในช่วงที่ไปอยู่ในที่อื่น
>> >>>ที่มิใช่บ้านอยู่อาศัยของตนเอง เสื้อผ้า
>>ไม่ควรเป็นชุดหรูหราสวยงาม
>> >>>แต่ควรเน้นชุดธรรมดาๆ
>> >>>สวมใส่สบาย ให้ความอบอุ่นได้ดีก็พอแล้ว
>> >>>
>> >>>11. ปัจจัยที่สาม ที่อยู่อาศัย
>> >>>นอกจากเป้าหมายสุดท้ายที่เป็นเป้าหมายหลักที่นัดหมายบุคคลใน
>> >>>ครอบครัวไปพบและพักอยู่ร่วมกันในยามวิกฤติแล้ว หมายรวมถึง
>> >>>จุดนัดพบระหว่างทาง
>> >>>จุดที่ 1, 2, 3 หากพลาดนัดจุดที่ 1 กี่ชั่วโมง ไปพบจุดที่ 2, 3
>> >>>เป็นต้น เพื่อมิให้ต้องเสียเวลาในการเดินทางไกลมากนัก
>> >>>และเพื่อมิให้เป็นกังวลตลอดระยะเวลาการเดินทาง
>> >>>ซึ่งไม่ต้องถูกถ่วงเวลาด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดวินาศสันตะโร
>> >>>(ไฟฉาย/ไม้ขีด ก็ควรมีไว้ใช้ในยามจำเป็น)
>> >>> (ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 ไม่น่าถึงระดับวิกฤติถึงขนาดต้องอพยพ
>>โยกย้าย
>>
>> >>>เว้นแต่บางพื้นที่ ซึ่งเป็นแอ่งรับน้ำ หรือเส้นทางน้ำไหลผ่าน
>> >>>ก็คงจะจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายที่หลับนอนเป็นการชั่วคราว
>> >>> แต่ไม่นานนัก)
>> >>>
>> >>>12. ปัจจัยที่สี่ ยารักษาโรค นอกจากยาสามัญประจำบ้านพื้นฐาน
>> >>>และเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่จำเป็นแล้ว ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ
>> >>>ต้องเตรียมปริมาณยาให้มากพอสัก 1 เดือน
>> >>>
>> >>>13. ปัจจัยที่ห้า น้ำมันเติมยานพาหนะเพื่อการเดินทาง
>> >>>ต้องเติมเต็มถังไว้ทุกวันในช่วงที่มีความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง
>> >>>และควรมีถัง 20 ลิตร ไว้สำรองเติมน้ำมันเพิ่มสัก 1 – 2 ถัง
>>ก็น่าจะดี
>> >>>เพราะปั๊มน้ำมันต่างๆ จะขายน้ำมันหมด
>> >>>รถน้ำมันมาส่งไม่ทันความต้องการของประชาชน
>> >>>และสภาพการจราจรทุกสายในกรุงเทพฯ เข้าสภาวะจลาจล
>>รถเคลื่อนตัวช้ามากๆ
>> >>>
>> >>>14. จะอย่างไรก็ตาม นับแต่วันนี้เป็นต้นไป
>>เรามาฝึกฝนตน ลดความโลภ
>> >>>ความโกรธ ความหลงให้น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
>> >>>ฝึกทำความเข้าใจในสามัญลักษณะ หรือลักษณะสามัญตามธรรมชาติ คือ
>> >>>อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา หรือทุกสิ่งไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่
>> >>>แล้วก็แปรเปลี่ยน ในที่สุดก็สูญสลาย ทนอยู่ในสภาพเดิมโดยตลอดมิได้
>> >>>แท้จริงเป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้นปล่อยวางสิ่งต่างๆลงบ้างจะดีไหม
>> >>> เพิ่ม เมตตา มีความปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข
>> >>> เพิ่ม กรุณา มีความปรารถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์
>> >>> เพิ่ม มุทิตา มีความปรารถนาให้ผู้อื่นได้ดี /
>> >>>ยินดีที่ผู้อื่นได้ดีกว่า
>> >>> เพิ่ม อุเบกขา มีใจเป็นธรรมมากขึ้น
>> >>> เพิ่ม การกระทำความดีทุกรูปแบบ ทุกเวลา ทุกสถานที่
>> >>>เพื่อให้มีจิตวิญญาณที่ดี
>> >>> เพิ่ม ความกตัญญูกตเวทีต่อคุณพ่อคุณแม่ ครูบาอาจารย์
>> >>>ท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน
>> >>>
>>เพิ่ม ความมีศีล 5 ให้ได้หลายชั่วโมงในวัน
>> >>>และให้ได้นานวันมากกว่าเดิม
>> >>> เพิ่ม การสวดมนต์ / การทำสมาธิภาวนา การทำวิปัสสนาภาวนา
>> >>>และการทำเมตตาภาวนา (แผ่อุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น สัตว์อื่น)
>> >>> เพิ่ม หิริ โอตตัปปะ / ละอายที่จะทำชั่ว กลัวบาปทั้งหมด
>> >>>เป็นการให้คำแนะนำเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ แก่ท่าน
>> >>>
>> >>>ผู้อ่าน ท่านใดมีสิ่งที่จะแนะนำเพิ่ม
>> >>>ช่วยส่งข่าวมาให้ผู้เขียนด้วยครับ โดยส่งทาง E-Mail ที่
>> >>>mkrichti@ktb.co.th target=_blank>mkrichti@ktb.co.th , โทรสารที่ 0-2256-8320, 0-2423-0505
>> >>>สิ่งที่ว่ามาในข้อแนะนำ 13 ข้อนี้ ดร.กัญจีราฯ มิได้แนะนำ
>> >>>ผู้เขียนเป็นผู้แนะนำเอง ผิด – ถูก ผู้เขียน
>> >>>ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
>> >>>
>> >>>ดร.กัญจีราฯ แจ้งข่าวดีว่า ในปี 2552 ประเทศไทย
>> >>>จะเป็นมหาอำนาจในเอเชียอาคเนย์ หรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
>>
>> >>>และประเทศต่างๆ ทางตะวันออกของโลกจะย่างเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู
>> >>>(ประเทศต่างๆ ในทางตะวันตกของโลก
>> >>>ก็จะเข้าสู่ยุคถดถอยหรือยุคเสื่อมถอย และหมดสภาวะเป็นผู้นำของโลก)
>> >>>
>> >>>ดร.กัญจีราฯ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนช่วยกันสวดมนต์
>>ตามบทสวดแผ่เมตตา
>> >>>ของหลวงปู่ทวด นับแต่วันนี้ ไปถึงเดือนกรกฎาคม 2549 หากตั้งใจสวด
>> >>>ในช่วงเวลา 10.45 – 11.15 น. หรือ 22.45 – 23.15 น.
>>ทุกวันธรรมสวนะ
>> >>>หรือทุกวันพระจะเกิดคลื่น“พลังพิเศษ”
>> >>>ซึ่งจะเป็นคลื่นช่วยสลายพลังเลวร้าย และช่วยให้ผู้สวดและครอบครัว
>> >>>แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ ได้
>> >>>แต่ถ้านัดหมายรวมตัวกันสวดเป็นหมู่คณะได้
>>ยิ่งจะเกิดพลังพิเศษมากขึ้น
>> >>>เป็นคลื่นพลังพุทธานุภาพ
>> >>>และจิตตานุภาพช่วยขับไล่พลังร้ายให้อ่อนตัวลง
>> >>>ในช่วงเวลา 10.45 – 11.15 น. หรือ22.45 – 23.15 น.
>> >>>เป็นช่วงที่เหมาะแก่การสวดมากที่สุด
>>เพราะเป็นช่วงรอยต่อของมิติเวลา
>> >>>โดยการแผ่เมตตาตามบทสวดของหลวงปู่ทวด
>> >>>และทำสมาธิต่อจากนั้นสักเล็กน้อย
>> >>>เพื่อลดแรงอาฆาตของเจ้ากรรมนายเวรจากนรกภูมิ
>>และพญามารจากสวรรคตภูมิ
>> >>>(สวรรค์ชั้นสูง)
>> >>>
>> >>>อานุภาพการสวดฯ ต้องเปล่งเสียงดังให้หนักแน่น
>> >>>จะทำให้เกิดพลังพุทธานุภาพ
>> >>>และจิตตานุภาพมากขึ้นโดยเฉพาะถ้าผู้สวดเป็นบุคคลที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจิตใฝ่กุศลรักษาศีลมั่นคงจะก่อให้เกิดพลังรักษาชาติบ้านเมืองได้
>> >>>ช่วยให้สังคมมีความสงบ และมีสันติสุขได้
>> >>>แต่ทั้งนี้ผู้เขียนเชื่อว่าย่อมต้องมีผู้ไม่เชื่อถือว่ามีผลเช่นดังว่า
>> >>>อีกทั้งยังต่อต้านค่อนแคะในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางลับ และเปิดเผย
>> >>>เรียกว่าเป็นตัวฉุดรั้งและต่อต้าน
>> >>>ซึ่งทำให้ผู้ที่มุ่งหวังจะกระทำความดี
>> >>>เพื่อช่วยสังคมและประเทศชาติอ่อนแรง
>> >>>และไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้
>>ซึ่งก็น่าวิตกพอสมควร
>> >>>
>> >>>อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอสนับสนุนให้ท่านผู้อ่าน
>> >>>กรุณาหาเวลาชวนกันมาสวดแผ่เมตตาตามบทสวดดังต่อไปนี้
>> >>>
>> >>>ในเวลา 22.45 – 23.15 น.
>> >>>อย่างน้อยก็ช่วยให้เกิดการคุ้มครองแก่ผู้สวดและครอบครัว
>> >>>แต่ถ้าท่านผู้อ่านที่ได้รับ Mail เรื่องนี้
>> >>>ปัจจุบันมิได้ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างหรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือเป็นข้าราชการประจำ
>> >>>สามารถที่จะจัดสรรเวลา
>> >>>
>> >>>ในช่วง10.45 – 11.15 น. ได้อีก 1 ช่วงเวลา ก็ขอให้สวดเพิ่ม
>> >>>และทำสมาธิจิตในช่วงเวลาดังกล่าวอีก
>> >>>1 ช่วงเวลา ซึ่งผู้เขียนก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลกับท่านด้วย เพราะ
>>2
>> >>>ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ถือว่า เป็นช่วงรอยต่อของมิติเวลา
>> >>>เป็นช่วงที่มีพลังแรงมาก
>> >>>
>> >>>ท้ายที่สุดนี้ ขอกราบเรียนเชิญท่านผู้อ่านทุกท่านและครอบครัว
>>
>> >>>รวมทั้งญาติสนิทและมิตรสหาย ขอให้มาร่วมด้วยช่วยกัน
>> >>>ในการสวดโดยเปล่งเสียงดังว่า
>> >>>
>> >>>นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท-ธัสสะ (3 จบ)
>> >>>นะโม โพธิ สัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
>> >>>เประมัง ธัมมัง สังฆัง ( 3 – 11จบ)
>> >>>ประมัง ธัมมัง สังฆัง
>> >>>ปรมัง ธัมมัง สังฆัง
>> >>>เสสัง ธัมมัง สังฆัง
>> >>>กะริยานัง อัตโน โหนตุ
>> >>>(1จบ)
>> >>>สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
>> >>>อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
>> >>>จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด
>> >>>จากนั้นนั่งสมาธิสักครู่ เป็นอันเสร็จพิธี
>> >>>
>> >>>ด้วยความปรารถนาดี
>> >>>จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
>> >>>ประธานชมรมศาสนาและการกุศล
>> >>>
>> >>>หมายเหตุ: หากท่านใดต้องการรับข่าวสารชมรมศาสนาและการกุศล
>>บมจ.
>> >>>ธนาคารกรุงไทย
>> >>>ฟรีทางจดหมายอิเล็คโทรนิค E-Mail
>> >>>ซึ่งท่านจะได้รับข่าวสารก่อนการจัดทำเป็นCD แจกฟรี
>> >>>
>> >>>โปรดแจ้งมาที่ E-Mail:mkrichti@ktb.co.th target=_blank>mkrichti@ktb.co.th หรือ โทร.0-2208-7600,
>> >>>0-2208-7601
>> >>>โทรสาร.0-2256-8320 หรือ
>> >>



***********จากจขบ.***********
เรื่องเหล่านี้อยู่ในวิจารณญาณของผู้อ่านเองว่าจะเชื่อหรือไม่ จขบ.ได้มาจากforwarde mailจากเพื่อนของจขบ. จะเป็นจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ หรืออาจจะเป็นผู้หวังร้ายหรือชอบป่วนเมืองก็เป็นได้ หากคิดอีกด้านเค้าอาจจะหวังดีด้วยจริงๆ อ้อ!บทสวดมนต์นั้นจขบ.ก็สวดอยู่ทุกคืนมาเป็นสิบปีแล้ว(เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทวดและหลวงปู่ดู่)ก่อนที่จะได้รับmailนี้อีก แล้วแต่วิจารณญาณแล้วกันเนอะ




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2548
0 comments
Last Update : 10 ตุลาคม 2548 10:53:11 น.
Counter : 528 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


LE BALLON
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add LE BALLON's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.