ปอกเปลือกเรื่องเที่ยว ตอนที่ 16 : เคลียร์ทุกคำถามคาใจ «ไปฝรั่งเศสพักโรงแรมไหนดี?»
คำถามเกี่ยวกับโรงแรมที่พักเป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ท่านผู้อ่านสอบถามกันเข้ามาเยอะมากผ่านทาง Inbox ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์แบบนี้ เนสเชื่อว่าหลายท่านคงกำลังมองหาที่พักในกรุงปารีสหรือเมืองอื่นๆของประเทศฝรั่งเศสกันอยู่ ในบทความนี้ เนสจะอธิบายถึงประเภทของโรงแรมที่พัก สถานที่ตั้ง ตลอดจนข้อดีข้อเสียอย่างละเอียดค่ะ
โดยภาพรวมโรงแรมที่พักในประเทศฝรั่งเศสแบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
1. กลุ่มโรงแรมในเครือต่างๆ (Hotel chain) เช่น
- เครือ AccorHotels สัญชาติฝรั่งเศส : Ibis, Mercure, Adagio, Adagio Access, Pullman, Novotel, Sofitel เป็นต้น
- เครือ Marriott สัญชาติอเมริกัน : Marriott, Renaissance, Courtyard, JW Marriott, AC Hotel เป็นต้น
- เครือ InterContinental HotelsGroup (IHG) สัญชาติอังกฤษ : Holiday Inn, Holiday Inn Express, InterContinental, Crowne Plaza, Hotel Indigo เป็นต้น
- เครือ The Ascott Limited สัญชาติสิงคโปร์ : Citadines ApartHotels
- เครือ Appartcity : Appartcity
กลุ่มโรงแรม Hotel chain นี้มีมาตรฐานที่ดีในเรื่องการออกแบบห้องพักการรักษาความปลอดภัย และความสะอาดภายในห้องพักรวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่นผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดเท้า ฯลฯ รวมค่า Wifi ไปกับราคาห้องแล้วแน่นอนมีพนักงานต้อนรับคอยให้บริการด้านล่าง 24 ชั่วโมง พวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษคล่องมี Service Mind และได้รับการอบรมในเรื่องการให้ข้อมูลต่างๆแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ หากครอบครัวใดที่นิยมการซื้อวัตถุดิบสดมาทำทานกันเองเนสแนะนำให้พักโรงแรม Adagio, Adagio Access, Citadines และ Appartcity เพราะโรงแรมเหล่านี้เป็นลักษณะ ApartHotels หรือเรียกอีกอย่างว่า Serviced Apartment คือมีมุมครัว เตาไฟ ตู้เย็น ไมโครเวฟ อ่างล้างชามเครื่องล้างชาม ตลอดจนอุปกรณ์การทำอาหารครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกะทะ ตะหลิว หม้อ มีดเขียง แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม ฯลฯ ห้องใหญ่ มีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ 2-6 คนอยู่สบายเหมือนบ้าน
ยกเว้นเพียงโรงแรม Appartcity บางแห่งที่ไม่มีพนักงานต้อนรับ 24 ชั่วโมง หากท่านต้องการเช็คอิน/เช็คเอ้าท์นอกเหนือเวลาทำการ ท่านจะต้องรับ/คืนกุญแจจากเครื่องอัตโนมัติ หรือหากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ ท่านก็ต้องรอพบตามเวลาทำการเท่านั้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกได้ค่ะ อีกทั้งหากเราพักระยะยาว เมื่อเช็คเอ้าท์แล้วเรายังต้องเสียค่าบริการทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่อีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้จุดเด่นของโรงแรม Hotel chain คือ ทำเลที่ตั้งเพราะมักอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ สถานีรถไฟ สนามบิน และสถานีเมโทรต่างๆทำให้สะดวกในการเดินทาง ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องราคานั้นก็แตกต่างกันไปตาม Brand และทำเลที่ตั้ง หากเป็นห้องเดี่ยวพัก 2 คน และจองล่วงหน้าประมาณ 2 เดือนที่โรงแรม Ibis, Mercure หรือ Holiday Inn ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60-100 ยูโร/คืน
โดยความคิดเห็นส่วนตัว หากท่านมาเที่ยวกรุงปารีสหรือเมืองใหญ่อื่นๆในฝรั่งเศสเพียงระยะสั้น เดินทางโดยเครื่องบินหรือรถไฟเป็นหลัก ไม่ได้เช่ารถขับเอง เนสแนะนำให้พักโรงแรม Hotel chain ต่างๆ จะสะดวกและสบายใจในระบบที่เป็นสากลค่ะ
2. โรงแรมท้องถิ่น (Independent Hotels) มีตั้งแต่โรงแรมขนาดใหญ่จนไปถึงโรงแรมห้องแถวเล็กๆ ดำเนินกิจการโดยคนฝรั่งเศสเอง
โรงแรมประเภทนี้มีเยอะมากเช่นกันทั้งในกรุงปารีสและเมืองต่างจังหวัด ซึ่งแน่นอนว่าท่านอาจต้องลุ้นกับสภาพห้อง ความสะอาด และมาตรฐานการต้อนรับลูกค้าที่ยังคงเป็นระบบ «บ้านๆ»
แน่นอนว่าปัญหาแรกที่พบ คือเมื่อเราจองห้องพักจากในอินเตอร์เน็ต รูปมักสวยงาม แต่เมื่อเจอสภาพห้องของจริงเข้าอาจผิดหวังได้
ปัญหาที่สองคือเรื่องความสะอาด เนื่องจากวัฒนธรรมของคนฝรั่งเศสเองนั้น ตามพื้นบ้าน/พื้นโรงแรมจะปูพรม ดังนั้นแม่บ้านส่วนใหญ่มักใช้เพียง «เครื่องดูดฝุ่น» ทำความสะอาดพื้น ถึงแม้จะเป็นพื้นกระเบื้องในห้องน้ำก็ตาม เขาไม่ได้มีวัฒนธรรมที่จะใช้น้ำถูบ้านอย่างคนไทย ดังนั้น เราไม่อาจทราบได้เลยว่าพื้นห้องจะสะอาดมากน้อยเพียงใด
ถัดมาคือเรื่องWifi ถึงแม้ในเว็บไซต์ที่ท่านจองห้องพักจะระบุว่ามีบริการ Wifi แต่เมื่อท่านเดินทางมาเช็คอินที่โรงแรมท้องถิ่นบางแห่งแล้ว พนักงานต้อนรับกลับบอกท่านว่า หากต้องการใช้ Wifi ให้จ่ายเงินเพิ่ม
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้หลายท่านอาจคิดว่า ทำไมเนสกล่าวถึงแต่ข้อเสียของโรงแรมท้องถิ่น ซึ่งไม่จริงแต่อย่างใดค่ะ โรงแรมท้องถิ่นเองเขาก็มีข้อดีมากมายเช่นเดียวกัน ดังนี้ค่ะ
หากท่านวางแผนที่จะเช่ารถขับเองออกไปเที่ยวนอกเมือง กรณีนี้เนสแนะนำให้พักโรงแรมท้องถิ่นที่อยู่ตามชนบท ซึ่งเป็นลักษณะของ Château (ปราสาท) กลางไร่องุ่นหรือไร่ดอกไม้ หรือ Chambre dhôtes (เจ้าของบ้านแบ่งห้องว่างให้เช่าพร้อมบริการอาหารเช้า) ตามหมู่บ้านเล็กๆ เพราะท่านจะได้สัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวฝรั่งเศสจริงๆ
3. Airbnb เจ้าของห้องมีอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจึงปล่อยห้องให้เช่าเป็นรายวัน / รายสัปดาห์ / รายเดือน หรืออีกกรณีหนึ่งคือเจ้าของห้องอยู่ในอพาร์ตเม้นขนาดใหญ่ มีหลายห้องพักภายในนั้น จึงปล่อยห้องว่างให้เช่าเพื่อจุนเจือค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่ต้องแชร์ครัวและห้องน้ำร่วมกัน
กรณี Airbnb แน่นอนว่าห้องพักส่วนใหญ่จะมีครัวและอุปกรณ์ทำอาหารครบถ้วน แต่ข้อเสียที่คาดไม่ถึงคือ «เรื่องความสะอาด» ถึงแม้จะมีเครื่องนอนหมอนมุ้งผ้าเช็ดตัว จานชาม ฯลฯ ครบถ้วน แต่อาจมีฝุ่น เศษผม ขนสัตว์ ฯลฯ ปะปนอยู่ ทำให้เราซึ่งเป็นผู้เช่ารู้สึกไม่สบายใจ เพราะต้องเสียเวลาและเหนื่อยในการล้างใหม่ทั้งหมด
อีกทั้งคนฝรั่งเศสเองที่ปล่อยห้องให้เช่ากับ Airbnb บางคนก็อาศัยในอพาร์ตเม้นท์นั้นจริงๆ และเมื่อมีผู้เช่าติดต่อมา พวกเขาก็ย้ายออกไปอยู่บ้านเพื่อนชั่วคราวเพื่อปล่อยห้องนั้นให้เราเช่า และเมื่อเราเช็คเอ้าท์ เขาก็กลับเข้ามาอยู่ในห้องเหมือนเดิม ดังนั้นสภาพภายในห้องก็จะมีแต่สิ่งของเครื่องใช้ของเขาเต็มไปหมด ทำให้ไม่น่าอยู่สักเท่าไหร่
จากประสบการณ์กว่า13 ปีที่เนสเคยลองใช้บริการโรงแรมที่พักในประเทศฝรั่งเศสมาแล้วทุกแบบ สุดท้ายก็ได้ « ตกผลึก » ความคิดในการเลือกที่พัก และขออนุญาตนำประสบการณ์มาแบ่งปันแก่ท่านผู้อ่าน เผื่ออาจเป็นประโยชน์ในการพิจารณาของท่านค่ะ
สร้างสรรค์บทความโดย...เนส - เจ้าของเพจ facebook : ปอกเปลือกฝรั่งเศส nesinfrance - Instagram : nesinfrance - //www.nesinfrance.wordpress.com
เรามาร่วมปอกเปลือกฝรั่งลูกนี้กันนะคะ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2560 21:15:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 955 Pageviews. |
|
|