เก็บตกจาก EP.2 ที่เปิดเป็นซองจดหมายส่งตรงถึงน้องๆวัยมัธยมที่พี่ก็ผ่านมาอย่างโชกโชน 

มาถึงน้องๆมหาวิทยาลัยกันบ้าง

น้องๆที่อยู่มหาวิทยาลัย คงกำลังรู้สึกถึงการเรียนมหาโหด การอ่านหนังสือสอบโต้รุ่ง การแข่งขันทั้งกับเพื่อนๆในคณะ และกับตัวเองเพื่อให้สู้กับเกรดที่ตัดแบบระฆังคว่ำ

ตอนปี1 หลายคนอาจจะปรับตัวไม่ทัน เกรดตกไปจากมัธยมไปเยอะก็มี แต่พี่ว่าหากน้องสามารถร่วมกิจกรรมได้พร้อมกับจัดสรรเวลาในการอ่านหนังสือได้ พี่ว่าน้องทำไปเลย กิจกรรมหลายๆอย่างจะเป็นความทรงจำและประสบการณ์ดีๆในการฝึกทำงานร่วมกัน แต่ต้องอย่ามาทำให้การเรียนดรอปนะ

พอน้องๆอยู่ปี 4 จะมีเริ่มหางานทำกันแล้ว หลายคนรีบตอบตกลงงานเพื่ออยากให้มีที่ทำงานเร็วๆ และมีอีกหลายคนไม่น้อยที่เริ่มกดดันตัวเองจากการเห็นเพื่อนๆได้รับเข้าทำงานตามบริษัทต่างๆ

และสิ่งที่น้องๆอาจไม่ทันระวังคือ การเลือกบริษัทที่ดีนั้น หากน้องเลือกด้วยความอยากมีที่ทำงานเร็วๆ น้องอาจจะต้องผิดหวังหากได้ไปทำงานจริงๆ 

พี่หวังว่าประสบการณ์จริงที่พี่จะเล่าต่อไปนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อน้องๆที่ใฝ่ฝันอยากมีชีวิตการงานที่ดีเลือกบริษัทได้ถูก แต่อย่าเหมารวมว่าทุกที่จะเป็นเหมือนกันหมด เมื่อน้องๆเติบโตขึ้น น้องๆจะเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างเจนต่อโลกมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดที่วัดว่าเราจะอยู่ในองค์กรนี้ได้หรือไม่นั่นคือ “วัฒนธรรมองค์กร” ชื่อมันดูทางการเข้าใจยากใช่ไหม ถ้าพูดให้ง่ายก็คือนิสัยองค์กรนั่นแหละซึ่งตัวนี้นะหลายๆคนมองข้ามไปเลย แต่จริงๆแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในองค์กรณ์ก็จะเป็นไปตามเจ้านิสัยขององค์กรนี่แหละ

อะไรที่เป็นสิทธิ์ของเราก็ควรเป็นสิทธิ์ของเรา ตัวชี้วัดตัวนึงที่ทุกคนในวัยทำงานต้องหัวจะปวดกับมันก็คือ “วันลา” ไม่ว่าจะลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อน ลาไปงานศพญาติ ลาอุปสมบท ลาคลอด ว่าง่ายๆก็เป็นสวัสดิการที่พนักงานทุกคนพึงได้รับตามสัญญากับบริษัท แล้วเจ้า”นิสัยขององค์กร” มันสำคัญกับวันลาซักเท่าไหนกันเชียว

สำคัญมากเลยล่ะ เพราะนิสัยขององค์กรนั้นมันจะเป็นตัวบอกว่าเราลาได้ง่าย หรือลาได้ยาก หลายคนอาจจะเจองานด่วนงานเร่ง โทรตามในวันที่เราใช้สิทธิ์วันลา ซึ่งก็บอกได้เลยว่าหากนิสัยองค์กรนั้นมองเป็นเรื่องปกติ น้องๆก็ไม่สามารถมีปากมีเสียงได้ หรือถึงมี น้องก็จะโดนเป็นเป้าว่าแตกแยก เป็นแกะดำ แล้วน้องจะยิ่งใช้ชีวิตในการทำยากมากกว่าเดิมไปอีก

แล้วน้องๆจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าแต่ละองค์กรมีนิสัยอย่างไร อันดับแรกต้องดูก่อนว่าบริษัทนั้นๆเป็นสัญชาติอะไร ไทยแท้จริงๆไหม ผู้บริหารส่วนมากเป็นสัญชาติอะไร เพราะสัญชาติก็สามารถบ่งบอกนิสัยการทำงานได้ต่างกัน เช่นหากน้องได้ทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่น น้องก็ต้องเป๊ะในทุกขั้นตอน บางที่อาจจะมีการหากนายญี่ปุ่นยังไม่กลับเราก็ต้องห้ามกลับก่อนนาย เป็นบางที่นะ พี่แค่ยกตัวอย่างบางเคสที่พี่เคยเจอ

หรือบางคนทำงานกับนายฝรั่ง ก็จะเงินดีนะ เขาเปย์ไม่อั้น แต่ก็ต้องทุ่มเทกับงาน ต้องอัพเดทงานส่งเป็น Report ตลอด และต้องทนแรงกดดันให้ได้ ส่วนถ้าทำงานกับไทยแท้ ส่วนมากจะพูดว่าทำงานแบบ “ครอบครัว” อยู่กันแบบพี่น้อง กาสะลองกับซ้องปีป ที่จริงมันก็อาจจะมองว่าแล้วแต่ครอบครัวถ้าครอบครัวดีก็จะทำให้ทุกคนดี แต่ถ้าครอบครัวที่สนับสนุนกับแค่คนใกล้ชิด หรือมีเส้นสาย เราที่เป็นเด็กตัวเล็กๆตาดำๆเปรียบเสมือนเป็นเพียงมดงานรับใช้ ไหนจะเล่นพรรคเล่นพวก การเมืองในที่ทำงาน ทุกอย่างล้วนเป็นผลมาจากวัฒนธรรมองค์กร

พี่ไปเจอในพวกเวปไซต์รับสมัครงานอย่าง Job top gun หรือ Job DB เริ่มมีการให้รีวิวบริษัทกันอย่างเปิดเผยว่า ลาง่ายไหม โบนัสเท่าไหร่ เงินขึ้นกี่ % น้องๆก็สามารถเข้าไปดูนิสัยขององค์กรนั้นๆได้เลย

ลากยาวเลย EP. นี้ วันหน้าพี่จะมองวิธีเคล็ดลับการอัพเงินเดือนขึ้น ใครอยากอ่านต่อ กดติดตามบล็อกของพี่แน็ตตี้ได้เลยน้า  

NattyMazda

Create Date : 14 กรกฎาคม 2565		1 comments
Last Update : 14 กรกฎาคม 2565 11:33:46 น.
Counter : 426 Pageviews.
Share Tweet