แผนรักกระชากใจเธอ ตอนที่ 9
หลิงหลิง...พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ทำแบบนี้อีก แอนโทนี่ดุคนตรงหน้าเสียงเข้มในขณะที่เจ้าตัวนั้นดูจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดด้วยยังคงทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ขณะลากเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้าม
คะ พี่อี้เหมินเคยบอก
แต่ก็ยังทำ
ทีโซเฟียไม่เห็นพี่อี้เหมินจะว่า หญิงสาวกล่าวอ้างถึงพี่สะใภ้ชาวฝรั่งเศสของตน แอนโทนี่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจกับอาการเถียงคำไม่ตกฟากของอีกฝ่าย
โซเฟียเป็นคนฝรั่งเศส วัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออกไม่เหมือน จะต้อง... แอนโทนี่พูดไม่ทันจบก็โดนเฉินอี้หลิงพูดดักคอขึ้นมาซะก่อน
จะต้องให้พี่บอกอีกสักกี่ทีห๊ะ ว่ามันไม่สมควร เราโตเป็นสาวแล้วนะหลิงหลิง จะทำอะไรก็ระมัดระวังตัวบ้าง...
หลิงหลิง!
เฮ้อ! พี่อี้เหมินพูดแบบเดิมเป๊ะเลย ไม่เบื่อบ้างหรือคะ
แล้วเราล่ะ เมื่อไรจะจำสักที
พี่อี้เหมินอ่ะ หลิงหลิงอุตส่าห์มาเซอร์ไพรสต์ถึงนี่นะคะ เอาแต่บ่นอยู่นั้นล่ะ หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด เฉินอี้เหมินได้แต่โคลงหัวให้กับสาวน้อยไม่รู้จักโตของตนเอง ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการ
นี่ก็อีกเรื่อง หนีมาเมืองไทยทำไม รู้ไหมว่าทั้งพ่อทั้งปู่เราเป็นห่วงขนาดไหน แล้วมาถึงทำไมไม่ติดต่อมาหาพี่ห๊ะ
โอ้ย ! ค่อยๆพูดทีละเรื่องก็ได้คะคุณชายอี้เหมิน เอาแต่บ่น บ่น บ่นแบบนี้หลิงหลิงไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี...โอเค โอเค พูดแล้วคะ ตาคมเข้มที่ตวัดมองมาทำให้เฉินอี้หลิงรีบพูดถึงเหตุผลในการมาเมืองไทยครั้งนี้ของตนทันที
ก็คุณปู่จะบังคับให้หลิงหลิงเข้าไปช่วยงานพี่ใหญ่ที่บริษัท หลิงหลิงไม่ชอบพี่อี้เหมินก็รู้ หลิงหลิงจบแฟชั่นดีไซน์มานะคะ ไม่รู้เรื่องหุ้นเรื่องบริหารอะไรหรอก
แล้วหนีมาทำไม ทำไมไม่บอกคุณปู่หมั่นอวี้ไปดีๆล่ะว่าไม่ชอบ
บอกแล้ว แต่คุณปู่ไม่ฟัง
ก็เลยเขียนจดหมายบอกว่าอยากทำงานโรงแรมมากกว่า จะมาช่วยงานพี่ที่เมืองไทย
แหม พี่อี้เหมินก็ เฉินอี้หลิงรีบเข้าไปกอดแขนคนตรงหน้ามากอดไว้อย่างออดอ้อนทันที
ถ้าไม่อ้างแบบนี้ คุณปู่ก็ต้องบังคับหลิงหลิงอีก
แล้วทำไมมาถึงแล้วไม่มาหาพี่ รู้ไหมว่าคุณปู่โทรมาหา พอรู้ว่าพี่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ห่วงใหญ่
พอดีเกิดแอกซิเดนท์นิดหน่อยน่ะคะ แล้วหลิงหลิงก็เพิ่งรู้ว่าอินจะทำร้าน...พี่อี้เหมิน ช่วยหลิงหลิงหน่อยนะ หลิงหลิงอยากทำร้านกับอิน แอนโทนี่ได้แต่พยักหน้ารับอย่างระอาใจ หากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะให้ความช่วยเหลือเหมือนเช่นทุกครั้ง เฉินอี้หลิงกระโดดไปมาอย่างยินดี กิริยาร่าเริงเป็นเด็กๆทำให้แอนโทนี่อดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ ชายหนุ่มถูกหญิงสาวลากไปยังด้านหน้าโรงแรมทันทีเพื่อไปตามหาจิดาภาด้วยกัน แอนโทนี่อดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อได้ฟังคำเรียกขานที่บ่งบอกถึงความสนิทสนมของอีกฝ่าย ชายหนุ่มรีบจับคนตรงหน้ามาซักถามทันทีว่าไปรู้จักกับจิดาภาได้อย่างไร คำบอกเล่าที่เต็มไปด้วยความชื่นชม ทำให้แอนโทนี่อดยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจไม่ได้ ก่อนจะยอมเดินตามแรงจับจูงของอีกฝ่ายแต่โดยดีด้วยความเต็มใจเป็นที่สุด
เอ๊ะ! นั่นพี่จีนคุยอยู่กับใครเหรอคะพี่อี้เหมิน เฉินอี้หลิงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ แอนโทนี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ความหวาดระแวงที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจประทุขึ้นมาทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า
จีนนี่ คำเรียกขานที่เพื่อนต่างชาติใช้แทนตัวมากกว่าชื่อจริง ทำให้จิดาภาที่กำลังยืนทำใจกับภาพที่เห็นเมื่อครู่ หลุดออกมาจากภวังค์ส่วนตัวและหันหน้าไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเผยยิ้มออกมาอย่างยินดีเมื่อเห็นบุรุษร่างสูง ผมสีทองตรงหน้า
นิค คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง มาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไรคะ แล้ว แล้วเอมมี่ละคะมาด้วยไหม จิดาภาเอ่ยถามเป็นชุดทันที หนุ่มต่างชาติได้แต่ยิ้มอย่างนึกขันกับกิริยาของสาวน้อยตรงหน้าที่ไม่ว่าจะกี่ปีก็ไม่เคยแปรเปลี่ยน ไม่สิจะเรียกว่าสาวน้อยอีกก็คงจะไม่ได้ในเมื่อเวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว
คุณเล่นถามเป็นชุดแบบนี้จะให้ผมตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะ
ก็ตอบทุกคำถามแบบที่ฉันถามคุณไงคะ จิดาภาเอ่ยสวนอย่างไม่ยอมแพ้ หนุ่มใหญ่ต่างชาติได้แต่หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี นึกดีใจไม่น้อยที่ได้เจอเพื่อนสนิทของภรรยา อดีตหญิงสาวที่ตนเคยหลงรักโดยไม่คาดฝัน
โอเค โอเค กระผม นายนิโคลัส แรนเดลมาติดต่อธุรกิจที่เมืองไทยครับ ส่วนคุณเอมิลี่ภรรยาที่เคาพไม่ได้มาด้วย เพราะ ...
เพราะอะไรคะ นิค อย่ามัวแต่ลีลาซิ จิดาภาเขย่าแขนคนตรงหน้าด้วยความใจร้อน นิโคลัสเผยยิ้มอย่างมีเลสนัย ก่อนจะก้มหน้าลงป้องปากพูดข้างใบหูอีกฝ่ายเสียงแผ่ว
ก็เพราะผมกลัวว่าจะกระทบกระเทือนถึงลูกในท้องนะซิ เอมิลี่ท้องได้สองเดือนแล้วครับผม
โอ้ว! มายก๊อด จริงเหรอคะนิค ทำไมไม่โทรมาบอกข่าวฉันกับวินดี้บ้างเลย จิดาภากุมมือคนตรงหน้ามาเขย่าแรงๆอย่างยินดี หนุ่มต่างชาติผมทองได้แต่หัวเราะร่วนอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยเฉลยในประโยคถัดไป
เราเพิ่งรู้เมื่อสองวันก่อนนี่เอง เธอแพ้มากเลยครับจีนนี่ ผมต้องพาไปฝากมัมให้ช่วยดูแล ถ้าไม่เพราะงานนี้สำคัญมาก ผมคงไม่มาด้วยตัวเองหรอก เดี่ยวเย็นนี้ผมก็กลับแล้วครับ
จิดาภาได้แต่ยิ้มไม่หุบด้วยอิ่มเอมใจกับข่าวดีตรงหน้า แอนโทนี่ที่เฝ้าดูการกระทำของหญิงสาวมาพักใหญ่กำมือตนเองแน่นอย่างระงับอารมณ์ ภาพที่เห็นทำให้คาดเดาถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้ไม่ยากว่าต้องสนิทสนมกันพอสมควร ภายในใจรู้สึกขุ่นขวางไม่น้อยที่เห็นหญิงสาวหัวเราะและพูดคุยกับหนุ่มชาวต่างชาติอย่างสนุกสนาน ชายหนุ่มก้าวเท้าเดินตรงไปยังคนทั้งคู่ทันทีเมื่อเห็นว่าการสนทนาไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง
เฉินอี้หลิงได้แต่มองอาการเดินตัวปลิวของชายหนุ่มอย่างนึกแปลกใจ หากแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากด้วยคิดว่าชายหนุ่มคงอยากเข้าไปร่วมวงสนทนากับเพื่อนร่วมงานเสียมากกว่า หญิงสาวรีบเดินตามแอนโทนี่ไปอย่างเร่งรีบหวังจะให้ทันกัน ด้วยอยากรู้ว่าชายต่างชาติหน้าตาดีคนนั้นเป็นใครกัน ... ต้องเอาไปบอกอิน หญิงสาวนึกในใจอย่างหมายมาดขณะส่งยิ้มนำทางไปให้ชายต่างชาติที่มองการก้าวเข้ามาของตนและแอนโทนี่อย่างประหลาดใจ
พี่แอนดี้ จิดาภาเอ่ยทักผู้มาใหม่เสียงแผ่ว ภายในใจอดหวนนึกไปถึงภาพติดตาเมื่อครู่ไม่ได้ ชายหนุ่มจูบกับเฉินอี้หลิงเพียงแค่พบหน้า เขาทำกับหญิงสาวคนนั้นเหมือนที่ทำกับเธอเมื่อคืน
พี่มาตามไปทานข้าว แอนโทนี่กล่าวอ้างถึงจุดประสงค์ในการมา ตาคมจับจ้องไปยังบุรุษตรงหน้าอย่างไม่วางตาเช่นเดียวกันกับอีกฝ่ายที่ประสานสายตากลับมาอย่างไม่กลัวเกรง
ใครหรือครับ...ดาร์ลิง นิโคลัสเอ่ยถามหญิงสาวที่ดูจะเงียบไปทันทีหลังจากที่ชายหนุ่มตรงหน้าปรากฎตัว คำเรียกขานที่เปลี่ยนไปไม่ได้ทำให้จิดาภาสะดุดใจ ด้วยอีกฝ่ายก็เคยเรียกเธออยู่อย่างนี้บ่อยๆ สมัยที่เขามาตามตื้อหรือแม้กระทั้งเมื่อคบกับเอมิลี่ ลูกครึ่งสาวไทยอังกฤษเพื่อนสนิทแล้วชายหนุ่มก็ยังคงเรียกอยู่แบบนี้เป็นครั้งคราวเวลาที่ต้องการแหย่คนรัก เพราะมัวแต่นึกเสียใจกับภาพที่เห็นเมื่อเข้าทำให้หญิงสาวมองข้ามรายละเอียดอย่างที่ควรจะเป็นและใส่ใจน้ำเสียงของคนรอบข้างน้อยลง
สวัสดีคะ ฉันเฉินอี้หลิง เรียกว่าลิลลี่ก็ได้ ส่วนนี่แอนโทนี่ จาง เป็นเจ้าของโรงแรมนี้แล้วก็เป็นนายจ้างพี่จีนกับฉันด้วยคะ...ว่าแต่คุณเป็นอะไรกับพี่จีนหรือคะ เฉินอี้หลิงแนะนำตัวเสียงใส ไม่ได้สนใจอาการที่เหมือนจะนิ่งไปอย่างลองเชิงของสองหนุ่มในที่นี้
นิโคลัสจับถึงความรู้สึกที่ไม่ปกติของทั้งเพื่อนสนิทภรรยาและชายหนุ่มตรงหน้าได้ หากแต่ก็ไม่อาจซักถามหญิงสาวได้อย่างที่ใจคิดเนื่องด้วยสัญลักษณ์จากผุ้ติดตามที่ยืนรออยู่ไม่ห่าง บ่งบอกว่าตอนนี้ใกล้ถึงเวลานัดหมายเซ็นสัญญาแล้ว
ผมเป็นเพื่อนเธอครับ ชายหนุ่มบอกคนตรงหน้าเสียงอ่อนโยน ก่อนจะยื่นมือไปเชคแฮนด์กับแอนโทนี่
นิโคลัส แรนเดล ยินดีที่ได้รู้จักครับ
...แอนโทนี่ นาคะรักษ์จาง ไม่ยินดีที่จะรู้จักเลยสักนิด... แอนโทนี่คิดในใจหากแต่กิริยาที่โต้ตอบกลับไปกลับดูนุ่มนวลเฉกเช่นเช่นคนเจนสังคม จิดาภาค่อยตั้งสติขึ้นได้ในตอนนี้หญิงสาวแสร้งฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้ใครจับความรู้สึกได้ ทุกกิริยาที่หญิงสาวกระทำรวมไปถึงแววตาของชายหนุ่มตรงหน้าถูกนิโคลัสเฝ้าสังเกตอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มลอบยิ้มในใจอย่างหมายมาดเมื่อจับถึงความรูสึกบ้างอย่างของจิดาภาได้
ดาร์ลิง...ผมต้องไปธุระต่อแล้วล่ะ เรื่องที่เราคุยค้างเอาไว้เดี่ยวคืนนี้จะโทรมาเฉลยนะครับ นิโคลัสแกล้งอ้อนเสียงนุ่มเหมือนเมื่อตอนยังเฝ้าตามตื้อหญิงสาวอยู่ จิดาภาอดขันไม่ได้กับท่าทางคาสโนวาของอีกฝ่าย ใบหน้าหวานเผยยิ้มออกมาอย่างหมั่นไส้ ไม่ได้รู้เลยสักนิดว่ากิริยาของตนกำลังทำให้ชายหนุ่มอีกคนเข้าใจผิดไปกันใหญ่
ถ้าลืมล่ะ น่าดูนะนิค หญิงสาวแกล้งคาดโทษ เมื่อครู่เธอและนิโคลัสกำลังคุยกันค้างกันอยู่ถึงเรื่องที่ว่าเอมิลีแพ้ท้องแล้วมีอาการเป็นอย่างไร หญิงสาวโบกมือลาอีกฝ่ายก่อนจะหันมาประจันหน้ากับแอนโทนี่อย่างไม่เต็มสายตานัก
...ฮึ อาลัยกันเหลือเกินนะ ...แอนโทนี่คิดในใจอย่างนึกขวาง รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกกับคำเรียกขานที่คนตรงหน้าดูจะไม่ห้ามปรามเลยสักนิด เพื่อนเหรอ เพื่อนที่ไหนเรียกเพื่อนตัวเองว่าดาร์ลิงบ้าง
พี่มีธุระต้องไปทำต่อ เดี่ยวจะให้คุณมีนพาจีนกับหลิงหลิงไปทานอาหารกลางวันก่อนก็แล้วกัน ถ้าเสร็จแล้วพี่จะตามไปทีหลัง พูดเสร์จก็หันหลังเดินจากไปทันทีทิ้งให้จิดาภาอยู่กับเฉินอี้หลิงเพียงลำพัง เฉินอี้หลิงหน้ามุ่ยมองแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์
ทุกทีเลย ทำงานทีไรล่ะลืมเรื่องอื่นทุกที หญิงสาวบ่นอย่างนึกฉิว จิดาภาได้แต่ฝืนยิ้มอย่างแกนๆ ภายในใจกำลังน้อยใจอย่างหนักกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแอนโทนี่หลังจากที่เฉินอี้หลิงปรากฎตัว
ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นเพื่อนพี่จีนจริงๆหรือคะ ทำไมเค้าถึงเรียกพี่จีนว่าดาร์ลิงล่ะ พอบ่นเสร็จเฉินอี้หลิงก็รีบเอ่ยถามถึงสิ่งที่ตนข้องใจทันที ไม่ได้หรอกอย่างน้อยเธอต้องทดแทนบุญคุณพี่ชายเพื่อนสนิทบ้างให้สมกับสุภาษิตไทยที่ว่า...ว่าอะไรนะ อ้อ! อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น (เฮ้อ ... คนละเรื่องแล้วหลิงหลิงเอ้ย!)
อ้อ นิคเค้าเรียกอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วจ๊ะ ความจริงแล้วนิคเป็นสามีของเพื่อนสนิทพี่เอง เค้าชอบเรียกพี่ว่าดาร์ลิงแหย่แฟนเค้าน่ะจ๊ะ
แปลกจัง แฟนเค้าไม่ได้มาสักหน่อยจะเรียกพี่จีนว่าดาร์ลิงอีกทำไม คำพูดของเฉินอี้หลิงทำให้จิดาภาฉุกใจคิดขึ้นมา หรือว่านิโคลัสจะจำได้ว่าเธอรู้สึกพิเศษกับแอนโทนี่เลยแกล้งพูดยั่ว
คงชินปากน่ะจ๊ะ จิดาภาบอกปัดไปก่อน หญิงสาวแสร้งยิ้มก่อนจะเปลี่นเรื่องคุยชักจูงคนตรงหน้าไปหาอะไรทานด้วยกัน มีนาเลขานุการของแอนโทนี่มาถึงพอดีในตอนนี้ หญิงสาวเดินนำคนทั้งสองไปยังห้องอาหารที่แอนโทนี่สั่งความไว้ ก่อนจะปลีกตัวจากไปอย่างรู้หน้าที่เมื่อพาทั้งสองสาวมาถึงยังจุดหมาย
ถ้าจะบอกว่าเมื่อวานคือวันที่ดีที่สุดในชีวิต วันนี้ก็คงจะเป็นวันที่แย่ที่สุดด้วยเช่นกัน จิดาภาได้แต่ฝืนยิ้มมองภาพเฉินอี้หลิงตักอาหารให้แอนโทนี่อย่างแสลงใจ นึกอิจฉาอีกฝ่ายไม่น้อยที่สามารถทำทุกอย่างได้ตามใจต้องการโดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องอื่นใดอีก หญิงสาวเขี่ยอาหารในจานอย่างเบื่อๆในใจรู้สึกจุกจนไม่อยากจะทานอะไรเข้าไปอีก
กับข้าวไม่อร่อยหรือครับหรือว่าอยากทานอย่างอื่นมากกว่า แอนโทนี่จงใจพูดคำว่าอย่างอื่นเน้นหนัก หากแต่จิดาภากลับไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
เปล่าหรอกคะ จีนคงอิ่มชาที่คุณมีนให้ทานรองท้องมากกว่า เฉินอี้หลิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที
ใช่คะ เอาชาที่ไหนมาคะพี่อี้เหมินหอมมากเลยล่ะ เมื่อกี้หลิงหลิงยังดื่มไปตั้งหลายแก้ว... อี๊ ปลากหมึก พี่อี้เหมินเอาไปนะ หลิงหลิงรู้ว่าพี่ชอบ หญิงสาวพูดเสียงแจ้วก่อนจะอุทานออกมาเสียงดังเมื่อตักเจออาหารที่ตนไม่ชอบเข้า หญิงสาวรีบตักมันใส่จานแอนโทนี่ทันทีที่พูดจบ
ภาพที่เห็นยิ่งทำให้จิดาภายอกใจมากขึ้นไปอีก ในใจหวนนึกไปถึงครั้งแรกที่ตนและแอนโทนี่มาภูเก็ตด้วยกันครั้งนั้นเค้าก็บอกว่าทานปลาหมึกเพราะความเคยชินมากว่าเช่นกัน คงเป็นอย่างนี้สินะ อะไรที่หลิงหลิงไม่ชอบ เขาคงพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้หญิงสาวมีความสุขที่สุด
เออ จีนขอตัวก่อนดีกว่านะคะ ไหนๆก็อิ่มแล้วรีบไปปั่นงานต่อดีกว่า จิดาภาขอตัวจากไปทันทีด้วยไม่อยากจะทนฝืนนั่งหน้าชื่นอกตรมอีกต่อไปเพราะรีบจึงไม่รู้เลยสักนิดว่าตนเองลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้
แอนโทนี่มองตามแผ่นหลังบางที่ค่อยๆเดินหายจนลับสายตาไปอย่างขัดใจ พอเจอหน้าผู้ชายคนนั้นเข้าหน่อยถึงกับเปลี่ยนไปไม่พูดคุยกับเค้าเหมือนเก่าเชียวหรือ ชายหนุ่มคิดในใจอย่างพาลๆ ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าตนเองเป็นคนเริ่มความหมางเมินนี่ก่อนเฉินอี้หลิงนั่งทานขนมเค้กที่มีนายกมาให้ต่ออย่างสุขใจไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาสที่ค่อนข้างจะอึมครึมของคนทั้งสองเลยสักนิด
เอ๊ะ นี่มือถือพี่จีนหรือเปล่าคะ เฉินอี้หลิงเอ่ยถามเสียงดังเมื่อมองเห็นโทรศัพท์เครื่องจิ๋วหลังจากลุกออกจากเก้าอี้แล้ว แอนโทนี่รีบมองตามทันที ชายหนุ่มเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อมองเห็นโทรศัพท์ในมือของเฉินอี้หลิงแล้ว
งั้นเดี่ยวหลิงหลิงเอาไปคืนให้พี่จีนดีกว่า
ไม่ต้องหลิงหลิง เอามาให้พี่ดีกว่า เดี่ยวพี่จะเก็บไว้ให้เอง จีนคงต้องการสมาธิอย่าเพิ่งไปกวนพี่เค้าเลย ชายหนุ่มเอ่ยห้ามก่อนจะแบมือไปยังคนตรงหน้าที่ทำเพียงแค่ยักไหล่ก่อนจะวางมือถือเครื่องเครื่องดังกล่าวในมืออีกฝ่าย
งั้นหลิงหลิงขอรถคันนึงนะคะพี่อี้เหมิน เมื่อกี้ขามารถโรงแรมขับผ่านร้านขายมุก หลิงหลิงอยากลองไปดูเผื่อจะซื้อเอาไปทำของที่ร้าน
ตามใจ แต่ให้เทียนฟงตามไปด้วยแล้วกัน ชายหนุ่มอนุญาติหากแต่ก็ไม่วายส่งคนสนิทอีกคนให้ตามไปคอยดูแลอีกฝ่าย เฉินอี้หลิงทำหน้ายู่เหมือนกับจะไม่ยอมในตอนแรก หากแต่เมื่อสบประกายตาคมเข้มที่มองมา สาวร่างเล็กก็ได้แต่พยักหน้าอย่างจำใจ ...อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้ไปน่ะล่ะ
แอนโทนี่มองโทรศัพท์ในมืออย่างสะใจ เมื่อครู่สายเรียกเข้าที่ระบุว่าอิทธิพลโทรมาดังขึ้น แทนที่จะปล่อยทิ้งไว้ ชายหนุ่มกลับกดรับและกล่าวทักทายปลายสายไปด้วยท่าทีสบายๆ น้ำเสียงที่เหมือนจะชะงักไปของอีกฝ่ายหลังจากที่รู้ว่าตนเป็นคนรับทำให้ชายหนุ่มอดสะใจไม่ได้ ความรู้สึกหงุดหงิดที่เกาะกุมจิตใจมาเกือบครึ่งวันหายไปทันทีทีที่ได้แกล้งปลายสาย ชายหนุ่มหัวเราะหึๆอย่างอารมณ์ดีขณะเก็บโทรศัพท์เครื่องน้อยไว้ในกระเป๋ากางเกง ไม่ได้มีทีท่าเลยสักนิดว่าจะส่งคืนมันไปให้เจ้าของในเวลาอันใกล้นี่
จิดาภาเฝ้าตามหาโทรศัพท์ของตนอย่างร้อนใจ กว่าจะรู้ว่าโทรศัพท์หายไปก็เป็นเวลาค่ำมากแล้ว เฉินอี้หลิงที่เพิ่งกลับจากการไปเที่ยวข้างนอกมามองท่าทางของหญิงสาวอย่างสงสัย สาวร่างเล็กตรงเข้าไปหาหญิงสาวทันทีก่อนจะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
มองหาอะไรหรือคะพี่จีน จิดาภาอดสะดุ้งในตอนแรกไม่ได้ หากแต่ก็เอ่ยถามคนตรงหน้าทันทีในประโยคถัดไปอย่างร้อนใจ ... จะไม่ให้เธอคิดมากได้ยังไงล่ะในเมื่อในโทรศัพท์เครื่องนั้นมีรูปที่เธอแอบถ่ายแอนโทนี่เอาไว้ตั้งหลายรูป
โทรศัพท์พี่หายคะ หลิงหลิงเห็นบ้างไหม
อ้าว ไหนพี่อี้เหมินบอกว่าจะเอาไปคืนพี่จีนเอง นี่พี่จีนยังไม่ได้โทรศัพท์อีกหรือคะ
ห๊า อยู่ที่พี้แอนดี้
คะ เฉินอี้หลิงตอบรับก่อนจะหัวเราะอย่างนึกขำ จิดาภาที่ตอนนี้ใกล้จะสติแตกเพราะกลัวแอนโทนี่จะเห็นรูปภาพที่ตนเก็บไว้มองหน้าอีกฝ่ายอย่างนึกแปลกใจ ... มีอะไรให้ขำกันนะ
หลิงหลิงขำนะคะ หลิงหลิงเรียกพี่อี้เหมินว่าพี่อี้เหมิน แต่พี่จีนกลับเรียกว่าพี่แอนดี้...จะว่าไปคนที่เรียกพี่อี้เหมินว่าพี่ คงมีแค่เราสองคนนะคะ กับคนอื่นก็เห็นเรียกแต่ชื่อเฉยๆ
จิดาภาได้แต่พยักหน้ารับอย่างแกนๆ ก่อนจะขอตัวอีกฝ่ายขึ้นห้องพักเพื่อไปตามหาแอนโทนี่
ขอโทษทีนะครับ พี่มัวแต่ยุ่งๆเลยไม่ทันได้คืนให้ แอนโทนี่แกล้งทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ขณะส่งโทรศัพท์เครื่องน้อยคืนเจ้าของ จิดาภาลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่เห็นความผิดปกติบนใบหน้าของอีกฝ่าย ... ตงไม่ได้กดดูหรอกมั้ง
พี่อี้เหมิน ทานข้าวเสร็จแล้วเราไปดูดาวกันนะ หลิงหลิงจำได้ว่าคุณปู่เคยเล่าให้ฟังว่าพี่ทำห้องดูดาวไว้ที่โรงแรมด้วย
แอนโทนี่พยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองหน้าจิดาภาที่กำลังง่วนกับการเช็คข้อความทางโทรศัพท์อยู่ แต่ถึงเช็คให้ตายก็ไม่มีวันพบบันทึกที่บอกว่าอิทธิพลโทรมาหาหญิงสาวในวันนี้หรอก ในเมื่อเขาลบมันไปหมดแล้ว
พี่จีนไปดูด้วยกันนะคะ
ไม่ดีกว่าคะ เมื่อวานพี่ไปดูมาแล้ว จิดาภารีบปฏิเสธด้วยไม่อยากอยู่ดูความสนิทสนมระหว่างคนทั้งสองอีก แค่คิดว่าแอนโทนี่จะตั้งกล้องให้หญิงสาวเหมือนกับที่ทำกับเธอแล้ว ใจดวงน้อยก็อดแปลบปลาบขึ้นมาไม่ได้
ไปเถอะคะ เชื่อหลิงหลิงเหอะ ดาวแต่ละดวงสวยไม่เหมือนกันในแต่ละวันนะคะ หลิงหลิงไปดูดาวกับพี่อี้เหมินทีไร ยังรู้สึกได้เลยว่ามันสวยไม่เหมือนกัน
...เฉินอี้หลิงไปดูดาวกับแอนโทนี่ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวเหมือนเธอ หากแต่ดูเหมือนจะบ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วน ... จิดาภาได้แต่สะกดกลั้นความรู้สึกในใจที่กำลังพุ่งขึ้นมา
...อดทนไว้ จิดาภา อดทนไว้ หลิงหลิงมาก่อนเธอ เขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่แปลกเลยที่จะเคยดูดาวด้วยกัน...หญิงสาวพยายามปลอบตัวเองในใจ พยายามเหลือเกินที่จะเอ่ยปฏิเสธหากแต่ก็ไม่อาจทำได้ หญิงสาวได้แต่ก้าวดินเคียงคู่คนทั้งสองไปอย่างกล้ำกลืน ภาวนาเหลือเกินให้คืนนี้หมดไปเร็วๆ เพื่อที่พรุ่งนี้เธอจะได้กลับไปยังกรุงเทพ เสียที กลับไปให้ห่างจากภาพบาดตาพวกนี้
น่าแปลก ทั้งๆที่เป็นดาวดวงเดียวกันจากห้องห้องเดียวกันในมุมมองมุมเดียวกัน แต่วันนี้ดาวบนท้องฟ้ากลับไม่สวยเท่าเมื่อวาน อาจจะเป็นเหมือนที่เฉินอี้หลิงพูดไว้กระมั้งว่าดวงดาวสวยไม่เหมือนกันในแต่ละวัน จิดาภาลอบถอนหายใจช้าๆ ระบายความกลัดกลุ้มในอก ... ไม่ไหวแล้ว เธอทนอยู่อย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว
จีนขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ จิดาภาพูดโพล่งออกมา รู้ดีว่าเป็น เหตุผลไม่เข้าท่า แต่ในเวลานี้เธอต้องการอยู่คนเดียวเป็นที่สุด เพราะรีบที่จะถอยห่างออกมาจากภาพบาดตาทำให้หญิงสาวลืมที่จะหยิบมือถือติดตัวมาด้วย
แอนโทนี่มองตามแผ่นหลังบางที่เดินจากไปอย่างครุ่นคิด รู้สึกได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวหากแต่ก็ไม่อาจเดาได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
ชายหนุ่มถอยห่างจากเฉินอี้หลิงที่กำลังมองดาวผ่านกล้องดูดาวอย่างเพลิดเพลินโดยอ้างว่าจะไปคุยโทรศัพท์เรื่องงานต่ออีกสักครู่ ใจจริงแล้วแอนโทนี่ตั้งใจจะตามไปดูว่าจิดาภากำลังทำอะไรอยู่ หากแต่ไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องดูดาวไปอย่างใจคิด
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหูก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหันไปมองรอบๆอย่างต้องการจะค้นหาที่มา ก่อนจะก้าวเท้าไปยังกองหมอนอิงที่จิดาภานอนเล่นอยู่เมื่อครู่ แอนโทนี่ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ของจิดาภาขึ้นดู ก่อนจะกดรับเมื่อเห็นรูปชายหนุ่มหน้าตาดีบนหน้าจอโทรศัพท์แสดงให้เห็นถึงบุคคลที่โทรมาว่าเป็นใคร
ที่รักรับสักที ตอนนี้อยู่ที่ไหนจ๊ะ
แอนโทนี่แทบอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง เมื่อได้ยินคำทักทายจากปลายสาย ... ไอ้หมอนี่เป็นใครกัน แล้วทำไม ทำไมถึงได้เรียกจิดาภาว่าที่รักแบบนี้ ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขึงเครียด ขณะกดตัดสายทิ้งทันทีอย่างเคืองขุ่น หน้าจอโทรศัพท์มือถือเครื่องน้อยสว่างวาบเป็นระยะๆ บ่งบอกว่าปลายสายยังคงเพียรโทรมาอย่างไม่ขาดระยะ หากแต่ไร้เสียงเรียกเข้าไปนานแล้ว เนื่องด้วยถูกคนที่กดรับเมื่อครู่ ตั้งค่าเป็นแบบเงียบเสียงและยกเลิกการสั่นไปเสียอย่างนั้น
แอนโทนี่โยนโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมลงบนกองหมอนอิงอย่างขัดใจ ก่อนจะถอยห่างออกมาและเดินกลับมาหาเฉินอี้หลิงอีกครั้ง ใบหน้าที่บึ้งตึงราวกับว่าอยากจะฆ่าใครขึ้นมาทำให้เฉินอี้หลิงอดทักด้วยความแปลกใจไม่ได้
มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะพี่อี้เหมิน ทำไมพี่ดูเครียดจังเลย
เปล่า ไม่มีเรื่องอะไรหรอก... เผอิญว่าพี่ต้องกลับไปเคลียร์งานด่วนต่อที่ห้อง ยังไงเราก็ดูดาวเล่นต่อไปคนเดียวแล้วกันนะ
อ้าว พี่อี้เหมินอ่ะ ทำแบบนี้อีกแล้วนะ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกเฉินอี้หลิงจึงไม่ได้แปลกใจอะไรนักกับอาการลมเพลมพัดของอีกฝ่าย จิดาภาเหลียวมองแอนโทนี่ที่เดินสวนไปโดยไม่ยอมพูดจาทักทายอย่างน้อยใจ...พี่แอนดี้คนน่ารักเมื่อวานหายไปอยู่ไหนกันนะ
พี่อี้เหมินเขามีงานด่วนนะคะพี่จีน อย่าไปสนใจเลย มาดูดาวกับฉันดีกว่า เฉินอี้หลิงเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าจิดาภายังคงจับจ้องไปยังทิศทางที่แอนโทนี่เดินจากไปอย่างไม่วางตา หญิงสาวหันไปส่งยิ้มให้เจ้าของร่างเล็กที่มองมาอย่างหวังดี ก่อนจะอ้อมเดินกลับไปย้งกองหมอนองเพื่อหยิบมือถือคู่กายก่อนจะเดินไปหาอีกฝ่ายตามคำเชิญชวน
แสงไฟจากมือถือเป็นสัญญานบอกให้รู้ว่ามีคนโทรเข้ามา จิดาภาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เนื่องด้วยจำได้ว่าตนไม่ได้ตั้งค่าโทรศัพท์ให้เงียบเสียงเช่นนี้ หากแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก คงเผลอกดไปโดนการตั้งค่าเข้า หญิงสาวคิดในใจ ก่อนจะตะโกนบอกอี้หลิงว่าตนขอตัวไปคุยโทรศัพท่อน หญิงสาวเดินปลีกตัวออกมาทางระเบียงห้องพักขณะกดรับสาย เสียงฉุนเฉียวที่บ่งบอกถึงความขัดใจดังขึ้นทันทีที่รับจนจิดาภาต้องเลื่อนโทรศัพท์มือถือออกห่างตัว
ฮันหนี่ หายหัวไปไหนมา โทรหาแล้วทำไมกดตัดสายห๊ะ!
เปล่าซะหน่อย ฉันเพิ่งจะกดรับสายนะเจษฎ์ เมื่อกี้ไปเข้าห้องน้ำมาเพิ่งจะเห็นมิสคอลแกตะกี้นี่เอง กำลังจะโทรกลับก็พอดีแกโทรมาซะก่อน
เออ ไม่รับก็ไม่รับ สงสัยหมามันคงเอามือมาโดนละมั้ง ว่าแต่ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ
ภูเก็ต จิดาภาตอบสั้นๆ หากแต่ดูเหมือนปลายสายจะเห็นเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะถึงกับอุทานออกมาเสียงหลง
ห๊ะ! ภูเก็ต ไปทำอะไรที่โน่นวะ แล้วจะกลับมาเมื่อไร
พรุ่งนี้ ว่าแต่แกมีอะไรหรือเปล่าจู่ๆ ถึงโทรมาดึกๆแบบนี้ เวลานี้แกน่าจะนอนกอดสาวๆอยู่ที่คอนโดมากกว่านะเจษฎ์
ก็ไอ้หวานน่ะซิ
เจษฎาถอนหายใจก่อนจะบอกเล่าถึงสิ่งที่ตนได้พบเจอมาเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา จิดาภาลอบถอนหายใจอย่างหนักอก เรื่องของตัวเองก็ยังค้างคา แถมยังมีเรื่องของเพื่อนรักเข้ามาแทรกอีก แต่เอาก็เอาเถอะ เรื่องของเธอมันคงไม่มีอะไรดีไปมากกว่านี้แล้วนี่ สู้เอาเวลามาช่วยเจษฎาแก้ปัญหาเรื่องผักหวานเสียจะยังดีกว่า อย่างน้อยจุดจบของเรื่องก็ยังมีความหวังรออยู่มากกว่าทางของเธอในเวลานี้
แอนโทนี่มองผ่านปุยเมฆด้านนอกอย่างใช้ความคิด รู้ตัวอยู่หรอกว่าทำไม่ถูกที่ทำหมางเมินกับจิดาภาแบบนี้ หากแต่น้ำเสียงและคำพูดที่ได้ยินจากโทรศัพท์เมื่อคืนวาน ภาพของฝรั่งตาน้ำข้าวนักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อดังที่หญิงสาวพูดคุยด้วยท่าทีสนิทสนมทำให้ความระแวงที่เพียรกดทับไว้นานประทุขึ้นมาอีก...ตกลงแล้วเธอเป็นคนยังไงกันแน่นะ แค่อัธยาศัยดี หรือ ชอบที่จะหว่านเสน่ห์ไปทั่วเพื่อทดสอบความฮอตของตัวเองกัน
จิดาภาแสร้งหลับตาลงเหมือนจะงีบหลับ หวังหลบเลี่ยงการพูดคุยกับสาวช่างจ้อข้างกาย ...ทำไมนะ แค่ชั่วข้ามคืนชายหนุ่มถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เธอทำอะไรไม่ดี หรือเป็นเพราะตัวจริงอย่างเฉินอี้หลิงที่ก้าวเข้ามากันแน่เขาถึงได้มีท่าทีหมางเมินไปแบบนี้ เธอทำอะไรผิด หรือที่จริงแล้ว เขาแค่แกล้งหลอกให้เธอรักเพื่อที่จะเขี่ยทิ้งในภายหลังเป็นการแก้แค้นแทนเจ้แบมที่มีพฤติกรรมเหมือนกับเธอไม่มีผิดเมื่อในอดีต
*.:。✿*゚゚・✿.。.:*.:。✿*゚゚・✿.。.:*
เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเเล้ว เมื่ออคติ ทำให้เเอนโทนี่คิดไปเองโดยไม่ยอมที่จะถามให้รู้ความ
เเล้วจะเป็นยังไงกันต่อละที่นี่ ... อันนี้ต้องติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ ขอบคุณนักอ่านที่เเวะเข้ามาอ่าน มาทักทายกันนะจ๊ะ ทุกเมนท์คือกำลังใจ จำนวนคนอ่านคือยาชูกำลังที่ได้ผลที่สุด
◕‿◕ ณนาถ
|
|
|
Create Date : 28 ตุลาคม 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2551 13:17:56 น. |
Counter : 361 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Tyra IP: 86.15.29.72 29 ตุลาคม 2551 10:46:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช
บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์
เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ
ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน
เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม
กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|
the first one today.Great!!!