แผนรักกระชากใจเธอ ตอนที่ 11
เสียงกริ่งสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนมาหาถึงห้องพัก ทำให้จิดาภาที่กำลังวาดรูประบายความอัดอั้นตั้นใจอยู่ตรงระเบียงคอนโดละสายตาจากภาพวาดเบื้องหน้า หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ ขณะก้าวเดินไปยังประตูห้อง อดหวังลึกๆไม่ได้ว่าจะเป็นแอนโทนี่ที่เข้ามาปรับความเข้าใจด้วย หากแต่ภาพจากจอมอนิเตอร์ขนาดเล็กซึ่งติดกับประตูห้องบอกให้รู้ว่าคนที่เดินทางมาหาคือวินธัยหนึ่งในเพื่อนสนิทของตัวเองนั่นเอง ตากลมสวยฉายแววหม่นเศร้าขณะกดปลดล๊อกให้เพื่อน ...ตื่นได้แล้วจิดาภา เขาไม่มีวันมาหาเธออีกหรอก
ไอ้จีน ทำไมแกถึงได้โทรมขนาดนี้วะ ไหนไอ้เจษฎ์บอกว่าแกไปบำเพ็ญประโยชน์ช่วยให้ไอ้คุณพี่ทักษ์กับไอ้หวานคืนดีกันไง
วินธัยพูดออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของคนตรงหน้า รอยดำคล้ำใต้ตาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าตัวคงไม่ได้พักผ่อน อาการบวมช้ำบอกให้รู้ว่าตากลมสวยคู่นี้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก วินธัยเหลือบสายตาไปเห็นอุปกรณ์วาดภาพตรงระเบียงห้องพอดี นึกรู้ได้ในทันทีว่าคงเกิดเรื่องขึ้นกับเพื่อนสาวเป็นแน่ เพราะในยามที่หญิงสาวหยิบขาหยั่งเฟรมขึ้นมาวาดรูปนั้น แสดงว่าเจ้าตัวได้อยู่ในสภาวะสุดๆ คือถ้าไม่ดีใจสุดๆ ก็เสียใจสุดๆนั่นเอง
เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับแกเมื่อคืนนี้อย่างนั้นเหรอ
ฉันเลิกกับเขาแล้ว จะบอกว่าเลิกก็คงจะไม่ถูกซะทีเดียวหรอกในเมื่อเรายังไม่เคยคบกันเลยนี่นา น้ำเสียงที่เหมือนจะเยาะเย้ยตัวเองจากปากอิ่มตรงหน้าทำให้วินธัยเอื้อมไปโอบกอดหญิงสาวเอาไว้ทันที จิดาภาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้ำตาที่เคยคิดว่าแห้งเหือดไปหมดแล้วกลับเอ่อล้นขึ้นมาอีก หญิงสาวสะอื้นฮักอย่างเด็กหลงทางแตกต่างจากเมื่อคืนวานที่ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่อาจกลั้นไว้ได้ยามที่อยู่กับอิทธิพล
วินธัยลูบกลุ่มผมสลวยนั้นอย่างช้าๆ รอจนอีกฝ่ายคลายอาการสะอื้น ชายหนุ่มจึงได้เริ่มต้นซักถามถึงเรื่องที่ทำให้เพื่อนสนิทเสียใจได้ถึงเพียงนี้
เกิดอะไรขึ้นกับแก เมื่อวานแกไปเป็นเพื่อนไอ้หวานไม่ใช่เหรอ ไหนแกค่อยๆเล่าให้ฉันฟังซิ
ถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาจากปากอิ่มตรงหน้า ทำให้วินธัยถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแอนโทนี่จะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ถึงเพียงนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าชายหนุ่มจะยังฝังใจกับรักครั้งก่อนซะจนนำเพื่อของเขาไปเปรียบเทียบกับพิชานาฎอยู่ตลอดเวลาจนก่อให้เกิดความหวาดระแวงไม่รู้จักจบสิ้นเช่นนี้
แกก็น่าจะบอกเขาไปว่าพี่เมืองเป็นพี่เขยแก ถึงจะไม่ใช่สายตรงก็เถอะ แต่แกกับพี่พลอยก็ถูกเลี้ยงให้โตมาด้วยกัน แกไม่มีทางไปแย่งสามีเขาหรอกในเมื่อตัวแกเป็นแม่สื่อให้เองซะด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากอธิบายหรอกนะวินดี้ แต่สายตาเขา คำพูดเขา มันทำให้ฉันพูดไม่ออก ถ้าสายตาเขาเป็นมีดฉันก็คงมีแผลเหวอะเต็มตัวไปแล้วมั้ง แกรู้ไหม สายตาเขา มัน มันบอกว่าเขาไม่เคยไว้ใจฉันเลย ฉัน ฉันเสียใจนะวินดี้ ทำไมเขาต้องเอาฉันไปเปรียบเทียบกับเจ้แบมด้วย ทำไมเขาต้องว่าฉันแบบนั้น ที่ผ่านมาเขายังไม่เข้าใจตัวฉันดีพออีกหรือไง
ไม่เกี่ยวกับว่าเขาเข้าใจหรือไม่เข้าใจแกหรอกนะจีน แต่มันเป็นเพราะเขาฝังใจมากเกินไป แล้วแกกับเจ้แบมก็เหมือนกันมากเกินไป
แล้วฉันผิดเหรอที่มาทีหลัง ผิดเหรอที่รู้จักเขาช้าไป...แกบอกฉันหน่อยซิวินดี้ บอกฉันทีว่าฉันควรจะทำยังไงต่อไป
จิดาภาสะอื้นฮักอีกรอบอย่างน่าสงสาร วินธัยได้แต่ลูบหลังเพื่อนอย่างปลอบใจ จะให้เขาบอกได้ยังไงว่าเรื่องราวคงไม่อาจจะลงเอยได้ด้วยดี ตราบใดที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมละทิ้งอคติในใจออกไปแบบนี้
แน่ใจเหรอจีน ว่าจะให้มันจบลงแบบนี้ วินธัยเอ่ยย้ำอีกรอบหลังจากรับฟังการตัดสินใจของเพื่อนสนิท จิดาพยักหน้าให้อีกฝ่ายช้าๆ ถึงจะรู้ว่าเจ็บแต่เธอต้องทำให้ได้
ฉันสมควรที่จะทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอวินดี้ ในเมื่อเขาไม่เคยไว้ใจฉัน ไม่เคยเชื่อใจกันเลยสักนิดป่วยการที่จะดันทุรังต่อไป
มันก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไข ฉันว่าแกก็น่าจะรู้ดีพอๆกับฉันนะว่าถ้าเขารู้ความจริง ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น ก็เหมือนกับเรื่องของผักหวานนะล่ะ ทำไมแกไม่ลองให้...
อย่าบอกไอ้หวานนะวินดี้ จิดาภารีบเอ่ยห้ามก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้พูดจนจบประโยค ไอ้หวานมันพึงจะคืนดีกับพี่ทักษ์ อย่าให้มันต้องมาทะเลาะกับเขาเพราะเรื่องของฉันเลย
ไอ้จีน ทำไมแกถึงได้หัวดื้ออย่างนี้นะ แกว่าแต่ไอ้หวานตัวแกเองก็เป็นเองเหมือนกัน วินธัยอดบ่นคนตรงหน้าไม่ได้เมื่อมาถึงตอนนี้ จิดาภาได้แต่ส่งยิ้มเศร้าๆให้เพื่อนสนิท
ฉันไม่ได้หัวดื้อหรอกนะวินธัย ฉันกล้าพูดได้เต็มปากว่าฉันรักเขา แล้วก็คงจะรักใครได้มากเท่านี้อีกไม่ได้ แต่แกจะให้ฉันทำยังไง ต่อให้ฉันอธิบายให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ รึถึงเชื่ออีกไม่นานเขาก็พร้อมที่จะลืมมันไปอีกครั้ง วินธัยรู้ดีว่าสิ่งที่เพื่อนสนิทพูดออกมานั้น ถูกต้องทุกประการ ไม่รู้ว่านี่คือข้อดีหรือข้อเสียของหญิงสาว ที่รู้จักโลกและเข้าใจจิตใจคนได้ดีขนาดนี้
แล้วถ้าเขามาขอแกคืนดีล่ะ ถ้าเขามาขอโทษแล้วขอเริ่มใหม่อีกครั้ง แกจะทำยังไง
ไม่รู้สิ ฉันคงตอบแกไม่ได้หรอก เอาไว้ให้วันนั้นมาถึงแกก็จะรู้คำตอบเองนะล่ะ ฉันก็ไม่ได้เข้มแข็งไปมากกว่าใครนักหรอก ไม่ได้ฉลาดจนเอาตัวรอดได้ทุกครั้ง สิ่งที่ฉันมีก็แค่ความตั้งใจ มันถูกต้องที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ เขาก็มีหลิงหลิงอยู่ข้างๆทั้งคน ส่วนฉันก็ยังมีเอสคอยอยู่นี่นา จบแบบนี้มันน่าจะดีที่สุดจริงไหม
จิดาภาฝืนยิ้มทั้งน้ำตาหลังจากพูดจบ วินธัยได้แต่พยักหน้าเบาๆอย่างให้กำลังใจ เขามองไม่ออกเลยว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดีไปได้ยังไง ในเมื่อใจของหญิงสาวไม่ได้อยู่กับอิทธิพลและใจของผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ที่หลิงหลิงแบบนี้
*.:。✿*゚゚・✿.。.:*
ไม่มีแววตาขี้เล่นและน้ำเสียงรื่นหูอีกแล้วในยามที่พบเจอกัน จิดาภาได้แต่คิดอย่างขมขื่นใจ ขณะฝืนยิ้มให้อิทธิพลซึ่งตักอาหารตรงหน้ามาให้
หญิงสาวแสร้งชวนชายหนุ่มพูดคุยถึงเรื่องทั่วๆไป พยายามที่จะไม่มองไปยังด้านซ้ายมือของตน ซึ่งมีแอนโทนี่และหลิงหลิงนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ด้วยท่าทีกระจุ๋งกระจิ๋ง วันนี้เธอมาดูงานตกแต่งร้านจิวเวอรรี่แอนด์ดีไซน์ของอินทิรา ทำให้พบกับแอนโทนี่โดยบังเอิญระหว่างทางเดินมายังห้องอาหาร
ตาคมกล้าที่ทอดมองมาดูว่างเปล่าเสียจนอดที่จะใจหายไม่ได้ ทั้งๆที่พร่ำบอกตัวเองว่าให้ลืมเขาเสีย เลิกใส่ใจผู้ชายใจร้ายที่ไม่เคยมองเธอในแง่ดีคนนี้ไปซะ หากแต่ในความทรงจำกลับมีแต่ภาพของเขาอยู่เต็มหัวใจ
อิทธิพลสังเกตเห็นแววตาเศร้าสร้อยที่ฉายชัดในดวงตาคู่สวย หากแต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจและร่วมพูดคุยกับหญิงสาวถึงเรื่องสัพเพเหระทั่วไปตามความต้องการของอีกฝ่าย
ภาพที่หญิงสาวสะอื้นไห้แนบอกทำให้เขาเจ็บปวดทุกครั้งที่ระลึกถึง ...เธอรักผู้ชายคนนั้น รักจนกระทั่งยอมหลั่งน้ำตาและสูญเสียการควบคุมตัวจนทำให้เขาได้เห็นมุมที่อ่อนแอซึ่งซุกซ่อนอยู่ในตัวของหญิงสาว อิทธิพลได้แต่ยิ้มอย่างขื่นๆให้กับตัวเอง ...อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเธอไว้ใจเขาไม่ใช่หรือ
เขาจะยังต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกล่ะ เอาเถอะ สักวันนึง สักวันเธอคงจะเห็นใจในความรักของเขา และยอมแบ่งเศษเสี้ยวใจมาให้บ้าง อาจจะไม่เท่ากับผู้ชายคนนั้น แต่แค่ได้ยืนอยู่ข้างๆได้คอยประคับประคองเวลาเธอล้ม ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอทุกๆวันแค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
อร่อยไหมครับ
อิทธิพลถามหลังจากที่อีกฝ่ายตักกุ้งราดซอสมะขามอาหารจานโปรดของเธอซึ่งเขาจำได้ดีและเป็นคนสั่งมาให้เข้าปากแล้ว จิดาภาพยักหน้านิดๆ พยายามที่จะทำตัวเองให้ร่าเริงด้วยไม่อยากทำร้ายจิตใจผู้ชายที่แสนดีตรงหน้าไปมากกว่านี้ อิทธิพลยิ้มรับอย่างถูกใจหากแต่ก็ไม่วายเอ่ยชมกับข้าวฝีมือหญิงสาวที่ตนได้มีโอกาสลิ้มรลองเมื่อครั้งที่เธอและเขากำลังศึกษากันอยู่
แต่ผมว่าสู้ฝีมือจีนไม่ได้หรอกครับ จีนทำอร่อยกว่าตั้งเยอะ
กรรมการลำเอียงนะสิคะ แต่จีนว่าก็จริงล่ะนะ จิดาภาแกล้งพูดยกตัวทำให้คนตรงหน้าถึงกับยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
แอนโทนี่ที่ทำเหมือนกับว่าไม่สนใจคนทั้งคู่เลยสักนิด จับช้อนในมือแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์ ถึงจะบอกตัวเองว่าไม่สนใจและไม่คิดจะใส่ใจผู้หญิงคนนี้แล้ว หากแต่ภาพที่เธอยิ้มให้กับผู้ชายคนอื่นก็ทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวอยู่แล้วยิ่งเดือดดาลมากขึ้นไปอีก หลิงหลิงที่มองไปยังโต๊ะของคนทั้งคู่เช่นกันพูดออกมาอย่างอดอิจฉาหญิงสาวโต๊ะตัวถัดไปไม่ได้
พี่จีนนี่โชคดีจังเลยนะคะ ทั้งสวยแล้วก็ทำงานเก่งแถมยังมีคนดีๆอย่างพี่เอสมาคอยใส่ใจอีก
รู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนดี
แอนโทนี่อดที่จะโต้กลับไม่ได้หากแต่สาวร่างเล็กดูจะไม่เอะใจกับน้ำเสียงห้วนสั้นนั้นสักเท่าไรนัก ด้วยเจ้าตัวยังคงเอื้อนเอ่ยคำพูดตามความคิดของตนต่อไป ไม่รู้เลยสักนิดว่ามันเป็นเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟให้ใจของแอนโทนี่ให้ยิ่งลุ่มร้อนมากขึ้นไปใหญ่
ก็ตั้งแต่คบกับพี่จีน พี่เอสก็ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนอีกเลยนะสิคะ เห็นอินเราว่าสมัยก่อนพี่เอสไม่ได้เป็นคนเอาใจใส่แล้วก็คอยเอาใจใครอย่างนี้หรอก ออกจะไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้างซะด้วยซ้ำ แต่นี่แค่เดินผ่านร้านขนมที่พี่จีนชอบ พี่เอสก็ลงไปต่อคิวซื้อให้แล้วแถมยังขับเอาไปให้ถึงที่ทำงานอีกต่างหาก พี่อี้เหมินเห็นสร้อยที่พี่จีนใส่ไหมคะ นั่นนะเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของยัยอินเชียวนะคะ เจ้าตัวหวงจะตาย แต่พี่เอสนะซิ เข้าไปอ้อนวอนขอซื้อต่อให้พี่จีนซะอย่างนั้น ขนาดยัยอินแกล้งพูดว่าแลกกับรถคันโปรดนะ พี่เอสยังยอมเลย
แอนโทนี่ได้แต่กัดฟัดกรอดเมื่อได้ฟัง พยายามเหลือเกินที่จะรักษาสีหน้าให้นิ่งไว้ระหว่างฟังคนตรงหน้าเล่าจ้อยๆถึงสิ่งที่ตนเองได้รู้ได้ฟังมา ...รักมากนักเหรอ ถ้ารักมากนักทำไมถึงปล่อยให้คนที่ตัวเองหมายปองมายุ่งวุ่นวายกับเขา มาทำให้เขาต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปแบบนี้
พี่อิ่มแล้ว เดี่ยวคงต้องไปตรวจโรงแรมที่ชั้น12 ต่อ
ทำไมอิ่มเร็วจังเลยคะ พี่อี้เหมินเพิ่งทานไปได้ไม่กี่คำเอง ทานต่ออีกนิดนะคะ
ไม่ละ พี่กินไม่ลง ถ้าหลิงหลิงจะไปดูร้านกับอินทิราต่อก็ไปเถอะ ไม่ต้องรอพี่เย็นนี้ พี่มีงานต้องเคลียร์อีกมากคงต้องนอนค้างที่โรงแรมคืนนี้
ว้า แย่จัง เฉินอี้หลิงพึมพำเบาๆอย่างนึกเสียดาย ก็ได้คะ งั้นเย็นนี้หลิงหลิงไม่รอทานข้าวนะ แต่ว่าพี่อี้เหมินอย่าทำงานเพลินจนลืมทานมื้อเย็นอีกล่ะ ไม่งั้นหลิงหลิงจะโทรไปฟ้องคุณอาผู้หญิง
แอนโทนี่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะลุกเดินจากไป ตาคมไม่เหลือบมองไปยังร่างโปรงระหงเลยสักนิดยามเดินผ่าน จิดาภาได้แต่กัดริมฝีปากด้านในของตนไว้แน่นอย่างระงับอารมณ์ไม่ให้อ่อนไหวไปกับคนที่เพิ่งเดินจากไปอีก หญิงสาวหันมาสนทนากับแอนโทนี่ต่อราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไร หากแต่ภายในใจนั้นรู้ดีว่าตนไม่อาจลบภาพคนคนนี้ไปจากใจดั่งที่ปากพูดเลยสักนิด
*.:。✿*゚゚・✿.。.:*
ดูเหมือนว่านายจะมีเรื่องกลุ้มใจอยู่นะแอนดี้
ทักษ์ซึ่งมาถึงได้ครู่ใหญ่แล้วเอ่ยปากทักคนตรงหน้าหลังจากที่เฝ้าสังเกตอาการของชายหนุ่มมาได้พักใหญ่ เขาและเพื่อนสนิทเพิ่งจะเริ่มดื่มกันที่ผับของอีกฝ่ายได้ไม่ถึงสิบห้านาทีดี หากแต่แก้วเหล้าของคนตรงหน้าดูจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว แอนโทนี่หมุนแก้วเหล้าในมือเล่นก่อนจะเอ่ยตอบเหมือนกับว่าสิ่งที่ตนเองทำเป็นเพียงเรื่องปกติสามัญ
ไม่นี่ ก็แค่วันนี้เพลงเพราะกว่าทุกทีเลยดื่มเพลินไปหน่อย
คำตอบของคนตรงหน้าทำให้ทักษ์ได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอ... แอนดี้นะแอนดี้ นายนี่มันปากแข็งตั้งแต่เด็กยันแก่จริงๆ
อืม อย่างนั้นเหรอ แต่ฉันว่ามันก็เพลงเดิมเหมือนกับทุกทีที่เรามานั่งฟังกันนะ แววตาที่เหมือนจะรู้ทันของอีกฝ่ายทำให้แอนโทนี่ได้แต่หงุดหงิดในใจ ฉันว่านายน่าจะเอาเวลาว่างที่เอาแต่สังเกตนู่นสังเกตนี่ ไปจัดกระเป๋าเตรียมตามหวานใจนายไปญี่ปุ่นจะดีกว่านะ
ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจัดการเรื่องของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ว่าแต่เรื่องของนายกับคุณจีนล่ะไปถึงไหนแล้ว
ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายนอกจากแววตาแข็งกร้าวและเสียงหัวเราะในลำคอที่ดูจะเหมือนเสียงคำรามซะมากกว่า ทักษ์ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ...เกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่ระหว่างที่เขาและผักหวานปรับความเข้าใจกันอยู่อย่างนั้นหรือ
ทะเลาะกัน
ยังคงไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายเช่นเดิม ทักษ์ได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างหนักใจ นึกรู้ในทันทีว่าอคติในใจของเพื่อนสนิทคงก่อให้เกิดปัญหาระหว่างคนทั้งสอง
ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น บอกได้แต่ว่าอย่าคิดในสิ่งที่เชื่อ และอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น ฉันเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากผักหวาน ถามใจตัวนายเองให้ดีๆว่าความสุขของนายคืออะไร อย่าหลอกตัวเอง อย่าให้อคติมาทำลายสิ่งดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ... ฉันกลับล่ะหวังว่ามะรืนนี้คงได้เห็นหน้านายที่สนามบินนะ
แอนโทนี่พยักหน้ารับในประโยคท้ายก่อนจะยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ... อคติอย่างนั้นเหรอ ไม่จริงเลยสักนิด จริงๆแล้วเธออาจจะไม่มีใจให้เขาเลยด้วยซ้ำ ดูอย่างเมื่อตอนกลางวันซิ เธอหัวเราะกับอิทธิพล ยิ้มให้เขา คุยกับเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทักษ์ได้แต่ส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของเพื่อนสนิท เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่กันแน่ ร่างหนาหันไปทางคนสนิทซึ่งยืนอยู่ไม่ห่าง
พิพัฒน์ ไปสืบทีว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากรู้เรื่องทั้งหมดก่อนบินไปญี่ปุ่นมะรืนนี้
คนตรงหน้ารับคำแข็งขันก่อนจะเดินจากไป ทักษ์ได้แต่มองเพื่อนสนิทยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างแก้วแล้วแก้วเหล่าอย่างหนักใจ
ตราบใดที่นายไม่ยอมลบอคติออกไปจากใจ ไม่มีวันที่ความรักของนายจะราบรื่นสมหวังหรอกแอนดี้ ... ทักษ์ได้แต่คิดในใจก่อนจะก้าวเท้าเดินจากไปอย่างช้าๆ ...เอาเถอะถือซะว่าตอบแทนที่จิดาภาเคยช่วยเขาเรื่องผักหวาน ฉะนั้นเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยให้เรื่องของคนทั้งคู่จบลงได้ด้วยดีเช่นกัน
*.:。✿*゚゚・✿.。.:*
จิดาภาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอย่างเรียกกำลังใจขณะก้าวเท้าเข้าไปยังห้องรับรองวีไอพีของสนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เป็นวันที่ผักหวานจะเดินทางไปดูแลโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆต่างพร้อมใจกันโดดงานเพื่อมาส่งหญิงสาวทั่วทุกคน วินธัยกุมมือร่างโปรงระหงที่เดินเคียงข้างอย่างให้กำลังใจ ชายหนุ่มเอ่ยให้กำลังใจอย่างเข้าใจความรู้สึก
สู้นะ
ชัวน์ จิดาภากล่าวเสียงหนักแน่นก่อนจะยกมือขึ้นชกกับคนตรงหน้าเบาๆ ตากลมสวยฉายแววมุ่งมั่นขณะพูดกับอีกฝ่าย
ไม่ต้องห่วง ต่อไปฉันจะไม่หวั่นไหว ไม่เจ็บไปกับการกระทำของเขาอีกแล้ว หญิงสาวยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะก้าวเดินไปอย่างปราดเปรียว ดุจดังจิตวิญญาณของจิดาภาคนเดิมได้กลับมาอีกครั้งวินธัยได้แต่ถอนหายใจยาวกับท่าทีของอีกฝ่าย
... จีนเอ้ยจีน หลอกใครก็หลอกได้แต่หลอกใจตัวเองน่ะไม่มีทางสำเร็จหรอกนะ ...
แอนโทนี่เอื้อมมือไปรับซองสีน้ำตาลจากมือของทักษ์มาดูอย่างงงๆก่อนจะเปิดซองและหยิบเอกสารภายในขึ้นอ่าน
นี่มัน
ชายหนุ่มอุทานเสียงดังเมื่อพบประวัติของชายหนุ่มซึ่งจิดาภามีท่าทีสนิทสนมด้วยทั้งที่ริมชายหาดโรงแรมที่ภูเก็ตและที่บอมบาลูบาร์ในวันที่ตนทะเลาะกับจิดาภา มือหนาทำท่าจะยัดเอกสารในมือใส่ซองอีกครั้งโดยไม่แม้แต่จะอ่านเนื้อความข้างใน
ถ้านายยังใจร้อนและไม่คิดจะสืบหาความจริงในเรื่องที่นายข้องใจอยู่แบบนี้ นายกับคุณจีนไม่มีทางจะลงเอยกันได้ด้วยดีหรอกนะแอนดี้
นายอย่ามายุ่งดีกว่าทักษ์ ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับนายก่อนที่นายจะขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นหรอกนะ แอนโทนี่เอ่ยเสียงขุ่น ขณะเบี่ยงกายเดินไปมองดูเครื่องบินที่กำลังร่อนลงจอดผ่านทางกระจกใสเบื้องหน้า ทักษ์ได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาใจขณะก้าวไปยืนเคียงข้างอย่างไม่ยอมแพ้
ฉันจะไม่ยุ่งหรอกนะ ถ้านายไม่ใช่เพื่อนสนิทของฉัน ผู้ชายที่จิดาภานั่งคุยด้วยที่ผับเป็นพี่เขยของเธอ เธอแค่จะแกล้งเค้าเล่นเท่านั้น ส่วนฝรั่งที่คุยด้วยที่ภูเก็ตก็เป็นสามีของเพื่อนสนิท ถ้าไม่เชื่อนายก็อ่านในซองนั่นดูซิ หรือจะให้คนไปตามสืบอีกทีก็ได้ ทักษ์กล่าวเรียบๆขณะเดินเลี่ยงไปคุยกับพิพัฒน์ถึงเรื่องงานทางเมืองไทยอีกครั้งปล่อยให้อีกฝ่ายได้อยู่เพียงลำพังกับเอกสารในมือ
แอนโทนี่ที่หายจากอาการตะลึงแล้วรีบหยิบเอกสารจากซองตรงหน้ามาพลิกดูอย่างรวดเร็ว ใบหน้าขึ้งเครียดเปลี่ยนเป็นซีดขาวก่อนจะแดงกล่ำสลับกันไปมาระหว่างที่อ่านเอกสารตรงหน้า
.... นี่เขา เข้าใจหญิงสาวผิดมาโดยตลอดเลยใช่ไหม ...ชายหนุ่มรำพึงในใจ ขณะกวาดสายตาอ่านเอกสารตรงหน้าอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตานึกด่าตัวเองไม่น้อยที่มัวแต่หวาดระแวงและหึงหวงจนลืมที่จะให้คนตามไปสืบเรื่องของผุ้ชายพวกนั้น ให้ตายเถอะ จิดาภาคงโกรธเค้ามาก อาจจะเกลียดไปแล้วด้วยซ้ำหลังจากที่เขาต่อว่าหญิงสาวอย่างรุนแรงในคืนนั้น
ทักษ์มองอาการไหล่ห่อของเพื่อนสนิทอย่างเห็นใจด้วยตนก็เคยตกอยู่ในสภาพนี้มาก่อน ความหึงหวงอย่างไร้สติ การไม่เชื่อใจกันไม่ได้ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์เลยสักนิด หากแต่ชายหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตนเองนึกสะใจอยู่ไม่น้อยที่ได้เห็นคนปากแข็งอยู่ในสภาพทำอะไรไม่ถูกแบบนี้
ฉันเคยเตือนนายแล้ว แต่นายก็ไม่ฟัง ทักษ์พูดซ้ำลงไปอีกดุจจะให้คนตรงหน้ารู้สึกถึงความผิดของตนมากขึ้นเท่านั้น
ฉัน...ฉันไม่รู้จริงๆ นี่ฉัน... ฉันทำอะไรลงไป
นายก็แค่ผลักหัวใจตัวเองไปให้คนอื่นนะซิ ป่านนี้นายอิทธิพลคงทำคะแนนนำโด่งไปแล้วละมั้ง ทักษ์แกล้งยั่วให้คนตรงหน้าหวั่นวิตก แอนโทนี่ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองอย่างแรงด้วยความกลัดกลุ้ม...ไม่ควรเลย เขาไม่ควรปล่อยอารมณ์ให้อยู่เหนือเหตุผลแบบนี้
ฉันจะทำยังไงดีทักษ์ ชายหนุ่มพึมพำอย่างกลัดกลุ้ม ทักษ์แกล้งทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ขณะยกมือขึ้นตบไหล่ของคนตรงหน้าเบาๆดุจดังจะให้กำลังใจ
ก็คงจะต้องทำใจล่ะนะ มาถึงขั้นนี้แล้วนี่ แอนโทนี่ส่งสายตาวาวโรจน์ไปให้เพื่อนสนิททันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ในใจนึกขุ่นเคืองไม่น้อยที่อีกฝ่ายทำเหมือนจะซ้ำเติมตนแบบนี้
นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้ฉันยุ่งเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นจัดการเอาเองก็แล้วกัน ส่วนฉันคงจะต้องไปรับผักหวานขึ้นเครื่องแล้วล่ะ ทำยังไงได้ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับนายก่อนไปญี่ปุ่นนี่
แอนโทนี่ได้แต่มองตามแผ่นหลังของเพื่อนสนิทซึ่งเดินห่างออกไปอย่างอาฆาตแค้นในใจ หากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้อาการหนักอึ้งที่เกาะกุมหัวใจมากว่าอาทิตย์เบาบางลงจนหายไปหมดสิ้นตั้งแต่ได้รู้ความจริงถึงความสัมพันธ์ระหว่างจิดาภากับผู้ชายเหล่านั้น เหลือเพียงแต่ความกังวลใจว่าตนควรจะทำอย่างไรต่อไปดีกับความผิดที่ก่อขึ้นไว้ในครั้งนี้
ผักหวานสังเกตได้ถึงอาการผิดปกติของจิดาภา ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นร่าเริง แต่บางครั้งในยามที่เผลอตัวตาหวานซึ้งของหญิงสาวก็จะมักจะฉายแววหม่นเศร้าออกมาอย่างปิดไม่มิด ไหนจะแอนโทนีเพื่อนสนิทของทักษ์อีกคน เธอสังเกตเห็นความกระวนกระวายใจในดวงตาของเขายามทอดมองเพื่อนสนิทของตน น่าแปลกที่จิดาภาเองแทบจะไม่เหลือบแลสายตาไปทางชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าหวานใสได้แต่มองคนทั้งคู่อย่างครุ่นคิด ดูท่าผงจะกระเด็นเข้าตาเพื่อนของเธอเข้าให้แล้ว
จิดาภาผลักร่างสูงของเจษฎาไปให้พ้นทางหลังจากที่อีกฝ่ายเล่นไม่เลิกพยายามยั่วทักษ์โดยการกอดผักหวานเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
พอได้แล้วไอ้เจษฎ์ ให้คนอื่นได้ลาไอ้หวานบ้าง หญิงสาวหันไปดุหนุ่มตัวโตที่ทำหน้ามุ่ยอย่างเด็กโดนขัดใจก่อนจะโผเข้ากอดผักหวานไว้แน่นและกระซิบพูดกับอีกฝ่ายเสียงแผ่ว
ฉันดีใจกับแกด้วยนะ รักษาความรักของแกไว้ดีๆล่ะ
ฉันรู้ ขอบใจแกมากที่ช่วยฉันทุกอย่าง อย่าเก็บเรื่องไม่สบายใจเอาไว้คนเดียว ถ้าคิดอะไรไม่ออกต้องโทรหาฉันรู้ไหม ผงเข้าตาตัวเองน่ะ เขี่ยไม่ออกหรอก ผักหวานกระซิบกลับ ตากลมสวยสองคู่มองสบอย่างรู้ในความนัยของกันและกัน ก่อนที่จิดาภาจะพยักหน้าให้เพื่อนสาวนิดๆเป็นเชิงรับปากและถอยร่นออกมาเพื่อให้เพื่อนคนอื่นๆได้เข้าไปลาผักหวานบ้าง
แอนโทนี่มองตามร่างโปรงระหงที่ไม่ยอมเหลือบแลมาทางตนเลยสักนิดอย่างกระวนกระวายใจ ...เขาจะทำอย่างไรดีนะ ควรจะทำอย่างไรดีกับความผิดที่ยากจะให้อภัยในครั้งนี้ ทักษ์มองสีหน้ากลัดกลุ้มของเพื่อนสนิทด้วยความสงสาร ว่าจะไม่เข้าไปยุ่ง ด้วยอยากจะดัดนิสัยของเพื่อนสนิทเสียบ้าง หากแต่ก็นึกกังวลใจแทนไม่น้อยเนื่องด้วยท่าทีของจิดาภาในวันนี้ดูแข็งจนน่าหวั่นใจ ชายหนุ่มเดินไปตบบ่าเพื่อนสนิทเบาๆเป็นเชิงสั่งลา ก่อนจะพูดทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายได้คิด
เมื่อรู้ว่าผิดก็ต้องขอโทษ ความจริงใจเท่านั้นที่จะช่วยนายได้แอนดี้ พูดความในใจของนายซะ ขอโอกาสเธออีกครั้ง แล้วอย่าทำผิดซ้ำในสิ่งที่เคยทำอีก
แอนโทนี่พยักหน้ารับคำอย่างช้าๆ ตาคมเข้มฉายแววมุ่งมั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มทอดสายตามองตามร่างโปร่งระหงที่เดินตามกลุ่มเพื่อนสนิทออกไปอย่างไม่วางตา
พี่จะไม่ยอมแพ้หรอกนะครับจีน ...ไม่มีวันยอมให้ใครเอาหัวใจของพี่ไปแน่ๆ ตาคมเข้มเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อนึกถึงแผนการอะไรดีๆขึ้นมาได้ขณะก้าวเดินออกจากตัวสนามบิน โทรศัพท์ในมือถูกหยิบยกขึ้นมากดถึงแดเนียล ชายวัยกลางคนที่ตนรักและเคารพประดุจอาแท้ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะแจ้งความจำนงค์ออกไปเมื่อปลายสายกดรับโทรศัพท์ของตนแล้ว
อาแดเนียลเหรอครับ...ครับผมเองแอนดี้ คือผมอยากให้คุณจีนช่วยลงไปดูงานตกแต่งที่ภูเก็ตด้วยตัวเองนะครับ ...ใช่ครับผมไม่อยากให้งานมีปัญหา ...ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้นฝากอาช่วยบอกคุณจีนด้วยนะครับแล้วผมจะให้เลขาจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินกับที่พักให้เอง... ครับ ตกลงครับ แค่งานตกแต่งช่วงแรกก็ได้ครับ...ครับไม่เกินสองอาทิตย์
โทรศัพท์ในมือถูกใช้อีกครั้งเพื่อต่อหาเลขาสาวคนสนิท ก่อนที่ชายหนุ่มจะสั่งการเสียงเข้มเมื่ออีกฝ่ายรับสายแล้ว
คุณมีนจองตั๋วไปภูเก็ตรอบค่ำพรุ่งนี้ให้ผมที แล้วจัดตั๋วรอบบ่ายวันมะรืนไปให้คุณจีนด้วย...ใช่ให้เธอพักที่ชั้นบนกับผมห้องเดิมนะล่ะ แต่อย่าบอกเธอนะว่าผมไปรออยู่ที่นู้นแล้ว อ้อ! แล้วอย่าบอกใครล่ะว่าผมไปที่นั่น ถ้าหลิงหลิงถามก็ไม่ต้องบอกเข้าใจไหม
ปลายสายรับคำอย่างงุนงงหากแต่ก็ไม่กล้าถามต่อให้ตัวเองต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้ แอนโทนี่ก้าวเดินไปตามทางเดินอย่างช้าๆ ภายในใจนึกภาวนาให้วันมะรืนนี้มาถึงโดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ปรับความเข้าใจกับเธอเสียที
*.:。✿*゚゚・✿.。.:*.:。✿*゚゚・✿.。.:*จบตอน
หายไปนานมากเลย ขอโทษคนอ่านด้วยนะจ๊ะ นาถไม่มีเวลาอัพ เลยทำให้ต้องรอกัน
วันนี้จะอัพสักสามบท ฉะนั้นเตรียมตาเเฉะอ่านกันได้เล้ยย
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปน้า แอนดี้จะง้อยังไงแล้วจีนจะใจอ่อนหรือเปล่า พบกับคำตอบได้ตอนหน้าจ๊ะ ขอบคุณนักอ่านที่เเวะเข้ามาอ่าน มาทักทายกันนะจ๊ะ ทุกเมนท์คือกำลังใจ จำนวนคนอ่านคือยาชูกำลังที่ได้ผลที่สุด
◕‿◕ ณนาถ
|
|
|
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2551 12:38:03 น. |
|
2 comments
|
Counter : 181 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ogod IP: 222.123.134.176 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:50:34 น. |
|
|
|
โดย: dependent IP: 125.27.247.10 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:51:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช
บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์
เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ
ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน
เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม
กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|