[FIC] Love Train : ทริปรัก..เฉพาะกิจ : Chapter1 *** เนื้อหาต่อไปนี้ จะมีเรื่องราวความรักในรูปแบบของ boy's love อยู่ด้วย.. หากผู้ใดไม่ชอบเนื้อหาในทำนองนี้ ขอความกรุณาปิดหน้าต่างหน้านี้ได้เลยนะคะ แต่ถ้าหากใครที่อยากมองเห็นอีกมุมมองหนึ่งของความรัก ในแบบคลีนๆ ใสๆ ก็อยากเชิญชวนให้ลองอ่านดูค่ะ ^^ *** ************************************************** :: Chapter 1 :: ....... ....... ....... เช้าที่แสนวุ่นวายของกรุงเทพมหานครในยามประสบอุทกภัยเช่นนี้ ดูแปลกตาไปจากความเคยชินของดาราหนุ่มเจ้าบทบาทที่เคยเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนัก เมื่อภาพรถที่เคยวิ่งเต็มท้องถนนจนเกิดปัญหารถติด กลายเป็นภาพเรือและภาพแพทั้งหลายลอยกันให้วุ่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริเวณบ้านของเขานัก ลำพังการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เขาเองยังพอรับได้อยู่บ้าง เพราะระดับน้ำแถวบ้านก็ไม่ได้สูงมาเสียจนอาศัยอยู่ไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเดินทางออกไปทำงานมันช่างลำบากและยากขึ้นเป็นเท่าตัวกว่าปกติจริงๆ แถมงานที่เคยมีเต็มคิว ก็ค่อยๆหดหายไปตามกระแสน้ำที่ผ่านเข้ามาด้วย สิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือออกไปทำตัวให้มีประโยชน์โดยการเป็นจิตอาสาในที่ต่างๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาเลือกที่จะทิ้งช่วงเวลาพักผ่อนที่เข้ามาโดยไม่ตั้งใจ ไปทำสิ่งดีๆต่อผู้อื่น.. ไปช่วยเพื่อนร่วมชาติที่กำลังเดือดร้อนมากกว่าเขา แม้ว่าจะไม่มีสื่อไหนมาคอยตามทำข่าว แต่เขาก็ไม่เคยนึกน้อยเนื้อต่ำใจ นิสัยเจียมเนื้อเจียมตนอยู่ลึกๆ.. มันฝังแน่นอยู่ในห้วงความรู้สึกนึกคิดจนดึงไม่ออกเสียแล้ว และเป็นเช้าวันนี้ที่ชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง.. "ณัฏฐ์นุชิต" ดาราหนุ่มที่คลุกคลีอยู่ในวงการมาเกือบ 10 ปี ได้ถูกทาบทามจาก "พี่รุ้ง" เจ้าของนิตยสารท่องเที่ยวรายเดือนที่เขาเคารพเหมือนพี่สาวคนหนึ่งมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ให้มาทำคอลัมน์พิเศษในแบบฉบับของเขา เพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆเข้ามาในยามที่เศรษฐกิจต้องสะดุดเช่นนี้ ซึ่งแน่นอน.. สำหรับณัฏฐ์นุชิตแล้ว งานทุกงานคือความท้าทาย คือสิ่งที่น่าค้นหา และเขาพร้อมที่จะลุยไปข้างหน้าเสมอ เพียงแต่ไม่รู้ทำไม.. เหมือนมีลางสังหรณ์ว่างานนี้มีอะไรให้เขาเจอมากกว่าการ "ท่องเที่ยว" เสียนี่สิ.. แปลก !! ชายหนุ่มรีบคว้ากระเป๋าใบเล็กคู่ใจออกเดินทางมุ่งตรงไปยังสำนักพิมพ์ "Love Train" เพื่อเดินทางไปเจรจางานครั้งนี้กับพี่รุ้ง หรือ รุ้งรัตน์ โดยตรง แม้การเดินทางออกไปมันอาจจะทุลักทุเลเสียหน่อย แต่ถ้าหากการรับงานครั้งนี้จะเป็นการ "ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว" เขาก็ยินดีที่จะออกไปโดยไม่มีข้อแม้ การเดินทางครั้งใหม่ในชีวิตของผู้ชายที่ชื่อณัฏฐ์นุชิต กำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง.. กับงานครั้งนี้ ! ................ ................ ................ "สวัสดีครับพี่รุ้ง" หนุ่มผิวเข้มยกมือไหว้หญิงสาวที่มีศักดิ์อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อมทันทีที่เดินเข้ามายังห้องทำงานของรุ่งรัตน์ เธอรับไหว้เขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างเคย ก่อนจะเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอ "นั่งก่อนสินัท เดี๋ยวเราต้องคุยกันอีกยาวเลย" "ครับ" ชายหนุ่มฉีกยิ้มบางให้ แล้วนั่งลงตามคำเชิญของหญิงสาวตรงหน้า เขาก้มลงวางกระเป๋าเป้ใบเล็กไว้ข้างๆกาย ขณะที่ปากก็เอื้อยเอ่ยถามออกไปด้วยท่าทีสบายๆ "นี่พี่รุ้งคิดยังไงครับเนี่ย ถึงจะให้ผมออกทริป" "ก็ไม่ได้คิดอะไร" หญิงสาวยิ้มขำน้อยๆประกอบคำพูด "พี่แค่อยากเพิ่มยอดขายน่ะ เห็นว่าช่วงนี้เรากำลังมีงานชุมเยอะแยะ แล้วมาเจอปัญหาน้ำท่วมแบบนี้งานคงต้องชะงักไปบ้าง พี่ก็เลย.." "หางานให้ผมทำ เพื่อต่อยอดโปรเจคท์เพิ่มยอดขายของพี่ ใช่มั้ยครับ?" ณัฏฐ์นุชิตกระเซ้าหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี เขายิ้มจนเห็นเขียวเล็กๆที่ใครๆต่างก็บอกว่ามันมีเสน่ห์ ซึ่งนั่นก็ทำให้หญิงสาวยิ่งยิ้มกว้างไปกับท่าทางของหนุ่มรุ่นน้อง "ประมาณนั้นแหละ.. เรานี่มันรู้ทันพี่ตลอด" "แล้วจะเอายังไงครับ ให้ผมเริ่มเมื่อไหร่ดี เพราะงานละครที่ผมรับไว้ต้องเลื่อนไปอีกสองเดือนเลย มีเวลาให้พี่รุ้งเยอะมาก..กกก" เสียงลากยาวที่แสดงถึงความนิทสนม แบบที่คนอัธยาศัยดีทำกันถูกแสดงออกจาชายหนุ่มที่ใครๆก็มองว่าเขาเป็นการเป็นงาน ดูสุขุมนุ่มลึก ดูเป็นผู้ใหญ่มีการศึกษา มีมารยาททางสังคม หากแต่คนที่เฝ้ามองการเติบโตของเขามานานอย่างรุ้งรัตน์รู้ดี.. ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ยังมีความเป็นเด็กอยู่เต็มตัวกว่าที่ใครๆจะคาดคิด เธอยิ้มให้กับหนุ่มรุ่นน้องอย่างเอ็นดู ก่อนจะหยิบแฟ้มหนาเล่มหนึ่งออกมาจากข้างๆโต๊ะทำงานของเธอ "พี่มีสถานที่ให้เราเลือก ตามแต่เราจะอยากไปเลย.. เชื่อมั้ยว่าสองเดือนของนัท พี่คงทำเป็นเล่มเฉพาะกิจได้สบายๆ" "โหวว.." เป็นชายหนุ่มที่ยิ้มรับคำพูดของหญิงสาวรุ่นพี่ เขาพลิกดูข้อมูลในแฟ้มอย่างสนใจ สถานที่ที่เขาเห็นในภาพล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ในต่างประเทศที่เขาไม่เคยคิดจะไปเยือน หรือถ้าจะพูดให้ถูก คือไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้ไปเยือน เพราะวันๆชีวิตของเขาถูกผูกติดอยู่กับงานที่รับมาเท่านั้น "แล้วพี่รุ้งจะให้ผมไปเมื่อไหร่ครับ ?" "ก็.. เร็วที่สุด พี่อยากให้เราเดินทางอาทิตย์หน้าเลย นัทสะดวกรึเปล่าล่ะ" "ได้สิครับ" คนถูกถามยังคงรักษาระดับรอยยิ้มไว้ได้อย่างดีเยี่ยม "แล้วพี่จะให้ผมไปกับใครครับ หรือให้ผมไปลุยเอาเองเลย ?" "โอ๊ยยย นัท.. พี่ไม่ใจร้ายกับเราขนาดนั้นหรอก" รุ้งรัตน์พูดไปก็หัวเราะไป เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วก็นึกชื่นชมในความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในการทำงานของเขาไม่ได้ "พี่ต้องถามนัทมากกว่า ว่าอยากได้ผู้ช่วยสักกี่คนดี พี่จัดให้นัทได้อยู่แล้ว" "ถ้าพี่จะให้ทำมันออกมาในแบบฉบับของผม ผมขอตากล้องไปแค่คนเดียวพอครับ ผมอยากให้มันออกมาเหมือนกับว่าผมกำลังไปผจญภัยพร้อมกับคนอ่านจริงๆ" "ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเราแล้วกัน แต่ถ้าอยากได้อะไรอีกก็บอกพี่นะ.." รุ้งรัตน์ส่งยิ้มให้หนุ่มรุ่นน้องไปอีกครั้ง เธอมองไปยังนาฬิกาข้อมือแล้วก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ สองมือของเธอคว้ากระเป๋าสะพายข้างและแฟ้มเอกสารอีกสองสามแฟ้มขึ้นมา "อื้ม ! เดี๋ยวพี่ต้องไปเข้าประชุมแล้วล่ะ ถ้ายังไงนัทอ่านแฟ้มนี่ไปพลางๆก่อนนะ แล้วพี่จะออกมาคุยด้วยใหม่" "ครับผม" ณัฏฐ์นุชิตเอ่ยปากเป็นอันรับรู้ หญิงสาวจึงเดินออกไปนอกห้องทันที ทิ้งให้หนุ่มรุ่นน้องนั่งอ่านข้อมูลในแฟ้มอย่างสนอกสนใจ แต่แล้วเหมือนความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมายังที่แห่งนี้มันทำให้ปริมาณน้ำในร่างกายของชายหนุ่มเหือดหายไปด้วย อาการคอแห้งเริ่มถามหากับณัฏฐ์นุชิต จนเขาจำใจต้องวางเอกสารนั้นลง แล้วเลือกที่เดินออกไปหาน้ำทาน เขามองหาตู้น้ำที่ควรจะตั้งอยู่หน้าห้องซึ่งเขาเคยเห็น แต่ก็ไม่พบ.. จึงทำได้แต่เพียงเดินตามหา และใช้สายตาสอดส่ายหาไปด้วย แต่จะด้วยเพราะมองหาน้ำมากเกินไป หรือโชคชะตาจงใจกลั่นแกล้งกัน... ณัฏฐ์นุชิตดันเดินไปชนกับอีกร่างที่เดินเข้ามาปะทะอย่างจัง จนเอกสารมากมายในมือของอีกคนหล่นกระจายเต็มพื้น "ข.. ขอโทษครับ" เป็นฝ่ายณัฏฐ์นุชิตที่รีบเอ่ยคำขอโทษขอโพยขึ้นมาทันที ไม่มากครั้งนักที่เขาจะทำตัวซุ่มซ่ามเดินชนใครไปนอกเหนือจากในละครที่เขาเล่น แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายกลับไม่ใส่ใจที่จะรับคำขอโทษ หรืือแม้แต่จะคิดขอโทษเขากลับก็คงจะไม่มี เพราะมือเรียวบางทั้งสองมือของคนตรงหน้ายังคงก้มเก็บเอกสารโดยไม่ปริปากใดๆออกมา "มา.. เดี๋ยวผมช่วย" "ไม่เป็นไรฮะ เก็บเองได้" เสียงหวานที่ฟังดูห้วนๆเอ่ยขึ้นมาเหมือนคนจำใจพูด ณัฏฐ์นุชิตได้แต่มองอย่างแปลกใจ นอกจากจะไม่คดขอโทษเขา.. ไม่คิดรับคำขอโทษจากเขาแล้ว.. ยังทำหยิ่งไม่รับความช่วยเหลือจากเขาอีกด้วย คนนิสัยแบบนี้ไม่ถูกจริตกับคนที่ชื่อณัฏฐ์นุชิตสักเท่าไหร่นักหรอก ! หนุ่มผิวเข้มรีบลุกขึ้นยืนอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเอ่ยวาจาด้วยหวังจะจากกันด้วยดี ไม่ต้องมีปัญหาใดๆอีก "งั้นผมขอตัวแล้วกัน แล้วอย่าหาว่าผมไม่ช่วยคุณล่ะ" "ก็ไม่ได้ขอให้คุณมาช่วยนี่ฮะ.." "เอ๊ะ นี่คุณ.. !" ณัฏฐ์นุชิตอดหันมามองเจ้าของเสียงเจ้าปัญหาไม่ได้ แต่ทันทีที่คนไร้มารยาทเงยหน้าขึ้นมามอง ณัฏฐ์นุชิตกลับยิ่งรู้สึกแปลกใจยิ่งไปกว่าเก่า.. ผมสีนิลสั้นที่ประปรายไปด้วยเส้นผมไฮไลท์สีน้ำตาลเข้ม ดวงตากลมโตเป็นประกายไร้เดียงสา ใบหน้าขาวอมชมพูที่ดูอวบอิ่มน้อยๆ รับกับจมูปและปากที่ดูได้รูป.. เรียกได้ว่าเครื่องหน้าของคนตรงหน้านั้นงามชนิดหาตัวจับยาก แต่ไฉนเลยคำพูดคำจามันช่างเหมือน "มะนาวไม่มีน้ำ" แบบนี้กันนะ น่าเสียดายความสวยชะมัดยาก ! "ขอตัวนะฮะ ขอโทษด้วยละกันที่เดินชนคุณ" "......." เด็กเจ้าปัญหาเดินเลี่ยงออกไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ความสงสัยที่วิ่งชนเข้ากับความคิดของนักแสดงหนุ่ม คิ้วทั้งสองข้างถูกขมวดมาชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันจะดูขัดแย้งกันเกินไป.. ...ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ... ?? ...หรือจะเป็น "ทอม"... ?? ...................... ...................... ...................... ...................... == ^^ TBC ^^ == สนุก..น่าสนใจ...
แค่เริ่มเรื่องก็น่าติดตามแล้วอ่ะ เป็นกำลังใจให้writerนะคะ โดย: พี่นิด IP: 61.7.146.3 วันที่: 2 ธันวาคม 2554 เวลา:17:27:53 น.
|
MF Angsumalin
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เด็กน้อยตัวเล็กขนาดพกพา ออกมาเดินทางบนโลกใบใหญ่ พกพามาเพียงแค่ตัวและหัวใจ ที่ฝันใฝ่ในฝันที่หมายปอง Group Blog All Blog Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
(มาต่อไวๆเลยไม่งั้นโดนจุ๊บ..ขู่ๆ)