ความทรงจำดีๆที่เชียงคาน และความงามแห่ง ภูกระดึง
ปีใหม่ปีนี้เป็นอะไรที่ฉุกละหุก และไม่มีการวางแผนอะไรเลย ในตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่กรุงเทพไป Countdown ที่ CTW ดิื่มกับเพื่อนก็พอใจแล้ว แต่ในใจจริงๆก็อยากไปต่างจังหวัด แต่มันวันที่ 29 แล้ว รถยังไม่จอง ที่พักยังไม่มี ก็ได้แต่เศร้าใจอยู่ กทม. ต่อไป
แ่ต่ทันใตเจ้า MSN ก็เด้งขึ้นมา เพื่อนปอทักมา "ไปเชียงคานกันเถอะ" ผมก็งงๆ "เมิงจองรถกับที่พักแล้วเหรอ ปีใหม่คนเป็นล้านนะ" ปอบอก "เออน่ามี เชื่อกรุสิ" ก็โอเค ชิวอยู่แล้วไปก็ไป
วันที่ 30 pack กระเป๋าไปแบบงง อาสัยพลังศรัทธาในตัวเืพื่ออย่างเดียว มีคนมาร่วมชะตากรรม ทริปนี้ 4 คน ก็นัดเจอกันที่ MRT หมอชิต
ต่อรถไปสถานีขนส่ง เห็นคนแทบชอค มันจะมีรถไหมเนี่ย
หลังจากรอต่อคิวกว่า 2 ชม ท่านผู้นำก็ได้ตั๋วมา *0*
แล้วเราก็นั่งรถยาวไปถึงเลย แล้วก็ต่อรถไปเชียงคาน
ในทีี่สุดก็ถึง...ว่าแต่เราจะพักไหนละ ก็เดินหากันพักใหญ่ ด้วยการนำทางของแจง เืพื่อนที่พักอยู่เชียงคานหาให้
ที่เชียงคานตอนนี้ ยังน่าเที่ยวอยู่ เหมือนปายสมัยแรกๆ เงียบสงบ และสัมผัสได้ถึงวิถีชาวเชียงคาน... แต่พูดตรงๆก็ คาดว่าอีกไม่นานก็จะเหมือนปาย มีแต่นักลงทุนไปเปิดร้าน จัดร้านให้ ART ตกแต่งดูดี แต่มันไม่กลมกลืนกับท้องถิ่น เพราะมันเป็นแค่ prop ที่ถูกวางไว้ เหมือนที่ปายในตอนนี้เป็นไปแล้ว ไม่ต่างอะไรจาก Streetwalk ที่สีลม หรือตรอกข้าวสาร เฮ้อ...
ร้านที่เป็นของคนเชียงคานแท้ๆ จะอบอุ่นมากนะครับ ขกยกตัวอน่างสัก 2-3 ร้าน อย่างบ้านดอยฝ้าย กับร้าน NoL [โนแอล] เจ้าของร้านจะคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนผมมาประจำ 10 ปี คุณสามารถเดินไปเปิดตู้เย็น ทำอะไรกินเองได้เลย ปิ้งหนมปัง ทำไอติม และระหว่างๆนั่งๆอยู่ คุณก็อาจได้รับอาหารกอีกมากมายที่เพื่อนบ้านหยิบมาให้ หรือเจ้าของร้านเปิดเลี้ยง อย่างแตงโม สลัด ไข่ปิ้ง.... แน่นอนว่าฟรี เค้าคิดเงินแค่ที่เราสั่ง ซึ่งเราก็สั่งไปแค่ไม่กี่สิบบาท แต่ความอบอุ่นที่ได้รับ มันทำให้ผมรักที่นี่และอยากกลับมาอีก เจ้าของร้านชิวขนาด อยูาๆก็บอกว่ามีธุระ แล้วฝากร้านให้เราดูแลแทนกันเลยทีเดียว
นี่ก็กำลังเฝ้าร้านไปกินไอติมไป ชิวๆ~~
อีกสักภาพ
ยามเย็นผมก็ อาศัยจักรบานที่ร้านให้ยืมมาฟรีๆ ปั่นไปดูแก่งคุดคู้ ริมน้ำโขง เห็นว่า ปกติน้ำจะขึ้นสูงถึงตรงบันไดที่เรายืนอยู่กันเลยทีเดียว
ฝนเริ่มโปรย ปั่นจักรยานเลียบลำน้ำโขงกลับที่พัก ชิวมากๆ
หลังจากนั้นเราก้ไปจัดงานปีใหม่กันที่บ้านของเพื่อนแจง ก็ดื่มกันเละเลย หุหุ จุดพลุ ร้องคาราโอเกะ บลาๆๆ แต่ด้วยเหุผลบางอย่สางจึงของดลงรูปในงานนี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวงานเข้า
วันรุ่งขึ้นเราก็ยังพักที่เชีงคานอีกคืน ตอนแรกตั้งใจจะไปภูเรือ แต่้แฮงค์หนักไม่ไหว
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ขอข้ามไปอีกวัน เราก็จะออกเดินทางไปภูกระดึง เรานั่งรถ 2 แถวออกมาจากเชียงคานมาต่อรถไปภูกระดึงทีท่าขนส่งเลย (ถึึงจุดนี้ Dslr ที่เราพกมาก็แบตตายสนิทที่ชาร์จก็ไม่มี เลยต้องถ่ายด้วย Iphone แทน แต่ภาพก็พอโอเคน่า)
หลังจากจ่ายค่าเข้า ค่าที่ ค่าบลาๆๆ เราก็จะเริ่มขึ้นเขากัน นี่คือสีหน้าของตอนอยู่ปากทางเข้า
ก็เดินๆๆ
หลังจากเดินมาไม่ถึงครึ่งทาง แต่ละคนเริ่มไม่ชิว
ฃ่วงนี้ก็จะงดภาพประกอบ เนื่องจากเหนื่อยมาก มือก็สั่นหมดอารมณ์ถ่าย
พักเหนื่อยตอนใกล้ถึงยอด มองลงไปข้างล่างดูความชันที่เราเดินกันมากว่า 8 ก.ม. มันจะชันไปป่าววะ T^T
ช่วงสุดท้ายก่อนถึงยอด จะชันมาก ปีนหินคงจะยากเกิน ทางอุทยานก็เลยทำบัันไดเหล็กไว้ให้ แต่มันชันตั้ง 80 องศา ด้วยสภาพกายในตอนนี้ ขอบอกว่ามันนรกมาก
ในที่สุดก็ถึง เริ่มขึ้น 13.30 ถึงเกือบๆ 6 โมงได้
แต่เราต้องเดินอีก 3 กิโลไปยังจุดกสงเตนท์ แต่ตอนนี้เป็นการเดินพื้นราบแล้ว ก้เหมือนจะชิว แต่ทางเดินเป็นทราย ดูดแรงเยอะเหมือนกัน แต่เทียบกับตอนขึ้นก็เด็กๆไปเลย
ถึงที่พักก๋กางเตนท์ อาบน้ำนอน หมดสภาพ
เช้าวันถัดมาตั้งใจะตื่นตี 5 ไปดูทะเลหมอกและอาทิตย์ขึ้นที่ผานางแอ่น ...แต่เราก็ตื่นสายกันหมด เลยเดินไปชมผากันเอง
ก็ถ่ายกันท่าฮิตหย่อนขาลงผา นั่งวัดใจกัน เสียวโคตรๆ มันสูงมากเลยละเธอว์
พอถ่ายเสร็จเดินออกมาก็เห็นป้ายนี้ (ฮา)
กลับที่พักเปลื่ยนเสื้อผ้า วันนี้จะลุยน้ำตกกับผาต่างๆให้ครบ ขอไม่บรรยายมาก ชมภาพละกันนะเธอว์ ก็มีผาจำศีล ผาเหยีอบเมฆ และสุดท้ายที่ผาหล่มสัก
จบที่ภาพสุดท้าย ณ ผาหล่มสักนะเธอว์ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน สวัสดี
Create Date : 17 มกราคม 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 30 มกราคม 2553 2:24:16 น. |
Counter : 2546 Pageviews. |
|
|