Noise219@Melbourne
เขาว่า ขอวีซ่าอเมริกา.......ยากโคตร

เมื่อเดือนก่อน หัวหน้าบอกให้เราไปช่วยงานที่อเมริกาห้าเดือน เนื่องจากมี Urgent requested (อีกแล้ว) มาจากลูกค้าที่โน่น ชีวิตนี้ ก็ไม่เคยไปเหยียบโลกฝั่งกันโน้นเลยสักครั้ง ไม่เคยมีความคิดว่าจะไป หรือคิดว่าอาจจะได้ไปเลย เพื่อนแถว ๆ โน้นก็มีอยู่หลายคนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ เราไม่เคยคิดว่าอยากไปเพราะว่ามันไกล

พอตกลงใจว่าจะไปทำงานให้ ความยุ่งยากทั้งหลายแหล่ก็ตามมาทันที วันแรก ก็ได้รับอีเมลยาวเหยียด สองหน้ากระดาษเอสี่ บอกเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แม่เจ้า อะไรจะเยอะปานน๊านนนน

ทุกอย่างค่อนข้างกระชัดชิด เพราะเขาอยากให้คนไปช่วยตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎา แต่เราติดงานที่อื่นอยู่ ไม่สามารถไปได้ ก็ต่อรองจนสรุปได้ที่ต้นเดือนสิงหา

เล่าแบบคร่าว ๆ สำหรับ L1 visa - Intra-company transter visa คือ

1. ต้องส่ง resume,
2. ต้องทำ drug test
3. ต้องขอ police clearance check จากประเทศที่เราเคยอยู่ อย่างของเรานี่ต้องขอทั้งที่เมืองไทย กะออสเตรเลีย
4. ต้องส่งหลักฐานการศึกษาไปให้ทางอเมริกาตรวจสอบและออกหนังสือรับรอง
5. ต้องมี employment verification letter (3 ชุด)
6. I-797 ที่นายจ้างที่อเมริกาออกให้ (3 ชุด)
7. Form I-129S Blanket L Petition (3 ชุด)
8. L-1 Blanket Petition (3 ชุด)
9. รูปถ่ายขนาด 5x5 cm ต้องสแกนแล้วโหลดตอนกรอก DS160

Note: เอกสารส่วนใหญ่ ทำผ่าน electonic mail ค่ะ ยกเว้นข้อ 5-8 ซึ่งทางอิมมิเกรชั่นเอเจ้นส่งผ่าน Fedex มาให้

ยังไม่หมดค่ะ สิ่งที่ต้องทำ ยังมีอีก หลังจากที่ส่งเอกสารข้อ 1-4 ไปอเมริกาแล้ว เราต้องกรอกแบบฟอร์ม DS160 ในเวบ สำหรับของเรายื่นที่ออสเตรเลีย ก็ตามลิงค์นี้ค่ะ

//canberra.usembassy.gov/nonimmigrant-visas.html


สิ่งสำคัญสำหรับการกรอก DS160 ของ L1 visa คือ

1. I-797 petition receipt/approval number ทางอเมริกาออกให้ เราต้องได้เบอร์นี้จากเขาก่อน
2. case type - ของเราคือ I-129
3. visa type - ของเราคือ Blanket L-1


จากนั้นก็นัดวันสัมภาษณ์ ซึ่งเราจะต้องคอนเฟิร์มกับทางอิมมิเกรชั่นเอเจ้นที่อเมริกาซึ่งเป็นคนทำเรื่องให้ เนื่องจากเขาต้องส่งเอกสารในข้อ 4-8 มาให้เราเพื่อใช้ในวันสัมภาษณ์

ยืนยันเสร็จ ก็พิมพ์ใบยืนยันออกมา ต้องพิมพ์ให้ชัดเจน เพราะบาร์โค๊ตนี้จะต้องใช้ตอนไปสัมภาษณ์ที่สถานทูต

สำหรับเอกสารที่เราใช้ในวันสัมภาษณ์ก็มี

1. L-1 Blanket Petition (3 ชุด)
2. Form I-129S Blanket L Petition (3 ชุด)
3. passport
4. ใบยืนยัน DS160
5. cover letter addressed to the Chief Consul at the U.S. Consul (3 ชุด)
6. Visa Fees = 150USD (180 AUD) อันนี้ต้องไปซื้อก่อนที่ post office ไม่รับเป็นเงินสดหรืออย่างอื่น
7. Additional fees (L1) = 500USD (600AUD) ค่าธรรมเนียมอันนี้ไปจ่ายสถานทูตหลังจากที่ผ่านการสัมภาษณ์ สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ค่ะ
8. Employment Verification Letter จากข้อห้าข้างบน (3 ชุด)
9. Evidence of your familial relationships if bringing dependent family members
10. University Diplomas จากข้อสี่ข้างบน
11. 500g self-addressed Express Post Platinum envelope

สรุปค่าใช้จ่าย

Visa fees = 180+600 = 780 AUD
500g envelope = 14AUD
Photos = 24AUD

เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง ว่าเขาสัมภาษณ์อะไรบ้าง


Create Date : 30 กรกฎาคม 2553
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 18:37:13 น. 7 comments
Counter : 1796 Pageviews.

 
เคยได้ยินว่าการขอวีซ่าเข้าประเทศในโลกนี้ ถ้าขอเข้า
อเมริกากับญี่ปุ่นได้ก็แทบจะขอวีซ่าประเทศอื่นๆในโลก
ได้หมดเลยครับ


โดย: Don't try this at home. วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:44:02 น.  

 
เชื่อหรือเปล่าคะ สำหรับเรา ประเทศญี่ปุ่นนี่ ของ่ายที่สุดเท่าที่เคยประสบมาเลยค่ะ เอกสารแค่สามอย่าง (พาสปอร์ต invitation letter และก็รูปถ่าย อย่างอื่น เค้าไม่ค่อยสนใจ) ค่าวีซ่า 28AUD (ประมาณ 800บาท) สองวันทำงานก็ได้วีซ่าแล้วค่ะ ฟอร์มที่กรอกก็กรอกเท่าที่จำเป็นน่ะ แต่อเมริกานี่ โหดของจริงค่ะ เรากรอกเอกสารไป 15 ฉบับไม่รวม DS160 กับ visa appointment น่ะ


โดย: NoiseN วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:54:49 น.  

 
เยี่ยมค่ะ
ตั้งใจกรอกเอกสารนะค่ะ


โดย: doctorfor (doctorfor ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:35:52 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: NoiseN วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:58:18 น.  

 
เพิ่งไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามาคะ
ไม่ยุ่งยากเหมือน L1คะ
อยากแนะนำว่าวีซ่าอเมริกาไม่ยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ
เตรียมเอกสารให้พร้อมตามที่สถานฑูตขอ
แล้วก็เตรียมเอกสารยืนยันความมั่นคงที่เรามีนอกอเมริกาให้พร้อม เตรียมความมั่นใจไว้เยอะเยอะ
เราโดนถามแค่ คุณไปทำอะไร ตอบ ไปเที่ยว
ไปกับใคร เพื่อนสนิท ไปกี่วัน 7 วัน เพื่อนคุณมีวีซ่าอเมริกาหรือยัง ตอบ มีแล้ว ไปเมืองไหน ตอบ นิวยอร์ค
พักที่ไหน ก็บอกชื่อโรงแรมไป คุณไปประเทศไหนมาบ้าง มาเลย์ สิงคโปร์
แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเราจะส่งpassportให้คุณ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ จบ...ไม่ยากเลย แต่ต้องตอบอย่างมั่นใจ บางคำถามเราก็ฟังไม่ออก เขาก็จะถามเป็นไทยให้
เราว่าเราโชคดีด้วยแหละ เพราะเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ขอเอกสารเพิ่มเลย ช่อง หมายเลข 9 ใจดีมาก


โดย: M a Y IP: 58.185.86.7 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:18:02:13 น.  

 
เค้าถามอะไรบ้างหรอคะ


โดย: cat IP: 192.99.14.34 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:58:35 น.  

 
ABC


โดย: Noo IP: 204.136.207.158 วันที่: 9 สิงหาคม 2560 เวลา:14:25:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NoiseN
Location :
Melbourne Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Noise219 นะคะเพื่อน ๆ มาในบล็อกใหม่เพราะของเดิมโดนไวรัสค่ะ

ขอบคุณป้ามด คุณ N_BEE810 และคุณเนยสีฟ้า สำหรับของแต่งบล็อกสวย ๆ นะคะ

^-^ ^_^ ^_^ ^_^

I love Melbourne Long Live the King
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add NoiseN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.