Noise219@Melbourne

วิศวะ ฮาเฮ ตอนที่ 4 : เมรี ขี้เมา

วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากจะเขียนเรื่องเบา ๆ เรื่องของคนที่เมา และเกือบเมา (รวมทั้งคนที่แกล้งเมาด้วยหละ) ให้ฟัง

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีคนซื้อเบียร์มา แล้วพวกเราก็กินฉลองส่งท้ายวันศุกร์กันนิดหน่อย เราไม่ดื่มเหล้า เบียร์ และของมึนเมาอยู่แล้ว แต่ก็ร่วมวงกะเค้าตั้งกะเริ่มจนเลิกนั่นแหละ

ตั้งแต่สมัยเรียน ป.ตรี เวลาเพื่อน ๆ กินเหล้ากัน เราก็นั่งคุย นั่งโม้ ราวกับว่าเมาไปกะมันแล้วซะงั้น เคยมีคนเข้าใจว่าเรานี่ เป็นหนึ่งในพวกขี้เมา ที่ก๊งเหล้าตั้งกะงานยังไม่เริ่มยันงานเลิกมาแล้ว คน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น หัวหน้าเก่าเราเองหละ Mr. 7%

การที่เราไม่ดื่ม ก็กลายเป็นเรื่องที่เพื่อน ๆ ที่ทำงานด้วยกันที่นี่มักจะถามอยู่บ่อย ๆ เพราะเราไม่แตะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์เลย แต่เวลาพวกนี้เค้าชวนกันไปสังสรรค์ (ก็กินเหล้านั่นหละ) ถ้าไม่ติดงาน เราก็ไปด้วยเสมอหละ นั่งกินน้ำหวานตั้งกะทุ่มนึงยันเที่ยงคืนเลย อิอิอิ

พูดถึงเรื่องกินเหล้า ก็ทำให้นึกถึงเพื่อนคนนึง ชื่อแพททริก ตาคนนี้เป็นคนอเมริกัน หน้าตาเค้าก็กวน ๆ โอ๊ยบอกไม่ถูก ทำไมไม่รู้อ่ะ วันแรกที่เจอกัน พอเพื่อนซี้อาฮานแนะนำให้เรารู้จัก เราก็ทักทายแบบปกติ แต่ด้วยความที่อาฮานแกขี้เล่น ประกอบกับตาแพททริกแกหน้าตากวน ๆ อย่างที่บอก เรื่องมันก็เลยเป็นแบบนี้หละ

"Patrick is Bush's friend, he is from america" อาฮานว่าไปโน้นเลย ไอ้เราก็ไวพอกัน เลยโพล่งออกไป

"Oh, I hate american"

ตาแพททริกงี้ ทำหน้าไม่ถูกเลย พูดไปแล้วเราก็สงสาร

"Well, you're not the only one. Million people out there hate us as well"

ตั้งกะนั้นมา เวลาคุย ๆ อะไรกัน เค้าก็จะชอบทำเป็นงอนเรา เรื่องที่เราเคยพูดว่า เราเกลียดคนอเมริกัน เผลอ ๆ คุยกันเพลิน ๆ เค้าก็กัดเราอีกจนได้เรื่องนี้

"Actually I know that lot of people hate American, but no one say in front of me that they hate American."

เมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทจัดงานเลี้ยงในเมืองเมลเบิร์น ร้านก็อยู่ตรงริมแม่น้ำ ใกล้ กับคาสิโน ในงานก็มีทั้งของกิน เครื่องดื่ม ทั้งที่ผสมและไม่ผสมแอลกอฮอร์ แพททริกก็คงจะดื่มไปหลายกั๊กอยู่ ตอนเจอกันช่วงใกล้ ๆ งานเลิกก็เลยอกอกอาการเดินเอียง ๆ

ไอ้พวกเรา มันขาเมาท์ คุยกันยังกะไม่ได้เจอกันมาเป็นชาติ ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะมางานเลี้ยง ก็เพิ่งจะทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเดียวกันนั่นแหละ กลุ่มอื่น ๆ เค้าทะยอยกลับบ้านกันหมดแล้ว พวกเราก็ตั้งท่าจะกลับตั้งแต่ที่มีคนเริ่ม ๆ ออกจากงานแล้ว และกว่าจะแยกย้ายกันได้ ก็กลายเป็นว่า พวกเราเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ยังยืนอยู่ที่ร้านนั้น

พอเริ่มรู้ตัว ว่าไม่เหลือใครอื่นแล้ว พวกเราก็ได้เวลา ต้องลาจากกันจริง ๆ ซะที หลังจากที่ตั้งท่าจะไปอยู่เกือบชั่วโมงแล้ว แพททริก เป็นคนแรก ที่ใจกล้าเดินจากพวกเราไป พวกเราก็ได้แต่มองตาม ตาละห้อย เอ๊ย ไม่ใช่หรอก จริง ๆ แล้ว พวกเรามองคอยลุ้นว่ามันจะเดินตกแม่น้ำไปหรือเปล่าน่ะ เพราะยิ่งเดินห่างออกไป ศูนย์ถ่วงของเค้าก็เหมือนจะยิ่งไม่ค่อยดี เริ่มเซ แซ๊ดๆๆ เข้าใกล้แม่น้ำเข้าไปทุกที

ในที่สุด ก็เป็นเราที่อดไม่ได้ ต้องวิ่งตามไปดึงให้เดินออกมาห่าง ๆ อีกฝั่งนึงของถนน

"Patrick, are you okay?"
"Hei...don't worry, I'm alright"

เออ คนเมาก็เป็นแบบนี้ทุกคนเลยเนอะ ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเมา

ไหน ๆ ก็พูดเรื่องนี้แล้ว ก็เลยขอรวบยอด เล่าเรื่องน้องอีกคนให้ฟังซะเลย

น้องคนนี้ทำงานกะเราอยู่สองสามปีก่อนที่เราจะย้ายมาทำงานที่ออสเตรเลียนี่แหละ ชื่อหยุง

ไม่ใช่แต่ชื่อนะที่ฟังดูอาจจะดูแปลก ๆ นิสัยเค้าก็แปลก ๆ เหมือนกัน เหมือนพวกเด็กแอ๊บอ่ะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าเป็นแอ๊บแบบที่ดี ๆ ไม่ได้มีอะไรเลวร้าย

ตอนแรกที่ทำงานกะเค้า เราก็เครียดเหมือนกัน ด้วยความที่ความคิดเค้ามักจะสุดกู่ไปซะเกือบทุกด้าน ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาแถว ๆ ที่เราสองคนนั่งอยู่ ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า เราสองคนนั่งเถียงกันทั้งวัน จริง ๆ แล้วไม่ใช่หรอก เป็นแค่การพูดคุยกันปกติของเราสองพี่น้อง แบบว่าคุยกันไป สอนงานกันไปไง หุหุหุ

เห็นว่าหยุงมันแอ๊บ ๆ อย่างนี้นะ มันเรียนรู้งานได้เร็วจริง ๆ เลยแหละ ทำกะเราไม่นาน ก็เป็นงานแล้ว หัวหน้าเราตอนนั้น (Mr. 7%) น่ะ ก็ชมเปาะ ว่าเราสอนเก่ง ไม่ทันไร หยุงมันเก่งใช้งานได้เลย อิอิอิ จริง ๆ ก็ไม่เกี่ยวกับเราเท่าไหร่หรอก อยู่ที่ตัวเค้าเองต่างหาก

อีกเหตุผลนึงที่ทำให้เรายึกยัก ไม่ยอมตัดสินใจย้ายมาทำงานที่ออสเตรเลีย ก็เพราะไม่มีคนทำงานที่เราทำอยู่แทนนี่แหละ จนเมื่อหยุงเค้าเข้ามาช่วย ตอนหลัง ๆ เค้าก็ทำเองได้เกือบหมด เราก็เลยตัดสินใจได้ง่ายหน่อย

วันสุดท้ายที่เราทำงานที่เมืองไทย หัวหน้าก็จัดงานเลี้ยงส่ง ทุกคนก็ไปร่วมงาน ซึ่งก็เหมือนงานเลี้ยงทั่ว ๆ ไปคือมีเครื่องดื่มผสมเหล้าอ่ะ แต่ละคนก็เหมือนอดอยากมาจากไหน (หรือว่าพวกเค้าจะดีใจ ที่เราจะไปซะทีหว่า) กินกันจนเมาแอ๋ ยกเว้นคนที่รับอาสาขับรถไปส่งเพื่อน ๆ ส่วนเราก็มามุกเดิม คือเมาน้ำหวาน เมาท์แตกยังกะคนเมา (เค้าเรียกว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามไง)

พอดีหัวหน้าเค้านั่งใกล้เรา คงจะสังเกตเห็นว่าเราก๊งน้ำหวานตั้งกะงานเริ่มยันงานจะเลิก แต่ทำมั๊ย ทำไม มันเข้ากะไอ้พวกหนุ่ม ๆ ที่เมาแอ๋ได้ซะสนิทเลย แกคงจะเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ ก็เลยถามเราในที่สุด

"Have you ever been drinking?"
"Yea, I used to drink when I was very young, but stopped it after I graduated."
"Ah, even in the Kick off meeting last month??"

เอิ๊กกกกกกกก ขำกลิ้งเลยค่ะ แกคงเพิ่งจะเข้าใจว่าตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีประชุมนอกสถานที่ของแผนก (หรือเรียกว่า Kick off meeting) เราไม่ได้เมาแอ๋ เป็นเมรีขี้เมาอย่างที่เค้าเห็น

"No, never ever since"

กว่างานจะเลิกก็เที่ยงคืนกว่า ๆ เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็เมากันได้ที่ รวมถึงหยุงด้วย พอดีบ้านเค้าอยู่ทางเดียวกับเรา น้องอีกคนชื่อ รถ จึงรับอาสาพาเรากับหยุงไปส่งบ้าน

พอดีรถคันนี้เป็นรถกระบะ แบบมีแค้บ เราก็เลยนั่งตรงแค้บ ให้หยุงนั่งเบาะหน้า ตอนที่นั่งมาในรถ พวกเราสามคนก็ยังคุยกันไม่หยุด

หมู่บ้านที่เราอยู่ ค่อนข้างอยู่ห่างจากเมือง ดังนั้น ช่วงหลังเที่ยงคืนไป จึงค่อนข้างเงียบ ถึงจะมีไฟเปิดอยู่ทุกระยะ แต่ก็ต้องถือว่าเปลี่ยว พอรถไปจอดหน้าบ้านเรา เราก็บอกให้หยุงมันลงจากรถก่อน เพื่อที่เราจะได้เลื่อนที่นั่ง เปิดทางลงจากรถ

"เอ๊า หยุงลงไปก่อน พี่จะได้ลงได้"

หยุงมันก็คงจะทั้งง่วง ทั้งเมา พอลงจากรถได้ก็ปิดประตูดังปัง แล้วเดินหายไปเลย

เรากะน้องรถก็งง ๆ อยู่อึดใจ พอนึกได้ก็เลยรีบบอก

"เฮ๊ย มันไปแล้ว !!! รถรีบตามมันกลับมาเร็ว เดี๋ยวไม่ทัน ไม่ต้องห่วงพี่"

รถมันก็เลยรีบลงจากรถวิ่งตามหยุงซึ่งเดินหายไปในความมืด ระหว่างนั้นเราก็ค่อย ๆ ใช้ความพยายามดันเก้าอี้ตัวหน้าออกเพื่อจะเปิดประตูรถด้วยความทุลักทุเล เปิดประตูรถออกมาได้ ก็ได้ยินเสียงน้องสองคนแว่ว ๆ

"หยุง กลับมานี่ จะไปไหนน่ะ ยังไม่ถึงบ้านเลย นี่มันบ้านพี่น้อยนะ"
"อ้าวเหรอ !!! ผมนึกว่าถึงบ้านแล้วนะเนี่ย ถึงว่า เดินมา ไม่เห็นจะคุ้นเลย"

โอ๊ย จะบ้าตาย ขนาดไม่คุ้น มันยังเดินไปได้ตั้งไกล ถ้าไม่เรียกไว้ซะก่อน มันจะนอนที่ไหนหละเนี่ย




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2551
1 comments
Last Update : 21 มิถุนายน 2551 16:37:55 น.
Counter : 895 Pageviews.

 

555
สนุกดีค่ะ
อ่านแล้วฮาดี
เล่าเรื่องได้มันดีค่ะ

 

โดย: fordear 4 กรกฎาคม 2551 20:09:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


NoiseN
Location :
Melbourne Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Noise219 นะคะเพื่อน ๆ มาในบล็อกใหม่เพราะของเดิมโดนไวรัสค่ะ

ขอบคุณป้ามด คุณ N_BEE810 และคุณเนยสีฟ้า สำหรับของแต่งบล็อกสวย ๆ นะคะ

^-^ ^_^ ^_^ ^_^

I love Melbourne Long Live the King
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add NoiseN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.