21 เมย 57 Plumeria - Salmon brown
 วันนี้พาดอกลั่นทมต้นใหม่มาลงบันทึกค่ะ " Salmon Brown"   Salmon Brown ก็คือสีน้ำตาลแบบปลาแซลมอนนั่นเอง ลั่นทมพันธุ์นี้กิ่งก้านออกแนวแผ่กว้างอยู่มากสักหน่อย  สีแนวน้ำตาลส้มชมพูสวยหวานเก๋      ด้านหน้าสีเหลืองน้ำตาล ด้านหลังสีชมพูสวยหวาน      "เพลงน้ำตาแสงไต้" เพลงเศร้าสักหน่อย แต่ไพเราะดี มีนักร้องไว้หลายเวอร์ชั่นมาก เสียดายที่ไม่มีเวอร์ชั่นบรรเลงเปียโนเด็ดๆสักเพลงจะไพเราะหยดย้อยมากทีเดียว สมัยเด็กชมละคร พันท้ายนรสิงห์ จำได้ว่าเป็นเพลงประกอบละคร พันท้ายนรสิงห์มีภรรยาชื่อ "นวล" เมื่อท่านคัดท้ายเรือพระที่นั่งเอกชัยที่บริเวณคลองโคกขามไม่ผ่าน ทำให้โขนเรือพระที่นั่งหักตกลงไปในน้ำ แม้จะได้รับอภัยโทษประหารชีวิตจากพระเจ้าเสือ (ทั้งที่ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีชื่อเสียงด้านความดุร้าย )ด้วยทรงเห็นว่าเป็นเหตุสุดวิสัย จึงได้มีพระราชดำริให้สร้างอนุสาวรีย์ของพันท้ายนรสิงห์เพื่อเป็นตัวอย่างของความซื่อสัตย์ เพลงน้ำตาแสงไต้ เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ที่จัดแสดงที่ศาลาเฉลิมไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยคณะศิวารมณ์ ประพันธ์ทำนองโดยสง่า อารัมภีร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงเขมรไทรโยค และเพลงลาวครวญ ผู้ขับร้องคนแรกคือ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ คำร้อง: มารุต - เนรมิตร ทำนอง: สง่า อารัมภีร -
นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ -
ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย -
-
น้ำตาอาบแก้ม เพียงแซมเพชรไสว -
แวววับจับหัวใจ เคล้าแสงไต้ งามจับตา
-
นวลแสงเพชร เกล็ดแก้วอันล้ำค่า -
ยามเมื่อแสงไฟส่องมา แวววาวชวนชื่นชม -
-
น้ำตาแสงไต้ ดื่มใจพี่ร้าวระบม -
ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์ จำใจข่มใจไปจากนวล
ที่มาของเพลง -
"ข้าพเจ้าจำได้แม่นยำว่า วันนั้นในราวเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๘ ศิวารมณ์กำลังซ้อมละครเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ อยู่ที่ห้องเล็ก ศาลาเฉลิมกรุง ดูเหมือนจะเข้าโปรแกรมวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ซ้อมกันอย่างหนัก เพราะเป็นสมัยที่เริ่มงานใหม่ๆ ตอนนั้นข้าพเจ้ามีหน้าที่ดีดเปียโนให้นาฏศิลป์เขาซ้อมและต่อเพลงให้นักร้องเท่านั้น -
ผู้ที่แต่งเพลงให้ศิวารมณ์สมัยนั้นคือ ประกิจ วาทยกร และ โพธิ์ ชูประดิษฐ์ ข้าพเจ้าเป็นนักดนตรีใหม่ๆ ยังไม่ถึงปี สุรสิทธิ์ , จอก , สมพงษ์ และทุกๆ คนมาซ้อมละครกันตั้งแต่เย็นส่วน เนรมิต , มารุต สมัยโน้นเข้าคู่กันคร่ำเครียดกับบทและวางคาแร็คเตอร์ตัวละคร นาฏศิลป์ซ้อมกัน เต้นกัน นักร้องก็ร้องเพลงกัน -
-
เหลือเวลา ๕ วันละครจะเริ่มแสดงแล้ว เพลงเอกของเรื่องคือ น้ำตาแสงไต้ ทำนองยังไม่เสร็จ คุณประกิจและคุณโพธิ์ แต่งส่งมาคนละเพลงสองเพลง แต่ยังไม่เป็นที่ไม่พอใจแก่เจ้าของเรื่องและผู้กำกับ ทั้งเจ้าของเรื่องและผู้กำกับต้องการให้เพลงมีสำเนียงเป็นไทยแท้ มีรสและวิญญาณไปในทาง หวานเย็นและเศร้า -
เย็นนั้นเมื่อเลิกซ้อมแล้ว ข้าพเจ้าพลอยอึดอัดไปกับเขาด้วย ข้าพเจ้าลงมายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าเฉลิมกรุง ไม่รู้จะไปไหนดี ได้ยินเสียงเรียก หง่า หง่า คุณทองอิน บุณยเสนา ถามว่า ราบรื่นเรียบร้อยหรือไฉน ข้าพเจ้าเอ่ยถึงเพลง น้ำตาแสงไต้ ที่ยังแต่งกันไม่เสร็จ พี่อินฟังแล้วพูดว่า "เพลงไทยนั้นมีเยอะ แต่ไอ้รสหวานเย็นและเศร้าที่หง่าว่ามันมีน้อย อั๊วชอบมาก และรู้สึกว่าหวานเย็นเศร้ามีแต่เขมรไทรโยคและลาวครวญเท่านั้น" -
-
คุยกันสักพักข้าพเจ้ารู้สึกง่วงนอนปุ๊บหลับปั๊บจะหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ -
-
ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจมาก ที่ใครมาเล่นเปียโนที่ห้องเล็กก่อนข้าพเจ้าปกติ ๘.๐๐ น. กว่าๆ ข้าพเจ้าเห็นคนอยู่ ๔ คน ชาย ๓ หญิง ๑ แต่งกายแปลกมาก ชายแต่งกายเหมือนนักรบโบราณ เขาถอดหมวกวางไว้บนเปียโน คนเล่นผิวค่อนข้างขาว หน้าคมคาย อีกคนหนึ่งผิวคล้ำนั่งอยู่ทางขวาของเปียโน คนที่ ๓ อายุมากกว่าสองคนแรกผมหงอกประปราย ท่าทางเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ หน้าตาอิ่มเอิบ ส่วนผู้หญิง นั้นสวยเหลือเกิน นุ่งผ้าจีบพกแต่งกายโบราณนุ่งผ้าจีบพก ห่มผ้าแถบสีแดงสด ผิวนวลปล่อยผมปรกบ่า กำลังยืนเอามือเท้าเปียโนอยู่ด้านซ้าย -
ข้าพเจ้าเปิดประตูเข้าไป เขาไม่สนใจข้าพเจ้าเลย จนข้าพเจ้าเดินเข้าไปใกล้จะเข้าพูดก็ไม่รู้จัก เขาแต่งตัวแปลก เลยนั่งมองดูเขาและฟังเพลงที่ดีดนั้น คนเล่นเปียโนเก่งมาก เขาเล่นจากความรู้สึกจริงๆ ตาเขาลอยคล้ายฝันมองไปตรงหน้า บางทีมองหน้าผู้หญิง เธอยิ้มรับน่ารักเหลือเกิน ข้าพเจ้าฟังเพลินมองเพลิน -
-
สักครู่ข้าพเจ้าก็สะดุ้งเพราะเสียงห้าวต่ำอย่างมีอำนาจของผู้สูงอายุพูดขึ้นว่า " ไหน
เทพ
เธอลองเล่น เขมรไทรโยคซิ " คนที่เล่นเปียโนผงกศีรษะรับ พร้อมกับเปลี่ยนเพลงมาเป็นเขมรไทรโยค เขาเล่นด้วยความรู้สึก เสียงประสานประหลาดแต่ทว่านุ่มนวลฟังแล้วทำให้คิดและมองเห็นภาพไปด้วยความรู้สึกหวานชื่นเพลินฟังจนเพลงจบเมื่อไรไม่รู้ เพลงที่เล่นนั้นเพราะเหลือเกิน พลันเสียงผู้สูงอายุพูดขึ้นว่า " ธิดาจ๋า เธอจะไม่ลองฝีมือดูรึ " สาวสวยคนนั้นเดินไปนั่งที่เปียโนบรรเลงเพลงเป็นเพลงหวานเศร้าสำเนียงลาว ลาวครวญ อันหวานเศร้า ฝีมือของเธออยู่ในขั้นเลิศ ข้าพเจ้านั่งน้ำตาคลอคิดไปถึงความหลังคิดเพลินจนเพลงจบไม่รู้ตัว เสียงห้าวต่ำๆ ดังขึ้นอีกว่า อมร
ถ้าเราเอา วิญญาณ ของเพลงสองเพลงนี้มารวมกันเข้า คงจะเพราะอย่างหาที่ติไม่ได้เชียวนะ" ข้าพเจ้าเห็นคนผิวคล้ำที่นั่งข้างขวาของเปียโนก้มศีรษะรับพร้อมกับพูดว่า กระผมเห็นด้วยคงจะไพเราะอย่างยิ่ง หญิงสาวลุกขึ้นจากเปียโนพลางหันหน้าไปพูดกัยคนผิวคล้ำว่า ขอเชิญคุณครูค่ะ ขอเชิญคุณครูสวมวิญญาณของเพลงทั้งสอง ให้ศิษย์ได้ฟังเพื่อเป็นขวัญโสตและขวัญชีวิตของศิษย์ทั้งสอง -
-
ท่านที่รัก -
เสียงที่ลอยมาจากเปียโนนั้นสำเนียงไทยแท้มี รสหวานเย็นเศร้า ครูอมรได้รวมวิญญาณของ เขมรไทรโยค และ ลาวครวญ ได้สนิทแนบสำเนียงและ วิญญาณถอดออกมาจากเพลงสองเพลงนี้อย่างครบถ้วนโดยที่เพลงเดิมไม่ได้เสียหายอะไรแม้แต่น้อย ดุจสองวิญญาณเก่าเคล้ากัน จนเกิดวิญญาณใหม่ที่สวยงามขึ้นอีกวิญญาณหนึ่ง
ข้าพเจ้าฟังเพลินจนสะดุ้ง เมื่อมีมือหนักๆ มาเขย่าจนรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ -
-
บ่ายๆ สามโมงวันนั้น เมื่อนาฏศิลป์และละครแยกย้ายกันกลับ. บนห้องเล็กเหลือข้าพเจ้า , เนรมิต, มารุต, สุรสิทธิ์ เนรมิตและมารุตบ่นถึงเพลง น้ำตาแสงไต้ ว่าทำนองที่คุณโพธิ์และคุณประกิจส่งมายังใช้ไม่ได้ เหลือเวลาอีก ๓ วันละครจะแสดงแล้วเดี๋ยวไม่ทัน ข้าพเจ้านั่งฟังสักครู่หันมาเล่นเปียโน -
-
ท่านที่รัก ความรู้สึกบอกไม่ถูกนิ้วมือข้าพเจ้าบรรเลงไปตามอารมณ์ ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าเป็นเพลงอะไร เคลิ้มๆ ยังไงพิกล เนรมิตถามว่า หง่า นั่นเพลงอะไร -
ข้าพเจ้าสะดุ้งพร้อมกับนึกขึ้นได้ และจำทำนองได้ทันทีว่าเป็นเพลงที่ครูอมรดีด -
ข้าพเจ้าหันไปถามเนรมิตว่า เพราะหรือฮะ -
เนรมิตพยักหน้าบอกให้เล่นใหม่ ข้าพเจ้าบรรเลงอีกหนึ่งเที่ยว -
ทั้งเนรมิตและมารุตพูดขึ้นว่า นี่แหละ น้ำตาแสงไต้ -
ข้าพเจ้าดีใจรีบจดโน๊ต และประพันธ์คำร้องกันเดี๋ยวนั้น -
มารุตขึ้น นวลเจ้าพี่เอย -
เนรมิตต่อ คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ -
แล้วช่วยกันต่อ ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย -
พอจบประโยคแรก สุรสิทธิ์ร้องเกลาทันที -
ร่วมกันสร้างจบคำร้องในราว ๑๐ นาทีเท่านั้นเอง -
-
สุดท้ายเพลงก็ทันละครแสดง เมื่อทำนองเพลง. น้ำตาแสงไต้ พลิ้วขึ้น -
คนร้องไห้กันทั้งโรง แม้พันท้ายนรสิงห์จะสร้างเป็นภาพยนตร์ยังใช้เพลง -
น้ำตาแสงไต้ เป็นเพลงเอกอยู่"
คัดลอกมาจากหนังสือ เพลงผีบอก รวมเรื่องผีและที่มาของเพลงน้ำตาแสงไต้ โดย ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงปี ๒๕๓๑ สง่า อารัมภีร์ //th.wikipedia.org/
Create Date : 21 เมษายน 2557 |
|
1 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2557 7:33:00 น. |
Counter : 2352 Pageviews. |
|
 |
|
Mulberry Alexa Bag //www.wooden-plantation-shutters-knaresborough-harrogate.co.uk/